บ้านไป๋ตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของท่านนายพลหนุ่ม อันเมิ่งเหยาปลุกลูกสาวมาแต่งหน้าแต่งตัวรอ ส่วนงานในครัวให้ลูกสะใภ้เป็นคนจัดการ โชคดีที่อีกฝ่ายยอมทำตามอย่างว่าง่าย ไม่ได้แสดงท่าทีมาดมั่นใส่ตน
ไป๋ถังซานเข้ามาภายในบริเวณบ้าน ยังไม่ทันได้ลงรถก็เห็นผู้หญิงของพ่อและลูกสาวของเธอยืนคอยเช่นทุกครั้ง สีหน้าเขาไม่ได้บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร ทว่าภายในใจนั้นผู้ใดจะคาดเดาได้
ภรรยาไม่ได้มารอเขาตามที่บอก…
อารมณ์ขุ่นมัวเริ่มเกาะกุมจิตใจ หวนนึกถึงเสียงหวานของภรรยาที่ทำให้เขานอนไม่หลับจนต้องรีบกลับบ้าน
เขาลงจากรถมาด้วยความบึ้งตึง สายตากำลังมองหาร่างเล็กของภรรยา
“ท่าน…/คุณ…” สองแม่ลูกรีบทักทายเสียงหวาน
ไป๋ถังซานเตรียมจะถอยห่าง เสียงหวานคุ้นหูก็ดังมาแต่ไกล เมื่อมองไปก็พบกับร่างเล็กที่วิ่งออกมา
“สามีคะ เดินทางเหนื่อยมากไหม” หลินหลินแทรกตัวระหว่างสองแม่ลูกเข้าไปหาสามี เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนหน้า
“ไม่” เขาตอบพร้อมกับสายตาที่อ่อนโยนลง
“สามีเข้ามานั่งก่อนนะคะ หนูเตรียมน้ำไว้รอแล้ว”
คนตัวเล็กจูงสามีเข้าบ้าน ไป๋ถังซานมองมือนุ่มที่จับอย่างแปลกใจ
อันเมิ่งเซี่ยจิกตาใส่คนที่มาแย่งหน้าที่ต้อนรับของตน
“เซี่ยเซี่ยเอาน้ำมาให้ท่านนายพลสิ” อันเมิ่งเหยาหันไปสะกิดลูกสาว ตนพร้อมดันลูกสาวให้เป็นภรรยาไป๋ถังซาน
เขาไม่เพียงร่ำรวยทว่ายังเก่งกาจ อายุเพิ่งสี่สิบต้น ๆ กลับพาตัวเองมาในตำแหน่งนี้ได้
“คุณไป๋รอสักครู่นะคะ” เมื่อมีแม่คอยช่วยอันเมิ่งเซี่ยจึงมั่นใจขึ้น เธอยิ้มเหยียดใส่หลินหลิน
“ลูกสะใภ้ตั้งโต๊ะอาหารเสร็จแล้วเหรอถึงมาที่นี่ ทางนี้ไม่ต้องห่วง เมิ่งเซี่ยจะดูแลให้เอง” อันเมิ่งเหยาเผลอตัวออกคำสั่งตามความเคยชิน
หัวคิ้วดกเรียงสวยขมวด หน้าที่การตั้งโต๊ะอาหารเป็นของสาวใช้ ทำไมภรรยาเขาต้องเป็นคนเตรียม
“ฉันจะไปทำให้เสร็จค่ะ” หลินหลินก้มหน้ารับคำอย่างนอบน้อม ราวกับหวาดกลัวแม่เลี้ยงสามีเสียเต็มประดา
“งานแบบนั้นให้คนอื่นทำ เธอถือน้ำตามฉันไปบนห้อง”
เขาเผลอออกคำสั่งเสียงดัง
“แต่สาวใช้เพิ่งออกไปเหลือแค่ป้ามู่ หนูทำได้ค่ะ”
ทำตัวน่าสงสารเข้าไว้หลินหลิน สามีเธอจะได้สงสาร
ไป๋ถังซานเห็นภรรยาเอาแต่ยืนก้มหน้าก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ งานพวกนี้กล้ามาใช้ภรรยาเขาทำ ช่างไม่มีหัวคิด
“ใช้อันเมิ่งเซี่ยสิ หรือไม่คุณนายอันก็ทำเอง” คำกล่าวของไป๋ถังซานคือเป็นอันสิ้นสุด
“ค่ะ ท่านนายพล” ใบหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างดียิ้มไม่ถึงตา ปล่อยให้ชายหนุ่มเดินนำภรรยาเด็กขึ้นห้อง
อันเมิ่งเหยาเผลอกำหมัดแน่น การเรียกแบบนี้ตอกย้ำว่าตนเป็นเพียง อันเมิ่งเหยา ผู้หญิงที่พ่อของไป๋ถังซานเลี้ยงเอาไว้ ไม่ใช่ ไป๋เมิ่งเหยา คุณนายใหญ่อย่างที่ตนต้องการ เธอไม่เคยถูกยอมรับจากไป๋ถังซานเลยสักครั้ง เหอะ ทำเป็นไม่ยอมรับเธอ แต่ตัวเองก็ไปคว้าเด็กบ้านนอกมาเป็นเมีย
เขาไม่เคยนับเธอเป็นแม่เลี้ยง แต่ที่ให้อยู่ในบ้านของตระกูลไป๋ต่อเพราะเห็นแก่พ่อที่จากไปเท่านั้น
สักวันไป๋ถังซานต้องมาเป็นลูกเขยของเธอ หากวันใดหลงใหลอันเมิ่งเซี่ยขึ้นมา เธอจะเอาคืนคนหยิ่งยโสอย่างเขา….
ป้ามู่ลอบมองเจ้านายด้วยความพอใจ ท่านนายพลควรรู้เรื่องทุกอย่าง คุณนายใหญ่ไม่ควรมีอำนาจใด ๆ ในตระกูลนี้ ตนไม่เคยชอบอีกฝ่าย ครั้นจะออกตัวห้ามปรามก็ไม่สามารถทำได้ จนแล้วจนรอดก็ต้องทนก้มหน้ารับใช้
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่าแกคอยส่งเสริมให้มันแข็งข้อกับฉัน ระวังตัวกันไว้เถอะ” อันเมิ่งเหยาจิกตามองคนใช้ประจำตระกูลอย่างเกลียดชัง
ในตระกูลไม่มีใครยอมรับเธอเลย แม้กระทั่งคนใช้ ความพยายามทุกอย่างไร้ค่า ผ่านเวลามาจนตอนนี้ ไม่มีใครเห็นความดีที่เธอทำ คนที่คอยเป็นหมาเฝ้าบ้าน ดูแลตาแก่จนมันตาย อันเมิ่งเหยาเคยคิดว่าสามีจะเห็นใจยอมรับตนเป็นภรรยาแบบถูกต้องตามกฎหมาย
ทว่ากลับไม่ใช่ เขาตายจากไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้สักอย่าง เงินทองทุกหยวนยกให้ลูกชายเสียทั้งหมด ส่วนเมียที่เฝ้าดูแลไม่มีอะไรติดกายสักหยวนเดียว เท่านั้นยังรับเด็กบ้านนอกเข้ามาในบ้านอีก
ไป๋ถังซานไม่ได้รักเมียเด็กนั่น แต่รับเข้ามาเพื่อให้มีคนกดข่มไม่ให้เธอกับลูกเป็นใหญ่ในตระกูล
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรนะคะ คุณนายใหญ่เข้าใจผิด ถ้าฉันจะทำแบบนั้น ท่านนายพลรู้เรื่องทุกอย่างนานแล้ว” ป้ามู่ปฏิเสธด้วยไม่อยากมีปัญหา
คุณนายใหญ่ไม่ใช่คนดีและตัวเธอเองก็ไม่มีใครปกป้อง สิ่งไหนเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงให้ถึงที่สุด
“แกอย่าให้ฉันจับได้แล้วกัน ยังอยากมีอาชีพ อยากมีที่ซุกหัวนอน แกก็อย่าได้สอดมือมายุ่งเรื่องฉัน” อันเมิ่งเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงดุ
“ฉันจะจำไว้ค่ะ” จำไว้ว่าเคยโขกสับอย่างไร รอให้คุณนายน้อยได้เป็นใหญ่ก่อนเถอะ ท่านนายพลต้องทำอะไรบ้าง
หากไม่ติดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณท่าน ท่านนายพลไม่ปล่อยให้สองแม่ลูกนั่งเชิดหน้าชูคออยู่จนป่านนี้แน่
“รีบจัดทุกอย่างให้เสร็จ แล้วแกอย่าปากมากเรื่องอาหาร อาหารทุกจานวันนี้เซี่ยเซี่ยเป็นคนทำเท่านั้น!” หญิงวัยกลางคนกำชับ
จากนั้นก็ยืนกอดอกมองหญิงชราจัดเตรียมทุกอย่าง ป้ามู่ฮวาไม่ได้คัดค้านเพราะชินกับการเอาหน้าของสองคนแม่ลูก อีกฝ่ายไม่ได้เพิ่งเป็น แต่เป็นมาตั้งแต่สมัยคุณท่านยังมีชีวิตอยู่
อันเมิ่งเหยาเชิดหน้า สายตาจ้องไปยังชั้นบน ภายในหัวคิดหาวิธีกำจัดลูกสะใภ้ อย่างไรก็ต้องหาทางกำจัดทิ้งเสีย ตนเก็บมันไว้นานเกินควร
ผู้ชายอย่างไป๋ถังซานตายด้านเรื่องผู้หญิงก็จริง แต่จะต้านทานความอ่อนหวานเย้ายวนของเด็กได้สักกี่น้ำ เด็กบ้านนอกนี่หน้าตาดีเกินกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ อย่างไรก็ไม่ควรปล่อยไว้ เธอเห็นสายตาของไป๋ถังซานแล้วอดกังวลไม่ได้
อันเมิ่งเซี่ยเท่านั้นคือคนที่เหมาะสม…
ทุกอย่างในตระกูลนี้ควรเป็นของเธอกับลูก ไม่ถูกชุบมือเปิบไปง่าย ๆ โดยผู้หญิงไร้การศึกษาอย่างนั้น
ลูกสะใภ้อย่างนั้นเหรอ เหอะ ใครจะยอมรับนังบ้านนอกนั่นกัน