“อะไรนะคะ? เดินสายโปรโมท”
“ใช่ค่ะ วันนี้พี่จุ๊บแจงพึ่งรับงานมา ทางนั้นอยากให้น้องไอริสเดินสายโปรโมทคู่กับฝ่ายการตลาดของเขา และอีกอย่าง...”
“ปฏิเสธไปเลยค่ะ ไอริสไม่อยากร่วมงานกับบริษัทนั้นอีกแล้ว”
ไอริสตอบออกมาอย่างไม่ต้องคิด เมื่อบริษัทของคุณแดนนี่ต้องการจ้างเธอต่ออีก เธอไม่คิดจะร่วมงานกับที่นั่นอีกแล้ว
“แต่พี่จุ๊บแจงตอบตกลงไปแล้ว...อีกอย่างเงินดีด้วยนะคะ ได้เยอะกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า นะคะน้องไอริส แค่อีกงานเดียวเอง”
“พี่จุ๊บแจง! ทำไมรับงานไม่บอกไอริสก่อนล่ะคะ!”
“พี่ขอโทษ...”
ไอริสได้แต่มองค้อนผู้จัดการส่วนตัวอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินสะบัดตูดหนีออกจากห้องไป
วันต่อมา แดนไทเข้าบริษัทมาทำงานตามปกติ ซึ่งพอเขาเดินเข้ามาในบริษัท สายตาอันเพ้อฝันของพนักงานทั้งหลายก็มองมาที่เขา ทำเอาเขาถึงกับแปลกใจมองซ้ายมองขวาหาสิ่งผิดปกติทันที
“ก็ไม่มีอะไรนี่...”
เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องที่แดนเทพสวมรอยเป็นเขาเมื่อวานนั้นทำให้พนักงานทุกคนมองเขาเปลี่ยนไป จากเจ้านายหน้าตานิ่งขรึมและดูท่าเกรงขามจนพนักงานไม่กล้าเข้าใกล้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฏแต่เมื่อวานเขากลับยิ้มกว้างปากแทบฉีกตลอดงานเปิดตัว
“บ้าเอ้ย!”
พอเงยหน้าขึ้นมองโทรทัศน์จอใหญ่ของบริษัท แดนไทก็ต้องสบถเสียงดังเมื่อดันเป็นภาพบรรยากาศงานเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อวาน และดูท่าเขาและนางแบบสาวจะถูกโฟกัสเป็นพิเศษจนมีแต่วีดีโอระหว่างเขากับเธอเดินยิ้มกว้างอยู่บนเวทีนั่น
“คุณแดนไทคะ ท่านประธานให้เข้าพบค่ะ”
ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าห้องทำงาน คุณเจนจิต เลขาของคุณแดนนี่ก็เดินเข้ามาหาซะก่อน ก่อนเขาจะตัดสินใจเดินตามหลังคุณเจนจิตไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
“คุณแดนไทมาแล้วค่ะ”
“อืม ขอบใจมาก คุณออกไปก่อน”
คุณแดนนี่วางปากกาลงแล้วเงยหน้ามองบุตรชาย
“โครงการใหม่กำลังไปได้สวย อีก 2 วันจะมีการเดินสายโปรโมท ฉันอยากให้แกเป็นคนควบคุมจนกระทั่งเสร็จงาน”
“ปกติฝ่ายการตลาดดูแลงานด้านนั้นอยู่แล้ว ทำไม...”
“ก็เพราะแกดันไปเป็นนายแบบคู่กับนางแบบน่ะสิ อีกอย่างฉันอยากให้แกเป็นที่รู้จักของพวกพนักงานตามสาขาต่างๆด้วย แกจะได้เรียนรู้เผื่อว่าฉันวางมือแกจะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามมา”
พอบิดาพูดออกมาแบบนั้น แดนไทก็หมดข้อโต้แย้ง เมื่อยังไงซะสักวันบริษัทนี้ก็ต้องเป็นของเขา อีกอย่างการเดินทางไปที่โน่นที่นี่บางทีมันอาจทำให้เขาผ่อนคลายลงก็ได้
“ว๊าวๆๆๆ โครงการแรกก็อยู่ติดทะเลเลยเหรอคะเนี่ยยยยย”
“เสียงเบาหน่อยสิคะพี่จุ๊บแจง อายชาวบ้านบ้าง”
“จะอายทำไมคะ เราดัง เป็นเซเลปไม่เห็นต้องอายเลยค่ะ”
เสียงอันตื่นเต้นของจุ๊บแจงดังขึ้นเมื่อเดินลงรถมาเจอเข้ากับทะเลอันกว้างสุดลูกหูลูกตา เมื่อนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มาทะเลกัน
“อาทิตย์ก่อนก็มาถ่ายงานแถวนี้ จะตื่นเต้นทำไมกัน”
“แหม อาทิตย์ก่อนเห็นแค่สิบวิเองค่ะ ครั้งนี้เราต้องอยู่ถึง 3 วัน พี่จุ๊บแจงจะนอนอาบแดดว่ายน้ำสามวันสามคืนไปเลยคอยดู”
และไอริสก็ไม่สนใจผู้จัดการของเธออีก นางแบบสาวเดินถือกระเป๋าใบเล็กราคาแพงลิบเข้าไปในโรงแรมสุดหรูหราโดยมีพนักงานโรงแรมรอต้อนรับเต็มไปหมด ก่อนจะพาเธอขึ้นไปที่ห้องพักเมื่อเธอบอกว่าต้องการพักผ่อน
“ทีมงานรวมทั้งนางแบบมาถึงกันหมดแล้วครับ เราจะเริ่มถ่ายงานและโปรโมทโครงการกันพรุ่งนี้ คุณแดนไทต้องการพักผ่อนหรือต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”
“ไม่ล่ะ ผมอยากพัก”
“ครับ”
พูดเสร็จแดนไทก็เดินเข้าไปในห้องพักของเขา ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าเมื่อเขาเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงระเบียงตอนเดินเข้ามา และจากสระน้ำนั้นสามารถมองเห็นวิวทะเลอันสวยงามของที่นี่ด้วย
ตู๊มมมม
เสียงกระโดดลงสระดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ว่ายมุดดำดิ่งลงไปจนสุด ก่อนจะดันตัวขึ้นจากน้ำด้วยอาการผ่อนคลายสุดๆหลังจากไม่ได้พักผ่อนออกกำลังกายมาหลายวันแล้ว
“นะ...นี่! ทำไม...”
เสียงไอริสที่ยืนนิ่งอยู่ริมสระดังขึ้น เมื่อเธอคิดจะออกมาว่ายน้ำแต่กลับมีแขกจากห้องข้างๆกระโดดลงสระก่อน และพอได้เห็นแขกห้องข้างๆ ไอริสถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างไม่ต่างจากแดนไท เขาเงยหน้ามองเธออย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะว่ายขึ้นไปนั่งบนริมสระอีกฝั่ง
“โลกมันแคบไปนะผมว่า”
เขาพูดขึ้นพร้อมกับเบนสายตาไปมองทางอื่น เมื่อตอนนี้ไอริสอยู่ในชุดว่ายน้ำแสนวาบหวามและแทบจะปิดสัดส่วนและส่วนสงวนของเธอไม่ได้เลยจริงๆ
“นี่คุณ! ฉันเองก็ไม่อยากเจอคุณนักหรอก! เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เป็นไซโคพาธเหรอห๊ะ!”
ไอริสบอกขึ้นเสียงดังอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันหลังเพื่อเดินกลับเข้าห้องพักของเธอ
“แต่คุณคงต้องทนหน่อยนะ เพราะกว่างานจะจบก็สองสามวัน”
คำพูดของแดนไททำให้ไอริสถึงกับต้องหยุดชะงัก ก่อนจะหันมามองแดนไท เมื่อเธอลืมไปเสียสนิทว่าเขามาที่นี่ในฐานะเจ้าของบริษัทพ่วงตำแหน่งนายแบบด้วย
“ก็จริงของคุณ ยังไงฉันคงเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้าคุณไม่ได้อยู่แล้วนี่”
ไอริสบอกขึ้นพร้อมกับเดินลงน้ำอย่างท้าทายเขา ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด หรือไม่มีอะไรต้องอายจนต้องหนีหน้าเขาสักหน่อย คิดซะว่าทำงานเสร็จก็ไม่ได้เจอกันอีก
ส่วนแดนไท เขารู้สึกได้ว่าไอริสกำลังท้าทายเขาอยู่ เธอไม่หลีกหนีหรือหลีกเลี่ยงอย่างที่ต้องการทำ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอไม่อยากยอมแพ้เขาในเกมจิตวิทยาครั้งนี้ และพอรู้แบบนั้น แทนที่เขาจะถอยแต่เขากลับมุดตัวลงไปในสระพร้อมแหวกว่ายอย่างไม่สนใจอีกคนที่ยังเกาะขอบสระอยู่ ตั้งแต่เกิดมา เขาเองก็ไม่เคยเจอสาวๆเมินแบบนี้มาก่อน เห็นทีเขาคงเจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาแล้ว
“ชิส์ อยากว่ายก็ว่ายไปสิ สระส่วนรวมนี่”
พอเห็นว่าเขาไม่สนใจ ไอริสก็เริ่มแหวกว่ายไปมา ซึ่งอยู่คนละฟากสระกับเขา ก่อนจะเริ่มเหนื่อยเธอเลยพยุงตัวขึ้นนั่งขอบสระ
“เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย...แล้วอีตานั่นไปไหนแล้ว...ขึ้นแล้วเหรอ...”
เธอผ่อนลมหายใจออกมาหลังจากได้ออกกำลังกาย ก่อนจะมองไปรอบๆพบว่าแดนไทหายเงียบไปแล้ว
“เฮ้ย!! คุณ!...แกล้งรึเปล่า คุณ...เวรแล้วไง!”
ตู้มมมมม
และพอมองสังเกตลงไปในน้ำ ไอริสก็ต้องตกตะลึงเพราะเห็นเงาดำๆอยู่ใต้สระน้ำลึก ก่อนเธอจะตัดสินใจกระโดดลงน้ำอีกครั้งแล้วแหวกว่ายลงไปหาเงาที่เธอเห็น และก็พบว่าเป็นแดนไทที่จมอยู่ใต้น้ำ ไอริสรีบคว้าคอเขาดึงกลับขึ้นมาบนผิวน้ำทันที
“แฮ่กๆๆ โอ๊ย! ตัวหนักเป็นบ้าเลย คุณ!!...แล้วจะขึ้นจากน้ำยังไงเนี่ย...”
เธอพยายามว่ายเพื่อหาทางขึ้น เมื่อเขาทั้งสูง ทั้งตัวใหญ่กว่าเธอแบบนี้ ไม่นานไอริสก็พาเขาขึ้นมาบนขอบสระสำเสร็จ
แปะ แปะ แปะ
“คุณ! ได้ยินฉันรึเปล่า นี่คุณ...”
เธอพยายามตบหน้าแล้วเรียกให้เขาฟื้นแต่ดูท่าจะไม่ง่ายเมื่อไม่รู้ว่าแดนไทนั้นจมลงไปนานเท่าไหร่แล้ว จากนั้นไอริสเลยพยายามปั๊มหัวใจของเขา ซึ่งเขาก็ยังนอนนิ่งจนเธอเริ่มใจหาย ก่อนนางแบบสาวจะก้มลงไปผายปอดให้กับเขาซึ่งมันเป็นวิธีสุดท้ายที่เธอทำได้
“โอ๊ยยย ทำไมยังไม่ฟื้นอีกเนี่ย แฮ่กๆ เหนื่อยแล้วนะ...”
ไอริสเริ่มจะหมดหวัง เมื่อพยายามเท่าไหร่ร่างใหญ่ก็ยังนอนนิ่ง ก่อนที่เธอจะก้มลงไปผายปอดให้เขาอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
“อึ๊!! อื้อๆๆๆ”
และสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปากที่กำลังเป่าลมใส่ปากของเขากลับมีลิ้นสากร้อนตวัดเข้ามาในปากของเธอพร้อมกับดูดกลืนลิ้นเล็กอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
“อึ๊ๆๆๆ”
เธอพยายามดันเขาออกแต่แดนไทมีหรือจะยอมถอยง่ายๆเมื่อเขาวางแผนนี้มาเอง ทีแรกเขาแค่อยากลองใจเธอ แต่ไม่คิดว่าเธอจะจริงจังขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกทึ่งจนเผลอตัวกอดและจูบเธอกลับแบบนี้
ส่วนไอริส จากที่พยายามขัดขืนกลับถูกจูบเร่าร้อนของเขาปลุกความกระสันในร่างกายของเธอขึ้น เธอเริ่มตอบสนองเขาอย่างลืมตัวจนแดนไทโอบกอดเธอเข้ามาแนบชิดโดยมีมือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างสาวที่มีเพียงชุดว่ายน้ำตัวน้อยปกปิดอยู่
‘บ้าไปแล้ว...หยุดได้แล้วแดนไท...’
เขาบอกกับตัวเอง เมื่อตอนนี้เขาเตลิดเกินกว่าอยากจะถอยหลังกลับแล้ว
‘นี่มันบ้าไปแล้ว ทำไมอีตานี่ถึง...จูบเก่งขนาดนี้...’
ไอริสก็ไม่ต่างกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่ด้วยกลิ่นปากอันเย้ายวนบวกกับกล้ามแน่นๆที่มาพร้อมกับเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ มันทำให้เธอหลงใหลไปกับจูบของเขา
จากแค่จูบ ตอนนี้ทั้งสองกลับกอดรัดกันแนบแน่นพร้อมกับปากและลิ้นก็แลกไล้ตวัดดูดกันไปมา แดนไทลูบไล้มือใหญ่ไปตามร่างสาวก่อนจะมาหยุดบีบคลึงอยู่ที่สองเต้าอวบที่ตอนนี้หลุดออกมาจากเสื้อว่ายน้ำตัวน้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นิ้วยาวตวัดเล่นไปตามยอดอกแข็งเป็นไตอย่างเพลิดเพลินพร้อมบีบเล่นสลับไปมาจนไอริสฉ่ำแฉะปวดร้าวไปทั้งร่องสาว
“ต่อไหม?...”
แดนไทที่ค่อยๆถอนปากออกกระซิบถามพร้อมกับมองจ้องหน้าสวยอันแดงเถือกของไอริส ที่ตอนนี้อายจนต้องเบนหน้าหนีเขา
“คนบ้า...คุณแกล้งจมน้ำ ว๊าย!!”
ปากที่กำลังต่อว่าต้องกรีดร้องออกมาเสียงดัง เมื่ออยู่ดีๆเขาก็ตวัดแขนอุ้มเธอแล้วพาเดินตรงไปที่ห้องของเขาเพราะตอนนี้กลางกายชายแข็งขึงชูชันจนแทบแตกออกมาอยู่รอมร่อ
‘อีตานี่หุ่นดีเป็นบ้า...’
ไอริสที่ก้มหน้าอย่างรู้สึกอายที่ไม่ปฏิเสธคำเชื้อเชิญของเขากลับพบว่าร่างกายใหญ่นั้นเต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ เขาไม่มีริ้วรอยไฝฝ้าเลยสักนิดทำเอาเธออดทึ่งในความสมบูรณ์แบบของเขาไม่ได้
“ครั้งก่อนก็เคยเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าไม่ได้สนใจเหมือนตอนนี้”
เขาเอ่ยแซวเมื่อเห็นเธอยกมือลูบกล้ามท้องของเขา ก่อนเขาจะวางเธอลงที่เตียงใหญ่
“บ้า...ฉันเห็นมาจนชินแล้ว”
ไอริสพูดออกมาอย่างเขินอาย เมื่อเธอเองก็ไม่ได้โกหก แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่มองและสัมผัสแล้วกระสันเสียวได้มากมายเท่าครั้งนี้มาก่อน
“นี่คุณ...จะทำอะไร...”
ไอริสที่มองตามแดนไทถึงกับรีบหันหน้าหนี เพราะเขาเดินไปหยิบถุงยางอนามัยในประเป๋าที่เอามาแล้วดึงกางเกงว่ายน้ำออกก่อนจะหันกลับมาหาเธอ ความใหญ่โตที่พรั่งพร้อมเต็มที่ทำให้ไอริสถึงกับพูดไม่ออก
“หรือว่าชอบใส่สด...เอาไว้กับคนอื่นแล้วกันเพราะผมชอบใส่ถุง”
แดนไทบอกขึ้นพร้อมกับเดินกลับมาหานางแบบสาว ที่ตอนนี้ขยับตัวถอยหลังไปจนชิดขอบเตียงสติที่เคยเตลิดหายกลับมาอีกครั้ง