ชายหนุ่มเจ้าของรถคันหรูสบถเสียงดังหลังพวงมาลัย
“วันอะไรนักหนาวะ” ไม่เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวสำหรับเขาวันนี้ แต่เรียกได้ว่ามหกรรมสิ่งไม่คาดคิดตบเท้าเข้าหาเขาแทบทุกชั่วโมงตลอดหนึ่งวันมานี้ ทั้งมารดายื่นคำขาดให้เขาปิดบริษัทส่งออกที่เขารัก ยังจะเรื่องลียาสาวทรงโตบอกว่าท้องกับเขาเพื่อบีบให้เขายอมแต่งงาน
ความเป็นสุภาพบุรุษที่มีในตัวของเขาก็ทำให้ไม่สามารถบอกตรงๆ ทั้งที่เขาอยากบอกใจแทบขาดว่าเขาไม่เคยพลาดการป้องกันกับใครสักครั้ง เพราะเขาเกลียดที่จะลงเอยกับใคร เกลียดการผูกติด เกลียดทุกสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา
แพรนรีก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงหรูหรา งานที่รวมเหล่าเอเจนซี่โฆษณาและคนในวงการบันเทิง เธอก้มสำรวจมองชุดของตัวเองก่อนเข้างานอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเฉิดฉายเข้าไปในงาน
“เธอมาสายสิบนาที” เสียงแปร๋นของสาวปากแดงวัยสี่สิบปีเศษร้องทักหญิงสาว ก่อนที่ขาของเธอจะก้าวผ่านประตู
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อย” หญิงสาวตอบอ้อมแอ้ม แม้มันจะไม่ใช่วิธีของคนรับผิดชอบที่จะอ้างเหตุผล แต่มันก็คงเป็นทางออกเดียวที่เธอมี
“ข้ออ้าง” ผู้หญิงคนนั้นบอกเสียงห้วนจัด ระเบียบเคร่งครัดเป็นสิ่งที่นางถือปฏิบัติมาตลอด ไม่อย่างนั้นคงไม่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มานาน แม้กระทั่งฮาริส มหาเศรษฐีนักการเงินทายาทเจ้าของธนาคารชื่อดังของสวิส พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าพ่อธุรกิจโฆษณายังวางใจใช้บริการนางทุกครั้ง
“ฉันพูดเรื่องจริง ขอตัวไปทำงานก่อนนะ” หญิงสาวบอกพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไป
“ฉันหักเงินเธอ 100 ยูโร” เสียงของหญิงปากแดงร้องตามหลังเธอ
แพรนรีอ้าปากหวอ หันกลับทันที แม้ว่าที่นี่จะเป็นที่เดียวที่ยอมจ่ายค่าจ้างนักเรียนไทยอย่างเธอสูงลิ่ว แต่ขบวนการเขี้ยวลากดินก็ไม่มีใครเกินนางไปได้
“100 ยูโร” แพรนรีทวนคำเสียงสูง เริ่มหน้ามืดเพราะความโกรธที่ค้างอยู่ในใจด้วย
“มันสามสิบเปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างที่ฉันได้รับเลยนะ”
“ใช่ ถ้าเธอยอมรับไม่ได้ ฉันก็ไม่ว่าอะไร ออกไปได้เลย” สาวปากแดงบอกอย่างไม่ยีหระ รู้ดีว่าค่าจ้างที่นางจ่ายมีค่าต่อนักเรียนทุนอย่างแพรนรีมากแค่ไหน
แพรนรีพยักหน้าอย่างจำยอม เธอต้องทำงานพิเศษหาเงินอีกหลายปี ทางที่ดีอย่าตัดช่องทางของตัวเองด้วยเรื่องแค่นี้เลย ในเมื่อเธอเองก็ยอมรับได้อย่างเต็มปากว่าตัวเองผิดที่มาสายกว่าเวลานัด แม้จะยังไม่เริ่มงาน แต่เวลาก็สำคัญที่สุดสำหรับคนต่างชาติ
“ฉันไปทำงาน” หญิงสาวบอกเสียงเบา ชี้มือเข้าไปข้างใน
งานของเธอคือผู้ช่วยจัดเครื่องดื่มหลังเคาน์เตอร์บาร์ หรือบางครั้งต้องย้ายไปอยู่ในครัว หรือออกมาเสิร์ฟ แล้วแต่ว่างานเลี้ยงนั้นๆ ตำแหน่งไหนจะขาด
“วันนี้เธออยู่หลังบาร์” สาวปากแดงสั่ง
แพรนรีหันมามองผู้ว่าจ้างอย่างแปลกใจ ที่เธอลงทุนงัดชุดสวยราคาแพงที่สุดของตัวเองออกมาจากตู้ก็เพราะว่าเธอต้องออกมาเดินเฉิดฉายอวดสายตา กับตำแหน่งงานที่นางเพิ่งสั่งไปเมื่อวาน
แน่นอนว่าตำแหน่งที่เธอได้รับคำสั่งเมื่อวานค่าจ้างสูงกว่าตำแหน่งใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับเมื่อครู่ และสำหรับตำแหน่งวันนี้ถ้าถูกหักไปหนึ่งร้อยยูโร ก็เท่ากับว่าค่าจ้างของเธอหายไปเกือบครึ่งของปกติ
หญิงปากสีเพลิงคนนั้นไล้สายตามองสภาพมอมแมมของหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นางเบ้ปากเล็กน้อยอย่างเหยียดๆ
“สภาพของเธอคงไม่เหมาะที่จะออกมาเสิร์ฟ”
“แต่คุณ...” หญิงสาวกำลังจะอธิบาย ทว่าก็โดนเบรกเอาไว้เสียก่อน
“ความพร้อมของเธอไม่เพียงพอ แล้วฉันเป็นมืออาชีพมากพอ ถ้าเธอยืนยันที่จะไม่ทำ ฉันก็ไม่ห้าม” สาวปากแดงไล่อีกรอบ เพราะรู้ว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องทำ
หญิงสาวยกมือขึ้นเหมือนต้องการเบรกทุกอย่าง พยักหน้าเบาๆ “โอเคๆ...ทำ!” เธอคงไม่มีทางเลือกมากไปกว่านี้
ในเมื่อเธอคำนวณเวลากับรายได้เข้าไปในบันทึกของวันไปแล้ว แต่คงต้องกลับไปแก้ยอดเงินเสียใหม่ ซึ่งมันก็ยังดีกว่ากลับไปลบยอดนั้นออกแต่ก็ยังเสียเวลาไปอยู่ดี ทำอย่างนี้เหมือนการบังคับตัวเองไปในตัว
หลังจากที่ก้าวพ้นแม่สาวปากสีเพลิงไปแล้ว แพรนรีสบถกับตัวเองเบาๆ กึ่งประชด
“นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย...ซวยตั้งแต่ลืมตาตื่นเลยมั้ง”
Chapter 2
“สวยเป็นบ้า” ชายหนุ่มเจ้าของเสียงพูดห่อปาก มองไปที่หญิงสาวหลังบาร์
แพรนรีกำลังวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมของตรงหน้า เธอไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างไปมากกว่างานตรงหน้า เธอต้องทำงานตรงหน้าให้เสร็จทันเวลาที่ยังเหลืออยู่อีกน้อยนิดก่อนที่แม่สาวปากสีเพลิงจะมาหักค่าจ้างเธออีก ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เธอ
“คนนี้ฉันจอง” แมทริวสะกิดให้เพื่อนมอง สายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมองจ้องอยู่ที่ร่างเพรียว แพรนรีกลายเป็นเป้าหมายของเสือหนุ่มสามตัวในทันที
นัยน์ตาสีสนิมของฮาริสที่ยืนหันหลังวาดไปตามทิศทางที่เพื่อนบอก สะดุดที่ใบหน้าหวาน ร่างโปร่งอ้อนแอ้นเข้าเต็มเปา หากแต่เขาก็ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้า เพราะเธอคนนั้นกำลังสนใจทำงานของเธอ รวมไปถึงแขกหนุ่มๆ ที่ยืนรายรอบกับร้อยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยไม่ต่างกัน
“อยู่ตรงนี้ รอดูฝีมือฉัน” แมทริวบอกเพื่อนสองคนอย่างนึกสนุก เดินตรงไปที่สาวน้อยนางนั้น
สามเสือหนุ่มอย่างฮาริส ชาล์ล และแมทริว สามหุ้นส่วนธุรกิจส่งออกนาฬิกาสวิส หนุ่มฮาริสมีหุ้นส่วนมากกว่าเพื่อนสองคนเป็นเท่าตัว หากแต่เขารั้งตำแหน่งผู้บริหารทางด้านการเงินของครอบครัว หน้าที่บริหาร Swiss time จึงตกเป็นของแมทริวเพื่อนสนิท เพราะชาล์ลมีธุรกิจท่องเที่ยวของตัวเองอีกอย่าง เวลาว่างของเขาก็เลยน้อยไม่แตกต่างจากฮาริสเท่าใดนัก
เสือตัวแรกอย่างชาล์ลถูกสาวเอเชียผิวนุ่มถอดเขี้ยวเล็บไปไม่นาน จะเหลือก็แต่พ่อเสือกะล่อนอย่างแมทริวที่ไม่มีทีท่าจะลงเอยกับใครง่ายๆ เพราะเขาลื่นไหลเป็นที่สุด
เสือหัวหน้าฝูงอย่างฮาริสก็คำรามประกาศกร้าว จะไม่มีพรานสาวคนไหนดักจับเขาได้ ทั้งที่มีบรรดาพรานสาวๆ ทิ้งบ่วงหลอกล่อไว้ทุกทาง แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าคราวนี้แม่เสือสาวลียา นางแบบแถวหน้าของฝรั่งเศสและพ่วงตำแหน่งเจ้าของแบนรด์น้ำหอมจะดักจับเสือร้ายอย่างฮาริสได้หรือไม่ เธอลงทุนประกาศออกสื่อว่าท้องและปล่อยหลักฐานทิ้งร่องรอยให้นักข่าวได้ตามต่อได้
‘เป็นข่าวดีค่ะ เขาเซอร์ไพรส์มากและดีใจที่สุด แต่ตอนนี้เขากำลังยุ่ง แต่ลียาเข้าใจและรอเขามาขอแต่งงาน’
ประโยคที่ลียาประกาศกลางสื่องานหนึ่ง และก็ไม่ยากเย็นนักที่นักข่าวจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เพราะก่อนหน้านั้นเธอก็จ้างสื่อปล่อยภาพหลุดของเธอกับเขาเป็นระยะ