10

1228 Words
บทที่ 10 “พี่เขื่อนเขาชอบขี่ม้าเหรอคะพี่ขัน” ตุลฎาถามชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ขับรถ หลังจากสบสายตาคมดุที่ขี่ม้าอยู่ข้างทาง และรถขับผ่านเขาไปแล้ว ให้คิดดีอย่างไรก็รู้สึกว่าเขาไม่เป็นมิตร จึงสรุปเอาเองว่าเขาไม่ถูกชะตากับเธอ ทางที่ดีควรอยู่ให้ห่าง หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันตรง ๆ คงดีกว่า “เขาเป็นหนุ่มนักกีฬา เล่นเป็นเกือบทุกอย่าง ว่ายน้ำ ขี่ม้า ยูโด มวยไทย วอลเลย์บอล บาสเกตบอล เทนนิส แบดมินตัน แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เขาไม่ชอบ และไม่เคยแตะเลย เกลรู้ไหมอะไร” “ให้ทายไหมคะ” “ถ้าทายถูกพี่ซื้อโน้ตบุ๊กให้เครื่องหนึ่งเลย” “ใจปล้ำซะด้วย” เธอแกล้งทำเป็นพูดผิด “ถึงทายถูกก็ไม่เอาหรอกค่ะ แค่ยอมให้เกลใช้คอมโดยไม่ปริปากบ่นก็พอแล้ว เกลขอทายว่าน่าจะเป็นกอล์ฟหรือเปล่าคะ” “โห.. นั่นน่ะของถนัดของพี่แกเลย ว่าง ๆ เกลลองเดินเข้าไปทางหลังเรือนสิ จะเห็นสนามกีฬาเอนกประสงค์ของพี่เขา เหมือนตั้งอยู่กลางป่าเลยแหละ แต่สนามไม่ใหญ่นะ ใหญ่กว่าสระว่ายน้ำหน่อย” “กอล์ฟก็ไม่ใช่ แล้วเป็นอะไรเหรอคะ ปิงปอง.. ฟันดาบ.. ลีลาศ.. ยอมแพ้แล้วค่ะ ไม่ทายแล้ว” ทายอะไรออกไปก็ถูกส่ายหน้าอย่างเดียว หญิงสาวจึงยกมือขอยอมแพ้ “ฟุตบอลจ้ะ” “หา!.. ฟุตบอลเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ นั่นมันกีฬายอดฮิตของผู้ชายเลยนะพี่ขัน” “แต่มันไม่ใช่กับพี่เขื่อน” ธีรสิทธิ์ค่อย ๆ ลดความเร็วลง และจอดสนิทตรงบริเวณหน้าบ้านพักคนงานที่ไกรวิทย์ช่วยโบกให้ “น่าอยู่จังเลยค่ะพี่ไกร มีร้านค้าแบบนี้เกลไม่อดแน่ค่ะ” ตุลฎาบอกกับไกรวิทย์เมื่อเปิดประตูลงจากรถ “ร้านแม่พี่เอง คุณเขื่อนเขาอนุญาตให้แม่พี่ขายเป็นรายได้เสริมน่ะ” “คุณเขื่อนใจดีจังเลยค่ะ” เธอชื่นชมจากใจจริง “มารู้จักกับพ่อแม่พี่สิ” เกรียงไกรชวนหญิงสาวขณะถือกระเป๋าใบหนึ่งของเธอเดินนำหน้าไป “ค่ะ” ตุลฎารับคำ รีบเดินไปหยิบกระเป๋าอีกใบเพื่อจะตามเกรียงไกรไป แต่ถูกธีรสิทธิ์ฉวยตัดหน้าไปก่อน “พี่ถือให้” “ขอบคุณค่ะ” เธอจึงเดินตัวเปล่าตามเข้าไปติด ๆ “นี่พ่อพี่ เป็นหัวหน้าคนงานในฟาร์มนี่แหละ เรียกลุงเพิ่มเหมือนคนอื่น ๆ เขาก็ได้ แม่ไปไหนล่ะพ่อ” “ทำกับข้าวอยู่ในครัว” บุญเพิ่มรับไหว้พร้อมรอยยิ้ม แล้วตอบคำถามของลูกชาย “นั่นไงออกมาพอดี” “แม่ ผมพาผู้ช่วยมาทำความรู้จัก เธอจะมาเป็นลูกค้าคนใหม่ของแม่ด้วยนะ” เกรียงไกรเดินไปโอบไหล่มารดาให้มาร่วมวง “ป้าม่อม!” ตุลฎาเรียกสตรีสูงวัยด้วยความยินดีปรีดา ยกมือไหว้นางในฐานะมารดาของเกรียงไกร “ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอป้าอีก” “เกลเคยเจอกับป้าม่อมแล้วเหรอ” ธีรสิทธิ์ถามด้วยความแปลกใจ “เมื่อเช้าหนูเกลตื่นมาช่วยป้าทำความสะอาดบ้าน ตั้งแต่เช้ามืดเลยค่ะคุณขัน” ละม่อมเป็นฝ่ายตอบคำถามของธีรสิทธิ์ “แบบนี้นี่เอง มาถึงก็ทำคะแนนเลยนะน้องเกล” “เกลนึกว่าไม่มีคนทำงานบ้านนี่คะพี่ขัน เกลก็ตื่นมาดูว่าพอช่วยได้บ้างเท่านั้นเอง” ธีรสิทธิ์ลูบศีรษะของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู “ป้าม่อม ลุงเพิ่ม ผมฝากดูแลน้องเกลด้วยนะครับ น้องเกลเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทผมเอง” “ไม่มีปัญหาค่ะ ป้ากับลุงจะดูแลให้อย่างดี ให้เหมือนกับเป็นลูกของเราเลยค่ะ” “แม่กับพ่อพี่เขาอยากมีลูกสาว แต่พ่อพี่เขาไม่มีน้ำยา เกลมาช่วยเติมเต็มลุงกับป้าแก่ ๆ สองคนนี้หน่อยนะ” เกรียงไกรพูดติดตลก “ไอ้นี่มันสบประมาทพ่อทางอ้อมนี่หว่า พ่อยังเตะปี๊บดังอยู่นะโว้ย ไม่เชื่อก็ถามแม่เอ็งดู” บุญเพิ่มตบหัวเข่าดังฉาด คุยโวใหญ่โต เรียกเสียงหัวเราะครื้นเครงได้อย่างดี “คอแห้งจังเลยพี่ไกร เอาเบียร์มาดื่มหน่อยดีกว่า ป้าม่อมครับ ผมขอแปะโป้งเบียร์สามขวดนะ” ชายหนุ่มทิ้งฐานะน้องชายเจ้าของฟาร์ม พกมาแต่ตำแหน่งคนงานของฟาร์มแห่งนี้ ที่ส่วนใหญ่ซื้อกินด้วยการลงบัญชีไว้ก่อน เงินเดือนออกค่อยจ่าย “ไม่ต้องจ่ายหรอกค่ะ วันนี้ป้าม่อมเลี้ยง ในฐานะที่พาลูกสาวคนสวยมาให้ป้า” ละม่อมพูดอย่างใจป้ำ ออกปากให้ลูกชายไปหยิบเบียร์กับแก้วมาบริการ “เดี๋ยวป้าไปตักไก่บ้านต้มยอดมะขามอ่อนมาให้นะคะ” “แค่ได้ยินท้องก็ร้องแล้วครับป้าม่อม” ธีรสิทธิ์ทำท่าลูบท้อง “หนูช่วยนะคะป้าม่อม” ตุลฎารีบขันอาสา “ไม่ต้องหรอกลูก นั่งเฉย ๆ เดี๋ยวป้าจัดการเอง วันนี้ป้าขอต้อนรับหนูในฐานะลูกค้าก่อน ไว้วันหน้าค่อยมาในฐานะลูกสาวนะ” ละม่อมพูดติดตลก “คุณขันก้าวเท้าไหนออกจากบ้านครับเนี่ย ได้กินเบียร์ฟรีจากแม่ละม่อมนี่ถือว่าทำบุญมาดีนะครับ ขนาดลุงเป็นผัวยังต้องซื้อกินเลยครับ เงินเดือนก็ต้องให้ เหล้าก็ต้องซื้อ เกิดเป็นไอ้บุญเพิ่มนี่อาภัพนัก” บุญเพิ่มป้องปากกระซิบบอกชายหนุ่มหน้าหล่อ ที่นั่งเคียงคู่กับสาวน้อยหน้าสวย ตุลฎาหัวเราะลุงเพิ่มผู้มีอารมณ์ขันโดยไม่โต้แย้ง “ไปดูห้องพักกันก่อนดีกว่าน้องเกล เดี๋ยวพี่กับคุณขันเมาแล้วจะไม่มีใครช่วยยกกระเป๋าไปเก็บให้” เกรียงไกรเอาเบียร์กับแก้วมาวางลงบนโต๊ะแล้วชักชวนหญิงสาว “ได้ค่ะพี่ไกร” “ให้น้องพักห้องที่ติดกับเราก็ได้นี่ลูก” ละม่อมบอกกับลูกชาย “แม่กำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าเนี่ย” เกรียงไกรหันไปทำสายตาวาววามใส่มารดา “ทะลึ่งนะไอ้ลูกคนนี้” ละม่อมตีต้นแขนลูกชายอย่างแรงจนเขาร้องโอดครวญ “ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง” “ให้น้องพักติดกับห้องของเอ็งน่ะดีที่สุดแล้ว” นางขยับไปใกล้เพื่อกระซิบ “เพราะแม่ไม่ค่อยไว้ใจไอ้หนุ่ม ๆ พวกนั้นเลย ดูซินั่น มองกันตาละห้อยเหมือนหมาเห็นเนื้อเลย” “พวกมันไม่กล้าหรอกแม่ ถ้าคุณเขื่อนรู้เอามันตายแน่” ชายหนุ่มกระซิบตอบมารดา ที่นี่ไม่เคร่งครัดเรื่องชู้สาวระหว่างชายหญิง แต่นั่นต้องเกิดจากการสมยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าไม่ใช่ คนก่อเหตุถูกเล่นงานปางตายจากเจ้าของฟาร์มแน่ เพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้ว “กล้าไม่กล้าก็ทำตามที่แม่บอกเถอะไอ้ไกร” ละม่อมเริ่มมีอารมณ์กับลูกชาย ที่ดูเหมือนจะบ่ายเบี่ยงความต้องการของตน “ก็ห้องนั้นแหละแม่ ไปน้องเกล” “ไอ้ลูกคนนี้นี่ กวนเหมือนพ่อมันไม่มีผิด” ละม่อมบ่นพึมพำตามหลังลูกชายสุดที่รัก “เรื่องดี ๆ นี่ยกให้พ่อหมดเลยนะแม่มึง” บุญเพิ่มลอยหน้าลอยตาประชดใส่ภรรยาสุดที่รัก “หรือว่าไม่จริงล่ะพ่อมึง” ละม่อมตอกกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD