เราสองคนมาถึงคอนโดแล้ว ที่นี่เป็นคอนโดของฉันเอง หลังจากที่เราทะเลาะกันบนรถฉันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเพราะไม่อยากทะเลาะด้วย ฉันเหนื่อย ฉันเบื่อ เบื่อที่ต้องมานั่งทะเลาะอะไรแบบนี้ ฉันเคยโทรปรึกษาแม่ของวาคีนนะคะ เรื่องที่วาคีนเริ่มมีคนอื่นแล้วแม่เขาก็มักจะชอบพูดกับฉันว่า
'ผู้ชายก็แบบนี้'
บ้างก็พูดว่า
'ที่นี่ก็เป็นแบบนี้ สังคมรอบตัวเป็นแบบนี้ ถ้าเฟิร์นไม่อยากมีแฟนที่เป็นแบบนี้ เฟิร์นต้องไปคบกับคนต่างชาติ เพราะคนต่างชาติเขาไม่เป็นแบบนี้กัน'
ฉันเองก็อึ้งไปเหมือนกันนะคะที่แม่เขาตอบมาแบบนี้แรกๆ ก็ดีกับฉันทำเหมือนกับว่ารักฉันเหมือนลูกหลาน แต่ตอนนี้ความคิดฉันเปลี่ยนแล้วค่ะ แม่ของเขาน่าจะเป็นประเภทลูกแม่เป็นคนดี
"อ่ะ! เจ็บนะ"
"ถึงแล้ว จะนั่งอีกนานไหม" วาคีนเดินมาเปิดประตูรถให้ฉันแล้วกระชากแขนของฉันลงไป เขาจูงมือฉันเดินเข้าไปในห้องพัก และทันทีที่ประตูเปิดออกเขาก็เงียบใส่ฉัน ไม่พูดกับฉัน ทำเอาฉันถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเพราะความอึดอัด
ฉันตัดสินใจเดินไปอาบน้ำ แล้วทำความสะอาดห้องพักเล็กๆ น้อยๆ ไม่นานนักวาคีนก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เขาเอาโทรศัพท์มือถือเข้าไปด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอาโทรศัพท์มือถือเข้าไป และภายในห้องน้ำก็เงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงน้ำไหล
หัวใจของฉันมันเต้นแรงอีกแล้ว ราวกับว่าในห้องน้ำนั้นน่าจะมีอะไรที่ฉันไม่รู้ ฉันทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ เสร็จ ก็มานั่งลงที่โซฟาแล้วดูโทรทัศน์อย่างใจไม่เป็นสุขนัก ครั้งนี้วาคีนอาบน้ำนานมาก เรียกว่ามากกว่าครึ่งชั่วโมงเสียอีก ฉันเองก็แอบหวั่นใจแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการเงียบและทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่สนใจ
แกร๊ก!
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับวาคีนที่ดูอารมณ์ดีกว่าเดิม เขาเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาอีกครั้งในชุดอยู่บ้าน นั่นคือใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นที่ใส่สบายๆ เดินมาถึงก็นั่งลงซ้อนหลังฉันวางโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงแล้วคว่ำหน้าจอเอาไว้ ฉันเหลือบตามองนะคะเขาคว่ำหน้าจอจริงๆ ฉันชักจะสงสัยว่าในโทรศัพท์นั่นมีอะไรหรือเปล่า
ฉันกับวาคีนเราคบกันมาตั้งแต่มอ.5 มอ.4 เทอมหนึ่งเราเป็นเพื่อนกัน พอเข้าเทอมสองวาคีนก็ลงทุนจีบฉันตลอดทั้งเทอมจนมาถึงเราขึ้นมอ.5 ช่วงต้นเทอมแรกเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ฉันก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้เขาบ้างแล้ว และเราเริ่มมาคบกันจริงจังก็ตอนช่วงสอบมิดเทอมของเทอมแรก
"ขอโทษ~"
วาคีนโอบกอดเอวของฉันเอาไว้ เขาวางปลายคางไว้ที่บ่าเล็กของฉัน พร้อมกับพูดคำพูดคุ้นหูที่ฉันได้ยินบ่อยๆ ออกมา และฉันเองก็ทำเหมือนเดิมเพราะอยากรักษาเขาเอาไว้ ฉันอยากรักษาความรักของเราเอาไว้ ฉันยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเขา แล้วหันไปหอมแก้มสากของเขาเบาๆ เพียงเท่านี้เรื่องที่เราทะเลาะกันรุนแรงนั้นก็หายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกเว้นเพียงแค่ความรู้สึกของฉันที่มันไม่ได้ดีขึ้นเลย
ฉันคบกับวาคีนมานานไม่เคยแม้แต่เช็กโทรศัพท์มือถือเขาเลยสักครั้งเดียวนะคะ มีแต่วาคีนที่คอยเช็กของฉันอยู่ตลอด แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องวาคีนไปมีคนอื่นครั้งแรก ฉันเองก็อดที่จะระแวงไม่ได้หลังๆ แม้จะยังไม่ได้เช็กจริงจังแต่ฉันก็มักจะเริ่มสังเกตพฤติกรรมของเขา
"พรุ่งนี้วันหยุดมึงอยากไปไหน"
"ไปวัดกันไหม ไหว้พระเสร็จก็ไปเดินตลาดน้ำกัน"
"ไม่เอาอะ กูไม่ชอบไปวัด ไปหาอะไรตลาดน้ำกินกันดีกว่า" เขายังกอดฉันทำราวกับเราไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน และฉันก็เห็นว่าถ้าฉันพูดอะไรออกไปมันอาจจะทำให้เราทะเลาะกันหนักกว่าเดิมก็ได้ ไม่นานนักวาคีนก็ปล่อยเอวฉัน เดินไปหยิบน้ำแล้วปิดไฟแต่เรายังนั่งดูหนังกันอยู่ที่ห้องรับแขก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเอนตัวลงนอนกอดกัน และดูหนังไปด้วยกัน
"เฟิร์น"
"อะไร"
"วันจันทร์กูไปเตะบอลนะ ช่วงเย็นมึงกลับเองได้เปล่า" เตะบอลอีกแล้วเหรอ ช่วงเย็นด้วย ฉันไม่ได้ตอบออกไปเป็นคำพูด แต่ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบให้วาคีนแทน วาคีนกดจูบลงที่หน้าผากของฉันซ้ำๆ ก่อนจะค่อยๆ ผล็อยหลับไปแต่ฉันยังไม่หลับ
ฉันหันไปมองที่โทรศัพท์มือถือของเขาที่ตอนนี้มันสั่นอยู่ที่ข้างตัวเขาอีกฝั่งหนึ่ง ฉันอยากรู้มากว่าใครกันที่โทรมา ฉันพยายามยกตัวเองขึ้นอย่างเบาและเงียบที่สุด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของวาคีนขึ้นมาดู หน้าจอโทรศัพท์ของเขาแสดงชื่อ 'บอล' นั่นเป็นเพื่อนของเขา ฉันเองก็แอบโล่งใจก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือของเขาลงตามเดิมเพราะฉันไม่เคยรับสายแทนเขานอกจากเขาจะอนุญาตเท่านั้นฉันถึงรับแทน
.
.
.
เช้าวันต่อมา...
"เฟิร์น มึงแต่งตัวให้มันดีๆ ดิ ไปวัดทำบุญนะ ไม่ได้ไปอ่อยพระ!"
วาคีนบ่นฉันตั้งแต่เช้าตั้งแต่ฉันแต่งหน้าอ่อนๆ เขาก็พูดว่าไม่ชอบ พอแต่งตัวเข้าหน่อยเขาก็บอกว่าไม่ดี ส่วนตอนนี้ฉันใส่ขายาวรัดรูปกับเสื้อสายเดี่ยวสีดำ ก็เห็นบอกว่าจะไม่พาฉันไปวัดฉันก็เลยไม่ได้แต่งอะไรที่มันสุภาพ
"สรุปจะพาเฟิร์นไปวัดใช่ไหม"
"ก็มึงอยากไป"
"รอแป๊บนะเดี๋ยวเฟิร์นเปลี่ยนชุดแป๊บนึง"
"อืม" ฉันรีบไปเปลี่ยนชุด รอบนี้เป็นชุดที่ดูสุภาพขึ้นมาหน่อย แต่ดูเหมือนวาคีนก็จะไม่ชอบอีกนั่นแหละเพราะเสื้อตัวนี้เวลานั่งก็จะเห็นผิวเนื้อของฉันที่ช่วงเอว แต่ฉันมีเสื้อคลุมไปนี่คะ ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกมั้ง
"ดูแต่งหน้าเหมือนอุรังอุตังเลย"
"วาคีน!"
"ก็พูดจริง เนี่ย ปากก็แดงเกินไปไหม ไหนมาเอาออกหน่อยดิ" ว่าแล้วก็กดจูบฉันหนักๆ บดเบียดริมฝีปากลงมาราวกับจะลบมันออกให้หมด อันที่จริงฉันไม่ได้ทาปากแดงอย่างที่เขาพูดสักหน่อย ฉันทาลิปมันที่เปลี่ยนสีได้เท่านั้นเอง
"ค่อยดีขึ้นมาหน่อย ปะ"
นี่แหละค่ะ วาคีน ถ้าเขาไม่ได้มีใครเขาจะดีกับฉันเป็นปกติ แต่ถ้าเขามีใครเขาจะดีกับฉันเป็นพิเศษ หรือไม่ก็เลวกับฉันเป็นพิเศษไปเลย ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ฉันรักผู้ชายคนนี้นะคะ และบางทีฉันก็คิดนะคะว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป หรือแท้จริงแล้วเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วแต่ปิดบังฉันเอาไว้ หรือเพราะสังคมรอบข้างของเขามันเปลี่ยนไป
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์มือถือของวาคีนดังขึ้นในตอนที่เขากำลังขับรถอยู่ ฉันเหลือบตามองที่หน้าจอโทรศัพท์ของเขาก็เป็นชื่อเดิมที่โทรมาเมื่อคืนส่งเป็นข้อความมาหาเขา
'บอล'
บอล : เมื่อวานมึงคุยกับน้องพัดปะ กูเห็นแม่งเอามาพูดใหญ่เลยว่ามึงหลงมันนักหนา