นาวินอยากบอกความจริงอย่างนั้นไป แต่ก็คิดว่าให้เธอเข้าใจว่าเขาเข้ามานั่งเฝ้าเธอทั้งคืน เพราะคำสั่งเสี่ยเรืองที่ห่วงลูกสาวหัวดื้อแค่ไหนแบบนั้นดีกว่า
“ว่าไง” เธอต้องการคำยืนยัน แต่อีกคนเหมือนน้ำท่วมปาก นกยูงจึงปล่อยทีเด็ด “วันนี้ฉันลงทุนขอ คุณจะปฏิเสธลงคอหรือไง แล้วหากเช้ามาคุณมาเจอว่าฉันช็อกตายคาเตียงขึ้นมาทำไง”
นาวินกลืนน้ำลายลงคอ ตาสบตา ใจอ่อนอีกแล้วให้ตายสิ!
“ก็ได้งั้นผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องโดยมีสายตาเชื่อมหวานอย่างขอบคุณมองตาม
นาวินจัดการเข้าไปอาบน้ำ โดยไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไป ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็เดินออกมาในสภาพที่เดินขยี้ผมที่เปียกอยู่ไปมาด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก โดยมีผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่สีขาวพันอยู่ใต้เอวสอบโดยด้านบนเปล่าเปลือยจนเห็นหน้าท้องเป็นลอนงามและมีขนสีอ่อนรำไรยาวขึ้นไปจนถึงสะดือเด่นชัด จนนกยูงที่นั่งรออยู่บนเตียงถึงกับน้ำลายติดคอ
เป็นจังหวะนาวินปลดผ้าขนหนูออกจากศีรษะ สายตาก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญในห้อง “เฮ้ย! คุ คุณนกยูง”
ถึงจะเป็นเจ้าของบ้านแล้วจะเข้ามาในห้องที่มีคนอื่นอยู่แบบนี้ไม่ได้ หัวใจจะวาย! นาวินพ้อในใจ
“อืม ฉันเอง” พยายามปรับน้ำเสียงและชักสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
“เข้ามาได้ยังไงครับ”
“ก็เปิดเข้ามา”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ก็ตั้งแต่นายเข้าห้องอาบน้ำแล้วล่ะ”
“แล้วไม่นั่งรอในห้องคุณนกยูงล่ะครับ” ไม่อยากถามแต่ก็ต้องถามเพื่อกลบความรู้สึกกระดากอาย
“ฉันกลัวนี่”
“งั้นผมขอเวลาใส่เสื้อผ้าก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็เปิดตูหยิบเสื้อผ้าที่แขวนไว้ หยิบผิดหยิบถูก ลนลานจนหน้าขำ
เมื่อได้ชุดที่ต้องการนาวินก็รีบเดินเข้าไปใส่ในห้องน้ำ อึดใจต่อมาก็เดินออกมาในสภาพเรียบร้อย แล้วเดินไปหยิบหมอนผ้าห่มของตัวเองพร้อมออกจากห้อง
“ฉันไม่ได้เข้ามากดดันนายนะ แต่ฉันไม่กล้านั่งรอในห้องคนเดียว” นาวินยิ้มเดินนำออกจากห้องและระหว่างที่เดินไปหยุดอยู่หน้าประตู เห็นกลอนที่พังก็นึกขึ้นได้
“วันนี้ผมยังได้ซ่อมกลอนประตูให้คุณนกยูงเลย”
“ไม่เป็นไรไว้พรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้เรายุ่งกันมาทั้งวันแล้ว” น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ไหวเต็มแก่เอ่ยบอก
เมื่อเข้ามาในห้องนกยูงเปิดตู้แล้วหยิบผ้านวมผืนหนาส่งให้นาวินอีกผืน เพื่อไว้รองนอน นาวินรับไว้แล้วจัดที่นอนของตัวเองไปเงียบ ๆ ข้าง ๆ เตียงของลูกสาวเจ้านาย
เสียงนกยูงนิ่งเงียบไปแล้วนาวินจึงค่อย ๆ ปิดเปลือกตา แต่ไม่วายลืมตาโพลงมองไปบนเตียงในความมืดสลัว อย่างระแวง กลัวโดนปล่ำหรือก็ไม่ใช่ กลัวโดนอีกคนกลิ้งทับเสียมากกว่า ผู้หญิงอะไรหนักไม่ใช่เล่น! ตอนนั้นไม่รู้สึกปวด แต่ตอนนี้รู้สึกปวดตามตัวขึ้นมาบ้างแล้ว…
เช้าของวันใหม่ แสงแดดสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง นาวินครึ่งหลับครึ่งตื่น ความที่รู้สึกปวดจนนอนไม่หลับเมื่อคืนตัดสินใจลุกขึ้นมาหายาแก้ปวดกิน เช้านี้รู้สึกปวดเหมื่อยตามร่างกายหนักกขึ้นกว่าเมื่อคืนอีก ซีกข้างขวาของเขาถึงกับหนักและชาไปทั้งแถบแถมหนักอึ้งเหมือนมีอะไรมาทับไว้ จนต้องเอามืออีกข้างไปช่วยดันเพื่อให้ตัวเองขยับหายจากอาการชา
เอ๊ะ! นี่มันไม่ใช่… ไม่มั่นใจก็เอามือไปลูบ ๆ คลำ ๆ สิ่งที่ทับเขาอยู่ขยับเหมือนรำคาญ หากแต่ยังมุดอยู่ตรงสีข้าง นาวินลืมตาโพล่งผงกศีรษะขึ้นเพ่งมองด้านข้าง เมื่อแน่ชัดต่อสายตา
“คุณนกยูง!”
เสียงเรียกที่ดังพอทำให้คนที่นอนเบียดเข้าหาไออุ่นถึงกับรู้สึกตัว ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง ลุกขึ้นนั่งยิ้มยิงฟันใส่หันซ้ายแลขวา นาวินได้แต่นอนอึ้งนิ่งงงไก่เป็นไก่ตาแตก
“ขะ ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าลงมานอนกับนายได้ยังไง”
“คงไม่คิดว่าผมแอบไปอุ้มคุณลงมาจากเตียงเพื่อมานอนทับผมจนเหน็บกินนะครับ” คำพูดของเขายิ่งทำให้สาววัย 35กระรัตหน้าร้อนผ่าว
“ขอโทษแล้วไง แทนที่ฉันจะโวยวายกับเป็นนาย ตลกเสียจริง” ว่าแล้วก็หน้ามุ่ยลุกขึ้นยืน เตะไปที่สีข้างนาวินหนึ่งที
“โอ้ย เตะมาทำไมเนี่ยคนยิ่งเจ็บอยู่” นาวินร้องเสียงหลงเอามือลูบปอย ๆ ตรงที่โดนเท้าซ้ำไป
อารมณ์ที่กำลังขุ่นอยู่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดที่นาวินบอก “กลับห้องนายไปได้แล้วฉันจะอาบน้ำแต่งตัว”
ด้วยความถือดีของนาง นาวินอยากจะถามไปว่า ไม่กลัวแมลงสาบแล้วเหรอ… แต่ก็กลัวว่าจะเดือดร้อนตัวเองอีก เลยรีบหอบหมอนกับผ้าห่มเดินกลับห้องตัวเองไป
ระหว่างที่ดึงเสื้อขึ้นเพื่อจะถอดความหอมของกลิ่นที่ได้มาจากการนอนเบียดของหญิงสาวทำให้ติดอยู่บนเสื้อของเขา จนเผลอสูดดมเข้าไปจนเต็มปอด ริมฝีปากหนายิ้มอ่อน
นาวิน ลงมาชั้นล่างก็พบว่าลูกสาวเจ้านายยืนหน้าหักหน้างออยู่แล้ว เขาจึงเดินเข้าครัวจัดอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ให้เธอโดยไม่ถามความต้องการ
กลิ่นหอมของกาแฟที่ลอยออกมาทบจมูกทำให้นกยูงถึงกับเผลอสูดเข้าไป แอบชะเง้อคนในห้องครัวเห็นแค่แวบ ๆ ใจอยากเข้าไปถาม ว่าทำอะไรให้เธอกินเช้านี้ แต่เพราะเขินและงอนอยู่มากจึงกลั้นใจไม่เดินตามเข้าไป
เพียงครู่ที่เธอละสายตาไปจัดของในร้าน กาแฟและขนมปังทาแยมสตอเบอร์ที่แดงน่ากินก็วางอยู่ตรงหน้า
ตาบ้า ฉันยังงอนนายอยู่นะ… โต้อยู่ในใจ ตาจ้องกาแฟและขนมปังน่ากิน อยากกินแล้ว แต่อีกคนยังยืนอยู่ วางฟอร์มไม่แตะหันไปทำอย่างอื่น
“ไม่กินตอนนี้ เย็นชืดจะไม่อร่อยเอานะครับ” บอกแล้วก็เดินกลับไปห้องครัว กลับออกมาอีกครั้งเตรียมจะออกไปข้างนอกโดยมีกระเป๋าคาดอกใบหนึ่ง
อดใจไม่ไหวนกยูงจึงถามไป “นายจะไปไหน”
“ไปหาเครื่องมือมาซ่อมประตูให้คุณนกยูงไง แล้วซื้อของกินในครัวเพิ่ม จะเอาอะไรหรือเปล่าครับ”
“งั้นเอากุญแจรถฉันไป…” เธอรีบยื่นให้ นาวินรับแล้วยิ้ม “รีบไปรีบกลับมานะคะ”