14
หลังจากธัชธรรม์กับภัทรียาออกมาจากห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มก็พาเธอไปยังห้องนอนของเขา ธัชธรรม์ไม่พูดอะไรสักคำกระทั่งถึงห้องนอน
“ห้องของคุณเหรอเนี่ย โอ้โห...ใหญ่มากๆ เลย ห้องนอนของฉันเทียบไม่ติดเลย” เสียงของภัทรียาดังขึ้น เมื่อก้าวเข้ามาในห้องนอนที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อนที่เจ้าของห้องชอบ เฟอร์นิเจอร์กับข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องนอนมีราคาแพงและน่าใช้เป็นที่สุด โดยเฉพาะเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ที่ใหญ่จนเธอกลิ้งได้หลายตลบ และหนาเป็นศอก ยามพลิกตัวคงรองรับสรีระได้ดีเยี่ยม
“ถ้าไม่ใช่ห้องฉัน แล้วฉันจะพาเธอมาทำไมล่ะ” เขาตอบกวนๆ “เธอหยุดสำรวจห้องฉันสักเดี๋ยวได้ไหม ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอ”
คนที่กำลังกวาดตามองไปทั่วห้องถึงกับสะดุ้ง หันมายิ้มแหยให้เขา ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะได้ฟังเรื่องที่เขาอยากคุย
“คุณจะคุยกับปรางเรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องที่เธอย้อนยอกคุณแม่ของฉันน่ะสิ”
“ที่ปรางทำลงไปเพราะต้องการให้คุณแม่ของคุณเชื่อนะคะ ปรางไม่มีเจตนาจะก้าวร้าวใส่ท่านเลยค่ะ ถ้าปรางทำให้คุณไม่พอใจ ปรางขอโทษด้วยนะคะ”
ภัทรียารู้ตัวว่าตัวเองผิดที่โต้ตอบลักขณาเช่นนั้น เธอยกมือไหว้ธัชธรรม์ เพราะคิดว่าเขาคงไม่พอใจที่เธอแสดงกิริยาอย่างนั้น
“ฉันไม่ได้โกรธเธอหรอก ฉันจะขอบใจต่างหากที่ช่วยแก้สถานการณ์ให้ฉัน ถ้าเธอไม่พูดแบบนั้นคุณแม่คงร่ายยาว”
ผิดคาด...สิ่งที่ภัทรียาคิดมันตรงกันข้ามกับคำพูดของสามีในนาม เธอตกใจกับเรื่องที่กลับตาลปัตร นอกจากเขาไม่โกรธ ยังขอบใจเธออีกด้วย
“ปรางทำตามหน้าที่ค่ะ รับเงินคุณมาตั้งมากก็ต้องทำงานให้คุ้มเงินสิคะ” ภัทรียาเอ่ยตามตรง “คุณแม่ของคุณคงไม่เชื่อว่าที่เราเป็นสามีภรรยากันแน่ๆ ค่ะ ท่านคงหาทางรู้ความจริงจนได้”
“ฉันถึงไม่หย่ากับเธอตอนนี้ไงล่ะ และจ้างเธอมาเป็นเมียกำมะลอสักหกเดือนให้คุณแม่ตายใจ เรื่องที่เธอห่วงว่าท่านจะจับผิดเรา เธอคิดไม่ผิดหรอก คุณแม่ของฉันทำอย่างนั้นแน่ๆ ฉะนั้นเราต้องทำตัวให้แนบเนียน ฉันถึงต้องตกลงกับเธอเพิ่มเติม”
ธัชธรรม์รู้นิสัยมารดาดี ท่านจะไม่หยุดหากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ งานนี้จึงต้องทำให้แนบเนียน ไม่ให้ใครจับพิรุธได้
“ตกลงอะไรคะ” เธอถามด้วยหน้าตาอยากรู้
“ฉันอาจต้องจับมือถือแขนเธอบ้าง หรือไม่ก็โอบบ่า โอบเอว แสดงให้คุณพ่อคุณแม่และทุกคนในบ้านเห็นว่าเราเป็นผัวเมียกัน แต่จะไม่มีอะไรมากกว่านี้” ธัชธรรม์บอกรายละเอียดเพิ่มเติม
เธอหน้าร้อนมาวูบหนึ่งกับคำพูดของเขา แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในงานที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากไม่ทำ คนในบ้านอาจจะสงสัยได้
“ค่ะ ปรางเข้าใจค่ะ เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหา”
“แล้วเรื่องที่เธอต่อปากต่อคำกับแม่ของฉันน่ะ ฉันอยากขออย่างหนึ่ง...อย่าทำอะไรเกินเลยหรือมากกว่านี้ เพราะถึงยังไงท่านก็เป็นแม่ของฉัน ส่วนคุณพ่อ เธอไม่ต้องเป็นห่วง คุณพ่อไม่ใช่คนเรื่องมาก ท่านมีเหตุผลและไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน”
ธัชธรรม์จำต้องปรามภัทรียาเอาไว้ก่อน จากวาจายอกย้อนและเรื่องที่เขารู้ว่าเธอเป็นนักมวย ทำให้ชายหนุ่มกลัวว่าเธอจะลุแก่โทสะถึงขั้นสวนกลับมารดาของเขาทั้งฝีปากและหมัด
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงค่ะ ปรางรู้ว่าอะไรควรและไม่ควร อีกอย่างปรางเป็นคนมีความอดทนสูง ไม่ฟาดหัวฟาดหางท่านแน่ค่ะ แต่ปรางคิดว่าคุณน่าจะไปพูดเรื่องนี้กับคุณแม่ของคุณมากกว่านะคะ อย่าทำร้ายปรางทั้งคำพูดและการกระทำ เพราะความรู้สึกของปรางบอกว่าคุณแม่ของคุณต้องจัดให้ปรางชุดใหญ่ งานนี้อีมะปรางอ่วมแน่”
ภัทรียาพูดโดยรับรู้จากสัญชาตญาณว่า ลักขณาจะไม่รามือเพียงแค่นี้ ต่อจากนี้ไปทั้งคำพูดเดียดฉันท์และคำพูดถากถางจะต้องตามมาอีกเป็นชุด รวมถึงการทำตัวเยี่ยงแม่สามีใจร้ายตามแบบฉบับละครหรือนิยายน้ำเน่า แต่ไม่ว่าจะมาไม้ไหน ภัทรียาก็รับมือได้ทุกกระบวนท่า
“ฉันเองก็เป็นห่วงเหมือนกัน ฉันรู้นิสัยแม่ดีว่าเป็นยังไง แต่ฉันเชื่อว่าคุณแม่ไม่ใช่คนใจร้าย ทำร้ายเธอถึงเลือดตกยางออก ก็คงแค่พูดกระทบกระเทียบ และออกฤทธิ์เหมือนแม่ผัวที่ไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้ แต่ถ้าคุณแม่ทำอะไรมากกว่านี้ละก็ เธอบอกฉันทันทีนะ ฉันจะไปพูดกับคุณแม่เอง”
ธัชธรรม์ก็กลัดกลุ้มไม่น้อย เขากลัวภัทรียาจะทนความกดดันไม่ไหว หนีเตลิดกลับไปอยู่บ้าน ส่งผลให้แผนต้องพังไม่เป็นท่า และไม่ใช่ว่าเขาจะห่วงแต่ตัวเองเท่านั้น ธัชธรรม์ห่วงเมียกำมะลอด้วยเหมือนกัน
“คุณอ๋องไม่ต้องห่วงนะคะว่าปรางจะทนไม่ได้ อย่างที่ปรางบอกคุณอ๋องไปก่อนหน้านี้ ปรางจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณเปรียบเสมือนพ่อพระมาโปรด ทำให้ปรางหาเงินใช้หนี้เสี่ยหมีได้ แถมยังมีเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่ายในบ้านและค่ายมวย ปรางถือว่าทำเพื่อผู้มีพระคุณของปราง คุณวางใจได้ค่ะว่าคนอย่างมะปราง ลูกสาวจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง สะกดคำว่าถอยไม่เป็นแม้จะจนตรอก”
ธัชธรรม์ทึ่งกับคำพูดของภัทรียา น้ำเสียงเธอแสดงให้รู้ถึงความหนักแน่นในจิตใจ เขารู้สึกชื่นชมหญิงสาวขึ้นมาอีก คิดไม่ผิดที่เลือกเธอมาเป็นเมียกำมะลอของเขา
“ฉันขอบใจเธอมากนะที่ทุ่มเทให้งานนี้ ถ้าเธออึดอัดหรือมีอะไรหนักใจและมีปัญหาก็บอกฉันได้ เพราะเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ฉันช่วยเธอ เธอช่วยฉัน” ธัชธรรม์กล่าวจากใจจริง
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณอ๋อง”
“อ้อ...ลืมไป ฉันจะบอกเธออีกเรื่องหนึ่ง คือการใช้สอยห้องนี้ เธอใช้ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องเกร็งว่าฉันจะห้ามโน่นห้ามนี่ เสื้อผ้าของเธอ ฉันคิดว่าจะซื้อชุดสวยๆ ให้ใหม่สักยี่สิบชุดก่อน ให้สมกับที่เป็นเมียฉันหน่อย คุณแม่จะได้ไม่ดูถูกเธอ และคนในบ้านจะได้ให้ความนับถือเธอด้วย ส่วนเรื่องนอน เธอนอนบนเตียง ฉันจะนอนบนโซฟาใหญ่ตรงมุมห้องเอง”
“รับทราบค่ะคุณอ๋อง” ภัทรียาไม่โต้แย้งเรื่องที่เขาจะซื้อเสื้อผ้าให้ เพราะเห็นด้วยกับความคิดของเขา
“ฉันต้องไปทำงานแล้ว ตอนบ่ายสามมีประชุม เธอก็จัดเสื้อผ้าหรือพักผ่อนตามแต่ใจ เจอกันค่ำๆ นะ แล้วถ้าฉันกลับมา เธอยังไม่หลับ ฉันจะคุยกับเธอเรื่องคนในบ้าน เธอจะได้เตรียมรับมือถูก”
ความที่เวลามีน้อย ทำให้ธัชธรรม์ไม่มีเวลามากพอจะคุยและทำความเข้าใจอีกหลายเรื่อง เขาจึงคิดว่าค่ำคืนนี้จะคุยกับเธอฟังอย่างละเอียด
“ค่ะคุณอ๋อง” จบคำพูดของภัทรียา ธัชธรรม์ก็ตรงไปที่ประตู
เขาเปิดประตูก้าวออกไปทันที ทิ้งให้เมียจัดฉากยืนเรียกพลังใจให้เข้มแข็ง เพื่อภารกิจต่างๆ จะได้ล่วงเลยไปด้วยดี เพราะงานนี้นักมวยสาวคิดว่าหนักหนาสากรรจ์แน่ๆ