NEXTFRIEND 10
**********************************
ฉันนั่งมองมือถือตัวเองอยู่ในห้องมาเป็นชั่วโมงแล้วเผื่อว่าพิราบจะโทรเข้ามา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะโทรกลับมาหาฉันหรือว่าไลน์มาเลย พิราบคงจะโกรธฉันมากจริงๆ นั่นแหละ เพราะเขาก็บอกเองว่าแค่ฉันพูดคำเดียวว่าไม่ต้องการเขาแล้วเขาก็จะไปทันที และฉันก็พลั้งปากพูดไปแบบนั้นเขาก็เลยไปจริงๆ สินะ แล้วนี่ฉันควรจะโทรไปที่บ้านเขาดีมั้ยเผื่อว่าเขาอาจจะอยู่ที่บ้านก็ได้ ลองรออีกหน่อยก็ได้เผื่อเขากำลังขับรถหรือไม่แบตมือถือเขาอาจจะหมด เขาอาจจะไม่ได้โกรธก็ได้ นี่ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปก่อนนะ เพราะพิราบไม่เคยปิดเครื่องหนีฉันแบบนี้มาก่อนไง
ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้ เพราะพิราบชอบเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไงมันก็เลยทำให้เราต้องทะเลาะกันบ่อยๆ อ่ะ ทั้งที่เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ ถ้าเขาใจเย็นให้เป็นบ้างเราก็คงไม่ต้องมาทะเลาะกันหรอก นี่ฉันก็พยายามตามใจเขาทุกอย่างแล้วนะ เมื่อวานก็ยอมไปดูหนังด้วยแล้ว ไหนจะยอมให้เขาไปรับไปส่งทำเหมือนเขาเป็นแฟนฉันอีก แต่เขาก็ยังไม่พอใจ เข้าใจแหละว่าอยากให้ฉันตอบรับเขา อยากได้คำว่ารักจากฉัน แต่เขาก็ควรเข้าใจฉันบ้างมั้ยล่ะว่าฉันไม่ได้ชอบเขาแบบนั้น ไหนบอกว่าจะให้เวลาฉันไง แต่นี่อะไรบังคับอย่างเดียวเลย แล้วก็มาอ้างว่าที่บังคับเพราะกลัวว่าฉันจะไปชอบคนอื่น ถ้าฉันจะชอบคนอื่นฉันก็คงชอบไปนานแล้วล่ะ ไม่ปล่อยให้เขามาล้ำเส้นฉันแบบนี้หรอก
“อะไรที่เธอต้องการจากฉันเธอสามารถบอกฉันได้เลยนะต้องตา ถ้าฉันทำให้เธอได้ฉันจะทำให้ทันทีเลย”
“แล้วถ้าฉันบอกนายว่าอยากให้นายเลิกระ…”
“แต่มีเรื่องเดียวที่ฉันทำให้เธอไม่ได้ ก็คือการที่เธอบอกให้ฉันเลิกรักเธอ” พิราบพูดแทรกขึ้นมาเหมือนเขารู้ว่าฉันจะพูดอะไรกับเขา
“…”
“ฉันพูดจริงๆ นะว่าฉันทำเรื่องนั้นให้เธอไม่ได้จริงๆ เพราะฉันรักเธอไปแล้วไง”
“…”
“ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเธอ แต่อยากเป็นมากกว่านั้น”
นี่ฉันก็ไม่เป็นอันทำอะไรจริงๆ นะ เป็นห่วงก็เป็นห่วง ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เวลาที่พิราบโกรธหรือโมโหน่ะเขาชอบทำอะไรบ้าๆ ซะด้วยสิ ฉันกำลังจะโทรไปที่บ้านของเขาแต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พอได้ยินเสียงเคาะประตูเท่านั้นแหละหัวใจฉันก็เต้นแรงขึ้นมาทันที เพราะรู้ไงว่าจะต้องเป็นพิราบแน่ ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที และก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้จริงๆ พิราบยืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว และตอนนี้เขาก็กำลังยิ้มให้ฉันอยู่ เห็นอย่างนั้นขอบตาฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมากระโดดกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นมาก รอยยิ้มของเขาแบบนี้มันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาไม่ได้โกรธฉันแล้ว เพราะถ้าเขาโกรธฉันเขาก็คงไม่ยิ้มให้ฉันหรอก เขาคงทำหน้าบึ้งใส่ฉันไปนานแล้ว
“นายหายไปไหนมาอ่ะพิราบ?”
“เป็นอะไรทำไมกอดแน่นจัง หายใจไม่ออกนะเนี่ย”
“ก็คิดว่านายจะไม่กลับมาไง”
“หึ ถ้าไม่ให้ฉันกลับมาแล้วจะให้ฉันไปไหน หัวใจฉันอยู่นี่ไม่ใช่ไง?”
“ฉันไม่ได้อยากให้นายหายไปนะพิราบ ฉันขอโทษ” ฉันกอดพิราบเอาไว้แน่นมากแล้วพูดขอโทษที่พูดจาแย่ๆ กับเขาแบบนั้น ทั้งที่เขาก็ดีกับฉันมาตลอดไม่เคยทิ้งฉันเลย คำพูดแย่ๆ ของฉันมันคงทำให้เขาเสียใจมากแหละ ทั้งที่เขาไม่เคยทิ้งฉันไปไหน ตอนที่ฉันเจอรุ่นพี่ใช้งานอย่างหนักก็ได้เขาที่เข้ามาช่วย ถ้าไม่ได้เขาฉันเองก็แย่ และมีอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่เขาอยู่ข้างฉันตลอด และอยู่ในทุกๆ ช่วงเวลาของฉันด้วย ฉันถึงได้บอกไงว่าเขาเป็นเพื่อนที่แสนดีของฉัน และฉันก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์อื่นมาทำให้เราต้องเปลี่ยนไปจากเดิม การที่เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้มันก็ดีแล้ว แต่ก็รู้แหละว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมที่จะคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเขาอยู่แล้ว ก็เขาคิดว่าฉันเป็นเมียเขาไปแล้วไง “ขอโทษนะที่พูดจาแย่ๆ กับนายอ่ะ”
“รู้ตัวด้วยไงว่าคำพูดของเธอมันทำให้ฉันเจ็บอ่ะ”
“ก็ขอโทษแล้วไง”
“อืม รู้ว่าขอโทษแล้ว เพราะต่อให้เธอไม่ขอโทษ ยังไงฉันก็โกรธเธอไม่ได้อยู่ดี แมงรักไปแล้วนี่”
พิราบเองก็กอดตฉันอบกลับมาเหมือนกัน ตอนที่กลับเข้ามาที่หอฉันไม่ได้ติดต่อหาพี่แวนเลย ไม่ได้เข้าไปอ่านไลน์เขาด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น มันมัวแต่เป็นห่วงพิราบกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ เพราะถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาฉันก็คงต้องโทษตัวเองไปตลอดแน่ๆ พอเห็นเขากลับมาแบบนี้แล้วฉันก็โล่งใจ ฉันคลายอ้อมกอดออกจากคนตรงหน้าแล้วมองหน้าเขาไม่ชัด เพราะน้ำตาคลอเตรียมจะไหลอยู่แล้ว พิราบเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉันเบาๆ การกระทำของเขามันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกผิดที่พูดจาแย่ๆ กับเขาออกไปทั้งที่เขาดีกับฉันขนาดนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันรักหรือชอบพิราบนะ ที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ก็แค่เป็นห่วงเขาในฐานะเพื่อนเท่านั้น ก็เราทะเลาะกันนี่การที่เขาหายไปฉันก็ต้องเป็นห่วงหรือเปล่า ต่อให้ไม่ใช่เขาแต่เป็นจี๊ดฉันก็เป็นห่วงเหมือนกัน ฉันมองหน้าพิราบที่ยิ้มให้ฉันเหมือนว่าเขาไม่เคยโกรธฉันจริงๆ จังๆ ได้เลยทั้งที่ฉันก็บอกให้เขาเลิกยุ่งกับฉัน ถ้าเขาเลิกยุ่งกับฉันก็ทำได้ แต่เขาก็กลับมา นี่ถ้าเป็นเพื่อนคนอืิ่นก็คงหายหัวไปแล้วล่ะ ดีไม่ดีก็อาจจะตัดเพื่อนกับฉันไปแล้วก็ได้มั้ง
“ร้องไห้ทำไมฉันไม่ได้หายไปไหนนี่?”
“ก็…กลัวว่านายจะไม่กลับมา”
“ทำไมเป็นห่วงเพื่อนข้างห้องขึ้นมาว่างั้นเหอะ?”
“ฉันก็เป็นห่วงเพื่อนทุกคนอยู่แล้วนี่”
“หึ ครับ”
“นายไม่โกรธฉันเหรอที่พูดจาไม่ดีกับนายอ่ะ?”
