ฉันแอบชอบเขามานานตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 2 ตอนนั้นพี่หนึ่งเรียนอยู่ม.ปลาย ปีที่.6 เขาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนมีสาวๆมากรี๊ดเขามากมาย แต่ฉันไม่กล้าบอกใครหรอกค่ะ เพราะฉันรู้ตัวดีว่าพี่เขาคงไม่มีวันมาชอบคนอย่างฉันแน่ๆก็ฉันเป็นเด็กเฉิ่มแล้วก็เชยมากแถมยังใส่แว่นหนาเตอะอีก ฉันจึงได้แต่แอบมองพี่เขาและแอบชอบเขาอยู่ห่างๆมาตลอด
แต่มาจนถึงตอนนี้ฉันก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นแล้วละคะ เพราะฉันกับพี่หนึ่งเลยคำว่าแอบชอบกันไปมากแล้วจริงๆ จะอะไรซะอีกละคะก็ฉันกับพี่หนึ่งเรา…กันแล้วนะซิคะ
“เฮ้ย..!”
“พิมเองค่ะพี่หนึ่ง”
เธอรีบบอกเขาเพราะกลัวเขาจะเสียงดัง
“พิมพี่ตกใจหมดเลย พี่ก็นึกว่า..”
“ผีหรอคะ 5555 พี่หนึ่งกลัวผีด้วยหรอคะ..?”
พิมหัวเราะชอบใจใหญ่ในท่าทางของเขา
“ไม่ต้องเลย ไม่ต้องมาล้อเลียนพี่เลย พิมทำให้พี่ตกใจรู้มั้ยว่าจะต้องโดนลงโทษอะไร..?”
“อะไรคะ พิมไม่รู้ ว๊าย…”
หนึ่งดึงพิมเข้ามากอดแล้วหอมแก้มเธอไป 2 ฟอดใหญ่
“พี่หนึ่ง…”
พิมอายหน้าแดงที่เขาดึงเธอเข้าไปหอมแบบนั้น
“มาเลยมาให้พี่จัดการสะดีๆ”
หนึ่งรีบดึงมือพิมเดินตามเข้าไปในห้องรับรองอีกห้องชั่นล่างของบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เขาเปิดประตูแล้วก็พาเธอเข้าไปแล้วหันมาปิดประตูกดล็อกทันที
“พี่หนึ่ง..”
พิมเรียกหนึ่งด้วยเสียงอันอ่อนหวานอย่างรู้สึกอาย
“พี่คิดถึงพิมนะ ไม่เจอกันตั้งหลายวันมาให้พี่กินสะดีๆ”
หนึ่งโน้มตัวลงไปจับคางพิมเงยหน้ามารับกับริมฝีปากหนาของเขาอย่างนุ่มนวล เขาดันตัวเธอลงไปบนที่นอนแล้วก็ค่อยๆโน้มตัวลงไปหาเธอ
“พี่หนึ่งคะ พิม”
เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเขา
“พิมหอมไปทั้งตัวเลยขอพี่เถอะนะคนดีของพี่..?”
เขาไม่ฟังเสียงเรียกของเธอลากใบหน้าลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอขาว พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างปลดกระดุมชุดนอนของเธอออกจนหมดทุกเม็ดเผยให้เห็นบราลายคิตตี้น่ารัก เขาเงยหน้าขึ้นมามองบราของเธอแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เธอรู้สึกเขินมากๆเพราะเขาจะต้องคิดว่าเธอเป็นเด็กแน่ๆที่ใส่บราลายการ์ตูนแบบนี้
“พิม อายค่ะ”
เธอพยายามยกมือขึ้นมาปิดบราลายคิตตี้ของตัวเองไว้
“น่ารักจัง..ขอพี่กินคนน่ารักคนนี้หน่อยนะ”
เขาอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงจูบที่เนินอกนิ่มของเธอ แล้วใช้มืออ้อมไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอบราของเธอออกจนเผยให้เห็นเต้างามทั้ง 2 ข้าง ก้มใบหน้าลงมาใช้ปลายลิ้นเลียวนรอบเม็ดบัวคู่งามทั้ง 2 ข้างสลับกันไปมาอย่างนึกสนุกในความไร้เดียงสาของเธอ
“อื้ม..อ่าส์.."
เธอร้องครางและบิดตัวส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่านที่เขามอบให้ด้วยปลายลิ้นร้อน
เขาจัดการจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดไม่มีเหลือเสื้อผ้าสักชิ้นบนร่างกาย เลื่อนตัวลงมาที่ช่วงสะโพกมนดึงกางเกงนอนของเธอออกไปจนสุดปลายเท้า เผยให้เห็นแพนตี้ลายคิตตี้น่ารักอีกตัว เธออายมากที่เขาเอาแต่จ้องมันไม่วางตา จึงยกมือขึ้นมาปิดแพนตี้ลายการ์ตูนที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ เพราะมันทำให้เธอดูเหมือนเด็กเกินไปจนรู้สึกอายเขามากๆ
“คิดตี้ตัวนี้น่ารักจัง พี่อยากจูบคิตตี้ตัวนี้จังเลย…”
พิมมองหน้าเขาด้วยความเขินอายแต่ก็ยอมเอามือออกให้เขาได้จูบคิตตี้ตัวน้อยของเธอ เขายิ้มอย่างพอใจแล้วก็ก้มหน้าลงไปจูบคิตตี้ตัวน้อยของเธอด้วยความนุ่มนวล
“อื้ม…อะ อะ พี่หนึ่ง อ่าส์”
“พี่ขอจัดการคิตตี้ตัวนี้เลยนะคะ มันน่ากินจนพี่ทนไม่ไหวแล้ว..”
เขาไม่พูดเปล่าใช่มือดึงแพนตี้ตัวน้อยของเธอออกจนสุดปลายเท้าอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหมาป่าจะกินคิตตี้จนหมดตัวเลยนะ..”
“พี่หนึ่ง เบาๆ นะคะ”
“พี่จะเบาที่สุดเลยค่ะ…”
เขาจับแท่งลำที่พร้อมออกรบแล้วของตัวเองจ่อไปที่ปากทางเข้าของเธอ
“พร้อมมั้ยคะ เจ้าหมาป่าของพี่จะกินคิตตี้แล้วนะ..?”
เธอพยักหน้ารับแทนการตอบ
เขาจึงสอดใส่แท่งลำเข้าไปในช่องทางรักของเธอด้วยความนุ่มนวลจนสุดลำอย่างช้าๆ เธอทำสีหน้าทรมานด้วยความเจ็บปวดที่ผสมไปด้วยความเสียวซ่าน
“อื้มมม อ่าส์..”
เธอครางออกมาด้วยความเสียวเธอหลับตาพริ้มเมื่อรู้สึกถึงความเสียวที่มากขึ้นเพราะเขาก้มลงมาใช้ลิ้นดูดเลียบริเวณยอดอกของเธอ เธอรู้สึกได้ว่าตอนนี้หน้าอกเธอมันเปียกชื้นไปหมด เขากระแทกแก่นกายเข้าออกถี่รัวจนเธอตัวโยนไปตามแรงสวาทที่เขามอบให้
“อะ อ่าส์ อ้ายยยย อะ พี่หนึ่ง อ่าส์”
เขาผ่อนแรงลงเพื่อฟังเสียงคนที่เดินผ่าน เธอยังบิดเร้าไปมามือของชายหนุ่มก็ยังปิดปากเธอไว้
“พี่ได้ยินเหมือนเสียงคนเดินผ่านห้องเรา พิมเบาเสียงลงหน่อยนะคะ”
เขาเตือนเธอให้เบาเสียงลง เธอจึงพยักหน้ารับคำแทนการตอบ
แต่เขากลับแกล้งเธอเพิ่มจังหวะซอยสะโพกเข้าออกอย่างรัวเร็ว เธอกลัวเสียงจะดังออกไปนอกห้องจึงรีบเอามือตัวเองกดปิดเสียงของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้มีเสียงร้องครางออกมา เขาเห็นสีหน้าที่ดูทรมานของเธอจึงอยากแกล้งเธอเร่งเครื่องอัดกระแทกเข้าใส่อย่างรัวเร็ว จนในที่สุดพวกเขาก็เสร็จพร้อมกันปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวเธอจนหมดตัว
“อะ อะ อ่าส์ สุดยอดเลยพิม”
เขาหอบอย่างแรงรู้สึกหมดแรงล้มนอนทับร่างของเธอไว้แน่นิ่ง ยังไม่ถอนแท่งลำออกมากดแช่ไว้อยู่แบบนั้น
“พี่หนึ่งคะ พิม”
“พี่ว่าเราขึ้นห้องกันเถอะ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าพิมจะเสียหาย”
หนึ่งรู้ว่าพิมจะพูดอะไรเขาจึงรีบชิงตัดบทพูดก่อน แล้วชักแท่งลำออกมาลุกขึ้นนั่งหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย หันกลับไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างไว
“เป็นไรคะ รีบแต่งตัวเถอะ..?”
“พิมไม่อยากให้เรื่องของเราเป็นแบบนี้นะคะ…พิมอยากบอกสอง อยากบอกคนครอบครัวของเรา”
หนึ่งรีบหันมามองหน้าเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก
“ไม่ได้นะพิม พี่บอกแล้วงัยคะ พี่ไม่อยากให้พิมเสียหาย รอพิมเรียนจบก่อนนะคะ แล้วพี่จะบอกคุณพ่อคุณแม่เรื่องของเราเอง”
“แต่กว่าพิมจะเรียนจบก็ตั้ง 4 ปี นะคะ พิมกลัวนะคะว่าพิม..”
“กลัวอะไรคะ..?”
หนึ่งมองสีหน้าเธอที่ดูไม่ดีจึงเริ่มสงสัย
“พิมกลัวท้องค่ะ เรามีอะไรกันบ่อย พิมกลัวว่าพิมจะท้อง”
หนึ่งหัวเราะในความไร้เดียงสาของเธอ
“พิมจะท้องได้ยังไงละคะ ก็ในเมื่อพิมกินยาคุมอยู่นี่ ต่อให้พี่มีอะไรกับพิมทุกวัน พิมก็ไม่มีวันท้องหรอกจ่ะ”
พิมฟังเขาแล้วนิ่งไป เขาจึงมองหน้าเธอด้วยความสงสัย
“หรือว่าพิมไม่ได้กินยาคุม..?”
เธอมองหน้าเขาอย่างกลัวๆ ไม่กล้าบอกว่าเธอกินบ้างไม่กินบ้างจึงพูดปัดไปเพื่อให้เขาสบายใจ
“เปล่าค่ะ พิมกินยาคุมทุกวันค่ะ แต่พิมแค่พูดไว้เฉยๆ”
หนึ่งรู้สึกโล่งอกมากแล้วเขาก็ดึงตัวเธอให้หันหน้ามามองเขา
“พิมฟังพี่นะคะที่พี่อยากให้เก็บเรื่องของเราไว้ก่อนเพราะพี่เป็นห่วงชื่อเสียงของอาภา แล้วก็ของพิมด้วย ลองคิดดูสิถ้าอาภารู้เรื่องของเราอาภาจะเสียใจมากแค่ไหน อาภาคงไม่พอใจพี่แล้วก็คงต้องโกรธพิมมากๆแน่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พิมเรียนจบพี่สัญญานะว่าพี่จะรีบบอกเรื่องของเราให้พ่อกับแม่แล้วก็อาภารู้ทันที…พิมเชื่อใจพี่นะคะ”
พิมมองหน้าหนึ่งนิ่งๆถึงจะรู้สึกขัดใจไปบ้างแต่เธอก็เชื่อฟังเขา แล้วก็พยักหน้ารับแทนการตอบ
“ไปเถอะ…เรารีบกลับห้องกันเถอะนะคะ”
หนึ่งช่วยพิมแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินกลับไปที่ห้องของใครของมัน