รถหรูแล่นเข้าไปในรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ตั้งแต่ประตูรั้วจะมีบอดี้การ์ดยืนคอยตรวจความปลอดภัยอยู่รอบๆ บริเวณคฤหาสน์
“ไปสงบสติอารมณ์ซะ !!” คุณป๋าพูดทิ้งท้ายก่อนที่รถยนต์ราคาแพงจะจอดสนิทตรงลานจอดรถที่มีรถจอดเรียงรายนับสิบคัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณป๋ารวยขนาดไหน
“ค่ะ” ฉันรับคำอย่างว่าง่าย
เวลาที่ฉันมีเรื่องกับใคร ทุกครั้งที่คุณป๋ารู้จะให้ฉันเข้าไปอยู่ในห้องสีเหลี่ยมที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ อยู่ภายในห้อง เป็นห้องที่ปิดตายไม่มีแม้กระทั่งบานหน้าต่าง และฉันต้องอยู่ข้างในนั้นเป็นเวลาสามชั่วโมง เพื่อสำนึกผิด กับความผิดที่ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม มันน่าตลกสิ้นดี!!
“ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเธอยังดื้อด้านอยู่แบบนี้ เธอคงรู้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนต่อ” คำพูดที่ดูเหมือนเป็นแค่คำขู่ แต่ฉันรู้ดีว่าคุณป๋าพูดจริง คุณป๋าเป็นคนเด็ดขาดในคำพูดของตัวเองมาก ซึ่งฉันก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร
“มึงลงไป” คุณป๋าสั่งให้คนขับรถลงไปจากรถก่อน ทำเหมือนว่ามีธุระสำคัญอะไรจะคุยกับฉัน
หลังจากที่คนขับรถลงไปแล้ว คุณป๋าก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ใกล้จนรับรู้ได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจ
“เวลาอยู่กับฉัน” คุณป๋าเว้นจังหวะในการพูดก่อนจะเพ่งตามองมาที่ริมฝีปากของฉัน “เธอเลิกทำตัวเหมือนหุ่นยนต์สักที !!”
“หนูลงจากรถได้หรือยังคะ ?” ฉันทำเหมือนไม่สนใจคำพูดก่อนหน้าของคุณป๋าสักเท่าไหร่
มันเป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับฉันกับคุณป๋า คำที่เรียก สถานะ มันก็แค่ในนาม พูดแค่นี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็พอจะเข้าใจใช่มั้ย
“คืนนี้ฉันมีแขก ไม่มีความจำเป็นอะไรก็ไม่ต้องออกมาเดินเพ่นพ่าน” คุณป๋าพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ
ส่วนฉันรอให้คุณป๋าเดินไปไกลๆ ก่อนถึงจะลงจากรถเดินไปยังห้องสงบสติอารมณ์ตามที่คุณป๋าสั่ง
ทุกอย่างที่เป็นอยู่ จะใช้คำว่าฉันตายด้านไปแล้วก็ได้นะ ฉันไม่เคยรู้ว่าการที่เราอยู่กับคนในครอบครัวมันเป็นความรู้สึกแบบไหน แม้แต่ความสุขมันเป็นยังไงฉันก็ไม่เคยได้สัมผัส แต่ฉันก็ไม่เคยเรียกร้อง
สามชั่วโมงผ่านไปกับการนั่งโง่ๆ อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แคบๆ เมื่อประตูถูกเปิดออกก็มีพี่กล้ามาคอยรอรับอยู่หน้าห้อง พี่กล้าคือหนึ่งในลูกน้องฝีมือดีของคุณป๋า เป็นคนที่คุณป๋าไว้ใจมากที่สุด และฉันก็ค่อนข้างจะสนิทกับพี่กล้าในระดับหนึ่ง พูดง่ายๆ คือฉันพูดกับพี่กล้าบ่อยกว่าพูดกับคุณป๋าซะอีก
“วันนี้มีแขกคนสำคัญหรอคะพี่กล้า” ฉันถามอย่างแปลกใจ เพราะเห็นว่ามีรถมาจอดที่บ้านใหญ่หลายคัน
“ครับคุณหนู ผมว่าคุณหนูรีบๆ ไปที่เรือนเล็กดีกว่าครับ เดี๋ยวนายเห็นเข้าจะเป็นเรื่องใหญ่”
“คงจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายสินะ” ฉันรู้ดีว่าคุณป๋าทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายด้วย
“อย่าไปพูดแบบนี้ให้นายได้ยินนะครับ” พี่กล้ารีบปรามฉันด้วยความเป็นห่วง เพราะถ้าคุณป๋าได้ยินฉันคงโดนทำโทษอีกแน่ๆ
พี่กล้าเดินไปส่งฉันที่เรือนเล็ก ซึ่งฉันไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ร่วมกับคุณป๋าแต่อย่างใด คุณป๋าให้ฉันแยกตัวออกมาอยู่ที่เรือนเล็กตั้งแต่ฉันยังเด็กแล้ว