“ถ้าโกรธก็คงไม่กลับมา” คนตรงหน้าพูดยิ้มๆ เหมือนว่าไม่ได้โกรธฉันเลย เขาใจดีกับฉันเกินไปหรือเปล่า นี่แหละที่ฉันเคยบอกว่าถึงเขาจะโหดแต่เขาก็มีโหมดคิตตี้นะ แต่โหมดคิตตี้ของเขาน่ะมักจะใช้กับฉันเท่านั้น เพราะถ้าเป็นคนอื่นไม่มีทางได้เห็นหรอก ทุกคนจะรู้จักเขาในโหมดที่โคตรจะเย็นชาเลย แต่ถ้าใครที่สนิทกับเขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่พูดมากและอารมณ์ดีตลอดเวลา แต่ถ้าพูดไม่เข้าหูเขาก็พร้อมที่จะโหดใส่เหมือนกัน พิราบเอื้อมมือมาจับปอยผมฉันขึ้นทัดหูให้ “นี่เป็นห่วงจนร้องไห้ขนาดนี้ทำไมไม่ยอมเป็นเมียฉันสักทีล่ะต้องตา?”
“ก็...เป็นห่วงในฐานะเพื่อนไง” ฉันเมินหน้าไปทางอื่นไม่กล้ามองสบตากับคนตรงหน้าที่มองจ้องฉันอย่างจับผิดแบบนี้ ฉันก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่ใกล้พิราบมากเกินไป แต่แล้วพิราบก็รั้งเอวฉันให้เข้าไปแนบชิดกับเขามากกว่าเดิมทำให้หน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนปลายจมูกของเราชนกัน ทำให้ฉันหลับตาลงทันทีเพราะคิดว่าเขาจะจูบ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขาก็แค่โน้มหน้าเข้ามามองหน้าฉันเท่านั้น ฉันลืมตาขึ้นมาก็เห็นพิราบยิ้มให้ฉันอยู่ อะไรของเขา ก่อนหน้านี้เขายังอารมณ์ไม่ดีใส่ฉันอยู่เลยนะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะเปลี่ยนอารมณ์วันละแปดรอบ เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วฉันเองก็น่าจะชินได้แล้วเหมือนกัน พิราบยอมปล่อยมือออกจากเอวฉัน แต่ใบหน้าของเขานั้นยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ก็ไม่รู้ว่าก่อนที่จะมาหาฉันเขาไปไหนมา “ยิ้มอะไรของนาย?”
“ยิ้มให้เธอไง ทำไมแม่งยิ้มไม่ได้?”
“ก็รอยยิ้มของนายมันทำให้ฉันคิดดีไม่ได้เลยไง”
“หึ ก็จริงเพราะตอนนี้ฉันกำลังคิดไม่ดีกับเธออยู่ไงต้องตา”
“…”
“เคยมีใครบอกเธอป่ะว่าเวลาที่เธอทำหน้าแบบนี้แม่งโคตรอยากลากไปเอาบนเตียงชิบหาย” พิราบพูดเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก แต่สำหรับฉันแล้วคำพูดพวกนี้เป็นคำพูดที่น่าตกใจและน่ากลัวมาก ก็ถ้าเขาจะทำเขาก็ทำได้นะเพราะตัวฉันเล็กมาก แต่ฉันรู้ว่าเขาไม่ทำหรอก เราเป็นเพื่อนกันมานานถึงเขาจะนิสัยไม่ดียังไงแต่เขาก็ไม่คิดที่จะข่มเหงฉันทั้งที่เขาก็มีโอกาสหลายครั้ง พิราบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมก่อนจะกระซิบข้างหูว่าคืนนี้ขอนอนกับฉันสักคืนแล้วเขาจะหายโกรธเรื่องที่ฉันพูดไม่ดีกับเขาในวันนี้ ฉันปฏิเสธทันทีเรื่องอะไรฉันจะยอมให้เขามานอนในห้องฉันทั้งที่ห้องเขาก็อยู่ข้างๆ นี้เอง “เธอรู้ป่ะเนี่ยว่าฉันกำลังจีบเธอแบบอ่อยอยู่อ่ะต้องตา?”
“ก็...รู้ แต่ฉันให้นายนอนห้องฉันไม่ได้หรอกเพราะนายชอบอ่อยไง ฉันกลัว”
“กลัว?” คนตรงหน้าเลิกคิ้วทวนคำพูดของฉัน “กลัวใจตัวเองจะเผลอให้ฉันเอางี้ป่ะ?”
“ไอ้พิราบ!!!” ฉันทุบหน้าอกพิราบแรงๆ ไปหลายทีที่เขาพูดแบบนี้อีกแล้ว ไม่ได้กลัวใจตัวเองเว้ย เพราะฉันรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขามากกว่าเพื่อนเลย แต่ที่บอกว่ากลัวเพราะเขาชอบอ่อยไง อ่อยแบบให้ฉันทำตัวไม่ถูก เพื่อนกันที่ไหนมาอ่อยกันรุนแรงขนาดนี้ ถึงเขาจะไม่ได้คิดกับฉันแค่เพื่อนก็ตามเหอะ การที่ฉันอนุญาตให้เขาจีบฉันได้นี่ก็ถือว่าดีแล้วนะ เพราะถ้าเป็นคนอื่นเลิกคบเขาไปนานแล้ว ที่จริงก็อยากจะเลิกคบเขาเหมือนกันแหละ แต่เป็นเพราะว่าเราสนิทกันมานานมากเลยรู้นิสัยของกันและกัน และรู้ด้วยว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรออกจากดีมากซะด้วยซ้ำ สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าพิราบนิสัยไม่ดีชอบหาเรื่องชกต่อยไปทั่ว ไหนจะไม่ชอบสุงสิงกับเพื่อนคนอื่นด้วย ที่หลายคนมองเขาแบบนั้นเพราะเขาอยากให้คนอื่นมองแบบนั้นต่างหาก
แต่สำหรับฉันเขาคือเพื่อนที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว เพื่อนที่คอยอยู่ข้างฉันเสมอไม่ว่าฉันจะทำถูกหรือผิด เรื่องราวต่างๆ ในสมัยเด็กของเรานั้นฉันจำมันได้ทุกเหตุการณ์เลยนะ ไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนเลยที่ฉันจะจำเกี่ยวกับเขาไม่ได้ มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ฉันชวนพิราบไปปีนต้นมะม่วงบ้านหลังอื่นเพื่อที่จะขโมย และโดนจับได้ฉันกำลังจะโดนแม่ตีด้วยซ้ำ แต่พิราบก็รับผิดแทนฉันว่าเขาเป็นคนบังคับให้ฉันปีนตามเขาไปเองและเขาก็โดนอาโฟร์ตีเพื่อทำโทษจะได้ไม่ทำผิดอีก และมีอีกเหตุการณ์ที่ฉันวิ่งไปเก็บลูกบอลที่กลิ้งไปอยู่กลางถนนและเป็นจังหวะเดียวกับที่รถมอเตอร์ไซต์ขี่ผ่านมาพอดี ฉันคิดว่าตัวเองจะต้องโดนรถชนแล้วแท้ๆ แต่กลับเป็นพิราบที่เข้ามาโอบกอดฉันไว้ ดีหน่อยที่รถมอเตอร์ไซต์เบรกทันแต่ล้อรถนั้นก็โดนเข้าที่แขนของพิราบเต็มๆ ทำให้แขนเขาหักต้องเข้าเฝือกสามเดือนแถมยังโดนอาโฟร์กับน้ารันดุอีกด้วย ทุกเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับพิราบฉันไม่เคยลืมหรอกว่าเขาดีกับฉันขนาดไหน แต่ก็ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่อยากคิดกับเขามากกว่าเพื่อนก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะว่าไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างเขาไปก็ได้ ถ้าเราคบกันแล้วแต่ไปกันไม่ได้ต้องเลิกรากันไปเราจะยังกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ฉันคิดว่าคงไม่ได้แล้วล่ะ
“กลับไปนอนห้องตัวเองเลย ฉันไม่ยอมให้นายนอนด้วยหรอก”
“ขอเหตุผล”
“ก็นายมันขี้อ่อยอ่ะ เอะอะจะแก้ผ้าอย่างเดียวเลย”
“หึ จะอ่อยจนกว่าเธอจะหวั่นไหวนะรู้ป่ะ หวั่นไหวเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกันจะได้มีความหวัง” พิราบพูดยิ้มๆ เหมือนเขามั่นใจมากว่าฉันจะหวั่นไหวให้เขาได้ไม่ยาก มันก็ไม่แน่หรอกเพราะเรื่องของอนาคตไม่มีใครรู้ ตอนนี้ฉันอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาแต่ต่อไปมันก็ไม่แน่ไง เอาเป็นว่าเขาอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป ถ้าเขาเหนื่อยเขาก็คงเลิกไปเองแหละ พิราบมองสบตากับฉันที่เงยหน้ามองเขาพอดี ทำให้เรายืนสบตากันอยู่นานเหมือนกัน ใบหน้าของพิราบเลื่อนเข้าใกล้หน้าฉันเรื่อยๆ ก่อนที่ปากของเราจะโดนกันฉันก็เมินหน้าไปทางอื่นซะก่อน ทำให้ปากของเขาโดนเข้าที่แก้มฉันเต็มๆ มันไม่ใช่การแตะเพราะเขาสูดดมแก้มฉันเข้าไปเต็มปอดเลยล่ะ “อ่า ชื่นใจจัง ถ้าได้หอมอีกสักข้างคงเ****นจนต้องลากเธอไปเอาที่เตียงแล้วล่ะ”
“ไอ้หื่น”