หวังว่าเจ้าจะคิดให้รอบคอบ

1582 Words
ม่อเฉิงพิจารณาใบหน้านวลเนียนของศิษย์น้องคนนี้อีกครั้ง เขาพบว่านางโตขึ้นมาก และไม่มีเค้าโครงใบหน้าของเด็กสาวดังเช่นแต่ก่อน แววตาที่มองมาของนางแสดงออกอย่างไม่ปิดบังว่าชื่นชมเขามาก "ตอนนี้เย็นมากแล้ว...ข้าจะพาเจ้าไปซื้อไก่ย่างที่ตีนเขา" ลู่เจินไม่ปฏิเสธเพราะว่าหากนางเดินลงไปซื้อด้วยตัวเอง ก็คงจะค่ำมืดมากเต็มที "พี่สาวไก่ย่างสองน่อง แบบไม่ใส่น้ำผึ้งนะเจ้าคะ" ลู่เจินหยิบหินวิญญาณออกมาและนับไปให้แม่ค้าสี่ก้อน "เจ้าไม่ต้องซื้อเผื่อข้า"ม่อเฉิงรีบบอกนาง ลู่เจินให้มายิ้มแห้งให้เขา "ข้าซื้อกินเองเจ้าค่ะ เพราะน่องเดียวไม่อิ่ม" เมื่อได้ยินเช่นนั้นม่อเฉิงจึงไม่พูดอะไรอีก เขายืนมองนางเจรจาซื้อขายไก่ย่างกับแม่ค้าแล้วก็รู้สึกว่าตนเองคิดถูกที่เลือกนาง การร่วมบำเพ็ญคู่ในครั้งนี้นอกจากจะช่วยเขาบรรเทาพิษแห่งไฟ นางก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นผลดีต่อพวกเขาทั้งคู่ ช่วงนี้ความร้อนที่สะสมในการของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เตียงหยกเย็นไม่สามารถบรรเทาความร้อนได้อีกต่อไป เมื่อเช้านี้เขาต้องไปที่สระหิมะด้านหลังสุสานและแช่ตัวอยู่ในนั้นเป็นเวลานานถึงจะพอฝืนผ่านมันไปได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการยื่นข้อเสนอให้นางโดยเร็วที่สุด เพื่อที่ตอนพิษแห่งไฟกำเริบในครั้งหน้าตนเองจะได้ไม่ต้องทรมานอีก ม่อเฉิงมีความมั่นใจแปดในสิบส่วนว่าอีกฝ่ายจะต้องยินยอมในเรื่องนี้แน่ ประการแรกในโลกของผู้ฝึกฝนนั้นคนอ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่งกว่า นางเป็นสตรีที่อยู่เพียงคนเดียวไม่แน่ว่าในอนาคตอาจถูกรังแกได้ การมีเขาคอยเป็นที่พึ่งรู้สึกปลอดภัยมากกว่า ประการที่สองม่อเฉิงดูออกว่านางพึงพอใจในรูปร่างหน้าตาของเขามาก ชายหนุ่มคาดเดาว่านางจะต้องไม่ปฏิเสธมาร่วมเป็นคู่ร่วมบำเพ็ญกับเขาแน่นอน เมื่อเข้านี้ม่อเฉิงตั้งใจมาหานาง แต่เห็นว่าหญิงสาวเข้าไปในเขาวงกต เขารออยู่นานจนนางออกมาก็เห็นว่าอีกฝ่ายวิ่งไล่ตามบุรุษคนหนึ่งออกไป ชายหนุ่มคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ช่วยเหลือนาง เขาจึงจับบุรุษผู้นั้นไปมอบให้ศิษย์น้องเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนาง ม่อเฉิงส่งลู่เจินกลับกระท่อมและพูดกับนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูใจดี "วันนี้เจ้าพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเก็บสมุนไพร" พูดจบเขายังมอบยันต์ส่งเสียงของตนเองไว้ให้นางอีกด้วย "หากมีเรื่องเร่งด่วน…เจ้าสามารถใช้ยันต์ส่งเสียงนี้เรียกข้าให้มาหาได้" ลู่เจินรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับตั้งแต่นางเข้าสู่โลกของการบำเพ็ญ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนปฏิบัติกับนางอย่างห่วงใยเช่นนี้ หญิงสาวจับยันต์ส่งเสียงที่อีกฝ่ายให้มาแน่น "ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ" ทันทีที่ม่อเฉิงเห็นท่าทางของนาง เขาก็รู้ว่าแผนของเขาน่าจะประสบความสำเร็จ "ที่อยู่ของเจ้าไม่ปลอดภัยนัก ข้าจะวางร่ายอาคมเอาไว้เพื่อป้องกันคนที่คิดร้ายและให้คนอื่นรู้ว่าเจ้าคือคนที่ข้าคอยคุ้มครอง" ถึงอย่างไรศิษย์น้องคนนี้ก็เป็นสตรีที่อาศัยอยู่คนเดียว ต่อไปนางก็จะกลายเป็นของเขา ดังนั้นการปกป้องนางจึงเป็นสิ่งที่เขาทำสมควรทำ ........... วันรุ่งขึ้นเขาไปหาลู่เจินตั้งแต่เช้า และบอกว่าวันนี้จะพานางเขาจะพานางไปเที่ยวรอบๆ "วันนี้ข้าพาเจ้าไปเก็บดอกปราณพิสุทธิ์" ลู่เจินได้ยินแล้วก็ตาโต ดอกปราณพิสุทธิ์เพียงแค่ดอกเดียวก็สามารถขายได้หินวิญญาณถึงห้าร้อยก้อนแล้ว หญิงสาวยิ่งซาบซึ้งในความมีน้ำใจของศิษย์พี่ยิ่งนัก ชายหนุ่มพานางขึ้นกระบี่มุ่งตรงไปหลังสุสานที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง ที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยดอกปรานพิสุทธิ์มากมาย "ข้าสามารถเก็บดอกปรานพิสุทธ์ไปได้จริงๆ หรือเจ้าคะ" "ดอกไม้ชนิดนี้ล้วนขึ้นอยู่ทั่วไป ผู้ฝึกตนที่ไม่ได้ฝึกวิชากระบี่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้ ส่วนพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจจะเก็บไปขาย" ม่อเฉิงตอบด้วยใบหน้านิ่งๆ เพราะพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ฝึกวิชากระบี่ด้วยกันต่างมุ่งมั่นในการฝึกบำเพ็ญละทิ้งทางโลก ราวกับนักพรตที่ตัดซึ่งกิเลสทั้งปวง แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็มีให้เห็นนอกจากจะไม่ได้บรรลุขั้นไปเป็นเซียนอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ กลับต้องตายไปก่อนเสียอย่างนั้น ลู่เจินรีบเดินเข้าไปเก็บอย่างดีใจ แต่นางไม่ได้โลภมาก เพียงเก็บมาแค่สิบต้นเท่านั้น ด้วยหินวิญญาณห้าพันก้อนก็เพียงพอให้นางใช้ได้ไปเกือบทั้งปีแล้ว หลังจากเอาดอกปราณพิสุทธิ์ไปขาย กระเป๋าจัดเก็บของนางเต็มไปด้วยหินวิญญาณ หญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจที่เวลาต่อจากนี้จะไม่ลำบากเรื่องเงินที่จะซื้อของกินแล้ว นางมองศิษย์พี่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วก็คิดว่าตนเองดูจะเอาเปรียบอีกฝ่ายมากเกินไป ดังนั้นหญิงสาวจึงพูดขึ้นมาว่า "ศิษย์พี่ต่อไปนี้หากท่านมีอะไรจะให้ข้าช่วยเหลือท่านบอกมาได้เลย" ม่อเฉิงหยุดชะงัก เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพูดข้อเสนอของตนเองขึ้นมาโดยไม่อ้อมค้อม "ความจริงข้ามีเรื่องบางอย่างที่เวลานี้....มีเพียงศิษย์น้องคนเดียวที่สามารถช่วยข้าได้" เมื่อได้ยินว่านางคือคนเดียวที่สามารถช่วยเขาได้หญิงสาวก็ดีใจมาก "ศิษย์พี่อย่าได้เกรงใจ ท่านรีบบอกข้ามา หากว่าข้าช่วยได้ก็จะช่วยอย่างเต็มที่แน่นอน" ม่อเฉิงเองก็ไม่ได้อ้อมค้อมเขาพูดเรื่องที่ต้องการอย่างตรงประเด็น "ข้าอยากจะขอให้ศิษย์น้องมาร่วมบำเพ็ญคู่กับข้า" อะไรนะ! บำเพ็ญคู่! ลู่เจินคิดว่าตนเองหูฝาด ถึงแม้ว่านางจะไม่ค่อยฉลาดนักแต่เรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญคู่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นความต้องการระหว่างคู่รัก แต่นางกับศิษย์พี่ไม่ได้เป็นคู่รักกันเสียหน่อย อีกอย่างเขาคือผู้บำเพ็ญที่ระดับพลังสูงขนาดนั้น เหตุใดถึงได้มาขอให้คนที่พลังบำเพ็ญต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนางเป็นคู่ร่วมบำเพ็ญกันเล่า ม่อเฉิงรีบอธิบายถึงสถานการณ์อันนี้ยากลำบากที่ตนเองต้องพบเจอให้นางฟัง เพราะกลัวว่าปลาตัวน้อยที่เขาพึ่งล่อลวงมาได้อาจจะว่ายน้ำหนีไป "หากว่าข้าไม่อาจหาสตรีมาช่วยคลายพิษความร้อนจากไฟ... ร่างกายอาจจะแตกสลายจนกลายเป็นหนึ่งในกระบี่ที่อยู่ตรงสุสานนั่นก็ได้" เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีดเผือด เขาก็พูดโน้มน้าวต่อไป "ศิษย์น้อง…การร่วมบำเพ็ญคู่ครั้งนี้นอกจากเจ้าจะได้ช่วยข้าแล้ว พลังหยางของข้าก็ยังช่วยเพิ่มระดับบำเพ็ญให้เจ้าได้" ลู่เจินได้ฟังก็คิดตาม ตอนนี้ระดับการบำเพ็ญของนางยังอยู่ที่ผู้ฝึกตนระดับเจ็ด ซึ่งพัฒนาได้ช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันมาก หากวิธีนี้สามารถเพิ่มระดับการบำเพ็ญให้นางได้ มันก็คุ้มค่าที่จะลอง แต่เรื่องใหญ่อย่างการฝึกบำเพ็ญคู่นี้ นางยังต้องคิดคำนวณข้อดีข้อเสียให้รอบคอบเสียก่อน "ศิษย์พี่…ท่านไม่มีทางอื่นในการระบายพิษไฟเลยหรือ" ม่อเฉิงส่ายหน้า น้ำเสียงของเขาค่อนข้างเศร้าสร้อย "หากมีทางเลือกอื่นข้าคงไม่เอ่ยขอร้องเจ้าอย่างไร้ยางอายเช่นนี้…ถ้าหากว่าศิษย์น้องลำบากใจ…ข้าเกรงว่าครั้งหน้าเมื่อพิษไฟกำเริบ ร่างของข้าคงจะถูกเผาจนกลายเป็นกระบี่ที่อยู่ในสุสาน หากต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ ข้าหวังว่าในอนาคตหวังว่าศิษย์น้องคงจะมาเซ่นไหว้เผากระดาษเงินกระดาษทองให้ข้าบ้าง" ลู่เจินได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็รู้สึกสงสาร นางพิจารณารูปร่างหน้าตาของศิษย์พี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาหล่อเหลาสง่างามมากถึงเพียงนี้ หากต้องกลายเป็นกระบี่ที่อยู่ในสุสานไปจริงๆ ก็คงน่าเสียดายแย่ "ศิษย์พี่…ข้าขอเวลาคิดเรื่องนี้ได้หรือไม่" "กี่วัน" ม่อเฉิงรีบถาม ลู่เจินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า "สัก…ห้าวัน" ม่อเฉิงส่ายหน้า "สองวัน… ข้าจะกลับมาขอคำตอบจากเจ้าในอีกสองวัน!" ในอีกสองวันข้างหน้า พิษไฟจะกำเริบอีกครั้งและเขาก็ไม่อยากทรมานอีกแล้ว "ข้าหวังว่าศิษย์น้องจะคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ" ชายหนุ่มจ้องมองนางด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนจะขอตัวจากไป ????เรื่องนี้ไรท์จะลองเขียนพระเอกชั่วดูนะคะ (แต่ว่าไม่มีนอกกายนอกใจจ้าาาา) หากทำอะไรที่ไม่ถูกใจ นักอ่านทุกท่านโปรดด่าพระเอกได้เลยค่ะ อย่าด่าไรท์ก็พอ5555 ????
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD