คุณเคยไปทัศนศึกษารึเปล่า ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกเหมือนทัศนศึกษาอยู่ที่บ้านตัวเองเลยครับ
ด้วยความว่าในวรรณคดีกับชีวิตจริงตอนนี้ค่อนข้างมีหลายๆอย่างที่ต่างกัน ผมเลยคิดว่าจะลองเดินชมรอบวัง สอดส่องดูหน้าดูตาสมาชิกในครอบครัว พร้อมกับข้างๆตัวมีลูกยักษ์ติดสอยห้อยตามมาด้วย
พอผมเดินได้สักพักแล้วหยุดลงที่ไหนคน(?)ข้างตัวก็จะมีเสียงเจื้อยแจ้ว คุยกับผมตลอด
"พ่อทศ ดูสิตรงนั้นน้าสมนักขากับน้องกุมภกาศกำลังนั่งร้อยพวงมาลัยเลย"
"พ่อทศๆ นั่นน้องบรรลัยกัลป์ฝึกวิชาเสร็จแล้วหรือ"
"พ่อทศขอรับ บางทีลูกอยากลองมีแฝดแบบ ทศคีรีวันกับทศคีรีธร เหมือนกันนะ"
"พ่อทศ.."
มีใครเคยบอกมั้ยว่าอินทรชิตจะช่างพูดขนาดนี้
นอกจากช่างพูดแล้วยังช่างสงสัยอีกต่างหาก คุยได้เรื่อยๆถามได้ทุกอย่าง บอกเลยว่าผมพูดตามลูกไม่ทัน แล้วก็ไม่อยากพูดแทรกเจ้าเด็กที่พึ่งได้เปิดใจคุยกับพ่อตัวเองครั้งแรกด้วย
ก่อนหน้านี้ทศกัณฐ์คงปั้นหน้าโหดบอกบุญไม่รับตลอด เลยไม่มีใครกล้ามาตีสนิทกล้าเข้าใกล้เป็นแน่ ดูจากผลประกอบการก่อนหน้านี้ที่ไม่มีใครกล้ามาคุยด้วยอะนะ แต่สำหรับตอนนี้คงไม่ใช่ เพราะเราเปิดใจกันแล้ว มันเลยทำให้หลายๆคนกล้าคุยกับผมมากขึ้น
โดยเฉพาะเด็กน้อยข้างๆ
"พ่อทศขอรับ เราไปกินของหวานกันไหม"
"เอาสิ"
อินทรชิตยังคงประดับใบหน้าด้วยรอยยิ้ม น่าแปลกใจที่มันเป็นแค่ตอนอยู่กับผม เพราะขณะที่เดินผ่านข้ารับใช้หรือเจอกับคนอื่นๆเจ้าตัวก็จะเข้าโหมดอินทรชิตคนโหดลูกพ่อทศ
แต่ในสายตาผมตอนนี้หนูไม่ได้น่ากลัวเลยลูกเอ้ย
"ขนมหวานขอรับพ่อทศ"
"ขอบใจมาก"
อินทรชิตพาผมเดินรอบวังที่ถึงแม้จะยังไม่ถึงครึ่งทางแต่เราก็นับว่าเดินมาเยอะแล้ว สมกับเป็นเมืองใหญ่ กรุงลงกากว้างมาแบบที่ว่าชีวิตก่อนผมไม่มีทางซื้อวังใหญ่ขนาดนั้นได้
แต่ไม่ใช่กับชาตินี้!
เพราะตอนนี้ผมคือพญาทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกายังไงล่ะ ผมบอกเลยว่าค่อนข้างพอใจในชีวิตนี้ ถึงแม้จุดจบสุดท้ายจะลงเอยที่ความตาย แต่ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
และอีกอย่าง ถ้าผมจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องจากเดิมซะ และหลีกเลี่ยงธงหายนะให้ได้มากที่สุด จุดจบผมอาจจะยังจบสวยก็ได้
ธงหายนะที่1 การที่ทศกัณฐ์ลักพาตัวสีดา แล้วถ้าทศกัณฐ์ไม่ลักพาตัวสีดา? มันก็จะกลายเป็นว่าพระนารายน์กับพระลักษมีมาฮันนีมูนที่โลกมนุษย์เฉยๆรึเปล่า
แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน
ธงหายนะที่2 สัมนักขาหมายตาพระราม ที่สัมนักขาออกหาผัว(?)แล้วไปเจอพระรามจนลากคนอื่นไปตายนี่เพราะอะไร เพราะทศกัณฐ์ฆ่าผัวนางไปยังไงล่ะ เพราะฉนั้น เราก็แค่ไม่ต้องฆ่าผัวนางเสีย นางจะได้ไม่ไปหาผัวใหม่
สุดยอดจริงๆ
คิดได้แบบนั้นผมก็ยกยิ้มอย่างพอใจ เพราะธงหายนะใหญ่ๆดูเหมือนจะมีทางแก้ไม่ยากนัก แล้วธงแห่งสันติภาพและความสงบสุขของผมก็จะอยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่นี่ก็เป็นแค่ที่ผมคิดไว้คร่าวๆ เน้นคร่าวๆ เพราะแน่นอนว่าชีวิตจริงมันไม่ง่าย จะต้องมีแผนสองแผนสามเตรียมไว้ เอาเป็นว่าค่อยคิดทีหลัง
ผมขอเอาตัวเองตอนนี้ให้รอดก่อน
"พ่อทศ พ่อทศขอรับ พ่อทศเป็นอะไรไป"
อินทรชิตโบกไม้โบกมือผ่านหน้าผม จนทำให้ผมหลุดจากผวังค์ พอหันไปมองคนที่นั่งจกของหวานอยู่ตรงข้ามเจ้าตัวก็เลิกคิ้วทำหน้างงใส่
น่าเอ็นดูอีกแล้ว
"พ่อมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย แต่เจ้ามิต้องคิดมาก"
"เรื่องอะไรรึขอรับ เรื่องการเมืองหรือ ให้ลูกช่วยแบ่งเบาดีหรือไม่ขอรับ"
"อินทรชิตลูกพ่อ เจ้าใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าต้องการเถิด เจ้ายังหนุ่มยังแน่น ใยต้องรีบจับงานบ้านงานเมืองนัก"
"ลูกอยากช่วยพ่อทศขอรับ" อินทรชิตยิ้มให้อย่างน่าเอ็นดู พลันใจผมก็กระตุกวูบ
ชาติที่แล้วยังไม่ทันมีเมียด้วยซ้ำแต่ชาตินี้ดันมีลูกออกมาน่ารักขนาดนี้แล้ว
ไอ่ทศมึงส่งลูกมึงไปตายได้ไง!!
ในต้นฉบับตอนที่มีศึกกรุงลงกา อินทรชิตก็เป็นหนึ่งในตัวละครยักษ์ ที่ยกทัพไปตีกับทัพพระราม แม้จะเป็นลูกที่เก่งที่สุดและฝีมือดีมาก อีกทั้งยังต้านทัพพระรามได้อย่างสูสี แต่สุดท้ายด้วยพลังแห่งพระเอกอินทรชิตก็ต้องสิ้นชีพกลางสนามรบ และถวายวิญญาณให้ความเห็นแก่ตัวของทศกัณฐ์
คิดแล้วแค้น อยากจับมันมากจิกหัว
แต่ลืมไปว่าจิกหัวตัวเองไม่ได้
ว่าแล้วก็หันมองลูกน้อยแสนน่าเอ็นดูที่นั่งจกขนมชมวิวหน้าระรื่น เห้อ ผมบอกเลยนะว่าจะไม่มีทางส่งลูกไปเจอพวกพระเอกอีกแน่ๆถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถึงอย่างนั้นถ้าเป็นไปได้ผมก็จะขอตายแทนดีกว่า
หรือนี่จะเป็นหัวใจของคนเป็นพ่อ แม้ผมจะเข้าร่างทศกัณฐ์ได้ไม่นานนัก แต่ยังไงร่างนี้ใจนี้ก็ของทศกัณฐ์(แม้ใจจะไม่ได้อยู่กับตัวแต่มันคือการเปรียบเปรยถึงความรู้สึกก็เถอะ) ตามจริงทศกัณฐ์ก็รักลูกไม่ได้อยากส่งลูกไปตายหรอก
ขนาดตอนที่รู้ว่าอินทรชิตตายก็แทบจะพุ่งไปฆ่าสีดาอยู่แล้ว มันก็ยังทำให้รู้ว่าทศกัณฐ์แกรักลูกมากกกว่าสาวซะอีก
ไวกว่าความคิดจู่ๆมือผมก็ถูกยกไปวางทาบบนหัวเด็กน้อยตรงหน้า อินทรชิตดูจะงงๆไปบ้างแต่ก็ยิ้มรับแล้วอยู่นิ่งๆให้ผมลูบหัวแต่โดยดี
เห้อ น่ารักจนใจเจ็บ เก็บกลับบ้านได้มั้ย
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก รู้ตัวอีกทีผมก็มาสถิตในร่างทศกัณฐ์ได้เป็นเดือนๆแล้ว ถึงตอนแรกจะคิดว่ามันไม่เหมือนฝัน แต่บางครั้งผมก็คาดหวังว่าตัวเองจะตื่นขึ้นมาเหมือนกัน
ก็ในโลกนี้ไม่ใช่โลกของผมนี่นา ร่างนี้ผมก็ไม่ได้เป็นเจ้าของด้วย
แต่สุดท้ายแม้ว่าผมจะหลับตาลงสักกี่ครั้งลืมตาขึ้นสักกี่หน ตอนนี้ผมก็ยังคงอยู่ในร่างของยักษ์ทศกัณฐ์เจ้าแห่งกรุงลงกาอยู่เช่นเคย
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมนั่งบนแท่นสูง ณ ห้องโถง ในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์เราจะมีการประชุดจัดการงานบ้านงานเมือง ตอนแรกผมค่อนข้างล่กเพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่จุดนี้ แต่โชคยังดีที่มีพิเภกกับอินทรชิตคอยช่วยเหลืออยู่
ส่วนใหญ่เวลามีคนถามอะไรผมก็จะค่อนข้างนิ่งเงียบแล้วเบี่ยงให้อินทรชิตช่วยตอบแทน แต่นั่นก็ไม่ได้มีใครว่าอะไรหรือเอะใจอะไรสักนิด เพราะเขาคิดว่าผมอยากให้ลูกเรียนรู้งาน อีกทั้งยังถือเป็นการให้อินทรชิตทำความคุ้นเคยกับงานอีกด้วย
แต่ละคนเป็นตุเป็นตะมาก แต่ขอบใจ
รายงานต่างๆของกรุงลงกาค่อนข้างไปได้ดี อาจจะเพราะก่อนหน้านี้ทศกัณฐ์คนเก่าบริหารไว้ได้อยู่ในระดับมาตรฐานอยู่แล้ว ประชาชนอยู่ดีมีกิน มีการขายส่งสินค้าและรับสินค้าเข้ามาจากเมืองยักษ์เมืองอื่นๆ จัดว่าทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีจริงๆ
แต่มันยังมีจุดที่ผมไม่พอใจอยู่บ้าง อย่างการที่ให้ผู้ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือถ้าไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือกระทั่งเรื่องการขายทาส พอผมเริ่มหารือเรื่องพวกนี้หลายๆคนก็ดูจะแปลกใจ บ้างก็มีการตอบรับในทางที่ดี บ้างก็มีการคัดค้าน
ที่ผมเสนอไปก็จะมีให้ผู้หญิงสามารถเรียนหนังสือ ทำธุรกิจและตั้งตัวขึ้นมาได้ เพื่อให้ประเทศของเราพัฒนาขึ้นไป ให้ยักษ์ทุกตัวสามารถลืมตาอ้าปากหายใจด้วยตัวเองได้ มีหลายคนที่สนใจนโยบายนี้ และมีหลายคนที่คัดค้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนเพราะงั้นเราคงต้องคุยกันระยะยาว
