“ชาช่า...” เสียงของคาลอสแหบพร่า อารมณ์หนุ่มเดือดพล่าน เพียงเพราะมีร่างอวบอิ่มอยู่ในอ้อมกอด เนื้อตัวนุ่มนิ่มของหล่อนปลุกอารมณ์ฝ่ายต่ำของคาลอสให้ตื่นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
เรียวปากร้อนชื้นทาบทับเรียวปากอิ่มที่เผยอขึ้นมาเพื่อจะร้องห้าม เป็นจังหวะเดียวกันที่คาลอสทาบปากอุ่นร้อนลงไปลงมา เขาบดขยี้เรียวปากอิ่มอย่างสุดที่จะยั้งใจ
“อือ...อือ...” ชาครียาครางอึกอักในลำคอ เมื่อเรียวปากถูกปิดกั้นไว้จนหมด มือเรียวบางพยายามดันอกกว้างด้วยแรงน้อยนิด เธอรู้สึกเหมือนจะขาดใจ เมื่อเรียวลิ้นร้อนๆ กวาดไล้ทั่วโพรงปาก เขาหยอกเย้าลิ้นเล็กๆ ของเธอที่พยายามหนีอย่างสนุกสนาน คาลอสจูบชาครียาเหมือนจะสูบวิญญาณของเธอให้หลุดออกจากร่าง หญิงสาวตัวสั่นระรัว เหมือนนกน้อยที่พลัดตกจากรัง เธอหมดแรงเพราะถูกจูบ และมันเป็นเฟิร์สคิสจากชายหนุ่มที่ตนเองแอบหลงรัก ชาครียาพริ้มตาหลุบลง ยินยอมให้คาลอสจูบต่อโดยไม่คิดขัดขืน มือเรียวยกขึ้นยึดเสื้อบริเวณอกของเขาไว้ เธอขยุ้มจนเนื้อผ้าบริเวณนั้นยับย่น เพราะตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวานฉ่ำ
“คาร์ค...” ชาครียาละเมอ เมื่อเรียวปากอุ่นร้อนผละออกห่าง เพื่อให้สาวน้อยได้พักก่อนจะขาดใจ ทรวงอกอวบหอบโยน เธอรีบสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เปลือกตากะพริบปริบๆ เรียกสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมา พยายามทรงตัวให้ได้ ทั้งที่แข็งขาสั่นเทาและอ่อนแรง
“หึ...” เสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่มือหนาจะเชยปลายคางของเธอขึ้นมา เขาก้มลงทาบเรียวปากแกร่งลงมาอีกครั้ง คาลอสกระชับร่างอวบให้แน่นขึ้น เขาประพรมจุมพิตเรียกร้องความหวาน กวาดความละมุนละไมจากกลีบปากอ่อนนุ่ม ชายหนุ่มดื่มด่ำความหวานซ่านอย่างกระหายหิว จนเรียวปากของชาครียาเห่อช้ำ เมื่อคาลอสผละห่างออกมา
เธอเอนซบอกกว้าง เมื่อเรี่ยวแรงที่มีหดหาย ไม่มีแม้แรงจะพยุงกาย จึงจำต้องอาศัยอกกว้างพักพิงตัว ขาสั่นๆ พยายามดันตัวเองยืนขึ้น แม้จะทุลักทุเล เธออับอายเหลือเกิน อายที่ไม่ขัดขืน เมื่อโดนชายหนุ่มจู่โจมปล้นจูบ
“...” เสียงพึมพำขอตัวที่ฟังไม่ชัด ก่อนที่เธอจะสลัดตัวเองหลุดไปจากอ้อมแขนของคาลอส รีบวิ่งหนีไป มีดวงตาคมวาวมองตามอย่างหมายมาด
ชาครียาพยายามเดินให้ตรงๆ ทั้งที่แข็งขาสั่นเทา เธอหลบเข้าห้องน้ำ เพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนเข้าไปในงาน กระจกบานใหญ่สะท้อนภาพหญิงสาวที่มีดวงตาพราวระยับ สีของลิปติกที่ปากลบเลือนหายไป ริมฝีปากอิ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ เพราะถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง แก้มใสขึ้นสีโดยไม่ต้องทาบรัชออนเพิ่ม เธอยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอย่างหลงละเมอ นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปตามริมฝีปากพร้อมกับเพ้อหาใครบางคน ชาครียาสะบัดใบหน้าแรงๆ ให้ภาพของคาลอสหลุดออกไป ยกมือขึ้นตบข้างแก้มเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงไปกลับคืนมา
“ตื่นๆ ชาช่าถ้าคุณคาร์ครู้ความจริงเมื่อไหร่ เขาจะเกลียดเธอมากขึ้นกว่าเดิมอีก เธออย่าได้ฝันหวานไปเลย!!” ใช่เลย ในโลกความจริง คาลอสเกลียดเธอปานไส้เดือนกิ้งกือ เขาไม่ได้พิศวาสเธอ หากเขารู้ความจริง รอยพิศวาสนั่นจะเหลือแค่ความทรงจำ เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก
คาลอสทิ้งระยะเวลาให้ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ เขาเดินกลับเข้ามาภายในงาน ไม่วายกราดตามองหาผู้หญิงที่ทำให้หัวใจตัวเองเต้นกระหน่ำ ในที่สุดเขาก็เจอหล่อน ผู้หญิงที่หมายตายืนอยู่ในกลุ่มของมารดาจนคาลอสนึกแปลกใจ เสียงพูดคุยดังมาจากทั่วทุกทิศ จนจับใจความอะไรไม่ได้เลย เขาสาวเท้าก้าวอาดๆ เข้าไปยืนเยื้องๆ เบื้องหลังของสาวที่หมายตา
“อ้าว...มาพอดี คาร์คลูกหายไปไหนมา...ปล่อยให้มัมรอตั้งนาน”
“อยู่แถวๆ นี้ครับมัม”
คาลอสแปลกใจ ทำไมหล่อนตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงเขา แต่พวงแก้มแดงก่ำของชาครียา ทำให้เขาหมดความสนใจเรื่องอื่นๆ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก กราดมองรูปร่างเบื้องหลังของหญิงสาวที่หมายตาด้วยความรื่นรมย์
มาดามเรียซ่าโล่งอกที่คาลอสมาปรากฏตัวขึ้นเสียที แถมบุตรชายยังมีทีท่าพึงพอใจชาครียาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาผ่านไปนาน จนเริ่มหายจากการรังเกียจเดียดฉันท์กันก็เป็นไปได้
“มาก็ดี...ใครๆ ก็ถามถึงลูก...ดูซิพอยืนคู่กันอย่างนี้ดูเหมาะสมกันมากเลยมัมมองอะไรไม่เคยพลาดเลยเห็นไหมล่ะ”
“มัมหมายความว่าไงนะครับ?” คาลอสเอะใจแปลกๆ สายตาของคนรอบตัวมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว
“กลายเป็นคนเข้าใจยากไปตั้งแต่เมื่อไหร่? มัมก็หมายความอย่างที่เห็นแหละ... ลูกกับชาช่าน่ะเหมาะสมกันที่สุด”
คาลอสครางในอก เขามองผู้หญิงตรงหน้าซ้ำ ‘ชาช่า!!!ชาครียายัยแว่นนี่นะ’ เขาถลึงตาใส่ชาครียาที่ขยับไปยืนข้างมารดาของเขา พร้อมกับเสก้มหน้าหลบ
“มัมให้ชาช่าไปทำเลสิกมาน่ะ สวยขึ้นใช่ไหมล่ะ คาร์คคิดเหมือนมัมไหมลูก” มาดามเรียซาถามพร้อมกับยิ้ม
“สวย...สวยมาก…” คาลอสกัดฟันตอบ ดวงตาคมดุ จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาขึ้งโกรธ
“เห็นไหม ขนาดคาร์คยังจำหนูไม่ได้เลย มัมบอกแล้วว่าหนูสวยขึ้น ทีนี้เชื่อมัมหรือยังจ้ะ”
“ค่ะ” ชาครียากระซิบตอบเสียงแผ่วๆ ก้มหน้าหลบให้พ้นจากแววตาคมดุที่จ้องมองมาที่เธอ เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ผมมาตามที่มัมขอแล้ว...ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ กว่าจะกลับมาที่บ้านนี้อีกครั้ง...คงเป็นตอนที่ผมเรียนจบ”คาลอสกัดฟันพูด ตวัดสายตาเย็นชาไปยังชาครียา แววตาชิงชังกลับมาอยู่ในดวงตาของคาลอสอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มรู้ความจริง
คาลอสรีบร้อนผลุนผันเดินจากไป ดวงหน้าคร้ามคมเคร่งเครียดผิดกับตอนเดินเข้ามาลิบลับ ภายในใจปั่นป่วนวุ่นวาย เขากำลังสับสนจนไม่สามารถทนยืนอยู่ตรงนั้นได้ เขาจำใจเดินจากมาก่อนที่จะหลุดพิรุธจนมารดาจับได้ เขาเองเริ่มพึงใจกับชาครียาที่มารดาพยายามจะยัดเยียดให้แต่งงานด้วย
มาดามเรียซ่าส่ายหน้าน้อยๆ นางอ่อนใจเมื่อลูกชายทำเย็นชาปกปิดความรู้สึก นางอมยิ้มนึกเวทนาบุตรชายในใจ ต่อให้เขาปากแข็งไม่ยอมพูดความจริง นางเลี้ยงเขามากับมือมีหรือจะไม่รู้... ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ต่อให้พยายามปกปิดไว้ ความลับนั่นก็ผุดออกมาทางแววตา คาลอสมองชาครียาด้วยความปรารถนาตามประสายเจอเพื่อนต่างเพศที่ถูกใจ พอนางลองหยั่งเชิง...คาลอสก็รีบชิ่งหนีไปเสียก่อน เห็นทีสิ่งที่นางหวัง...คงไม่ยากอย่างที่คิด เพราะคาลอสมีทีท่าอ่อนลงไปมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว จากท่าทีขึงขังกับคำยืนกรานที่ไม่มีเปลี่ยน เป็นไม่แน่ใจและเริ่มลังเล เขาเผลอตัวสนใจหญิงสาวที่ตัวเองเคยตะโกนใส่หน้าว่ายอมตายถ้าต้องร่วมหอลงโลงกับหล่อน นางหันกลับไปมองเด็กสาวในความรับผิดชอบ ด้วยสายตาอ่อนโยน แต่สิ่งที่นางเห็น ทำให้มาดามเรียซ่าตัดสินใจฉับพลับ...เธอถอยไม่ได้ เพราะสายตาของชาครียาเศร้าจัดเมื่อมองตามหลังบุตรชายของนางไป...
“หนักแน่นไว้จ้ะชาช่า... เชื่อมัมเถอะ ซักวันคาร์คก็ต้องยอมรับใจตัวเอง” ชาครียาก้มหน้าลงเธอกะพริบเปลือกตาถี่ๆ ขับรอยน้ำตาที่เอ่อซึมขึ้นมา
“ค่ะ” เสียงกระซิบแผ่วๆ เหมือนรับรู้ แต่เปล่าเลย ชาครียากำลังเตือนตัวเอง...หากเธอไม่อยากเจ็บ ให้เก็บใจตัวเองไว้ดีๆ อย่าเผลอทิ้งเรียราดจนใครบางคนกระทืบซ้ำ
เสียงดังโครมครามเมื่อสิ่งของใกล้มือถูกขว้างปาไปกระทบกับพนังห้อง แก้วคริสตัสเนื้อดีแตกกระจาย เศษแก้วหล่นเกลื่อนพื้น ตามด้วยเสียงสบถงึมงำที่ดังออกมาจากปากสีเข้ม ภายในใจร้อนปานถูกไฟสุมเมื่อรู้สึกเสียหน้าที่แอบเผลอใจ ไปหลงชอบผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดแสนเกลียด
“ทำไม? ต้องเป็นเธอด้วยวะ!!” เสียโวยวายยังดังต่อเนื่อง จนกว่าคาลอสจะหมดแรง เขาล้มตัวลงนอนแผ่กลางห้อง ที่เต็มไปด้วยเศษแก้ว
สายตาคมดุเหม่อมองอย่างไม่มีจุดหมาย ภาพหญิงสาวที่ยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน ลอยวนเวียนอยู่รอบๆ ตัว พร้อมกับเสียงหัวเราะดังใกล้ๆ หู
‘คุณคาร์ค’ คาลอสยกมือขึ้นปิดหู หลับตาแน่น พยายามสลัดภาพชาครียาให้หลุดไปจากความคิด
“ออกไป! ฉันไม่ต้องการเธอ โธ่โว้ย” เขาผุดลุกขึ้นนั่ง ยกมือขยี้ผมตัวเองแรงๆ สะบัดศีรษะไล่ภาพของชาครียาที่ยังลอยวนเวียนอยู่ ให้หลุดออกไปจากความทรงจำ กับใจที่กำลังทุรนทุราย
ชายหนุ่มลุกเดินเวียนไป เวียนมาภายในห้อง มือใหญ่ยกขึ้นกุมศีรษะที่เริ่มปวดตุ๊บๆ เขาเดินเหมือนหนูติดจั่นที่ไม่สามารถหาทางออกให้ตัวเองได้ จึงเอาแต่ออกแรงเดินจนแข็งขาเริ่มอ่อนแรง จึงทิ้งตัวลงนั่งหมิ่นๆ ปลายเตียง