นาวินจัดการตามคำขอโดยเขาใช้ไก่ที่แบ่งไว้เมื่อวานทำลาบไก่ และย้ำทะเล เครื่องผักมีอยู่ครบขาดก็แต่ข้าวคั่วที่ใช้ใส่ในลาบไก่ นาวินจึงใช้ข้าวสารโดยไม่ผสมข้าวเหนียวที่ไม่ได้มีอยู่ในครัวแล้วจัดการคั่วกับกระทะ จนได้ที่ เมื่อคั่วเสร็จแล้วก็ตักเอามาใส่ในครกหินแล้วตำจนละเอียด ไม่ถึงชั่วโมงทุกอย่างก็ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอย่างสวยงามและเรียบร้อย
ระหว่างที่รอลูกสาวเจ้านาย นาวินก็จัดการเก็บกวาดและใช้น้ำยาล้างจานเช็ดถูเพื่อดับกลิ่นคาวบนภาชนะและโต๊ะเรียบร้อยเพื่อกันพวกแมลงเข้ามาวิ่งวุ่นวายช่วงกลางคืน อย่างเจ้าแมลงสาบที่นกยูงกลัวนักหนา ที่สำคัญเขากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อคืนอีก
หมุดตรงไหนไม่หมุดไปมุดตรงหว่างขา ดีนะที่น้องชายไม่งอแงตื่นขึ้นมาในจังหวะนั้น คิดแล้วก็อายตัวเอง ดีที่ว่าต่างคนต่างทำเป็นลืมว่าเคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นได้ดีเหยี่ยม!
เสียงจังหวะการเดินเข้ามาใกล้ทำให้นาวินที่นั่งดูมือถือเงยหน้าขึ้นมอง
“รอไม่นานใช่ป่ะ”
นกยูงในชุดเสื้อยืดกางเกงตัวหลวม ถามพร้อมรอยยิ้ม เลื่อนเข้าอี้นั่งตรงกันข้ามกับพ่อครัวที่มีเพียงร้อยยิ้มที่สาวเกือบละลายไปกับยิ้มเขา
“นี่ครับแก้ว” นาวินหยิบแก้วที่ใส่น้ำแข็งใสไว้เรียบร้อยให้เจ้าของขวดไวน์ รินให้เธอช้า ๆ
“ไม่เมาไม่เลิกนะ” นกยูงยกแก้วขึ้นและเอ่ยบอก นาวินยิ้มรับ
“ผมขอนั่งเฝ้าคุณนกยูงดีกว่าครับ”
“นิดนึงสิ”
เธออ้อนทั้งคำพูดและสายตา แล้วลุกขึ้นจัดการหาแก้วให้ผู้ชายถือตัวเสียเอง
นาวินจำใจรับและอยู่กินเป็นเพื่อนเธอเพียงแก้วเดียว
“ถามอะไรหน่อยสิ” แม้จะมีแอลกอฮอล์ไม่มากแต่เมื่อดื่มเข้าไปในปริมาณเยอะก็ทำให้ผู้หญิงเปลี่ยนนิสัยขึ้นมาได้เช่นกัน
“ครับ?”
“นายมีแฟนคนแรกตั้งแต่อายุเท่าไหร่”
“ป.6”
“โห้… ไม่แปลกที่มีแฟนตั้งแต่ ป.6” เธอมองหน้าคนมีแฟนตั้งแต่ ป.6 หล่อ!
ผิดกับเธอขนาดหน้าตาดี จะหาแฟนในวัยนั้นคงยาก ขนาดเพื่อนรุ่นเดียวกัน ยังหายากเลย ก็ชื่อเสียงของเสี่ยเรืองแท้ ๆ เรื่องหวงลูกสาว จนผู้ปกครองของเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน สั่งห้ามไม่ให้เล่นด้วย
“เอ่อ…ตอนนี้ยังคบกันอยู่หรือป่าวล่ะ”
“เป็นความชอบของเด็ก ๆ พอจบต่างคนต่างแยกย้ายกันไปครับ”
“งั้น ตอนนี้นายมีแฟนแล้วหรือยัง”
“ยังครับ” คำตอบที่หลุดปากกับทำให้หัวใจเขาปวดหนึบแต่ก็รีบสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป
“งั้นตอนนี้โสดสิ”
“ครับ”
“แล้วนายอายุเท่าไหร่แล้ว” คนที่ว่าขอถามอะไรหน่อย ถามเสียหลายข้อ แต่นาวินก็ยินดี
“28ครับ”
นกยูงถึงกับถอนหายใจยาว ๆ บ่งบอกความรู้สึกได้ดี
“ฉันไม่นอนดีกว่า”
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นออกจากห้องครัวไป นาวินได้แต่มองตามและจัดการเก็บโต๊ะจนเรียบร้อยดีแล้วกลับขึ้นห้อง แต่เมื่อจะเปิดประตูห้องนอนของตัวเองก็นึกได้ว่ากุญแจรถยังไม่คืนเจ้าของ จึงเดินย้อนกลับมาง้างมือขึ้น และเป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูเปิดออกจากคนด้านใน ต่างคนต่างสะดุ้ง ตาสบตา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” นาวินถามขึ้นก่อน
“มีสิ นายยังไม่เอาเจ้าแมลงสาบตัวเมื่อคืนออกไปจากห้องฉันหรือไง ตอนนี้มันมาเล่นซ่อนแอบอยู่ในห้องฉันอีกแล้ว” นาวินหน้าเจื่อน
“เมื่อคืนผมหาทั้งคืนแล้วแล้วไม่เจอนี่ครับ”
“นายนี่นะ เลยปล่อยให้ฉันนอนอยู่กับแมลงสาบทั้งคืนสินะ” เธอเอ่ยสีหน้าน้ำเสียงจะร้องไห้
จะสงสารหรือขำดี กับความกลัวของลูกสาวเสี่ยเรือง
“ไม่รู้ละ คืนนี้นายต้องเอาตัวเป็น ๆ ให้ฉันเห็นกับตาว่าเอาออกไปจากห้องให้ได้” น้ำเสียงแข็งสีหน้าจริงจัง
นาวินถอนหายใจยาว ๆ เดินก้าวเข้าในห้องแล้ววางกุญแจไว้หน้ากระจกอย่างเคย
“คุณนกยูงเห็นมันอยู่ตรงไหนครับ”
“มะ มัน อยู่ตรงนั้น” ว่าแล้วเธอยกนิ้วขึ้นชี้แล้วเดินไปยังจุดที่เห็นแมลงสาบก่อนหน้านี้ แต่ทว่าขากลับสะดุดกันเอง
“ว้าย!” มาวินที่ยืนอยู่วิ่งมาคว้าไว้จากระยะและการทิ้งตัวของหญิงสาวทำให้นาวินพลาดเซเสียหลักไปทั้งคู่แต่ดีที่ว่า เขาเหวี่ยงตัวหญิงสาวไปไว้ด้านบน เมื่อล้มลงบนพื้นเธอจึงไม่รู้สึกเจ็บเพราะมีร่างของบอดี้การ์ดหนุ่มรองรับ
จังหวะที่ล้มทับลงไปของทั้งคู่ทำให้หน้าผากขาวนวลทับลงไปบนริมฝีปากและจมูกโด่งของนาวินพอดิบพอดี ต่างคนต่างสัมผัสได้ ถึงความอุ่นและนุ่มหยุ่นของสัดส่วนของกันและกัน
นาวินรู้สึกร้อนตามใบหน้าและลำคอ จึงนอนนิ่ง ๆ ให้นกยูงขยับตัวลุกขึ้น เมื่อเธอลุกขึ้นไปนั่งได้แล้ว นาวินก็ดันตัวเองลุกขึ้นบ้าง
“เอ่อ…”
นกยูงเหมือนอะไรค้างอยู่ที่ลำคอ หลบสายตา ถึงอายุเยอะแต่ความกระดากอายยังมีอยู่ ลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไร จึงได้แต่ลุกขึ้นแล้วทำตัวไม่ถูก มองซ้ายมองขวา
นาวินที่มีความรู้สึกไม่ต่างกันแต่มีสติที่ดีกว่าจึงพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่ชวนเคอะเขินน่าอึดอัดนั่น
“คุณนกยูงมียาพ่นแมลงหรือป่าวครับ”
“มีนะ แต่ฉันแพ้กลิ่น”
“งั้นพรุ่งนี้คุณนกยูงออกจากห้อง ผมจะมาพ่นทิ้งไว้”
“อ้าว แล้วคืนนี้จะให้ฉันนอนผวาหรือ”
“เมื่อคืนแมลงสาบก็อยู่กับคุณนกยูงทั้งคืน หรืออยู่มานานเท่าไหร่แล้วแต่คุณนกยูงไม่เห็นเอง ยังนอนไปถึงเช้าได้เลย คืนนี้ก็ทนนอนไปก่อนนะครับ”
คนไม่กลัวพูดง่าย แต่คนที่เห็นแล้วก็ระแวงไม่หาย
“นายพูดได้สิ”
คนกลัวแมลงสาบหน้าบูดเบี้ยวจะร้องไห้ออกมาสะให้ได้
“ถ้ากลัวขนาดนั้น ไปนอนห้องผมไหมและผมมานอนห้องคุณนกยูงแทน”
“ไม่เอา คุณนอนในห้องนี่เป็นเพื่อนฉันเลยคืนนี้”
คนติดห้องเอ่ยบอก แม้จะเป็นบ้านเธอแต่ก็นอนห้องนี้จนชิน
นาวินหน้าเหวอ นี้แม่คู้ณจะมางอแงเหมือนเด็ก 10ขวบไม่ได้!
สีหน้าไม่อ่อนให้ของนาวินทำให้ลูกสาวเสี่ยเรืองน้ำตารื่น เธอเอ่ยน้ำเสียงตัดพ้อ
“ทำไม วันแรกที่คุณมานี่ คุณยังมานั่งเฝ้าจนถึงเช้าได้เลย”
…ที่ไหน ผมเข้ามาเกือบแปดโมงแต่คุณยังหลับอยู่ผมกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรเพราะผิดเวลา จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้ามาดู ก็ยังพบว่าคุณนอนนิ่งอยู่ก็เลยนั่งรอให้คุณตื่น ไม่ถึง5นาทีคุณก็ตื่น…