ส่วนเรื่องทาสผมค่อนข้างไม่โอเค แต่เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก คงจะยากที่จะตัดสินในเร็ววัน เพราะแต่ก่อนแต่เดิมทาสก็มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และบางทีทาสก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ แต่ว่าถ้าเราให้ทาสมีอิสระแต่ก็ยังมีอาชีพเป็นของตัวเอง จากทาสที่ต้องขึ้นตรงต่อคนผู้เดียวทำงานถวายหัว เปลี่ยนเป็นคนรับใช้ที่เลือกจะทำงานกับเจ้านายได้แบบนี้ก็ไม่แย่
No monney no work นะจ๊ะ
(ไม่มีเงินไม่มีงาน หมายถึงว่าถ้าไม่ให้เงินมาก็จะไม่ทำงานให้)
เนื่องด้วยทาสสมัยนี้ทำงานแบบค่าแรงต่ำมาก ส่วนใหญ่จะทำงานจากที่ว่าทาสในเรือนมีทายาทมีลูก ลูกก็ต้องมาเป็นทาสต่อรับใช้ต่อ เงินก็ได้ไม่มากอย่างมากก็ข้าวสองสามมื้อแล้วก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำถวายชีวิต
มันค่อนข้างไม่ยุติธรรม และผมจะต้องเปลี่ยนระบบพวกนี้ให้ได้
ด้วยจริตคนยุคใหม่ที่มาจากบ้านเมืองที่พัฒนาแล้ว ผมคิดว่าการที่ตัวเองเอาแนวคิดของยุคตัวเองมาใช้มันคงทำให้กรุงลงกาอัพเกรดขึ้นมาไม่มากก็น้อย
แม้ประเทศที่ผมอยู่มันจะดูพัฒนาถอยหลังก็เถอะ
"พ่อทศ นโยบายที่ท่านเสนอน่าสนใจมาก ท่านคิดได้ยังไงกัน"
หลังจากจบประชุม ผมกับอินทรชิตก็มานั่งคุยกันต่อ อีกฝ่ายดูจะสนใจเรื่องการเมืองการปกครองและอยากแบ่งเบาภาระผมไปมาก ส่วนผมก็ยินดี ให้อินทรชิตได้ทั้งเรียนรู้และเก็บประสบการณ์เพื่อจะเป็นเจ้ากรุงลงกาในอนาคต
"พ่อลองคิดถึงความสงบสุขและความยุติธรรมเป็นหลัก พ่ออยากให้ทุกคนเท่าเทียมและมีสิทธิ์ในการใช้ชีวิตของตัวเอง"
"ลูกคงต้องเอาอย่างท่านพ่อบ้างแล้ว ท่านพ่อสอนลูกบ้างได้หรือไม่ขอรับ"
เด็กยักษ์ของผมดูกระตือรือร้นและสนใจแนวคิดนี้มาก ในตามีประกายวิ๊งๆ หางทิพย์ส่ายไปมาดุ๊กดิ๊กอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
"สอนน่ะสอนได้ แต่ทัศนคติและความคิดของคนเรามันไม่สามารถคิดแบบเดียวกกันได้จริงๆ เรื่องนี้ลูกต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้ว"
"ได้เลยขอรับพ่อทศ"
ได้ยินคำตอบลูกแบบนั้นผมก็เลยพูดขยายความเกี่ยวกับการหารือในวันนี้ต่อให้ลูกฟัง อย่างน้อยผมก็อยากจะปลูกฝังลูกน้อยที่ตะเป็นใหญ่ในอนาคตให้มีความคิดและทัศนคติที่ดี
จะได้ไม่ทิ้งประเทศไปมีความสุขอยู่กับเมียมากมายแล้วให้คนในสภาโง่ๆบริหารประเทศ (เอ๊ะ)
ผมกำลังหมายถึงกรุงลงกา กรุงลงกาจริงๆy-y
"จริงสิ อินทรชิตลูกพ่อ พ่อจะบอกอะไรไว้ให้อย่าง"
"ขอรับ?"
"อย่าเอาอย่างพ่อนะลูก เรื่องเมียน่ะ"
"..?"
"พ่อกำลังหมายถึง แม้ว่ากษัตริย์หรือผู้ชายหลายคนจะสามารถมีเมียได้หลายคนก็จริง แต่ลูกก็มิควรละเลยคนที่ลูกรัก ลูกเห็นอย่าง องค์อิศวร องค์นารายน์ที่แม้จะมีสนมเป็นร้อยพัน แต่ก็ยังรักมั่นในมเหสีหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้มเหสีที่ลูกเลือกพ่ออยากให้ลูกเลือกคนที่ลูกรักด้วยใจจริงๆ"
อินทรชิตยังคงฟังอย่างตั่งใจ นั่งนิ่งตาใส พยักหน้าหงึกๆ พร้อมรับฟังทุกอย่างจากผู้เป็นพ่อ
เห็นแบบนี้แล้วก็ชื่นใจจริงๆ
"จิตใจคนนั้นแสนบอบบางนัก ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ถ้ามีคนที่สามขึ้นมานั่นไม่ใช่ความรักแล้ว แม้ว่าจะเป็นความลุ่มหลงมัวเมาใดๆก็ตาม แต่ลูกมิควรทิ้งคนรักของตัวเองไว้ข้างหลังหนา"
"เช่นนั้นแล้วพ่อทศมีคนที่รักหรือไม่ขอรับ หนึ่งในมเหสี มีคนที่ท่านพ่อรักหรือไม่ ตอบลูกตามตรงได้เลยลูกไม่โกรธ"
ผมมองเจ้าเด็กตาใสที่พูดออกมาอย่างซื่อตรง อินทรชิตแม้จะอายุไม่น้อย อีกทั้งยังเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถออกเรือนไปได้แล้ว แต่ตอนที่อยู่กับพ่อเด็กคนนี้ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่ดี
โอ้ย เจ็บท้องคลอดดด
ทศกัณฐ์เป็นยักษ์เจ้าลงกาที่มีเมียหลวงถึง4คนด้วยกันเท่าที่จำได้ นางมณโฑ นางกาลอัคคี นางช้าง นางปลา แต่ไม่ยักกะมีคนไหนที่รักเป็นพิเศษ ก็มีแต่ความชอบความลุ่มหลงในความงาม
ถ้าจะให้ตอบควรจะตอบมุมมองผมดีมั้ย ก็ผมไม่ได้รักใครคนไหนเลยนี่นา
"พ่อมิมีคนที่รัก"
"เป็นเช่นนี้นี่เอง"
"พ่อรู้ว่าเจ้าโตจนดูแลรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว แต่อินทรชิตลูกรัก"
"ขอรับ"
"ถ้าลูกไปทำใครเขาท้องลูกต้องรับผิดชอบเขาด้วยหนา อย่าสักแต่ทำเพื่อสนองตัณหาจะทำอะไรก็ต้องคิดเยอะๆ"
"เข้าใจแล้วขอรับ!"
เยี่ยมจริงๆลูกพ่อ พ่อจะสั่งสอนเจ้าให้เป็นคนดี
ไม่เอาอย่างกษัตริย์บางประเทศ!
อิมเมจอินทรชิต:
ฮั๊บอุนพ่อ!
จังหวะนี้มีแต่ความน่ารักน่าเอ็นดูลอยฟุ้งไปหมด เห็นอินทรชิตแล้วเจ็บท้องคลอด โอ๊ยยลูกก
ฝากอุนแม่เอ็นดูหลานเค้าหน่อยนะคะ หลานเราอยู่ในวัยกำลังโตกำลังน่ารัก
ส่วนพระเอก เอ่อ...รายนั้นค่าตัวแพงมากค่ะ
ไม่รู้ครึ่งเรื่องผ่านไปจะโผล่มามั้ย?
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
#พระรามหลงยักษ์
เห็นชื่อแท็กมั้ย จะหลงยังไงไปรอดู
นามปากกา72HZS เจ็ดสิบสองเฮิร์ท
*ขออภัยยังไม่ได้แก้คำผิด อาจจะมีคำผิดบ้างสะกดไม่ถูกบ้างต้องขออภัยจริงๆนะคะ เตือนเค้าได้แจ้งเค้าได้ค่ะ เค้ารับฟัง*^*
ปล.ส่วนใหญ่นี่จะลงนิยายใน raw มากกว่า ใครอยากอ่านแบบเรียลไทม์ไปหาอ่านที่rawได้นะ