นายธันทร อารยะไพศาล หรือ ธัน ศัลยแพทย์หลอดเลือด และเป็นอาจารย์แพทย์ระดับคลังสมอง ในลุคคูล ๆ กับส่วนสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร หน้าตาธรรมดา ๆ ไม่ได้หล่อเฟี๊ยวแต่ดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์สุด ๆ
ชายหนุ่มกำลังนั่งนอนไถโทรศัพท์มือถือไปเรื่อย ๆ เพราะเขาชอบดูคลิปรีลที่สนุก ๆ ประเภทแอนนิมอล ๆ เพราะมันเบาสมองดีแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกเข้าจากเพื่อนรักเขาจึงรีบกดรับทันที
สายเรียกเข้าปกรณ์
ธัน: ว่ามะ
กร: ว่างมั๊ย
ธัน: ก็ว่าง มีไร
กร: ไปกินเหล้ากัน หาเด็กให้ด้วย
ธัน: เฮ่ย ระดับไอ้คุณกรยังต้องหาอีกเหรอครับ
กร: ผมต้องการทดสอบอะไรบางอย่างครับไอ้คุณธัน
ธัน: โอเค ได้ รอที่เดิม อย่าช้าล่ะ
กร: เค เจอกัน
ธัน: อืม กดวางสาย
.......................................
@ผับดังกลางกรุง
ห้องโถงที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวราตรี ...เฮ้ย...กรทางนี้...ธัน หรือ ธันทร อารยะไพศาล นายแพทย์หนุ่มดีกรีศัลยแพทย์หลอดเลือด ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ปกรณ์ หรือ นายแพทย์ปกรณ์ สหะศิลป์ปรีชา นรีแพทย์ ฝีมือดี ซึ่งเขามาถึงก่อนเพราะต้องจัดการเรื่องบางอย่างให้ ส่วนชายหนุ่มที่มาใหม่เดินเข้ามาด้วยความรู้ใบหน้าไม่ค่อยสู้ดีและยกมือตอบรับเขาเช่นกัน
"มานานยัง" ปกรณ์นั่งลงพร้อมกับรับแก้วเครื่องดื่มจากหญิงสาวมาดื่ม แล้วปรายตามองด้วยความรู้สึกรำคาญ
อีกด้าน ธันทร ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนรักจึงพูดออกไปลอย ๆ
"ไม่ถูกใจ?"
"ไม่รู้ซิ มันไม่มีอารมณ์ว่ะ" ปกรณ์ตอบไปตามความรู้สึก
...งั้นต้องทดสอบ ดื่มก่อน..ชน/อือ..ชน.. สองหนุ่มดื่มกันอีกสักพักจึงแยกย้าย โดยเพื่อนของเขาไปต่อกับสาวสวยที่เขาเตรียมไว้ส่วนเขาน่ะเหรอ ก็นั่งดื่ม (น้ำเปล่าผสมโซดา) ไปเรื่อย ยกมือถือเข้ามาดูข่าวสารไปพลาง ๆ สักพักเขาจึงปิดบิลและเดินไปรอที่รถยนต์คันหรู
อีกด้าน ปกรณ์ที่เดินตรงมาที่รถด้วยใบหน้าเย็นชา
"เป็นไงบ้างว๊ะ เดินคอตกมาเลยเหมือนเจอเจ้าของแต่ยังใช้การไม่ได้งั้นแหละ" ธันทรเดาไปเรื่อย แต่สะกิดใจคนฟัง
"........" อีกคนเงียบ
"เฮ้ย..นายแปลกไปนะกร..มีอะไรเหมือนคิดไม่ตก"
"อือ ก็มี เด็ก 14 น่าสงสารว่ะ เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์" ปกรณ์พูดมันออกมาจนได้
"เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว นายช่วยเล่าต้นสายปลายเหตให้ฉั๊นเข้าใจหน่อยดิว๊ะ งง..เด็ก 14 อ่ะ ใคร ที่ไหน อะไร ยังไง..ว๊ะไอ้นี่" ธันทรสบถบ่น
"เออ เด็กทุนของที่บ้าน ได้ทุนทุกปี เห็นป๊าบอก แต่เพิ่งเจอกันเมื่อเร็ว ๆ นี้แหละ....(เงียบไปพักใหญ่)..เด็กนั่นน่าสงสารว่ะ ถูกเพื่อนขังในห้องเก็บของพอฉั๊นช่วยออกมาได้ก็รีบขอบคุณแล้วบอกว่าจะรีบไปรับทุน อยากได้ทุนนั่น แล้วก็วิ่งหน้าตั้งไปเลยว่ะ หึหึ" ปกรณ์ใช้เวลาเล่าเสียยืดยาว
"สงสาร ว่างั้น?"
"ก็..อือ..แต่มันไม่แค่นั้นอะดิ"
"ยังไง..เล่า" ธันทรขยี้
ส่วนอีกคนใช้มือลูบหน้าแล้วเสยผมไม่ให้ปกปิดใบหน้าคล้ายรำคาญทั้งที่ความจิงไม่มีผมสักเส้นร่วงหล่นมาปกปิดใบหน้าสักนิด
"นายจำวันที่เราไปดื่มแล้วไปต่อกันได้มั๊ย" ปกรณ์เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนนี้
"อืม..จำได้...นายอย่าบอกนะว่านายไม่ได้แตะต้องเธอ?!!!!"
"อืม...ก็แค่อมเพราะเธอเสนอเอง ความจริงฉั๊นบอกเธอไปแล้วและยินดีให้ค่าเสียเวลาแต่เธอเกรงใจอยากช่วยให้สบายตัวเป็นการตอบแทน ก็เท่านั้น" ปกรณ์ตอบเสียงราบเรียบ
"เฮ่ย..เป็นไปได้ไง เพล์บอยตัวพ่ออย่างนายเนี่ยนะเจอเด็ก 14 ปราบ" ธันทรพูดกลั้วหัวเราะ
"ฉั๊นควรทำไงดีว๊ะเพื่อน นั่นเด็กทุนของป๊าฉั๊นเลยนะเว้ย แถมป๊ายังออกตัวเลยว่า ยัยเด็กนั่นเป็นเด็กดีสารพัด"
"เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว หมายความว่าไง นายคงไม่ได้หมายความว่าป๊านายจะเล่นเด็กนะ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก..ป๊าฉั๊นรักม๊าและมั่นคงมาตลอด..แต่ป๊าพูดเหมือนกับว่าอยากได้เด็กนั่นมาดูแลเหมือนลูกหลาน เพราะป๊าเคยถามฉั๊นว่าอยากให้ป๊าไปขอให้เป็นลูก หรือเป็นบุญธรรมของฉั๊นมั๊ยนะซิ"
"เฮ่ย มันจะดีเหรอ ก็นายยังไม่แต่งงานนิ่"
"ก็ใครว่าฉั๊นสนใจเอามาเป็นลูกเล๊า..ไอ่นี่"
"ห๊ะ!!!...นายอย่าบอกนะว่านายสนใจเด็กนั่น..ที่นายไม่มีอารมณ์กับเด็กนั่งดริ๊งค์เพราะเด็กนั่น แล้วไอ้ที่นั่งคอตกก็เพราะเด็กนั่น" ธันทรคาดคั้น
"อือ" ปั่บ! (เสียงฝ่ามือของคนที่คาดคั้นตบหน้าผากตัวเองหนึ่งทีไม่หนัก ๆ จนเกิดเสียงดังพอประมาณ
"แล้วนายจะทำไงต่อ?"
"ก็คงอยู่ในที่ของตัวเอง..เรื่องทุนก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของครอบครัวเค้าทำกันไป ฉั๊นคงไม่ไปยุ่งอีกแล้ว" ปกรณ์ตอบราบเรียบจนน่าใจหาย
"กลัวจะเติมเชื้อไฟว่างั้น?"
"อืม" ปกรณ์ตอบแบบเนือย ๆ
"แต่ให้คนคอยสืบคอยปกป้องเรื่องเด็กนั่นเนี่ยนะ?" ธันทรล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของเพื่อนตลอดเพราะทั้งสองคนไม่มีความลับต่อกัน
"ก็มันน่าห่วงไง เจอกันครั้งแรกก็ถูกขัง มันอุกอาดมากนะ เอาแม่กุญแจล็อคขังจากด้านนอกเลยนะเว้ย แล้วถ้าไม่มีใครสังเกตเห็นไม่ได้แห้งตายในห้องอับ ๆ แบบนั้นเหรอ แล้วถ้าพวกนั้นไม่ยอมรามือ ยัยนั่นจะไหวเหรอ ป๊าเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คงทำอะไรได้ไม่มากหรอก มันต้องฉั๊นนี่ แรงมาแรงไป อย่าให้รู้แล้วกัน"
"ผู้หญิงข้า..ใครอย่าแตะว่างั้น"
"…....." (ปกรณ์ไม่พูดอะไรมีเพียงพยักหน้าตอบกลับเป็นอันยอมรับไปโดยปริยาย)
ธันทรพาร์ท
{ไอ้กรเอ้ย อยู่มาจนป่านนี้เจอเด็กปราบ สมน้ำหน้ามัน นั่นแหละโดนทิ้งเสียมั่ง มีแต่ฟันแล้วทิ้งดีนัก สะใจโว้ยที่เห็นไอ้หมอหน้าหล่อมันหงอย ฮ่า ฮ่า ฮ่า} ธันทรได้แต่หัวเราะเยาะเพื่อนในใจ