บทที่ 4 ตอนที่ 1

2309 Words
"อืม..." เสียงทุ้มครางฮือในลำคอ แขนใหญ่กระชับร่างน้อยซึ่งนอนหันหลังให้เข้าหาตัวตามความเคยชิน ซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอกรุ่นในขณะที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ แค่เพิ่งจะมีสติตื่นจากฝันอันหอมหวานของค่ำคืนที่ผ่านมาเท่านั้น สัญชาตญาณบางอย่างเมื่อฝังจมูกจงบนผิวเนื้อคอนุ่มมันสะกิดใจเขา                 ชายหนุ่มลืมตาโพลง! กระชากแขนร่างที่นอนหลับสนิทให้หันหน้าเข้าหาโดยไม่รีรอเมื่อกลิ่นหอมละมุนนั้นมันไม่คุ้นเคยสำหรับเขา คนตัวเล็กที่ยังอยู่ในนิทราลึกล้ำตกใจตื่นทันควัน ดวงตาที่บวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักเมื่อคืนเบิกมองผู้ชายผิวเข้มตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ค่อนแค่นไปทางหวาดกลัวสับสน                 "เนื้อทอง..." อัศเวทย์ครางชื่อนั้นด้วยหัวใจที่หล่นวูบกองแทบพื้น ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างแม้จะเมาแทบควานก็ตาม ทว่าความสุขสมมันยังอิ่มอุ่นอยู่ในตัวไม่ได้สร่างซา                 "นะ...นาย..." เนื้อทองเรียกขานผู้มีประคุณและเป็นสามีของหญิงสาวที่หล่อนนับถือเสมือนพี่สาวในสายเลือด ลำดับเหตุการณ์อย่างรวบรัดแล้วน้ำตาก็ไหลบ่าโดยไม่ต้องบีบคั้นอารมณ์                 "ออกไป!!!"                 "กรี๊ด!" ตุบ! ร่างเล็กถูกผลักตามแรงเดือดดาลของบุรุษเพศลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นห้องทั้งที่มีผ้านวมพันอยู่แบบทันควัน หล่อนหันมองผู้กระทำที่สลัดศีรษะไปมาอย่างครุ่นคิดและเครียดจัด ตัวหล่อนเองก็ไม่ต่างจากเขานัก คร่ำเคร่งแต่จะหาคำตอบว่า ทำไม...มันเกิดอะไรขึ้น...                 "พี่หม่อน...ฮือๆ พี่หม่อน..." เสียงแหบโหยเพรียกหานายสาว หวังให้เข้ามาเจรจาและบอกกับหล่อนว่ามันไม่ได้เป็นความจริง หล่อนแค่ถูกแกล้งให้ตกใจเล่นเท่านั้น                 แต่แล้ว...ความร้าวรานที่ร่างกายประท้วงก็เป็นคำตอบให้แทนทุกๆ คำถามที่ผุดพรายขึ้นในใจ รอยราคีสีชาดที่แห้งติดผ้าห่มรวมถึงกระจายเป็นหย่อมๆ เป็นหลักฐานยืนยันกับทั้งคู่ว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เด็กสาวพยายามขยับลุกหวังพาร่างออกไปจากห้องนี้ก่อนที่อัศเวทย์จะมีสติหันมาเห็นว่าหล่อนยังคงอยู่ในรัศมีสายตาของเขา ไม่เช่นนั้นแล้วไม่อาจคาดเดาเลยว่าจะถูกทัณฑ์ใดโหมกระหน่ำเข้ามาอีก                 แต่ความเจ็บปวดและร้าวระบมก็กัดกินไปทั้งสรรพางค์ทำให้ลำบากเหลือแสนแม้เพียงคิดจะกระดิกตัว มือเล็กรวบผ้านวมสีขาวสะอาดกดแนบหน้าอกไว้แน่น น้ำตาหยดเผาะลงพื้นด้วยความอดสูในใจ                 "กูบอกให้ออกไป!! ออกไปสิ อยากตายรึไง!!"                 โครม!! สิ้นเสียงตวาดฟาดงวงฟาดงา ข้าวของที่อยู่ใกล้มือยักษ์มารก็ปลิวว่อนมาทางหล่อนจนหล่นกระแทกพื้นบ้างผนังบ้าง เนื้อทองรีบพยุงร่างบอบช้ำที่แม้แต่กระดิกยังเจ็บแสนลุกยืนขาสั่นอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะลากพาตัวเองออกไปจากห้องทั้งที่มีแค่ผ้าห่มนวมพันกาย                     ปัง!! หล่อนยังได้ยินเสียงปาข้าวของมาโดนประตูซึ่งกำลังปิดสนิทแบบฉิวเฉียด หวุดหวิดจะโดนเธอเอาง่ายๆ หากช้ากว่านี้แม่เพียงเสี้ยวหนึ่งวินาที                 "เนื้อทอง! เนื้อทองเป็นยังไงบ้าง โธ่..." เสียงฟักแฟงเข้ามาถึงตัวพอดีในขณะที่หล่อนหันมองด้วยใบหน้าเปื้อนความทุกข์และหยาดน้ำตา                 "พี่ฟักแฟง ฮือๆ เนื้อทองไม่รู้ เนื้อทองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่หม่อนอยู่ไหน..." เนื้อทองโหยไห้อย่างน่าสงสาร พานทำให้ฟักแฟงเสียน้ำตาไปด้วย                 "ไปหาเสื้อผ้าใส่ก่อนเถอะเนื้อทอง ค่อยว่ากัน..."                 "ฮือๆ พี่ฟักแฟง...เนื้อทองไม่รู้จริงๆ นะพี่ พี่เชื่อเนื้อทองนะ"                 "จ้ะๆ พี่เชื่อ ไปเถอะเนื้อทอง เดี๋ยวนายออกมาเรายังอยู่ตรงนี้จะเป็นเรื่องอีก" ฟักแฟงรับเข้าไปพยุงร่างโรยแรงหวังพาไปให้พ้นเสียจากที่นั่น หล่อนรู้ดีใจของอัศเวทย์ยามนี้คงไม่ได้ต่างจากปีศาจสางสักเท่าไหร่ เขาสามารถขย้ำขยี้เนื้อทองให้ตายคามือไปเลยก็เป็นได้หากยังขืนชักช้าอยู่ในรัศมีบริเวณนี้                 กริ๊ก!! "หม่อน!!" ร่างใหญ่ผลุนผลันออกมาจากห้องในสภาพกางเกงขาขั้นและเสื้อยืดสีขาว ใบหน้าขึงเข้มเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว สองสาวชะงักตัวสั่น ดวงตาแข็งกร้าวของอัศเวทย์สาดซัดมายังเนื้อทองจนหล่อนตัวงอสั่นเทิ้ม                 "หม่อนไปไหน!! ทำไมผู้หญิงคนนี้มาอยู่ในห้องฉัน!!" ชายหนุ่มตวาดลั่นถามฟักแฟงซึ่งอึกอักตอบไปไม่เต็มเสียงเช่นกัน                 "คุณหม่อน...คุณหม่อน..."                 "หูแตกหรือไง ถามว่าหม่อนไปไหน!!!" ร่างใหญ่รุกคืบเข้าหาด้วยโทสะล้นเหลือ จนฟักแฟงละล่ำละลักคว้าตัวเนื้อทองไว้แน่นด้วยกลัวผู้เป็นนายจะฟาดฟันลงทัณฑ์เอาอีก                 "คุณหม่อนอยู่โรงพยาบาลค่ะ ฮือๆ คุณหม่อน..."                 "เกิดอะไรขึ้นฟักแฟง บอกมา!!" หัวใจแข็งแกร่งดุจหินผาไหวยวบเหมือนสนต้องลมหนาว  ดวงตาที่วาวโรจน์ก่อนหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์สุดห่วงหวงแหนเมียสาว                 "คุณหม่อนอาการกำเริบ...เพิ่งส่งโรงบาลเมื่อเช้านี้เองค่ะ ตอนนี้น้านวลกับพี่เพิกดูแลอยู่" ฟักแฟงไม่ได้กล้าสบตาเจ้านายหนุ่มนักในขณะกล่าวบอก รู้ตัวอีกทีก็พบว่าเขาประชิดมาถึงตัวพวกหล่อนเสียแล้ว มือใหญ่แข็งกระด้างกำจับแขนเล็กของเนื้อทองจนเกร็งเห็นเส้นเลือดปูดโปน กระชากเข้าหาตัวด้วยแรงดุจช้างสารจนแม้แต่ฟักแฟงซึ่งประคองเนื้อทองอยู่ยังถลาตามไปด้วย                 "รู้เห็นเป็นใจกันหมดเลยใช่ไหม!! ถ้าหม่อนเป็นอะไรไปกูจะสะสางไม่ให้เหลือเลยสักคน!!!" เขาตะคอกใส่หน้าและเดินย่างสามขุมจากไปด้วยความรีบเร่งสุดฝีเท้า                 "โอ๊ย!" ร่างเล็กถูกผลักรุนแรงโชคดีที่ได้ฟักแฟงช่วยพยุงไม่เช่นนั้นคงได้ไปนอนกระแทกพื้นเสียอีกรอบเป็นแน่แท้                 "พี่หม่อนเป็นอะไรคะ เกิดอะไรขึ้น เพราะเนื้อทองใช่ไหม ฮือๆ..." เนื้อทองไม่ได้ห่วงตัวเองสักนิดเมื่อรู้ว่าพี่สาวต่างสายเลือดที่หล่อนนับถือนั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งสาเหตุนั้นอาจมาจากหล่อน...                 "ใจเย็นๆ นะเนื้อทอง ไปอาบน้ำหาเสื้อผ้าใส่ก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน"                 "เนื้อทองอยากไปหาพี่หม่อน เนื้อทองอยากขอโทษ...เนื้อทองไม่ได้ตั้งใจ ฮือๆ"                 "ไปตอนนี้นายคงฆ่าเนื้อทองตายคาโรงพยาบาลแน่ๆ เชื่อพี่เถอะนะคุณหม่อนน่ะเข้าใจเนื้อทองดี เชื่อพี่..." ฟักแฟงไม่ได้แถลงความจนกระจ่างมากนัก ด้วยฐานะหล่อนก็ยังสั่นคลอนในยามนี้ หวิดจะถูกกระทืบตามไปด้วยคนหรือเปล่ายังไม่รู้ ในใจคงได้แต่ภาวนาขอให้กันหาปลอดภัย และกลับมาอธิบายทุกอย่างให้อัศเวทย์รู้ด้วยตัวเอง                 เนื้อทองอ่อนใจ...เห็นสมเหตุสมผลอย่างที่ฟักแฟงบอก หล่อนมืดแปดด้าน ไม่รู้จะหันไปทางไหนดี ไม่เคยนึกฝันเลยว่าเพียงชั่วข้ามคืน ชีวิต...จะพลิกผันไปได้ถึงเพียงนี้                   ร่างใหญ่เดินอาดเข้าภายในตัวอาคารของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังประจำจังหวัดทันทีที่กระโดดลงจากรถซึ่งขับมาด้วยตัวเองด้วยความเร่งรีบ หัวใจเขาหลุดปลิวหล่นหายครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะก้าวถึงห้องไอซียูซึ่งภรรยาของเขาพักรักษาตัวอยู่                 กันหาทรุดลงกะทันหันเช่นนี้เขาเชื่อเหลือเกินว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง...                 "หม่อน..."                 "คุณแทน...มา มาแล้วเหรอคะ" น้านวลแม่บ้านเก่าแก่หันมองตามเสียงเรียกชื่อคนป่วยด้วยใบหน้าซีดเซียว ดวงตาบอบช้ำบอกให้รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก                 "หม่อน..." อัศเวทย์ไม่ได้ตอบกลับมุ่งหน้าเดินไปเกาะขอบเตียงซึ่งกันหานอนหายใจรวยริน มีหน้ากากออกซิเจนครอบจมูกเอาไว้ช่วยในการหายใจ มีสายน้ำเกลือและสายยางอื่นๆ ที่เขาไม่รู้จักโยงระยางรอบๆ เตียง พร้อมเครื่องมือที่ส่งสัญญาณดังเป็นระยะๆ มองแล้วหัวใจก็ยิ่งหดหู่                 "พี่...แทน..." หล่อนยังมีสติดี...ปรือตามองสามีที่รักแล้วแค่นยิ้มให้ ในขณะที่เขารวบสองมือเล็กไปกุมจับและจูบอย่างรักใคร่                 "หม่อนต้องไม่เป็นอะไรนะ...หม่อนต้องอยู่กับพี่นะ" น้ำตาลูกผู้ชายร่วงเผาะลงบนหลังมือซีดเย็น ราวกับจะจับสัญญาณชีพของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี                 "คุณหม่อนรอคุณแทนค่ะ..." จู่ๆ น้านวลก็เอ่ยเสียงแผ่วแล้วก็ตามด้วยการสะอื้นเบาๆ แหละหันหน้าไปทางอื่น ไม่ให้คนเจ็บได้เห็นถึงความเศร้าสร้อยนั้น นายเพิกคนขับรถของไร่เข้าไปประคองผู้สูงวัยด้วยความเป็นห่วง สีหน้านั้นต่างก็สลดหมองหม่นไม่ต่างกัน                 "หม่อนรีบๆ หายนะจ้ะพี่จะพาหม่อนกลับบ้าน"                 "พี่...แทน..." เสียงแผ่วของกันหากระท่อนกระแท่นเต็มที หล่อนพยายามคุยกับเขาแต่มีเครื่องให้ออกซิเจนครอบอยู่จึงไม่ถนัดนัก มือเล็กควานสะเปะสะปะปัดป่ายมันออกจากหน้าท่ามกลางความเห็นห่วงของอัศเวทย์ เขาจับมันหวังจะนำกลับไปที่เดิม แต่กันหาส่ายหน้าห้ามเอาไว้                 "พี่จะเรียกหมอ หม่อนไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น"                 "พี่แทน...พอค่ะ..." เสียงแหบแผ่วหวิวห้ามพร้อมหลับตาส่ายหน้าอีกครั้ง หายใจหอบนิดๆ กลืนน้ำลายและจ้องมองเขาที่แววตาระรื้นสั่นริก                 "หม่อนฝาก เนื้อทอง..."                 "หยุดพูดเถอะ!" ชายหนุ่มกัดฟันกรอดทันทีที่ชื่อนั้นแว่วเข้าหู กันหาห่วงเด็กคนนั้นยิ่งเสียกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก แต่ดูความบัดสีที่เกิดขึ้นสิ...มันเป็นความจงใจชัดๆ แล้วเขาจะข่มอารมณ์มองหน้าหล่อนได้ไหวหรือ                 "ไม่ค่ะ...พี่แทน รับปาก...ดูแลเนื้อทอง" น้ำตาร่วงเผาะเมื่อได้เอื้อนเอ่ยออกมาแต่ละคำ กันหาเจ็บจุกและรู้ดีว่าไม่ไหวแล้วสำหรับการฝืนตัวเอง ก่อนหน้าที่อัศเวทย์จะมาคุณหมอก็ยังบอกให้เร่งผ่าตัดด่วนเพราะเชื้อร้ายได้ลามไปอุดทางเดินหายใจ และหล่อนยังมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอีกด้วย และถึงแม้จะได้รับการผ่าตัดโอกาสจะรอดนั้นก็มีแต่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ และไม่มีทางได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้อีก หล่อนอาจต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หรือไม่ก็เป็นมนุษย์ผักไปเลยก็ได้                 ซึ่งกันหา...ไม่ต้องการ หล่อนฝืนทนต่อโรคร้ายนี้มานานหลายปี รักษาจนเหนื่อยและยอมใจที่จะพามันไปสู่สุขติพร้อมๆ กันเสียที จึงไม่ขอรับการรักษาใดๆ ปล่อยทุกอย่างไปตามครรลองของกรรม                 เพราะจริงๆ แล้วหล่อนก็หยุดการรับการรักษาจากหมอมานานหลายเดือน คงประคองอาการด้วยการกินยาที่มีอยู่เท่านั้น...                 "หม่อนห่วงพี่แทน...กับเนื้อทองที่สุด...อย่าทิ้ง น้อง นะคะ..." เสียงกระท่อนกระแท่นยังสั่งเสียไปขาดปาก มือเล็กกำมือใหญ่ของอัศเวทย์ไว้แน่นเมื่อเขาพยายามดึงออกและกดออดเรียกหมอกับพยาบาล น้านวลกับนายเพิกนั้นรีบปลีกตัวออกไปนอกห้องด้วยอยากให้ทั้งคู่ได้มีเวลาเป็นส่วนตัวครั้งสุดท้าย                 "หม่อน...มันเกิดอะไรขึ้นทำไมหม่อนเป็นหนักขนาดนี้" ชายหนุ่มคร่ำครวญ นึกตำหนิตัวเองที่ไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่หล่อนนัก มัวแต่หักโหมงานหนักเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ในใจ โดยลืมไปว่า...มันไม่มีทางหายไปได้กับหยาดเหงื่อแรงกายหรอก โรคร้ายยังคงสิงสู่กันหาตราบเท่าทุกวันจนหล่อนกำลังจะพ่ายแพ้ให้แก่มันแล้วในวันนี้เอง                 "พี่แทน...อย่าลืม เนื้อทอง..." ในคำสั่งเสียนั้นกันหายังนึกห่วงความเป็นอยู่ของเด็กสาวในอุปการะด้วยหลังจากเกิดเหตุเมื่อคืนเพราะความจงใจของเธอ แต่ครั้นจะอธิบายก็ยืดยาวกลัวจะไม่ได้ฝากฝังความกังวลหนึ่งเดียวที่มีอยู่                  "สัญญา...สัญญากับหม่อน...ไม่ทิ้งเนื้อทอง แค่กๆๆ..."                  "หม่อน! หม่อน! พอแล้วไม่ต้องพูดแล้วพี่สัญญา พี่สัญญาหม่อน หยุดพูดเถอะพี่จะตามหมอให้" อัศเวทย์พยุงร่างที่ไอหนักจนกระเพิ่มไหวไปทั้งตัว มองเห็นเลือดกระเซ็นออกจากปากเธอแล้วก็ให้นึกกลัวจับใจ มือคว้าจับสายสัญญาณเรียกเจ้าหน้าที่แล้วกดปุ่มทันทีในขณะที่ร่างของกันหาอยู่ในอ้อมแขนและเขากอดหล่อนไว้เสียแน่                     "ถ้าพี่แทน ไม่ ทำตาม สัญญา หม่อน...หม่อนตาย ตาไม่หลับ..." หล่อนยังมีห่วงผูกพันอยู่กับเรื่องเรื่องเดียวนี้ เพราะหากไม่ใช้ช่วงลมหายใจสุดท้ายนี้ปกป้องเนื้อทองเอาไว้ แน่ใจเหลือเกินว่าเด็กสาวคงถูกเล่นงานสาหัสเป็นแน่ เผลอๆ อัศเวทย์จะไล่ไม่มีที่ซุกหัวนอนเอาง่ายๆ                 ใจนึงแม้จะรู้ว่าทำผิด...แต่หล่อนก็ไม่มีทางเลือกมากนักจึงได้นึกถึงวิธีพิเรนทร์เช่นนี้ได้ในเวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต เพื่อให้คนที่รักทั้งสองได้ดูแลกันและกัน แทนหล่อน...                  "หม่อน! หม่อน!..." อัศเวทย์ตะโกนเรียก หล่อนไม่พูดแล้ว...ดวงตาลอยเคว้งแต่ยังเหยียดริมฝีปากยิ้มให้เขา กันหาเหลือแรงเพียงใช้หายใจเบาๆ กับการจ้องมองคนที่เธอรักสุดหัวใจ น้ำตา...ไหลรินไปถึงขมับเปียกปอนปอยผมสีดำขำ หล่อนกะพริบตาปิดอีกครั้ง...และไม่ลืมตื่นขึ้นมาอีกเลย...                  "หม่อน!!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD