นายแบบจำเป็น
แชะ! แชะ! แชะ!
“คัต! ดีมากครับๆ เดี๋ยวพัก 10 นาทีนะครับ...ไปเตรียมนายแบบมาให้พร้อมนะ”
สิ้นเสียงสั่งคัตของผู้กำกับ ทุกคนต่างวิ่งกรูเข้าไปหานางแบบของงานวันนี้ก่อนผู้กำกับจะเรียกให้คนไปตามนายแบบเข้ามาร่วมถ่ายแบบ ไม่นานทีมงานก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“พี่อาร์ตคะ พอดีว่านายแบบ แฮ่กๆ นายแบบท้องเสียตอนนี้กำลังจะส่งไปโรงพยาบาลค่ะ”
“ห๊ะ!? บ้าเอ้ย! แล้วเป็นอะไรมากไหม?”
“น่าจะไม่เท่าไหร่ค่ะ แล้วเราจะเอายังไงดีกับนายแบบคะ?”
ผู้กำกับถึงกับดึงทึ้งผมของตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่องานนี้เร่งด่วนจนไม่สามารถเลื่อนถ่ายได้ด้วยนี่สิ
“ไปหานายแบบคนอื่นมาด่วนเลยไป!”
“แต่ครึ่งชั่วโมงนางแบบก็ต้องไปงานอื่นแล้วนะคะพี่อาร์ต”
“เวรเอ้ย! ทำไมมันอุปสรรคเยอะอย่างนี้วะเนี่ย! งั้นก็ไปหาคนที่หล่อและตรงปกที่สุดมา ใครก็ได้ไปหามาให้ได้ เร็วเข้า!”
พอได้ยินแบบนั้น ทีมงานก็วิ่งแตกกระจายไปคนละทาง เมื่องานถ่ายแบบวันนี้สำคัญต่ออนาคตของบริษัทเป็นอย่างมาก ถ้าเกิดผิดพลาดอาจถูกฟ้องจนหมดตัวได้เลยทีเดียว
“มีเรื่องอะไรกันคะพี่จุ๊บแจง หรือว่าเกิดเรื่องข้างนอก”
จุ๊บแจง ผู้จัดการดารานางแบบชื่อดังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังจากออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกมา
“อ้อ เห็นว่านายแบบท้องเสียกะทันหัน กำลังหานายแบบใหม่น่ะ แล้วน้องไอริสต้องการอะไรอีกไหมคะ หิวรึเปล่า?”
“เสร็จงานไอริสอยากทานซูชิร้านเดิม”
“ได้สิคะ เดี๋ยวพี่จุ๊บแจงจะโทรไปจองโต๊ะเอาไว้เลย”
พูดเสร็จจุ๊บแจงก็เดินกลับออกไปอีกครั้ง ปล่อยให้นางแบบสาวได้พักผ่อนหลังจากถ่ายแบบมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ไอริส นางแบบสาวแสนสวย เซ็กซี่และกำลังมาแรงที่สุดในวงการตอนนี้ ด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาราวกับรูปปั้นทำให้เธอโด่งดังและเป็นที่ฝันถึงของหนุ่มๆแทบทั้งประเทศ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป เมื่อนิสัยที่เธอมักจะแสดงออกมาทำให้หนุ่มๆหลายคนต้องโบกมือลาเพียงแค่ได้เริ่มพูดคุยหรือรู้จัก
“เฮ้อ...อยากไปเที่ยวจัง...”
เธอมองรูปทะเลอันแสนสวยในโทรศัพท์อย่างรู้สึกอยากไปเที่ยว หลังจากเข้าวงการนางแบบเธอก็ไม่เคยได้มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนอีกเลย เมื่อเวลานอนเองยังแทบไม่มีเหมือนกัน
“พี่อาร์ตครับๆ คนนี้พอได้รึเปล่าครับ?”
ส่วนทางด้านนอก ตอนนี้กำลังวิ่งวุ่นทั้งโทรหานายแบบ วิ่งหาตามชั้นต่างๆเผื่อว่าจะมีนายแบบว่างงานอยู่ภายในตึกนี้ ก่อนที่หนึ่งในทีมงานจะวิ่งเข้ามาพร้อมจูงมือของผู้ชายที่เขาเห็นว่าทั้งรูปร่าง หน้าตาตรงสเปคที่ผู้กำกับต้องการโดยไม่คิดสนว่าคนที่ตนเองลากมาจะเป็นใคร
“ไหนๆๆ เฮ้ย!! คุณแดนไท! เอ่อ ขอโทษครับ พอดีไอ้นี่เป็นเด็กใหม่เลยไม่รู้กาลเทศะ”
พอผู้กำกับหันไปมองนายแบบที่ทีมงานพามาเขาถึงกับตกใจ รีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับขอโทษ เมื่อคนที่ทีมงานพามานั้นคือ แดนไท ลูกชายคนโตของประธานบริษัทที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งรองประธานหลังจากเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษมา
“ไม่เป็นไร แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมทีมงานดูวุ่นวายกันขนาดนั้น”
แดนไทถามขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆห้องถ่ายแบบที่เขาพึ่งเคยเข้ามา
“เอ่อ นายแบบท้องเสียกะทันหัน เราเลยต้องหานายแบบใหม่ เลื่อนก็ไม่ได้ด้วยครับ เป็นปกที่ฉลองการเข้ารับตำแหน่งของคุณแดนไทกับงานครบรอบ 70 ปี ของบริษัทด้วย นายแบบเป็นคนที่ท่านประธานเลือกเอง คงหาคนมาแทนยาก...”
ผู้กำกับบอกขึ้นด้วยสีหน้าทุกข์ใจอย่างที่สุด เมื่อนี่ถือเป็นงานชิ้นเอกของเขา เพื่อขึ้นเงินเดือนและการเลื่อนตำแหน่งปลายปีด้วย
“งั้นผมขอนั่งดูการถ่ายทำหน่อยแล้วกัน”
และแดนไทก็ตัดสินใจที่จะดูการถ่ายทำต่อ ทำเอาทั้งผู้กำกับทั้งทีมงานต่างหนักใจ เมื่อยังไงคงหานายแบบมาแทนไม่ได้แล้ว
“คะ? ไม่มีนายแบบ แล้วจะถ่ายทำต่อยังไงล่ะ”
“เอ่อ ทีมงานกำลังพยายามหานายแบบ รบกวนคุณไอริสช่วยรอสักหน่อยได้ไหมครับ?”
ผู้กำกับเดินเข้ามาหาไอริสด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนบอกขึ้น เมื่อตอนนี้นางแบบสาวพร้อมสำหรับการถ่ายแบบแล้ว
“ไม่มีนายแบบก็เอาแค่นางแบบไม่ได้เหรอคะ? ไอริสดังจะตาย แค่ไอริสขึ้นปกก็ขายดีจนตีพิมพ์ไม่ทันแล้ว”
ไอริสบอกขึ้นอย่างไม่สนใจ เมื่อเธอมั่นใจในความโด่งดังของเธอ ทำเอาผู้กำกับถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเขาเองก็อยากตัดนายแบบออกไปเลยแต่จะให้ทำยังไงได้ เมื่อเจ้าของบริษัทสั่งมาแบบนี้
“เอ่อ ถ้าจะขอต่อเวลา...”
“ไม่ได้หรอกค่ะ น้องไอริสมีถ่ายงานอื่นต่อ”
จุ๊บแจงที่มาทันได้ยินบอกขึ้น เมื่อเธอจะไม่ยอมเสียงานอื่นด้วยการยกเลิกหรือไปสายเด็ดขาย เพราะมันอาจส่งผลถึงชื่อเสียงของไอริสด้วย
“เรายอมจ่ายค่าเสียหาย ขอเวลาเราเพิ่ม...”
“ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ พี่จุ๊บแจงตกลงกับทางนั้นไปแล้ว ไม่อยากเสียคำพูด”
พอได้ยินคำยืนยันของผู้จัดการนางแบบสาว ผู้กำกับถึงกับถอนหายใจแล้วเดินหันหลังกลับออกไปทันที โดยทุกการสนทนาและการกระทำทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของแดนไทที่นั่งมองอยู่
“ไปบอกให้คนเตรียมชุด ผมจะถ่ายเอง”
“ครับ?? คุณแดนไทพูดจริงเหรอครับ! ครับๆๆๆ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้ครับ!”
พอผู้กำกับเดินเข้ามาใกล้ แดนไทก็บอกขึ้น ทำเอาผู้กำกับถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบตอบรับเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มไม่ได้พูดเล่น
แดนไทหันไปมองนางแบบสาวอย่างไม่พอใจ เมื่อทีมงานของเขากำลังวุ่นวายและกระวนกระวายใจแท้ๆ แต่เธอกลับไม่ได้มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย จะเห็นใจสักนิดก็ไม่มีนี่สิ โดยไม่รู้เลยว่าพอผู้กำกับเดินกลับออกมา ไอริสก็พูดกับจุ๊บแจงให้โทรไปขอเลื่อนเวลากับอีกกองถ่ายหนึ่ง
“ก็บอกเขาไปสิคะว่าไอริสจะยอมถ่ายในส่วนที่เขาเคยขอมาให้ แถมจะถ่ายให้เต็มเวลาเหมือนเดิมด้วย”
ไอริสบอกขึ้น
“ไม่ได้หรอกค่ะ นี่มันหลายรอบแล้วที่เราขอเลื่อนงานอื่นทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำแบบนี้บ่อยๆเดี๋ยวเขาก็หาว่าน้องไอริสเรื่องมากพอดี”
จุ๊บแจงไม่ยอมตกลงด้วย เมื่อพวกเธอก็ทำงานกันอย่างเต็มที่แล้ว นายแบบท้องเสียก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเธอสักหน่อย ทำไมเธอต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องนั้นด้วย พอเห็นแบบนั้นไอริสถึงกับยกมือขึ้นกอดอก ทำเอาจุ๊บแจงถึงกับกรอกตาไปมา เมื่อรู้ว่านั่นคือท่าทางอันจริงจังของนางแบบสาว
“จะให้ไอริสเปลี่ยนผู้จัด...”
“โอเคค่ะๆๆๆๆ เอะอะก็จะเปลี่ยนผู้จัดการๆๆๆๆ ชิส์!”
และสุดท้าย จุ๊บแจงก็ยกธงยอมแพ้ เมื่อเธอนั้นเป็นผู้จัดการดารานางแบบมาก็เยอะ แต่ไอริสเป็นคนเดียวที่เธออยู่ด้วยนานที่สุด เพราะถึงแม้ภายนอกจะดูแข็งกระด้างและไม่สนใจอะไร แต่ภายในแล้วไอริสกลับทั้งอ่อนโยนและจิตใจดี
“จริงเหรอครับคุณจุ๊บแจง! โอ๊ย ขอบคุณมากเลยนะครับ แล้วผมจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้อย่างงามเลยไม่ต้องห่วง”
“ค่ะ...ต้องไปขอบคุณน้องไอริสโน่นนนน ถ้าพี่ไม่ยอมก็เอาแต่จะไล่พี่ออก เฮ้อ แล้วนายแบบล่ะคะ จะได้ตอนไหน จุ๊บแจงให้ได้แค่ชั่วโมงเดียวนะคะ”
“ครับๆๆ แค่นี้ก็เหลือเฟือ”
พอได้ยินแบบนั้น ทั้งสีหน้าและท่าทางของผู้กำกับก็เปลี่ยนไปทันที เขารีบลุกเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของเจ้านายหนุ่ม
“ไม่ต้องรีบนะ เอาให้หล่อและดูดีที่สุด”
เขาบอกออกมาพร้อมกับมองเจ้านายหนุ่มอย่างไม่อยากเชื่อ จากที่หล่อเหลาอยู่แล้วพอมาแต่งตัวเป็นนายแบบแดนไทยิ่งหล่อจนหาคนเทียบยาก
“คุณน่าจะบอกผมก่อนว่ามันเป็นแนวเซ็กซี่”
ทางด้านแดนไท ทีแรกเขานึกว่าเป็นแค่การถ่ายแบบธรรมดาๆ แต่ที่ไหนได้ ทั้งตัวของเขามีแค่กางเกงในตัวเล็กที่แทบห่อหุ้มแก่นกายชายอันใหญ่โตของเขาไม่ได้ เมื่อมันดันเป็นกางเกงในไซส์เล็กกว่าที่เขาใส่
“เอ่อ ผมนึกว่าคุณแดนไทรู้แล้ว...ถือว่าช่วยให้พวกผมกับเด็กๆไม่ตกงานนะครับ รับรองผมทำงานถวายชีวิตให้กับบริษัทแน่นนอนครับ”
พอได้ยินแบบนั้น แดนไทก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจออกมา จากนั้นร่างกายอันขาวสะอาดและเต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการดูแลอย่างดีของเจ้าของร่างก็ถูกพ่นสีเป็นลายอันสวยงาม