ตอนที่ 2

1361 Words
เวลาผ่านไปจนเช้าถึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนแถวนี้ที่เดินผ่านไปผ่านมาเพื่อติดต่อเพื่อนออกมารับกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเฉพาะของที่นี่ เมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องแปลกมากมายจนไม่อยากจะนับเลยละ เหล่าคนธรรมดาก็เดินสะเปะสะปะไปมารวมกับพวกอื่นที่ไม่รู้ว่าใช่คนรึเปล่าราวกับว่าไม่มีอันตรายแล้วน่าจะชินกับความแปลกประหลาดไปแล้วด้วย เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นนั้นกลายเป็นข่าวดัง แต่ถูกบิดเบือนจากผู้มีอำนาจให้ออกข่าวว่ามีวัยรุ่นคึกคะนองยกพวกตีกันเฉยๆ เมื่อคืนนี้อดไปลงอ่างเลย! เขานอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลคนเดียว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงยังจำกลิ่นหอมอ่อนๆนั้นได้ดีแล้วอยากจะสูดลมอีก ไหนจะน้ำเสียงที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความเป็นห่วงทั้งที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน และหน้าตาที่มองเห็นไม่ชัดเจนเท่าไรนักเพราะลืมตาไม่ค่อยขึ้นแต่มั่นใจว่าต้องน่ารักจนใจละลายแน่นอน จะไปตามหาเธอคนนั้นได้จากที่ไหนนะ แค่อยากขอบคุณ ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ของการรักษาตัวในที่สุดก็สามารถกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้แต่ก็เหงาเกินไป แต่จะออกไปไหนไม่ค่อยสะดวก ขาข้างขวายังเจ็บอยู่พอสมควรทั้งที่ร่างกายฟื้นตัวได้ไวกว่าคนธรรมดาทั่วไปแล้วแท้ๆ พวกที่รุมก็ไม่มียั้งเลยทั้งที่เผ่าพันธุ์เดียวแล้วถ้าไม่มีใครช่วยคงได้แขนขาขาดแน่ กิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านนั่นคือกินแล้วก็นอนเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องทำงานมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยเมื่อมีคนดูแลแทนเกือบทุกอย่าง แล้ววันนี้ในขณะที่นอนอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ก็รู้สึกว่าอยากจะกินขนมอร่อยๆ หรือไม่ก็เดินเล่นหน่อยก็ดีเพราะหลายวันแล้วที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย หลังจากที่โทรหาเพื่อนสนิทเพื่อชวนไปด้วยกันแต่อีกฝ่ายก็กำลังยุ่งกับงานใหม่ที่มหาวิทยาลัยทำให้มาหาตอนนี้ไม่ได้ แต่จะแวะมาเยี่ยมแล้วค้างคืนด้วยแน่นอน สุดท้ายก็ต้องออกไปคนเดียว คงไม่เจออะไรที่อันตรายเกินไปหรอก! หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็โทรเรียกรถให้มารับไปส่งที่หมาย จากนั้นก็เดินช้าๆเลือกดูขนมที่อยากกินจนมาถึงหน้าร้านที่มีการตกแต่งค่อนข้างแปลกตา เมื่อก้าวเท้าเข้าไปสิ่งแรกที่เจอคือขนมหวานหลากหลายแบบจัดวางอย่างสวยงาม และลูกค้าที่นั่งกินนั่งพูดคุยกันไม่มีใครสนใจเขาสักคน “รับอะไรดีคะ?” “คาปูชิโน่ปั่นหนึ่งแก้ว ชีกเค้กสามชิ้น เค้กช็อคโกแลตหนึ่งชิ้นและคุกกี้อัลมอลล์หนึ่งกล่องกลับบ้านครับ” “รอครั้งครู่นะคะ” ในระหว่างรอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเพราะดูท่าแล้วกว่าจะถึงคิวของตัวเองน่าจะใช้เวลาอีกหลายนาที เนื่องจากว่าลูกค้าค่อนข้างเยอะมากแต่พนักงานมีเพียงสามคนเท่านั้นเอง เสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งน่าจะเป็นลูกค้าคนต่อไป แต่ที่น่าสนใจคือกลิ่นหอมลอยๆจากตัวเธอในตอนที่เดินผ่านต่างหาก กลิ่นแบบนี้ต้องใช่แน่เลย แต่เด็กคนนั้นคงจำเขาไม่ได้แน่นอน! เขานั่งรอจนเธอสั่งของเรียบร้อยแล้วถึงได้เดินไปหาแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งเองโดนที่เจ้าตัวไม่ได้เชิญเลยสักคำ ไม่รู้ว่านี่เป็นพรหมลิขิตหรือยังไงถึงให้เราสบตากันด้วยความบังเอิญเมื่อเธอเงยหน้ามองด้วยความสงสัย น่ารักมากจริงๆด้วย คนใจดีนี่น่ารักทุกคนเลยรึไง! “เอ่อ…สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะแต่ว่า...เรารู้จักกันเหรอคะ?” “ไม่รู้จักครับแต่ว่าพี่จำน้องได้ว่าเป็นใคร” “เหรอคะ?” “เมื่ออาทิตย์ก่อนตอนใกล้จะเช้าจำได้ไหมว่าวางเงินกับอาหารไว้ให้กับคนที่นอนใกล้ถังขยะ คือ…นั่นพี่เองครับเลยอยากจะมาขอบคุณ” “ถังขยะเหรอ?” “นึกออกไหม?” “อ๋อ! นึกออกแล้วค่ะแต่ว่าตอนนั้นไม่ใช่แบบนี้นี่คะ แล้วทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้ละ พี่ไม่ใช่คนขอทานหรือคนจรเหรอคะ?” “เปล่าครับ พี่แค่ถูกทำร้ายร่างกายเลยรอเพื่อนมารับแล้วก็กำลังจะตายเพราะหิวมากกว่า” "ถ้าบอกตอนนั้นฉันอาจจะพาไปหาหมอได้" "ตอนนั้นแค่พูดพี่ยังไม่ไหวเลย" “แล้วกินอะไรมารึยังคะ?” “ยังเลยครับ กินข้าวด้วยกันไหมถือว่าพี่เลี้ยงขอบคุณ” “เอ่อ…ครั้งนี้ไม่สะดวกค่ะ” “งั้นครั้งไหนดีละ?” “ไม่รู้สิคะ” “งั้น…พี่ขอเบอร์ติดต่อได้ไหมเผื่อว่าจะมีเวลาว่างตรงกัน” “แต่พี่ไม่จำเป็นต้องตอบแทนก็ได้นะคะ ฉันไม่คิดมากอยู่แล้วเรื่องแค่นั้นเอง แล้วอีกอย่างถ้าเป็นคนอื่นเห็นก็คงจะช่วยเหมือนกันค่ะ” “แต่พี่คิดมากนี่ครับ ขอเบอร์ติดต่อเฉยๆเองหรือว่าน้องไอช่ากลัวคนรักจะรู้แล้วโกรธ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่ต้องเป็นสาเหตุให้น้องมีปัญหา” “ฉันไม่มีหรอกค่ะ!” “งั้นมีเหตุผลอะไรที่เราจะคุยกันไม่ได้ละครับ?” “เอ่อ…พี่…” “เรียกพี่ลีอาห์สิครับน้องไอช่า” “ค่ะพี่ลีอาห์ งั้นนี่เบอร์ติดต่อค่ะ” “แค่นี้เหรอครับ?” “แล้วอะไรอีกเหรอคะ?” “แค่เบอร์โทรอย่างเดียวเหรอครับ?” เขาส่งโทรศัพท์ให้เธอจัดการต่อส่วนตัวเองก็นั่งส่งแววตาอ่อนหวานปนกดดันเพียงไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย เขาได้ทุกอย่างที่ต้องการพอดีกับที่พนักงานถือของมาให้เราทั้งคู่ “เดินออกไปพร้อมกันไหม?” “ไม่ดีกว่าค่ะ” “แล้วเจอกันครั้งหน้าพี่หวังว่าจะได้เลี้ยงข้าวนะไอช่า” เขาอยากจะพูดอยากจะคุยอะไรมากกว่านี้ แต่ต้องหยุดก่อนเพราะดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่ระวังตัวพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็จะไม่ยอมปล่อยผ่านคนน่ารักออกไปจากชีวิตแน่นอน จีบสาวต้องทำยังไงนะ? ไอช่านั่งทำงานเล็กน้อยอยู่ไม่นานก็เดินออกไปนอกร้านเพื่อกลับหอพักที่อยู่ค่อนข้างไกลจากที่นี่แต่ใกล้กับมหาลัยมาก เธอไม่คิดมาก่อนเหมือนกันว่าการเดินกลับในคืนนั้นจะทำให้เจอเขาแล้วยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนจรอีกต่างหาก ยิ่งคิดก็ยิ่งอายอย่างบอกไม่ถูกแต่จะทำยังไงได้ละในเมื่อสภาพของพี่ลีอาห์ตอนนั้นเหมือนมากนี่นา แล้วมุมตรงนั้นก็ชอบมีคนจร คนขอทาน หรือสัตว์หลงทางไปหลบอยู่บ่อยๆ “เฮ้อ…ใกล้สอบแล้วสิ!” “ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย” เวลาผ่านไปจนถึงค่ำที่นอนดูหนังบนเตียงคนเดียวทั้งที่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องสอบแต่กลับไม่มีสมาธิพอจะอ่านเลยด้วยซ้ำ เสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้นจากคนที่ไม่คิดว่าจะได้คุยกันอีกครั้ง พี่ลีอาห์ส่งข้อความมาถามว่าชอบกินอะไรเป็นพิเศษไหม แล้วยังถามต่อว่าชอบร้านอาหารไหนบ้างก่อนจะบอกว่าพรุ่งนี้เจอกันได้รึเปล่า เธอตอบไปสั้นๆว่ามีสอบทั้งอาทิตย์นั่นเลยทำให้เขาเปลี่ยนเรื่องคุยแทน ข้อความให้กำลังใจที่ไม่เคยได้รับมานานก็ถูกส่งมาจากคนที่พึ่งรู้จักกันแค่วันเดียวเอง เราพูดคุยกันผ่านตัวอักษรอยู่เกือบสองชั่วโมงถึงได้บอกลาเพราะเริ่มรู้สึกง่วงมาก แล้วอีกอย่างคืนไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อด้วย เหมือนว่าชีวิตต่อจากนี้จะไม่เหงาแล้ว เพราะเขารึเปล่านะ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD