ฮาริสยังทำหน้าเบื่อๆ ไม่สนุกตามเพื่อนเท่าที่ควร อารมณ์ของเขาไม่เหมาะที่จะมางานเลี้ยงเพื่อเจอนักข่าวสักนิด แต่ความรับผิดชอบของเขาก็มีมากกว่าสิ่งอื่น
แมทริวเดินไปถึงเคาน์เตอร์บาร์ที่แพรนรียืนประจำอยู่ ผู้ชายหลายคนที่ยืนรายรอบตัวเธอที่ได้เครื่องดื่มตามต้องการหลบฉากออกไป จะเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังถือเครื่องดื่มยืนอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน
“Drambuie!” ชายหนุ่มเลือกสั่งเหล้าหวานสีทองเข้ม เป็นวิสกี้จากสก๊อตแลนด์กับน้ำผึ้งและดอกฮีเธอร์ หากเป็นเหล้าที่ดีกรีร้อนแรง
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้เขาเป็นเชิงตอบรับ และก้มหน้าจัดการให้เขา เพียงไม่นานเธอก็ยื่นแก้ววิสกี้ให้ชายหนุ่ม สายตาของเขาที่จับจ้องทำให้เธอรู้สึกขวยเขินนิดหนึ่ง แต่เธอก็เจอบ่อยจนเกือบจะชิน
แมทริวยื่นนามบัตรของตัวเองให้แพรนรี มั่นใจเกินร้อย ผู้หญิงเก้าแสน เก้าหมื่น เก้าพัน เก้าร้อย เก้าสิบเก้าคนในหนึ่งล้านต้องตาโตเมื่อเห็นชื่อบริษัทและตำแหน่งของเขาบนนามบัตร
หากแต่ผิดคาดไปถนัด เธอเพียงกวาดสายตามองผ่านๆ อมยิ้มให้เจ้าของนามบัตรแล้วางมันลงอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจแขกรายอื่น
แมทริวหันกลับไปมองเพื่อนก็เห็นสองหนุ่มยืนจ้องและกำลังหัวเราะขำ เป็นยิ้มแรกของฮาริสในรอบสองวันก็ว่าได้
ครั้งแรกในรอบหลายปีที่แมทริวเสียหน้ากับเพื่อนเพราะถูกผู้หญิงปฏิเสธ จะว่าไปแล้ว นับจากที่เขารั้งตำแหน่งผู้บริหารของ swiss time ยังไม่เคยมีใครปฏิเสธเขาสักราย
ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างจดจำ ฝังรอยความอยากเอาชนะเอาไว้ในใจ ไม่ว่าจะอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็ต้องสยบแทบเท้าของเขา แต่แมทริวก็ยอมเสียหน้าเดินกลับไปให้เพื่อนตราหน้า
“ลีลานายเด็ดมาก” ฮาริสเย้าอย่างอารมณ์ดี ต้องขอบคุณแมทริวที่ทำให้เขากลับมาเป็นฮาริสคนเดิม เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนจะหน้าแตกเพราะสาวหลังบาร์อย่างนั้นเสียได้
“ขนาดสาวบาร์ยังเมิน นายฝีมือตกไปมากเลยแมทริว” ชาล์ลเสริมอย่างสนุก แต่กลับคนฟังไม่ได้รู้สึกสนุกตามแม้แต่นิด
“ยังไงฉันก็จะต้องลากแม่สาวคนนั้นขึ้นเตียงให้ได้” แมทริวประกาศกร้าว ไม่ใช่เพราะขาดผู้หญิง ไม่ใช่เพราะอดอยาก เพียงแค่กระดิกนิ้วผู้หญิงครึ่งค่อนโลกก็พร้อมจะกระโจนขึ้นเตียงกับเขา แต่กับเธอคนนี้ เกิดจากศักดิ์ศรีล้วนๆ
“ฉันจะคอยดูไม้เด็ดของนาย พาขึ้นเตียงได้อย่าลืมมาเล่า” ฮาริสตบบ่าเพื่อนก่อนจะขอตัวเลี่ยงไปเจอลูกค้าอีกฝั่ง
“แต่ฉันต้องขอตัวก่อน แล้วจะกลับมาดูผลงานของนาย”
หลังจากนั้นแมทริวพยายามเข้าหาแพรนรีอีกครั้งแต่สาวเจ้าก็ยังนิ่ง เธอยังทำคงหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ ไม่ได้บริการใครดีกว่าใคร แต่จะสังเกตว่าหนุ่มๆ ที่รายรอบเริ่มเมามายไปหลายคน
“เฮ้...นายยังไม่เลิกความพยายามอีกหรือไง” ชาล์ลตบบ่าเพื่อนทัก เมื่อยังเห็นแมทริวยืนคลึงแก้ววิสกี้ในมือ ตายังจ้องแม่สาวหลังเคาน์เตอร์ไม่วางตา ในขณะที่ฮาริสยังติดพันกับลูกค้าส่งออกรายใหญ่ที่พวกเขากำลังจะร่วมทุนด้วย ไม่ได้หันมาให้ความสนใจเพื่อนตั้งแต่ตอนนั้น
“ท้าทายดี!” อีกคนตอบกลับ
“แต่ฉันว่านายเลิกความตั้งใจเถอะ ผู้หญิงรอขึ้นเตียงกับนายมีเป็นร้อย บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นผู้หญิงโชคร้ายและตาถั่วที่สุดที่มองเมินนาย”
“อือ” แมทริวคราวเบาๆ มันก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก เขาสามารถหาได้สวยกว่านี้หลายเท่า แล้วทำไมเขาต้องมาสนใจสาวบาร์คนนี้ด้วยก็ไม่รู้
“ลูกค้าทางโน้นอยากเจอนาย ไปเถอะ” ชาล์ลแตะไหล่เพื่อน
แมทริวมองหาเพื่อนหนุ่มอีกคน “ฮาริสละ”
“หมอนั่นเป็นนักการตลาดตัวฉกาจฉกรรจ์ เขากำลังจะเพิ่มลูกค้าให้เราได้อีกราย อยู่ทางโน้น” ชาล์ลบุ้ยหน้าให้เพื่อนมองตาม เห็นอย่างนี้ชายหนุ่มก็รู้สึกผิด ทิ้งความคิดเดิมออกจากหัวแล้วเดินตามเพื่อนออกไป
ความจริงเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าฮาริสกำลังเจอเรื่องหนักอกที่สุด แต่หมอนั่นก็มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเขาหลายร้อยเท่า
แพรนรีวางผ้าสีขาวผืนเล็กในมือหลังจากจบเวลางานของเธอตามข้อตกลง หญิงสาวหันไปจัดและเช็คของให้เข้าที่และก้าวออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์ งานใหม่แบบรู้รายละเอียดหน้างานก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปสำหรับเธอในวันนี้
งานต่อเนื่องที่เธอแทบไม่ได้หยุดพัก ชายหนุ่มหลายสิบแวะเวียนมาขอรับเครื่องดื่มอย่าง หลายคนยืนรายล้อมใกล้ๆ ตัวเธออยู่อย่างนั้น
แต่เรื่องเลวร้ายนับต่อจากนี้เป็นสิ่งที่เธอเริ่มเครียดกับสิ่งที่สายตามองไปเห็นเข้าพอดี หญิงสาวเฝ้าถามตัวเอง เธอจะปั้นหน้าทำตัวอย่างไรกับคนทรยศสองคนนั้นดี
ปลายเท้าของหญิงสาวชะงัก สองคนที่แพรนรีกำลังคิดถึงใบหน้ากำลังหยอกเอินกันอยู่หน้าห้องที่เธอทำงานอยู่ ก่อนหน้านี้ถ้าเธอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาแบบนี้ มักมีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนดวงหน้าหวานทุกครั้ง แต่คราวนี้มันเหมือนเข็มยาพิษที่ฉีดแทงเข้าไปในสายเลือด เจ็บจี๊ดและปวดหนึบทุรนทุราย
หญิงสาวพ่นลมออกจากปลายจมูก เรียกสติของตัวเองกลับ กวาดสายตามองรอบๆ อย่างครุ่นคิด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอต้องหาทางเอาคืนให้เจ็บแสบและสาสม
สายตาของเธอสัมผัสกับผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล ออร่าของผู้ชายอีกคนจุดประกายความคิดของเธอเพียงเสี้ยวนาที เขาถูกกลุ่มเพื่อนสองสามคนล้อมและกำลังคุยกันอย่างออกรส หนึ่งในนั้นคือเจ้าของนามบัตรตำแหน่งใหญ่โตที่เขายื่นไมตรีให้เธอตอนค่ำ
แต่หญิงสาวก็ตัดผู้ชายคนนั้นออกจากเป้าหมายของเธอในทันที จากที่เธอเห็นสายตาของเขาเมื่อตอนหัวค่ำ เธอก็รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ สิ่งที่ต้องทำคือถอยห่างจากผู้ชายแบบนี้ให้ไกลที่สุด บอกลาผู้ชายเจ้าชู้ไม่เลือก
‘กร่างว่าตัวเองรวย เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น จ้องจะลากขึ้นเตียงอย่างเดียว’
หญิงสาวหยุดสายตาที่ผู้ชายอีกคนที่ยืนข้างๆ เขาโดดเด่นกว่าใครในสามคน เจ้าของร่างสูงใหญ่เกือบสองเมตรจากที่ประมาณจากสายตา มือของเขาข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง อีกข้างเหวี่ยงสูทสีเทาพาดไว้บนบ่าหนา
ปากหยักหนาของเขากำลังขยับขึ้นลง เหมือนเขากำลังคุยเรื่องที่ไม่ใช่สัพเพเหระธรรมดา เธอเห็นชายหนุ่มอีกสองคนฟังอย่างตั้งใจ และเธอเองก็กำลังมองริมฝีปากเขาเพลินจนต้องเรียกสติกลับคืน เลื่อนสายตาโฟกัสที่จุดอื่น
ดวงตาสีสนิมของเขาสะกดให้เธอขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด กล้ามเนื้อลำตัวเป็นลอนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวโดดเด่น สามารถมองออกในทันทีว่าคนตรงหน้าออกกำลังกายเป็นประจำ หญิงสาวกวาดตามองสำรวจร่างสูงโดยละเอียดโดยเฉพาะแผ่นอกหนากับเม็ดไตเล็กที่ดุนออกมาพ้นเสื้อ
เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์ที่สุดในสายตาของเธอที่เคยเจอมาในเมืองนี้ หน้าตาของเขาบ่งบอกวัยว่าน่าจะเกินจากเธอไม่ต่ำกว่าห้าปี แต่ทว่าก็ดูดีแทบไม่อยากละสายตาหนี ไม่ต่างจากริมฝีปากหยักได้รูปของเขาเซ็กซี่ยั่วยวนที่สุดในสายตาหญิงสาวอย่างเธอ
ธีรากรกับอลิชากำลังมองมาที่เธอพอดี พวกเขาขยับออกจากกันเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอยืนอยู่ไม่ไกล ความคิดแวบแรกของหญิงสาวเกิดขึ้น แทนที่แพรนรีจะเดินตรงเข้าไปหาพวกเขา แต่เธอกลับเลือกที่จะเดินเข้าไปหาสามหนุ่มนั้น เป้าหมายคือชายหนุ่มดวงตาสีสนิมที่โดดเด่นสะกดความรู้สึกของเธอ เหมือนมีพลังงานบางอย่างดึงดูดให้ขาเรียวเล็กขยับก้าวเข้าไปหา
หญิงสาวก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา แมทริวยิ้มกริ่มอย่างพอใจ แต่สายตาเขาก็เบิกโพลงรอยยิ้มค้างเอาไว้อยู่อย่างนั้น เมื่อเห็นอากัปกริยาของหญิงสาว
สองมือเรียวเล็กของแพรนรีประคองดวงหน้าครามเข้มของฮาริสเอาไว้ พร้อมกับโน้มลำคอเขาลงมาหา เขย่งปลายเท้าประทับริมฝีปากอิ่มจูบเขา