2.โลกที่พืชเป็นสิ่งหายาก

1831 Words
เอวาหรืออีกชื่อที่เรียกในครอบครัวก็คืออีฟคือร่างใหม่ของเธอแม้จะยังไม่เข้าใจและงงอยู่บ้างแต่เธอคิดว่าเรื่องนี้เทพบรรพกาลต้องรู้เรื่องอย่างแน่นอน ถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงเจ้าของร่างคนนี้ดวงวิญญาณคงตายจากภพนี้ไปแล้วการจากลาและการเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งก็แล้วกัน เธอมองใบหน้าของตัวเองอยู่อย่างนั้นด้วยความไม่เคยชินดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่เหมือนภพที่เธอจากมาที่นี่คือโลก แต่เป็นโลกที่แปลกประหลาดเธอว่าเธอเองก็เคยลงไปเที่ยวเล่นที่โลกเป็นบางครั้งแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ามีโลกแบบนี้อยู่ด้วย ทุกสิ่งอย่างดูทันสมัยไปเสียหมดจนปรับตัวไม่ทันอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ไม่ฉลาดไปเสียทีเดียวเพราะรู้ถึงวิธีการใช้งานเทคโนโลยีพวกนี้ อาจเป็นเพราะความเคยชินทำให้สามีของเธอไม่ได้แปลกใจที่ภรรยาเปลี่ยนไปราวคนละคนแต่ถึงอย่างนั้นสักวันเขาก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ยังไงก็ต้องรู้ว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา แดร์เกอร์พาเธอมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อความแน่ใจ โดยเขาอ้างกับเธอว่าไม่สามารถยกอุปกรณ์จากโรงพยาบาลและจากศูนย์วิจัยมาที่บ้านได้ ปกติมันก็ยกไปไหนไม่ได้อยู่แล้วหรือเปล่า? “ครอบครัวของเราทำธุรกิจด้านการวิจัยและมีโรงพยาบาลเป็นของตัวเองหลายแห่งนะ” เดรกคือชื่อเล่นของสามีเขาตอบคำถามทันทีที่เห็นสีหน้าไม่เข้าใจของเธอที่แสดงออกมาให้เห็น ดูเหมือนว่าครอบครัวฝายสามีจะร่ำรวยทีเดียว แค่พวกเราก้าวขาเข้ามาในโรงพยาบาลทุกคนก็แทบอยากจะก้มกราบลงแทบเท้าไม่ว่าก้าวไปทางไหนทุกคนต่างโค้งให้เป็นการทำความเคารพทั้งนั้น สิ่งที่เธอรู้อีกอย่างหนึ่งในระหว่างทางจากบ้านมาที่นี่ก็คือต้นไม้ระยะทางจากบ้านมาที่โรงพญาบาลเธอแทบไม่เห็นต้นไม้เลยสักต้นแต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเสียทีเดียวมีให้เห็นบ้างประปลาย พวกเราสองคนใช้เวลาตรวจร่างกายไม่นานนักยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้วสรุปก็คือร่างกายของเธออ่อนแอนิดหน่อยจากโรคเก่าและจากการที่แท้งใช้เจ้าของร่างนี้แท้งลูกจากอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง เธอเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะจำอะไรในสมองไม่ได้เลย ยังไม่ทันที่จะเดินผ่านพ้นประตูโรงพยาบาลร่างของชายใส่สูทสูงกว่าเดรกเล็กน้อยเดินมากับใครคนหนึ่งผิวสีแทนใบหน้า คมคายตรงเข้ามาสวมกอดเธอทันทีจนเดรกต้องแกะมือที่เหมือนกาวของเขาออกจากตัวเธอผู้เป็นภรรยา “น้องสะใภ้ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ร่างกายเธอเป็นยังไงบ้าง” “เธอยังไม่หายดี พี่ไม่ควรเข้าใกล้เธอนะ” “ช่างนายเถอะ ไอคนไม่ได้เรื่องแค่เมียคนเดียวก็ดูแลไม่ได้เธอไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่าได้ยินว่าความจำเสื่อมใช่ไหม” “ค่ะ นิดหน่อย” “ฉันว่าไม่นิดแล้วมั่ง” ชายผิวแทนยกยิ้ม “ง งั้นเธอจำพี่ได้หรือเปล่า พี่ไง พี่อีวานไงพี่ชายสามีเธอเมื่อก่อนเราเกือบได้เป็นคู่หมั่นกันเลยนะ จำพี่คนดีคนหล่อคนนี้ไม่ได้จริงๆ เหรอ?” อีวานคือพี่ชายของเดรกสามีเพียงคนเดียวของเธอเขาตัวสูงว่าเล็กน้อยมีผมสีน้ำตาลแซมดำ ดวงตาสีน้ำตาลเข้าคู่กันทำให้น่ามองยิ่งกว่าเดิมแต่มีความใส่กว่าเดรกเล็กน้อยและมีรักยิ้มข้างขวา เท่าที่ในสมองของเธอจะนึกออกอีวานเป็นผู้ชายเจ้าชู้มากเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนนี้ดูแลศูนย์วิจัยอยู่ แต่เดิมเธอเคยเกือบเป็นคู่หมั่นและต้องแต่งงานกับเขาตามสัญญาของคุณปู่ของทั้งคู่แต่เพราะท่านรู้ว่าอีวานไม่เหมาะสมกับเธอเท่าไรจึงให้เดรกเป็นคนแต่งแทน ใช่ พวกเราแต่งงานเพราะสัญญาไม่ใช่เพราะรักแต่อย่างใด ส่วนคนข้างๆ ในความทรงจำที่นึกได้พวกเราเจอกันไม่กี่ครั้งแทบนับครั้งได้เลยแต่ความทรงจำเลือนล่างมากนึกออกเท่านี้ก็นับว่าเก่งแล้ว ร็อกโก้เป็นชายผิวสีแทนรูปร่างกำยำเขาเป็นนักธุรกิจและเป็นเพื่อนสนิทพี่สามีของเธอด้วยเช่นกันและเพราะเป็นเพื่อนกันนี่แหละนิสัยจึงไม่ต่างกันเท่าไรนัก “จริงสิ ฉันได้ยินจากอีวานว่าเธอพึ่งฟื้นเลยเอาของมาเยี่ยมเป็นโจ๊กทำจากข้าวสาลีแท้ๆ” “ขอบคุณค่ะ” “ไม่เป็นไรเธอเป็นน้องเพื่อนฉัน ก็เหมือนน้องของฉันนั้นแหละ” ผู้ชายที่ชื่อร็อกโก้ยกยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่เชื่อสนิทใจเอาซะเลย จะยิ้มแบบดีใจก็ไม่ใช่จะสงสารก็ไม่เชิงถือเป็นผู้ชายที่ไม่ควรเข้าใกล้ ก็นะคงไม่เจอกันบ่อยหรอก ก็เราแต่งงานมีสามีมีลูกแล้วสิเนอะ เพราะพีบีต้องไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าวันทั้งวันจึงมีแต่ความเงียบเหงาเธอยังจำได้อยู่เลยว่าพีบีลูกของเธอง้อแงไม่อย่างจะไปเพราะอยากอยู่กับแม่มากกว่า เด็กคนนี้ติดแม่มากจริงๆ และต่อแต่นี้ไปเธอจะดูแลเด็กคนนี้แทนมารดาของเขาเองยังไงเขาเป็นถือว่าเป็นลูกของเธอเหมือนกัน ช่างน่าแปลกที่หน้าตาของเอวาเหมือนกับเธอราวกับเคาะพิมพ์กันมา มันจะประหลาดเกินไปแล้ว “คุณไม่ไปทำงานเหรอ” “ผมลางานนะ ร่างกายคุณยังไม่แข็งแรงดีจะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง” เดรกเดินมาจากในครัวพร้อมถ้วยข้าวต้มไร้วี่แววของโจ๊กของฝากที่เขาให้เธอมา เพราะหลังจากขึ้นรถกลับมาเขาก็แย่งไปถือเองบอกว่ากลัวเธอเหนื่อยดูจากสีหน้าระหว่างกลับมาบ้านเขาดูไม่ค่อยชอบเพื่อนพี่ชายคนนี้เท่าไรนัก “แล้วของฝากล่ะ” ที่ถามเพราะอยากกินหรอกนะ “ผมทิ้งไปแล้ว ของแบบนั้นไม่อร่อยหรอกทานของผมดีกว่า” ผู้ชายตรงหน้าพูดจบก็วางข้าวต้มตรงหน้าเธอดูจากท่าทีสองสามวันที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเขาจะใส่ใจเราพอสมควรเลย ทุกๆ เช้าจะทำข้าวต้มให้เธอทานเพราะเจ้าของร่างไม่ชอบอะไรก็ตามที่มาจากพืชเทียมหรือก็คือพืชสังเคราะห์ ที่นี่พืชหรือผลผลิตทางการเกษตรเป็นสิ่งหายากมากและราคาสูง ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไรดินจากทั้งหมดมีเพียงแค่ 2% เท่านั้นที่สามารถปลูกพืชพรรณได้ส่วนที่เหลือไม่สามารถเพาะปลูกหรือใช้ทำอะไรได้อีก นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยต่างๆ ต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อทดแทนสิ่งที่หายไป ไม่แปลกที่จะไม่เห็นดอกไม้หรือต้นไม้ตามทาง ผู้คนที่นี่จะทานพืชเทียมหรือพืชสังเคราะห์ที่สารอาหารใกล้เคียงกับผลไม้และพืชนั้นๆ ทำให้เกิดศูนย์วิจัยมากมายพวกเขาทำหน้าที่สังเคราะห์ เรียนรู้ ตัดต่อพันธุ์กรรมและทำให้พืชเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาได้ และนั่นแหละคืออาชีพของแดร์เกอร์สามีของเธอยังไงล่ะ มีสามีเป็นนักวิทยาศาสตร์เลยนะขอบอก หญิงสาวมองสามีของตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทิ้งของดีแบบนั้นลงถังขยะไปด้วย “ถ้ายังไม่ลองทานจะรู้ได้ยังไงว่าไม่อร่อย” “ของแบบนั้นจากคนแบบนั้นไม่อร่อยหรอก เธออย่าไปยุ่งกับเจ้าหมอนั่นนะมันเป็นพวกไว้ใจไม่ได้รู้หรือเปล่า” “อืม เข้าใจแล้ว” “นี่เดรก” “เรียกพี่สิ” ชายหนุ่มวัย 28 ปีกำลังป้อนข้าวต้นให้ภรรยาเอ่ยปากบอก “พี่ เรามีเรื่องสงสัยว่าถ้าที่นี่ปลูกอะไรไม่ขึ้นแล้วทำไมที่บ้านเราถึงมีสวนดอกไม้ได้ล่ะ” นั่นสิ น่าแปลกถึงเขาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยอะไรก็ช่าง เพราะที่เราสงสัยคือทำไมบ้านเรา (คฤหาสน์) ถึงมีสวนดอกไม้ได้ล่ะในเมื่อดินขาดสารอาหารเพาะปลูกอะไรไม่ขึ้น แถมดอกไม้ที่เธอเห็นดันเป็นดอกไม้ที่เธอไม่ควรรู้จักอีก ภูติดอกไม้แบบเธอที่อายุกว่าพันปีไม่รู้จักดอกไม้พวกนี้ มันเสียศักดิ์ศรีภูติดอกไม้นะไม่รู้รึไง เหมือนมีคนมาตบหน้าเธอยังไงก็ไม่รู้ ช่างเป็นดอกไม้ที่ประหลาดมาก ทั้งไม่ส่งกลิ่น ไม่บานหรือมีชีวิตเลยสักนิด “ก็เพราะเธอชอบจำไม่ได้เหรอ เธออยากได้เรือนกระจกมากแถมชอบธรรมชาติและดอกไม้มากด้วย พี่เลยหามาปลูกให้เห็นว่าเธอชอบดอกไม้มากเธอจำไม่ได้” เมื่อพูดถึงตอนนี้สามีของเธอก็เล่าเรื่องราวของเจ้าของร่างให้ฟังโดยเขาคิดว่าภรรยาสาวตรงหน้าไม่มีความทรงจำเหลืออยู่แล้ว เอวาเป็นผู้หญิงรักธรรมชาติมาก ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิดเพราะเกิดก่อนกำหนด 3 เดือนเรียนจบด้านการปรุงน้ำหอมจากต่างประเทศ ดูเหมือนว่าพวกเรายังคล้ายกันอยู่บ้างนะ “เราจำได้นิดหน่อยนะ” “ขอโทษนะ” อยู่ๆ อีกฝ่ายก็กล่าวขอโทษออกมาดื่อๆ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยมือทั้งสองข้ามกุมมือของเราเอาไว้ ทั้งๆ ที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความสัมพันธุ์ของทั้งสองคนแท้ๆ แต่ทำไมเราถึงร้องไห้ล่ะ ทำไมน้ำตาถึงไหล “ฮึก อืม” “ถึงความสัมพันธุ์ของเราจะไม่ได้เริ่มด้วยความรักก็เถอะ แต่เราเป็นครอบครัว พี่สัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีไม่ทำให้เธอเสียใจอีก” ใบหน้าที่คล้ายจะเย็นชาของเขาสบตามองเธออย่างตรงไปตรงมา เผยให้เห็นความรู้สึกของอีกฝ่ายที่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มีกับเจ้าของร่างนี้จริงๆ เขาเสียใจที่ทำให้เธอต้องเสียเด็กในท้องไป เขาเสียใจที่เอาแต่ทำงาน เขาเสียใจที่ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอและเขาเสียใจที่ความรู้สึกของเขาที่มีกับเธอนั่นยังคงเหมือนวันแรกที่เรารู้จักกัน “เรามาเริ่มต้นใหม่นะ เราต้นใหม่กันอีกครั้ง” “พี่พูดรอบที่สองแล้วนะ” “พูดอีกรอบก็ได้ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่ขอโอกาสจากเรา ต่อจากนี้เราจะมาเป็นครอบครัวกันจริงๆ สามคนพ่อแม่ลูก”

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD