bc

ขอโทษที…ศิษย์น้องผู้นี้เป็นของข้า!

book_age18+
161
FOLLOW
1K
READ
HE
time-travel
kickass heroine
blue collar
drama
bxg
brilliant
campus
secrets
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

ลู่เจินสาวน้อยที่ระดับฝึกตนค่อนข้างต่ำ นางเดินทางมายังหุบเขาไป๋หูเพื่อลองเสี่ยงดวง แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับศิษย์พี่จากสำนักศึกษาเก่า เมื่ออีกฝ่ายยื่นข้อเสนอสุดเร่าร้อนมาให้นางจึงตอบตกลงโดยไม่ลังเล

chap-preview
Free preview
พบคนรู้จัก
ระดับขั้นพลังปราณ 1 ผู้ฝึกตน ระดับ 1-10 (ช่วงแรกนางเอกอยู่ขั้นนี้) 2 ก่อตั้งรากฐาน 3 หลอมรวม (ช่วงแรกพระเอกอยู่ขั้นนี้) 4 ก่อกำเนิด ระดับต้น กลาง สูง 5 ขั้นจอมยุทธ์ ระดับต้น กลาง สูง 6 ขั้นปรมาจารย์ 7 ขั้นจักรพรรดิ 8 เซียน ????ใส่ไว้เพื่อให้ไม่งง แต่ไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ค่ะ เน้นฉากเลิฟซีนซีน 555???? ตอนที่ 1 พบคนรู้จัก เทือกเขาสูงเต็มไปด้วยป่าอันเขียวขจี ผู้คนเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าหุบเขาไป๋หู ลู่เจินคือหญิงสาวที่ต้องการบำเพ็ญตนเป็นเซียน แต่ระดับพลังของนางนั้นยังคงต่ำมาก ปีนี้นางมีอายุได้สิบแปดปีแล้วแต่ระดับบำเพ็ญยังคงอยู่ที่ผู้ฝึกตนระดับเจ็ด ไม่มีความก้าวหน้าขึ้นเลย ระหว่างทางนั่งได้ยินผู้ฝึกตนคนอื่นๆ พูดกันว่าหุบเขาไป๋หูเป็นสถานที่วิเศษ คือสวรรค์สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญ ภายในหุบเขามีสมุนไพรเพิ่มระดับการบำเพ็ญ อีกทั้งยังมีเขาวงกตที่เปิดให้ผู้ฝึกตนเข้าไปเก็บเกี่ยวพลังประสบการณ์ นอกจากนั้นยังมีสุสานดาบที่มีกลิ่นอายเซียนของบรรดาผู้ฝึกตนรุ่นก่อนๆ หากใครสามารถฝึกฝนวิชาดาบได้ก็จะช่วยเพิ่มระดับพลังบำเพ็ญให้แก่ตนเอง เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสนใจมาก และคิดว่าจะเดินทางไปลองเสี่ยงดวงดูบ้าง เนื่องจากเป็นผู้ฝึกตนอยู่ในระดับเจ็ด ลู่เจินจึงไม่มีความสามารถในการขี่กระบี่เดินเหินอยู่บนอากาศ นางใช้วิธีเดินเท้าไปเรื่อยๆ ใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนก็เดินทางมาถึงหุบเขาไป๋หู หญิงสาวแบกตระกร้าที่ด้านหลังใส่แมวน้อยที่ชื่อเสี่ยวซีเอาไว้ เจ้าแมวน้อยตัวนี้เป็นแมวจรจัดที่กำลังถูกชายขี้เมาไล่ตี นางจึงเก็บมันมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงประจำตัว และดูเหมือนว่าลู่เจินจะโชคดียิ่งนักที่เจ้าแมวน้อยตนนี้กินพืชเป็นอาหาร ดังนั้นส่วนใหญ่นางจึงใช้หญ้าวิเศษเลี้ยงมันทุกวัน ลู่เจินเงยหน้าขึ้นมองยอดเขาที่อยู่ไม่ไกล หนทางต่อจากนี้ค่อนข้างชัน นางจึงหักกิ่งไม้แถวๆ ข้างทางมาช่วยพยุงตัวเองให้เดินขึ้นไปด้านบนอย่างช้าๆ เดินไปสักพักแมวน้อยที่ขดตัวอยู่แต่ในตะกร้าเวลานี้ก็ค่อยๆ ยืดหัวออกมาดูสถานที่รอบๆ ก่อนจะส่งเสียงร้อง "ม่าวม่าว" ให้กับนาง "อีกไม่นานก็จะถึงแล้ว เสี่ยวซีทนร้อนหน่อยนะ" ลู่เจินเอียงหน้าไปบอกเจ้าแมวน้อย หลังจากก้มหน้าก้มตาเดินอย่างแข็งขัน ยิ่งใกล้ถึงยอดเขามากเท่าไหร่ ลู่เจินก็รู้สึกว่ามีขุมพลังงานหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ และนางก็พบว่ามีผู้คนอาศัยอยู่บริเวณนี้ค่อนข้างมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมเลยทีเดียว เมื่อคนอื่นๆ เห็นลู่เจินเดินเข้ามาในบริเวณหมู่บ้านพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในทุกวันจะมีกลุ่มผู้ฝึกตนคนใหม่ๆ ขึ้นมานับไม่ถ้วน ลู่เจินถามหญิงชรานางหนึ่งถึงโรงเตี๊ยมที่พักชั่วคราว "แม่หนู…ในหมู่บ้านของเราไม่มีโรงเตี๊ยมอย่างที่เจ้าว่าหรอก แต่มีบ้านเก่าๆ ไร้คนอยู่อาศัยมากทีเดียว เจ้าก็ไปเลือกเอาเถิดว่าจะอยู่หลังไหน" เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวก็เดินเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ และพบว่ามีกระท่อมร้างอยู่หลายแห่ง ที่ไร้คนอยู่อาศัย ผู้คนที่มาฝึกตนหากอยู่ในระดับต่ำจะอาศัยอยู่ในกระท่อมพวกนี้ แต่ถ้ามีระดับพลังสูงพวกเขาจะขึ้นไปบนยอดเขาสูงสุดเพื่อหาถ้ำประจำตัวของตนเองได้ ลู่เจินเลือกกระท่อมที่ดูค่อนข้างใหม่หลังหนึ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แน่นอนว่าภายนอกมันดูค่อนข้างใหม่แต่ภายในเต็มไปด้วยฝุ่น หญิงสาวร่ายคาถาขจัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดอย่างง่ายๆ ภายในห้องนอกจากเตียงไม้ที่ไม่มีฟูก ก็มีโต๊ะและเก้าอี้เพียงสองตัวเท่านั้น ไม่มีเครื่องเรือนอื่นใดในบ้านอีก แต่หญิงสาวคิดว่าสภาพห้องเช่นนี้ช่างดียิ่งนัก ต่อไปนางก็ไม่ต้องตากแดด ตากฝนระหกระเหินเร่ร่อนอยู่ที่ภายนอกอีก นางรีบวางตระกร้าที่แบกแมวน้อยลง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกและเขียนยันต์ติดประตูเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของบ้านทันที หลังจากนั้นลู่เจินก็เดินไปที่ครัวหลังบ้าน ตักน้ำในบ่อขึ้นมาต้มเพื่อเตรียมอาบน้ำ แม้ว่าหญิงสาวจะรู้คาถาชำระร่างกายแต่นางคิดว่าการได้อาบน้ำจริงๆ นั้นมันให้ความรู้สึกที่สะอาดกว่า ในระหว่างรอน้ำเดือดนางก็หยิบหญ้าวิเศษมาป้อนอาหารให้กับเสี่ยวซี หลังจากจัดการทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้ว ลู่เจินก็เริ่มคิดว่าตอนนี้ตนเองต้องหารายได้เข้ากระเป๋าเสียก่อน เนื่องจากหินวิญญาณที่ติดตัวอยู่นั้นมีจำนวนลดน้อยลงมากแล้ว โชคดีที่หุบเขาไป๋หูมีผู้ฝึกตนเดินทางเข้ามามากมาย พวกเขาหลายคนมุ่งมั่นในการฝึกฝน และต้องการใช้สมุนไพรจำนวนมาก ลู่เจินจึงใช้โอกาสนี้ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรวบรวมสมุนไพรวิเศษนำลงมาขายที่ด้านล่าง นางอุ้มแมวน้อยใส่ตะกร้าและแบกมันขึ้นเขาไปด้วยกัน หุบเขาไป๋หูมีสภาพแวดล้อมคล้ายกับอยู่ในฤดูฝนตลอดเวลา ทั่วทั้งป่าเขียวชะอุ่มเต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้มากมาย ลู่เจินเคยดูแลแปลงสมุนไพรในสำนักศึกษา ดังนั้นจึงเป็นงานง่ายสำหรับนางที่จะแยกชนิดของสมุนไพรวิเศษออกจากสมุนไพรธรรมดา หญิงสาวใช้พลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยเพื่อตรวจหาหญ้าวิญญาณ และลงมือขุดมันอย่างระมัดระวังเพื่อรักษารากแก้วให้สมบูรณ์มากที่สุด แมวตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ กลิ้งไปมาบนพื้นเล่นด้วยท่าทางมีความสุข บางครั้งก็ใช้ปากแทะหญ้าวิญญาณที่อยู่ใกล้ๆ ลักษณะของหญ้าวิญญาณนั้นคล้ายกับหญ้าสงบจิตแต่ว่าคุณสมบัติของหญ้าทั้งสองชนิดนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ลู่เจินจึงต้องตรวจตราดูอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ขุดหญ้าผิดชนิดขึ้นมา ใช้เวลาสักพักตระกร้าของนางก็เต็มไปด้วยหญ้าวิญญาณ นางหันไปเรียกแมวน้อยที่วิ่งอยู่ไม่ไกล "เสี่ยวซี กลับบ้านกันเถอะ" แมวตัวน้อยกระโดดขึ้นมาเกาะเอวของนางและค่อยๆ ไต่ขึ้นมาบนไหล่อย่างเชื่อฟัง หนึ่งคนหนึ่งแมวพากันเดินลงมาที่แผงขายยาในหมู่บ้าน และพบว่าหน้าแผงเต็มไปด้วยผู้คนเช่นกัน ซึ่งพวกเขาก็มาทั้งซื้อยาและขายสมุนไพรวิเศษ ลู่เจินต่อแถวจนมาถึงลำดับของนาง ชายชราที่รับผิดชอบในการซื้อขายก็ใช้เวลาอยู่ชั่วครู่ในการตรวจดูต้นหญ้าในตะกร้า "หญ้าวิญญาณของเจ้ามียอดอยู่ไม่ถึงเก้าใบ ที่รากยังมีโคลนติดอยู่บ้าง ครั้งหน้าเจ้าควรเก็บอย่างรอบคอบมากกว่านี้" "เจ้าค่ะ" ลู่เจินรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว ชายชราเห็นว่านางพึ่งมาขายหญ้าวิญญาณเป็นครั้งแรกเขาจึงไม่ตำหนิอะไรมาก ให้เด็กชายที่อยู่ด้านข้างมอบหินวิญญาณให้แก่นาง ลู่เจินหยิบขึ้นมาดูและพบว่ามีหินวิญญาณทั้งหมดสองร้อยก้อน นางไม่เคยมีหินวิญญาณมากขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวเดินกลับบ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและวางแผนจะซื้อไก่ย่างมาสักตัวเพื่อบำรุงร่างกายเสียหน่อย อีกทั้งนางยังคิดที่จะซื้อน้ำค้างเซียนระดับต่ำให้แก่เจ้าแมวน้อยอีกด้วย เผื่อว่าในอนาคตเจ้าแมวตัวน้อยอาจจะเปิดระดับสติปัญญาจนสามารถกลายเป็นสัตว์วิเศษและพูดคุยกับนางได้ แต่ก่อนที่นางจะไปถึงร้านไก่ย่างระหว่างทางก็ถูกลมแรงพัดมาจนทำให้ร่างกายล้มคว่ำลงเสียก่อน "อ้ายยยย!!" ลู่เจินเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าและเห็นว่ามีเงาของคนขี่กระบี่บินผ่านมา ด้วยความโกรธนางจึงตะโกนด่าอีกฝ่ายไป "เจ้าไม่มีตาหรือ!" ในตอนที่ม่อเฉิงกำลังจะบินกลับเข้าถ้ำของตนเอง เขารู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกพิษความร้อนเล่นงาน ดูท่าว่าวันที่พิษแห่งไฟกำเริบใกล้จะเข้ามาถึงอีกแล้ว ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ก็บังเอิญควบกระบี่บินลงต่ำ และความแรงของลมได้ทำให้คนด้านล่างล้มคว่ำลงกับพื้น ม่อเฉิงรีบหันกระบี่กลับทันทีและกล่าวขอโทษอีกฝ่าย "ขออภัยด้วย" คำพูดขอโทษดังขึ้นเหนือศีรษะของนาง และน้ำเสียงของอีกฝ่ายก็ฟังดูคุ้นเคยมาก ลู่เจินกำลังจะต่อว่าเขา แต่ดวงตาของหญิงสาวก็เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า "ศิษย์พี่ม่อ!" คนที่มากลายเป็นศิษย์พี่ที่เคยร่ำเรียนอยู่สำนักศึกษาเดียวกันกับตน!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook