ความเดิม- ..ขอให้ปลอดภัยนะ....หญิงสาวได้แต่พึมพำเบา ๆ พร้อมกับเหตุการณ์เก่าก็ไหลเข้ามาในสมองอีกครั้ง
.....................................
มานิดาพาร์ท
{ถ้าวันนั้นมีใครฉุกคิดสักนิดไม่มองว่าเป็นแค่เรื่องอุบัติเหตุจราจรวันนั้นเราก็อาจจะยังเหลือพ่ออยู่กับเราจนถึงทุกวันนี้ก็ได้นะ}
เฮ๊อ.....หญิงสาวถอนหายใจออกมาเสียงดังเพื่อระบายขั้วลบของความคิดออกมา เพราะตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงมวลน้ำจำนวนหนึ่งที่เอ่อขึ้นมาที่ดวงตาแต่เธอไม่อยากให้มันมาทำลายหรือบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นของเธอเลย จึงได้แต่แหงนหน้ามองฟ้าอากาศและเดินไปตามทางเรื่อย ๆ
แต่ทว่า
ปริ๊น! (เสียงแตรรถ) หญิงสาวที่กำลังเดินไปเรื่อย ๆ ตามริมฟุตบาทถึงกับสะดุ้งตื่นจากห้วงความคิดและหันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ ตัวทันที
นี่หนูตัวเล็กผมยาวคนนั้นน่ะจะไปไหน นี่รถมอ'ไซค์ที่หนูขี่มาไม่ใช่เหรอ...? หนึ่งในวินมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างบีบแตรเพื่อเรียกหญิงสาวที่ดูคล้าย ๆ เหม่อลอยและกำลังเดินไปไกลทุกที ทำให้ผู้คนที่ยังไม่ทันจะแยกย้ายกันดีมองมายังเธอเป็นจุดเดียว
"เอ่อ..ใช่ค่ะ ของหนูเองค่ะ พอดีหนูเหม่อคิดถึงเรื่องพ่อน่ะค่ะ พ่อหนูก็เป็นแบบนี้แต่ไม่โชคดีแบบนี้" มานิดาละล่ำละลักบอกพร้อมกับทำทีเป็นลูบหน้าลูบตาแต่แท้จริงแล้วเป็นการเช็ดน้ำตาต่างหาก
"โอ เสียใจด้วยนะลุก ขับรถกลับบ้านดี ๆ ล่ะ ตั้งสตินะลุก" ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อวินมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างกล่าวขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจเด็กสาว
อีกด้านของชายแต่งตัวดี
อ๋อ..เป็นอย่างนี้นี่เอง คงไม่ลืมซินะ เสียใจด้วยนะสาวน้อย แล้วก็ขอบคุณมากที่ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติซ้ำซ้อนให้ ขอให้เข้มแข็งและเดินต่อไปนะเด็กน้อย เพราะเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างสาวน้อยคนนั้นกับพี่วินมอร์เตอร์ไซค์อย่างชัดเจน
_______________________
@วันเปิดภาคเรียน@มหาวิทยาลัยJ
วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยและเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนักศึกษาแพทย์ของมานิดาซึ่งเธอจะต้องเข้ามาอยู่ที่หอในตลอดปีการศึกษาเพราะพี่ชายต้องไปอยู่กับนายจ้างกินนอนที่นั่นพร้อมสรรพ
"พี่น้ำครับผมฝากน้องสาวด้วยนะครับ ถ้าน้องนอกลูกนอกทางผมฝากดุฝากเตือนน้องด้วย" มานพเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับลูบผมน้องสาวอย่างเบามือ
"ไม่ต้องกังวลไปหรอกนพ พี่กับเพื่อน ๆ จะช่วยดูแลให้ ทำงานของเราไปให้ดี นี่ขอเค้ามาเหรอรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวเค้าจะว่าเราได้ เขาซื้อเวลาเราไปแล้วเราก็ต้องดูแลญาติของเขาอย่างดี"
"ครับพี่ ขอเขามาครับ เขาก็เข้าใจนะครับ พอดีทีมแพทย์และกายภาพมา คงมีคนดูแลอยู่ผมจึงถือโอกาสขอเขามา" มานพเอ่ยยิ้ม ๆ
"พี่นพกลับไปเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนาง นางจะตั้งใจเรียนไม่ว่อกแว่กเด็ดขาดค่ะ รักพี่นพนะคะเราเหลือกันแค่นี้ พี่เหมือนเป็นตัวแทนของพ่อกับแม่เลยนะคะ" มานิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบมีสั่นในตอนปลาย ทำเอาพยาบาลรุ่นพี่ถึงกับจุกในอกจนพูดไม่ออกได้แต่เงยหน้ากระพริบตาปริบ ๆ เพื่อสกัดกั้นมวลน้ำเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
"อืม..พี่ไปนะ อะ..นี่เงินสดติดตัว ส่วนในบัญชีพี่โอนให้แล้ว ไม่พอก็บอกนะ" คนพี่ลูบผมน้องเล็กเบา ๆ
"ขอบคุณค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะพี่นพ" คนตัวเล็กยกมือกระพุ่มไหว้คนพี่แล้วยืนมองดูคนพี่ที่หันหลังกลับและเดินไปที่รถจักรยานยนต์และขับขี่ออกไปจนลับตา
"กลับเข้าไปในหอเถอะน้องนาง ปะ เดี๋ยวพี่จะแนะนำเรื่องการอยู่หอพัก เข้มแข็งนะน้องเอ๊ย เรามีไม่เท่าเขาต้องขยันอดทนและเข้มแข็งให้มากกว่าคนอื่นเค้า และต้องมีพลังบวกสิบบวกเลย เข้าใจมั๊ยมั๊ยคะว่าที่คุณหมอสาวของพี่น้ำ" มาลี หรือ น้ำ พยาบาลรุ่นใหญ่เอ่ยยิ้ม ๆ ทั้งที่ในใจร้องไห้สงสารสองพี่น้องอย่างสุดหัวใจ
"เข้าใจ หนูจะเข้มแข็งค่ะ" มานิดาแอบปาดน้ำที่หางตาออกอย่างไว แล้วเงยหน้ามายิ้มแป้นแล้นอย่างน่ารักให้พยาบาลรุ่นใหญ่
"ปะ ขึ้นห้องกันนะเด็กน้อย" พยาบาลรุ่นใหญ่พูดยิ้ม ๆ พร้อมกับจูงมือเด็กสาวไปยังหอพักที่อยู่ถัดจากนี้ไม่ไกลนัก
อีกด้านของคนที่บังเอิญผ่านมา
อ้อ..เรียนแพทย์เหรอ มีโปรแกรมสอนนักศึกษาแพทย์เสียด้วยซิ หวังว่าคงได้เจอกันนะสาวน้อย เจอกันปีสองนะหวังว่าคงถึงนะอย่าถอดใจไปก่อนล่ะ ธันทร แพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือดได้แต่ยืนมองเด็กสาวที่กำลังเดินไปพร้อมกับพยาบาลรุ่นพี่ที่เขารู้จักและนับถือจนลับตา
อีกด้านของผู้มาใหม่
"ยืนมองอะไรหรือครับคุณหมอ" บริพัฒน์แพทย์ออร์โธปิดิกส์เอ่ยขึ้นหลังจากเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ยืนอยู่พักใหญ่แล้ว
"ไม่มีอะไรหรอก พอดีเห็นนักศึกษาใหม่เดินเข้าหอในก็เลยรู้สึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ น่ะ ว่าแต่คุณหมอมีอะไรเหรอครับ" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ ให้เพื่อนร่วมงาน
"ก็อยากมาปรึกษาเคสน่ะครับ คุณหมอพอจะมีเวลาสักเล็กน้อยให้ผมไหมครับ สะดวกหรือเปล่า" คุณหมอหนุ่มเอ่ยถามอย่างอดใจรอคำตอบ
"อ่อ..ได้ครับ งั้นเชิญที่ห้องทำงานผมตอนนี้เลย" ธันทรตอบรับทันทีอย่างไม่มีลังเลเพราะเคสนี้บังเอิญเป็นของคนรู้จักหรือแม้แต่ใครคนใดก็ตามในฐานะแพทย์ถ้าเป็นประโยชน์ต่อคนไข้เขาก็ย่อมทำอยู่แล้ว
"โอเค ขอบคุณครับ" คุณหมอบริพัฒน์ยิ้มอย่างโล่งอกพร้อมกับก้มศีรษะให้อีกคนเล็กน้อยแทนคำขอบคุณแล้วพากันเดินไปที่ตึกอย่างเร่งรีบอยู่ในที