ความเดิม- "เดี๋ยว เรามากับใครล่ะ ทำไมเดินคนเดียว" ธันทรพยายามถ่วงเวลาให้นานที่สุดเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กเรืองแสงจะโดนยาป้าย ยาปลุก ได้แต่คิดไปต่าง ๆ นา ๆ
…………………………………….
"ก็จะไปซื้อขนม แล้วก็กลับไปหาพี่นพค่ะ พี่ชายหนูรออยู่ตรงนู๊นค่ะ" มานิดาบอกยิ้ม ๆ แล้วชี้ไปทางที่พี่ชายนั่งอยู่
"ไปซิ เดี๋ยวอาจารย์เดินไปเป็นเพื่อน เผื่อเจอแบบนี้อีกจะได้ช่วยกันทัน" คนตัวโตเอ่ยขึ้นพร้อมกับถือโอกาสจับจูงข้อมือคนตัวเล็กเรืองแสงแบบเนียน ๆ
เมื่อถึงร้านขนม
"จะเอาอันไหนบ้างก็สั่งเจ้าของร้านเค้าซิ"
"ค่ะ/พี่คะเอาอันนี้สองถุงอันนี้สองกล่องค่ะ แล้วก็อันนี้อีกสองกล่องค่ะ"
"ได้ครับ ทั้งหมด 100 บาทพอดีครับ" พ่อค้าหนุ่มยื่นถุงขนมให้คนตัวเล็กแล้วยิ้ม
อีกด้านของคนที่ยืนข้าง ๆ
"นี่ครับเงิน/ปะ กลับ ไหนพี่ชายอยู่ไหน เดินไปซิจะเดินไปส่ง" ธันทรรู้สึกหงุดหงิดทันทีที่เห็นสายตาของพ่อค้าหนุ่ม
"อ๋อ ค่ะ" มานิดาอือออเพราะขัดไม่ได้และเลือกที่จะเดินไปหาพี่ชายอย่างเงียบ ๆ โดยมีคนตัวโตคอยเดินตามไปส่งอยู่ไม่ห่าง
ตัดมาที่มานพที่รู้สึกผิดปกติที่น้องสาวหายไปนานจึงได้เดินตามหา และมาเห็นน้องสาวระหว่างทางพอดี
"ยัยนาง/อ้าว อาจารย์หมอธันทร สวัสดีครับ มาหาของกินหรือครับ"
"หวัดดีครับ มาหาของกินน่ะ พอดีเจอกับลูกศิษย์กำลังต่อคิวซื้อขนมก็เลยคุยกันแล้วก็เดินมาส่งนี่แหละครับ" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปมองคนตัวเล็กอย่างสังเกตอาการเป็นระยะ ๆ ใจนึงก็อยากจะพูดความจริง แต่อีกใจก็คิดว่าตัวเองคิดมากไปคงไม่มีอะไร คงเป็นพวกอยากทำเท่ต่อหน้าสาวสวย ไม่ใช่พวกพวกป้ายยาเพื่อหวังล่อลวงหรือแก๊งมิจฉาชีพอะไรตามที่เป็นข่าว แต่ก็พยายามถ่วงเวลาให้นานที่สุด เพราะว่าถ้าเป็นยาน่าจะออกฤทธิ์ภายในครึ่งชั่วโมง
ด้านมานิดาเมื่อเห็นขนมก็น้ำลายสออยากกลับบ้านไปกินขนมแล้วนอนเสียแล้วจึงกระซิบกระซาบพี่ชาย
"พี่นพ เรารีบกลับบ้านกันเถอะ หนูอยากกินขนมแล้ว พี่ได้ซื้อโจ๊กให้หนูมั๊ย ไว้อุ่นกินพรุ่งนี้"
"ซื้อแล้ว นี่ไง มีผลไม้ด้วย ไปซิพี่ก็อยากกลับแล้วนี่"
"เอ่อ..ขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่จ่ายตังค์ค่าขนมให้ งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ จะรีบไปกินขนม แฮร่.."
"กลับก่อนนะครับอาจารย์หมอ พอดีมีเด็กอยากกินขนมแล้วนอน หึหึ"
"ครับ ขอให้ปลอดภัยนะครับ เออ..เอามือถือมาหน่อยซิ อยากปรึกษาอะไรก็โทรมานะเบอร์ที่ยิงไป ไลน์ไอดีนั่นที่ทักไปน่ะของอาจารย์นะ เดี๋ยวอาจารย์ทักกลับแล้วทำรายการโปรดไว้ด้วยล่ะ อีกหนึ่งเดือนก็เจอกันแล้ว รักษาเนื้อรักษาตัวล่ะ" ธันทรพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบแต่อีกคนมองออกว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับน้องสาวของเขาแน่ ๆ เพราะเขาแอบสังเกตเห็นรอยเปื้อนของชายเสื้อและกางเกงของน้องสาวคล้ายเปื้อนคราบดินหรือถนนที่มีน้ำมันเครื่องหยดลงผสมกับฝุ่นแบบนั้น
"เอ่อ เสร็จแล้วผมขอตัวพาน้องกลับก่อนนะครับ ขอบคุณครับอาจารย์ สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ"
"ครับสวัสดีครับ" ธันทรรับไหว้สองพี่น้องยิ้ม ๆ แต่ในใจเป็นกังวลอย่างที่สุดเพราะประเมินเวลาคร่าว ๆ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงและเวลาถัดจากนี้เขากังวลที่สุด ถ้าเป็นอย่างที่เขากลัวจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ มานพจะจับต้นชนปลายได้ถูกไหม คนตัวเล็กจะเป็นอย่างไร ไวกว่าความคิด ธันทรรีบเดินตรงไปที่รถยนต์คันหรูแล้วรีบขับตรงไปยังบ้านของสองพี่น้องอย่างเร่งรีบอยู่ในที เขาขับรถมาด้วยความเร็วพอประมาณและมาถึงบ้านเห็นไฟในบ้านเปิด และได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของคนตัวเล็ก และเห็นมานพออกมาสำรวจประตูรั้วและเดินดูรอบ ๆ บ้านคล้ายตรวจตราดูความปลอดภัย นับเวลาจากจุดเกิดเหตุจนถึงบัดนี้ก็น่าจะร่วมชั่วโมงและยังไม่มีข้อความอะไรจากคนตัวเล็ก คุณหมอหนุ่มจึงคลายใจและขับรถออกไปอย่างไม่เร่งรีบ
ส่วนมานพรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าน้องสาวเกิดเรื่อง เพราะเขามาทันเห็นเหตุการณ์พอดีจึงได้หลบฉากดูสถานการณ์ และน้องสาวของเขาก็ได้เล่าความจริงให้ฟังแล้วอย่างไม่ปกปิด จึงคิดขอบคุณอาจารย์หมอท่านนี้อยู่มาก แต่ในฐานะผู้ชายด้วยกันเขาดูออกว่าคุณหมอท่านนี้ดูจะคิดอะไรเป็นพิเศษกับน้องสาวของเขา แต่ความเจียมตัวมันมีอยู่มาก เขาไม่อยากให้น้องสาวมีความหวังกับเรื่องลม ๆ แล้ง ๆ สู้ตั้งใจเรียนอย่างเดียวจะดีกว่า ถ้าคู่กันแล้วถึงจะมีอุปสรรคอย่างไรก็ย่อมไม่แคล้วกันแต่ตอนนี้น้องต้องเรียนให้สำเร็จนี่คือจุดมุ่งหมายสำคัญของเขาที่ต้องส่งน้องให้ถึงฝั่งฝันให้จงได้
ด้านมานิดา เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ไหนจะหมี่กรอบ ไหนจะเย็นตาโฟ ไหนจะขนมที่ซื้อมานั่นอีก ทำให้ตาของหญิงสาวอ่อนล้าลงเต็มที
"พี่นพ นางไปนอนก่อนน๊า ปิดบ้านดี ๆ ล่า" มานิดาร้องเรียกพี่ชายจากในบ้าน ซึ่งตอนนี้ตาเธอจะปิดอยู่แล้ว
"เออ.. ง่วงก็ไปนอนเถอะ" คนพี่ตอบยิ้ม ๆ
อีกด้านของคนที่กลับมาถึงบ้านแต่นอนไม่หลับ
//ยัยเด็กบ้า ไลน์ไปก็ไม่อ่าน โทรหาก็ไม่รับ ทำอะไรอยู่ ไอ้เราก็เป็นห่วง ทำอะไรอยู่น๊า// ธันทรได้แต่สบถบ่นพึมพำอยู่คนเดียวแล้วเดินวนอยู่ในห้องเป็นเสือติดจั่น
อีกด้านของคนที่อยู่ข้างนอกห้อง
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก.. เสียงเคาะประตูจากด้านนอก
"พี่ธัน..เป็นอะไรหรือเปล่าค๊า"
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ก็จะเข้านอนแล้ว" ธันทรบอกออกไปอย่างปัดรำคาญ