ชิดใกล้

916 Words
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงตัวหลวมบางก็นึกขึ้นได้ว่ากุญแจรถยังวางอยู่ในครัวยังไม่ได้คืนเจ้าของ จึงตัดสินใจเดินออกจากห้องเพื่อไปหยิบกุญแจ แต่ระหว่างที่เดินผ่านหน้าห้องสาวสวยเขาได้ยินเสียงกุก ๆ กัก ๆ ดังออกมา จึงหยุดฟังและมันดังอย่างนั้นอยู่หลายนาที นาวินไม่ได้อยากเสียมารยาทที่แอบฟัง แต่มันคือหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของนายสาวเขาจึงไม่อาจปล่อยผ่าน ก๊อก ก๊อก นาวินตัดสินใจเคาะประตู หูแนบฟังไร้เสียงตอบรับจึงตัดสินใจเรียกและเคาะไปพร้อมกัน “คุณนกยูง เป็นอะไรหรือป่าวครับ” นกยูงที่ในมือถือไม้กวาดหยุดชะงักค้างมองไปยังเสียงเรียกที่อยู่นอกประตู “กรี๊ด!!” เจ้าแมลงสาบที่นกยูงกำลังไล่ตี เหมือนรอโอกาสที่เธอเผลอก็บินออกมาเกาะที่เสื้อของเธอ ด้วยความกลัวขยะแขยงกับเจ้าตัวนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรทำให้เธอร้องลั่นอย่างคนเสียสติ เสียงกรีดร้องของลูกสาวเจ้านายทำให้นาวินตกใจด้วยความลืมตัวจึงกระโดดถีบบานประตูนั้นเข้าเต็มแรงนักรบ สองสามครั้งประตูก็เปิดอ่า นาวินรีบพุงเข้าไปหานายสาวที่เหมือนจะหมดแรงแล้วร่วงไปนอนบนพื้น “คุณนกยูง ๆ” ทั้งเขย่าทั้งเรียกเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น นาวินจึงตัดสินใจอุ้มร่างที่อ่อนปวกเปียกขึ้นไปวางบนเตียงนุ่ม แล้วรีบจับชีพจรที่แขนตรงข้อมือ “ก็ปกตินิ…” นาวินเอ่ยเบา ๆ และตัดสินใจปลุกเพื่อเรียกสติของเธออีกครั้ง ครานี้เธอเริ่มรู้สึกตัวเปลือกตาเริ่มขยับ และดีดตัวลุกขึ้นพร้อมเสียงกรี๊ด นาวินตกใจไม่แพ้กันดีดตัวยืนตรงและจังหวะนั้น เหมือนนกยูงจะเห็นนาวิน ด้วยความลืมตัวเธอโผล่เข้ากอดหาที่พึ่งและร้องบอกให้เขาช่วย “กรี๊ด ๆ ๆ แมลงสาบ แมลงสาบ ช่วยเอาออกไปที ช่วยเอาออกไปที” เธอบอกซ้ำ ๆ แล้วมุดหน้าหายเข้าไป นาวินทั้งตกใจทั้งอาย จนไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง เมื่อลูกสาวตัววุ่นของเสี่ยเรือง โอบรัดตรงเข่าจนเขาเองขยับไปไหนไม่ได้ ไหนจะหน้าสวย ๆ หลับหูหลับตามุดอยู่ตรงนั้นจนเขาเองอยากจะร้องออกมาดัง ๆ ว่าตอนนี้เธอน่ากลัวกว่าแมลงสาบเสียอีก! แต่ก็ทำไม่ได้ “คุ คุณนกยูงครับ เงยหน้าขึ้นมาก่อนครับ” บอกแล้วก็พยายามขืนตัวเองเอาไว้ อยากจะจับศีรษะที่หมุดอยู่ก็เกรงใจ หากจะทนยืนเกร็งอยู่อย่างนี้ก็ใช่ที่ “คุณยกยูงครับ มันไปแล้วครับ” นาวินตัดสินไปพูดปด เพราะเขาเองก็ยังไม่เห็นเมลงสาบสักตัวตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ แขนที่กอดรัดอยู่ตรงเข่าคลายออกพร้อมกับหน้าที่มุดอยู่ตรงยุทธศาสตร์ของนาวินพอดิบพอดีขยับออกมา เธอค่อย ๆเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าเจ้าของที่เธอโอบรัดจนหน้าตั้ง แล้วค่อย ๆ ก้มลงมาตรงจุดที่เธอมุดอยู่นานสองนาน จากที่หน้าซีด ๆ ก็กลายเป็นแดงเรื่อ นกยุงเอนตัวไปข้างหลังพร้อมกับมือทั้งสองที่ยกไปค้ำยันตัวเองไว้ตาสบตามองหน้าชายหนุ่มอีกครั้งเหมือนจะมองให้แน่ใจก่อนจะยกมือข้างหนึ่งชี้หน้าคนตรงหน้าแล้วร้องดังออกมา “อ้ายยย นี่นาย…” นาวินสะดุ้งถอยหลัง “อะ อะไรครับ” “นายมันบ้า ปล่อยให้ฉันมุดอยู่ตั้งนานสองนาน อ้าย… ฉันจะฆ่านาย นายนาวิน” น้ำเสียงกรีดแหลมพร้อมกับลุกขึ้นยกกำปั้นขึ้นแล้วทุบไปบนอกแข็ง ปึก ปึก นาวินทำอะไรไม่ได้มากนอกจากจับข้อมือของเธอไว้ “ใจเย็น ๆ ครับคุณนกยูง เดี๋ยวผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยไปส่งของให้คุณ แล้วไหนจะทำกับข้าวอร่อย ๆให้คุณ แล้วจับแมลงสาบอีกล่ะ คุณนะ ต้องมีผมอยู่ข้าง ๆ นะครับ” ประโยคหลังใช้ได้กับนกยูงที่สุด เธอหยุดดิ้นแต่ยังถลึงตาใส่ผู้ชายตรงหน้าอยู่  นาวินเมื่อเห็นเจ้าของข้อมือที่ตนเองจับอยู่เริ่มหมดฤทธิ์จึงค่อย  ๆ ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ “พรุ่งนี้ผมจะซ่อมกลอนประตูให้นะครับ” “อะไร นายว่าอะไรนะ” “คือผมตกใจเสียงคุณ ก็เลยลืมตัว พังประตูเข้ามา” “หือ…นายนี่มันจริง ๆเลย” แล้วเธอก็รีบเดินไปตรงประตูมีนาวินเดินตามมาด้วยและพบว่ากลอนมันพังจริง ๆ เธอหันมาส่งสายตาคาดโทษคนทำ “ต้องเข้าใจผมด้วย คนเป็นห่วงเลยขาดสติ ลืมนึกไปว่ากุญแจที่ตัวเองก็มี” คนรู้สึกผิดพูดเสียงอ่อน นกยูงจึงได้แต่ถอนหายใจทิ้ง   “โอเค งั้นนายช่วยดูอีกทีว่าไอ้แมลงสาบตัวนั้นมันยังอยู่หรือป่าว หากนายหาไม่เจอก็ไม่ต้องกลับห้อง” น้ำเสียงพูดทีเล่นทีจริง นาวินเกาศีรษะแกรก ๆ แล้วก็เดินหาไปทั่วทุกซอกทุกมุมเท่าที่จะแกวกหาได้ เฮ้อ… คนที่กลัวก็กลัวจนฉี่ราดก็คงจะมีจริงอะเนอะ!            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD