ฝึกงาน ณ บ้านไร่

2697 Words
          วันนี้เป็นวันที่ผมรอคอยมาเกือบอาทิตย์  วันที่ผมจะได้ไปฝึกงานสักที ผมจัดกระเป๋าเสื้อผ้ามาไม่เยอะมาก ส่วนมากจะเป็นของฝากให้เด็กๆซะเต็มกระเป๋า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เช็คความเรียบร้อยสัมภาระอีกครั้ง และความเรียบร้อยของห้อง ก่อนจะยกกระเป๋าสะพายและปิดห้อง ลงไปหน้าคอนโดที่มีลุงขับรถจากที่บ้านมาช่วยไปส่งที่นัดหมายกับเพื่อนใหม่                ผมไปกับเพื่อนอีกหนึ่งคนแต่ผมไม่รู้จักเขามากเพราะเขาเรียนการโรงแรม ชื่อนิน เป็นผู้ชายรูปร่างผอมบางพอๆกับผม น่าจะผอมกว่าผมอีกนะ เราทำความรู้จักกันไม่ค่อยเยอะมาก เหมือนต่างฝ่ายต่างให้รู้จักแค่นี้ซะมากกว่า ผมไม่ได้ติดใจอะไร เพราะยังไงเราก็ฝึกคนละตำแหน่งอยู่แล้ว เรานัดกันออกเช้าหน่อยครับ จะได้ไปถึงไม่สายมาก เราเลือกเหมารถรับเหมา คงสะดวกกว่าเอารถไปแน่ๆ                     วิวยามใกล้เช้าทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย จุดวางสายตาคือทุกๆสิ่งภายนอกรถ วิวทิวทัศน์สลับกับบ้านเรือนป่าเขาบ่งบอกให้รู้ว่าเริ่มเข้ามาในเขตภาคเหนือแล้ว หลบหนีจากความวุ่นวายทุกอย่างไปหาความสงบ หลบหนีจากชีวิตที่ต้องดำเนินด้วยเงินไปหาชีวิตที่ต้องดำเนินด้วยใจ หลบหนีจากคนที่ต้องรอไปเป็นคนที่ถูกรักจากทุกๆคนในหมู่บ้าน มองทอดไปยังอีกฝั่งเมื่อรถชลอเจอพ่อแม่ลูกมากินข้าวร้านข้างทางกันก็เผลอยิ้มตาม ผมอาจไม่ได้ถูกกำหนดให้เกิดมาเพื่อรับความรักจากครอบครัว ผมคิดในแง่ดีเท่านั้นแหละ ยิ้มให้ตัวเองไปทีก่อนจะเหม่อมองวิวภายนอกต่อไป                       " ยินดีต้อนรับสู่ไร่วรรณกรครับ "  ผมและนินมาถึงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ พอเราลงจากรถก็มีคนมาช่วยยกของ มีผู้ชายคนหนึ่งมากล่าวต้อนรับ พร้อมช่อดอกไม้เล็กๆสองช่อ                    " ขอบคุณครับ "  ผมและนินโค้งขอบคุณก่อนจะรับช่อดอกไม้เล็กๆคนละช่อมาถือไว้                " วันนี้ให้คุณสองคนพักก่อนนะครับ พรุ่งนี้เราถึงจะเริ่มงานกัน "                " เอ่อ ผมขอไปหมู่บ้านป่าสนได้มั้ยครับ "                " เอ่อ ได้รับ เรามีจักรยานให้คนละคันนะครับ สำหรับถ้าอยากไปไหน หรือจะให้ผมไปส่งหรือเปล่าครับ " ร่างบางแปลกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะมีประโยคหลังตามมา แต่เขาก็คิดว่าคงจะห่วงว่าเขาจะหลงทางละมั้ง               " เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก "               " ยินดีครับ   "                " มึงอย่าเทคดีออกหน้าสิวะ "  สรที่เดินมาหาเพื่อนเมื่อผู้มาใหม่สองคนเดินลับไปแล้ว เอ่ยเตือนสติเพื่อนทันที                " กูลืมตัว กลัวเผลอทำให้คุณเขาลำบาก กูกลัวลูกปืนจากนาย " ธีย์เอ่ยบอกอย่างลืมตัว เพราะคิดว่าคนคนนี้ต้องสำคัญมากๆเขาถึงเผลอดูแลเป็นพิเศษ ที่จริงหน้าที่ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่เขาสักนิด แต่นายสั่งก็ต้องมา และผมก็อยากมาดูหน้าคนของบอสด้วย ส่วนสรเพื่อนผมก็แอบอยู่อีกมุมเหมือนหนีใคร สรุปคือมันเคยไปส่งคุณไวน์ กลัวความลับแตกก่อนจะเจอนายเขาซะก่อนเลยต้องหลบ                    ร่างบางเดินออกไปยังที่พักเพื่อจะเก็บของและไปยังหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมายหลักที่ทำให้เขากลับมาที่นี่ วางกระเป๋าลงก่อนจะเดินสำรวจห้องพัก ห้องพักที่เขาได้เป็นห้องมุมค่อนข้างจะไพรเวท ภายในห้องตกแต่งแบบเรียบๆสบายตา ของทุกอย่างเป็นสีขาวสลับสีเปลือกไข่ นอกนอกระเบียงเป็นวิวต้นไม้และสวนดอกไม้กว้าง รอยยิ้มเผยออกมาทันทีก่อนจะเดินไปเปิดระเบียงรับลม                "ชื่นใจ " ก่อนจะเดินมายังกระเป๋าเสื้อผ้าไม่ใหญ่มาก นั่งหยิบจับใส่ไม้แขวนเสื้อไม่นานก็จัดใส่ในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยดี จัดของใช้อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ เปิดมือถือดูนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เกือบบ่ายสามโมงแล้ว ก่อนจะเดินมาหยิบของฝากที่เขาขนมาเต็มกระเป๋าอีกใบเพื่อเด็กๆ หอบหิ้วเดินมาที่จักรยานแม่บ้านญี่ปุ่นคันสวยอยู่หน้าห้อง เอากระเป๋ามาสะพายหลังก่อนจะขึ้นควบจักรยานแล้วปั่นออกไป            ไวน์ปั่นจักรยานไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะถึงหมู่บ้านแน่นอน เพราะหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่  ปั่นไปไม่นานก็ถึงหมู่บ้าน ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเพราะผมพึ่งมาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ สวนผักยังมีผักหลากหลายชนิดสวยเต็มแปลงเหมือนเดิม คุณยายที่กำลังให้อาหารเป็ดไก่ยังเจอเช่นเดิม มองไปรอบๆเพื่อซึมซับบรรยากาศเก่าๆอีกครั้ง                โครม !! " โอ๊ย " ยังไม่ทันจะถึงที่หมาย ก็มีเด็กสักคนที่เห็นผมก่อนแล้ววิ่งพุ่งมาผมทันที ด้วยความปั่นไม่คล่องด้วยแหละจักรยานผมเลยล้มไม่เป็นท่า เข่าเนียนไหลครูดไปกับดินไม่แรงนักแต่ก็คงทำให้ปวดตัวพอสมควร  ฝ่ามือเล็กที่ค้ำลงจังหวะที่ล้มถลอกนิดหน่อย                " ว้ายยย ครูไวน์ มายังไงคะแล้วทำไมต้นถึงวิ่งใส่ครูแบบนี้ลูก "  ใครคนหนึ่งในบริเวณนั้นวิ่งมาช่วยเอาจักรยานผมขึ้นทันที ปัดดินออกจากเสื้อผ้าช่วยกัน ก่อนจะพาผมไปใส่ยาที่บ้านเขา               " ฮึก ต้นขอโทษ ต้นแค่ดีใจ "  เด็กน้อยต้นเหตุกอดแขนเขาเล่นก่อนจะร้องไห้เพราะถูกดุ ผมยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงกับเตียงแล้วดึงเขามากอด ระหว่างนั้นคุณป้าก็ทำแผลให้ผมไปด้วย            " ไม่เป็นไรแล้ว ดูสิเลือดก็ไม่มีสักหยด คุณครูยังไม่ร้องเลยทำไมต้นมาร้องแทนกันล่ะครับ โอ๋ๆ ครูกอดนะ " กอดปลอบศิษฐ์เก่าตัวน้อยที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะทำผมเจ็บ ผมกอดเขาจนหยุดร้องไห้ก่อนจะถูกต้นจูงไปยังสนามบอลเล็กๆที่มีประตูโกล์วเป็นไม้ไผ่ที่เขาเองก็มีส่วนร่วมในการทำ  มองไปยังสนามที่มีเสียงหัวเราะดังระงมกับภาพเด็กๆที่กำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่                "ครูไวน์มา !!!! " ต้นตะโกนเสียงดังลั่นจนทุกคนที่กำลังเล่นสนุกอยู่ชะงักแล้วหันขวับมาทันที                     เด็กๆ เกือบยี่สิบคนวิ่งกรูกันมาห้อมล้อมผมไว้ด้วยความดีใจ เหมือนกับตอนที่ผมมาเป็นครูจิตอาสาใหม่ๆ เด็กๆก็ดีใจแบบนี้ ผมยิ้มตาหยีก่อนจะมองไปยังครูหนุ่มหรือครูทรงเกียรติที่เดินตามเด็กๆมา                " สวัสดีครับครูหนุ่ม ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นนะเนี่ย "               " ฮ่าฮ่าน้องไวน์ สองอาทิตย์นานที่ไหนกัน แล้วมาที่นี่ทำไมครับ มหาลัยเปิดแล้วไม่ใช่หรอ "                " ผมฝึกงานหน่ะครับ คณะผมฝึกต้นปีสี่ แล้วผมก็เลือกฝึกที่ไร่ข้างๆนี่เอง ถ้ามีเวลาว่างจะได้มาช่วยครูหนุ่มสอนไงครับ "                " ไร่วรรณกรหน่ะหรอครับ "                " ใช่ครับ อ๊ะ เด็กๆ ครูเจ็บ "   ร้องเสียงหลงทันทีที่เด็กๆจับมือโดนแผลที่ล้มเมื่อกี๊นี้ แผลถลอกเริ่มห้อเลือดให้เห็น ชะงักทันทีที่ครูหนุ่มดึงมือผมไปดู มือหนาลูบวนๆข้างๆแผลเพื่อคลายความตึงให้อย่างเบามือ ก่อนจะเงยหน้าพ่นคำถามใส่ผมอย่างเป็นห่วง                " ทำไมมีแผลครับเนี่ย "                " คือผมปั่นจักรยานไม่ค่อยชำนาญครับ เลยได้แผลอย่างที่เห็น แหะๆ " เกาหัวแกร่กๆอย่างทำตัวไม่ถูก                " คราวหลังก็ระวังหน่อยสิครับ "                " รับทราบครับ" ผมตะเบะมือขึ้นทันทีจนครูหนุ่มเผลอหัวเราะออกมา เราเล่นบอลกันอยู่สักพักผมก็ต้องกลับเพราะท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ครูหนุ่มและต้นอาสาไปส่งผมโดยครูหนุ่มปั่นจักรยานผมและผมซ้อนท้ายอยู่ และอีกคันเป็นต้นที่ปั่นมาคนเดียว                " ขอบคุณที่มาส่งนะครับ ผมว่าครูกับต้นรีบกลับดีกว่า ปั่นดีๆนะครับ "                " โอเครครับ ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีนะครับ มาที่โรงเรียนเราได้ตลอด"                " ขอบคุณครับ " มองตามจักรยานที่ปั่นลับหลังไป เขาชอบความรู้สึกที่นี่ ชอบบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้ ชอบที่ผมรู้สึกว่าผมมีตัวตน เสียงผมไม่ได้เบา และคำอวยพรที่ผมไม่ต้องรอก็พร้อมจะมีคนให้ ผมยิ้มตามเรื่องที่คิดก่อนจะปั่นจักรยานเข้าไปในโซนที่พักเพื่อพพักผ่อน                " ใคร " สองเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขณะยืนมองภาพที่ใครคนหนึ่งมาส่งคนของเขา จากระเบียงสามารถมองไปยังหน้าประตูสามฝั่งที่พักพนักงานทุกคนได้โดยไม่มีอะไรบัง        .       " ครูหนุ่มครับ เป็นครูที่โรงเรียนที่คุณไวน์มาเป็นจิตอาสาครับ "   เสียงตอบกลับข้างๆดังขึ้น                " อืม "  ร่างสูงพยักหน้ารับรู้แม้สายตาจะยังคงจับจ้องรถจักรยานคันเล็กที่ร่างบางกำลังปั่นไปยังที่พักที่อยู่ลึกสุดที่เขาเป็นคนให้ลูกน้องจัดการกับมือ                " จะให้ผมกันเขาออกไหมครับนาย "                " ไม่ต้อง ไวน์ต้องมีสังคมของเขา ขอบคุณที่ช่วยดูแลเขาให้ ไปพักเถอะ "                เลขาหนุ่มโค้งให้ผู้เป็นนายก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ นึกเอ่ยชมเจ้านายกับมุมใหม่ล่าสุดที่เขาพึ่งเคยเห็น เพราะเขาเห็นแต่มุมที่เจ้านายเขาใช้กับแม่ กับลูกน้อง กับคู่ค้า และกับศัตรูเท่านั้น ซึ่งแต่ละมุมย่อมไม่เหมือนกันเป็นเรื่องปกติ เพราะอย่างนั้นเขาถึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคนเป็นนายจะแสดงความรักออกมาแบบไหน คุณสองเป็นคนที่อารมณ์ร้อนกว่าคุณหนึ่งมาก แต่เป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่และเหตุผลมากเช่นกัน ต่างจากคุณหนึ่งที่ใจเย็น ขี้เล่นบ้าง แม้เรื่องงานเขาเป็นคนค่อยข้างบ้างานทีเดียวแต่มีหลายครั้งที่คุณหนึ่งก็ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล                " ฮ๊าาา สบายตัว "  ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าหลังจากอาบน้ำกินข้าวและทำแผลให้ตัวเองเสร็จ ยกมือถือขึ้นมาเลื่อนดูอะไรไปพลางๆก่อนจะกดไปที่หน้าแชทของผู้เป็นแม่            "พรุ่งนี้ผมเริ่มฝึกงานวันแรกครับ อวยพรผมด้วยนะ " เอ่ยออกมาให้เสียงของเขาลอยล่องอยู่กลางอากาศก่อนจะสลายหายไป ไม่ได้พิมพ์ส่งไปแม้ข้อความเดียว ร่างบางพูดออกมาเบาๆก่อนจะปิดมือถือลง            "หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่ปวดตัวนะ "  บ่นกับตัวเองพลางนวดขาให้ตัวเองที่เริ่มรู้สึกปวดๆอยู่บ้าง ก่อนความเพลียจะพาสติให้เข้าสู่นิทราเพื่อเติมพลังงานไว้สู้ต่อในวันถัดไป                    ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ                ดีดตัวลุกทันทีที่เสียงนาฬิกาปลุกปลุกเขาจากห้วงความฝัน เปลือกตาที่ยังไม่เปิดขึ้นแต่มือต้องรีบยกขึ้นมานวดคลึงหัวไหล่กับสะโพกเพราะล้มเมื่อวานนี้เขาเอาแขนและเข่ารับเคราะห์                 "ปวดตัวไปหมด เฮ้อ"  นวดอีกสองสามนาทีก่อนจะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำทันที            อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็รีบปั่นจักรยานมาที่โรงแรมทันที ระหว่างปั่นจักรยานก็กินแซนวิสเป็นข้าวเช้าไปพร้อมๆกันเพื่อเซฟเวลา                " เอาหละ วันนี้เจ๊จะพาน้องไปแนะนำในครัวและบอกรายละเอียดงานนะคะ ตามมาเลยค่ะ "                " ครับ " เดินตามคุณป้าร่างท้วมเพื่อไปยังห้องครัวของโรงแรม ระหว่างทางก็เผลอมองสำรวจโรงแรมไปในตัว ตัวโรงแรมเป็นโรงแรมที่ไม่ติดหรูมาก จะมีโซนที่ต้องหรูคือห้องอาหาร ห้องนอนเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นแนวสบายตา ผ่อนคลายมากกว่า มองออกไปนอกกระจกเจอเข้ากับสวนดอกไม้อีกหลากหลายชนิด ความสวยงามของมันสามารถบำบัดได้นั่นคือสิ่งที่ผมรู้ ความสบายใจหวนเข้ามาในอก อมยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินตามเข้าไปยังห้องครัว                " ทุกคน เจ๊มาแนะนำน้องฝึกงานให้รู้จักจ้า แต่ให้เราแนะนำตัวดีกว่า "                " สวัสดีครับ ผมชื่อไวน์  นักศึกษาปีสี่มหาลัย X ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ " โค้งสวัสดีพี่ๆสองสามคนที่นั่งกันคนละทิศคนละทางให้ครบทุกคน                " ฝากใจได้มั้ยคะ " นั่น ผมโดนหยอดไปหนึ่งแมต               " เอ่อ  "                " โอ้ยพี่ล้อเล่นค่ะ อย่าทำหน้ากลัวพี่ได้มั้ย แง  "  พี่ผู้หญิงคนเดียวในห้องรีบเอ่ยบอกผมทันทีที่ผมนิ่งไป ผมหัวเราะกับท่าทางก่อนจะเอ่ยรับ            " ครับ แหะๆ "            " เอาหละๆ เชิญคุยกันนะ เจ๊จะพาน้องอีกคนไปก่อน พาน้องไปกินข้าวเที่ยงด้วยล่ะ " พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันทีคงเพราะต้องทำเวลา                    " งั้นพี่แนะนำตัวเลยนะ พี่ชื่อแนน คนนี้ชื่อพี่บาส ส่วนพี่คนนั้นเป็นหัวหน้าเชฟชื่อพี่หนึ่ง "                ผมหันขวับที่ได้ยินชื่อหนึ่ง หัวใจกระตุกเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม  มองหน้าเขาทันทีและเขาก็มองผมเช่นกัน แต่ไม่ใช่ ไม่ใช่คนที่ผมเคยเห็น ถอนหายใจด้วยความโล่งที่พึ่งเอามาแบกเมื่อกี๊ออกไปจนหมด                " มีอะไรหรือปล่าวน้อง หรือตะลึงที่พี่หล่อ " ความมั่นหน้าของพี่เขาสอดแทรกอาการตกตะลึงของผมขึ้นมาได้ เรียกสติผมให้กลับมายังปัจจุบันได้ทันท่วงที               " อ่า ปล่าวครับ ชื่อพี่คล้ายกับคนที่ผมรู้จัก "                " ชื่อผัวหรอครับ "  ผมช็อคกับคำพูดนั้นไปเลยครับ พูดไม่ออกเพราะเรื่องจริง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี               " ฮ่าฮ่า พี่ล้อเล่น ค้างเลยขอโทษๆ "                 " ครับ "  ผมยิ้มแหยๆส่งไปให้  ก่อนจะถูกพี่แนนลากไปกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหาร                " ที่จริงเราจะมีช่วงที่ต้องกินในครัวนะถ้าช่วงนั้นคนมาพักผ่อนเยอะ แต่ไร่เราเน้นส่งออกมากกว่าโรงแรม โรงแรมคุณหญิงเขาทำประกอบไร่เฉยๆ เพราะงั้นงานถึงไม่หนักมาก เราเลยสามารถมานั่งทานที่โรงอาหารได้ถ้าเบื่อฝีมือตัวเอง  แล้วก็เด็กฝึกงานจะหยุดเสาร์อาทิตย์นะ พวกพี่ก็ด้วย จะเป็นเชฟจากร้านอาหารของไร่ที่อยู่ในเมืองมาทำโอทีแทน "  พี่บาสบอกผม พลางตักข้าวคำโตๆเข้าปากไป                " เข้าใจแล้วครับ " ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วตักข้าวกินตามบ้าง                " ไวน์ กินเสร็จแล้วขึ้นไปพบผู้บริหารนะ เราพึ่งไปมา "  เป็นนินที่เดินมาบอกผมที่กำลังกินข้าวอยู่ มือเขาถือซองเอกสารคิดว่าคงได้มาจากท่านประธานละมั้ง               " อื้อ ขอบคุณนะที่มาบอก "  ผมรีบลงมือทานข้าวทันทีที่นินเดินออกไป เพราะกลัวผู้ใหญ่จะรอนาน ด้วยความที่รีบจนสำลักข้าวจนพี่ๆต้องรีบมาลูบหนักให้ผมที่หน้าดำหน้าแดงขึ้นอย่างดุๆ                          " กินช้าๆดิเฮ่ย ประธานเนี่ยผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในแปดโลกแล้ว ไม่ต้องกลัว กินให้อิ่มก่อน " เสียงพี่บาสบอกผมแกมดุเล็กน้อย ผมพยักหน้ารับก่อนจะกินอย่างระวัง พอกินเสร็จก็ปลีกตัวออกมาจากพี่ๆเพื่อไปหาเจ้าของโรงแรมทันที โดยพี่ๆช่วยบอกทางให้ก่อนแล้ว                                            สปอยเลอร์        " ท่านประธานติดธุระครับ "        " อ่า หรอครับ คือท่านเรียกผมขึ้นมาพบหนะครับ "        " อ๋อ ท่านรองตอนนี้ว่างครับ  ท่านสั่งให้ผมบอกคุณให้พบเขาสองคนแทน  เชิญครับ "        " เขาสองคน ? "                        #เอ็นจอยยยยยยยยยยยยย           
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD