ฉันนั่งเรียนด้วยใจที่ไม่เป็นสุขสักเท่าไหร่ เพราะเหตุการณ์ที่เจอเมื่อกลางวันมันไม่ได้ทำให้ฉันมีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย แม้วาคีนจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเจอ วาคีนเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ขึ้นปีสองไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราคบกันมานานหรือเปล่า แค่ฉันก็พยายามปรับปรุงตัวเองทุกอย่างให้เหมือนตอนที่เรารักกันใหม่ๆ
ทุกครั้งที่ฉันจับได้ วาคีนจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเลือกฉัน แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็เถอะฉันก็ไม่ได้ดีใจสักนิดที่เขาเลือกฉัน ฉันอยากให้เขามีฉันคนเดียว มีฉันแค่คนเดียว ฉันไม่ได้อยากเป็นหลวง ฉันไม่ได้อยากเป็นน้อย ฉันอย่างเป็นคนเดียวของเขา
"เฟิร์น แกเป็นอะไร อาจารย์เรียกแกนานแล้วนะ"
ลลินเรียกฉันทำให้ฉันได้สติขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะถูกทำโทษให้ออกไปยืนหน้าห้องเพราะไม่ตั้งใจเรียน ฉันก็เดินออกมาเงียบๆ แล้วมองไปที่กลางสนามฟุตบอล เห็นวาคีนกำลังเตะบอลเล่นกับเพื่อนอยู่น่าจะเพราะต้องรอฉันกลับบ้าน เพราะอันที่จริงตอนนี้วาคีนเลิกเรียนแล้ว
ฉันยืนมองภาพนั้น พลางย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อตอนที่เรารักกันใหม่ๆ วาคีนก็ชอบที่จะพาฉันไปนั่งดูเขาเตะบอลด้วยทุกครั้งที่สนามบอล ไม่ว่าเขาจะไปไหนก็จะหอบหิ้วเอาฉันไปด้วยจนเป็นฉันเองที่ไว้ใจเขามากเกินไป หลังๆ ฉันเลยให้เขาไปเองฉันจะได้อยู่บ้านทำงานบ้าน นอนดูหนัง ไม่ต้องไปนั่งตากยุง แต่แล้วเขาก็ทำเรื่องจนได้…
เมื่อเพื่อนของเขาพาแฟนตัวเองมาที่สนามบอลด้วย และผู้หญิงคนนั้นยังเหน็บเพื่อนของตัวเองมาด้วย ด้วยความที่ฉันปล่อยให้วาคีนไปเตะบอลเองคนเดียวบ่อยๆ โดยที่ไม่มีฉัน และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เขาสานสัมพันธ์กับเพื่อนของผู้หญิงคนนั้น ฉันน่ะไม่รู้เรื่องอะไรหรอกนะคะ มารู้เพราะผู้หญิงคนนั้นพยายามหาทางติดต่อฉันเองเพื่อบอกให้ฉันรู้ว่าเขามีตัวตนและฉันจะได้เลิกรากับวาคีน แต่ผลมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นฉันกับวาคีนทะเลาะกันและฉันไม่รู้ว่าเขาไปจัดการยังไงจนถึงตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็หายไปจากชีวิตของฉันกับวาคีนแล้ว
"โดนทำโทษเหรอเรา"
"พี่เก้า"
พี่เก้าเป็นรุ่นพี่ฉันปีนึงและฉันก็เป็นน้องรหัสเขา ทำให้เราค่อนข้างที่จะสนิทกันอยู่แต่ไม่มาก ทุกคนในมหา'ลัยนี้ต่างรู้ว่าฉันกับวาคีนเราเป็นอะไรกันฉะนั้น พี่เก้าจึงมักจะเว้นระยะห่างเอาไว้เพราะไม่อยากมีปัญหา แม้ว่าสายตาของเขาที่มองฉันจะไม่ได้อยากเว้นระยะห่างเลยแม้แต่น้อย
"ไปทำอะไรเข้าล่ะ ทำไมถึงโดนทำโทษได้"
"เฟิร์นนั่งเหม่อค่ะ ไม่ได้ยินที่อาจารย์เรียก" ฉันตอบพี่เก้ากลับไป
"ที่เหม่อเพราะเรื่องเมื่อกลางวันเหรอ"
พี่เก้าพูดขึ้นทำให้ฉันเผลอมองไปที่สนามฟุตบอลอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาคีนเงยหน้าขึ้นมาพอดี สายตาของวาคีนเปลี่ยนไปจ้องมองฉันกับพี่เก้าอย่างดุดัน ก่อนจะเดินไปที่ข้างสนามเปิดขวดน้ำเปล่าแล้วกระดกดื่มอย่างรวดเร็ว วาคืนโยนขวดน้ำลงที่พื้นแล้วมองขึ้นมาที่ฉันอีกครั้งเขาเดินไปหยิบเสื้อนักศึกษาแขนสั้นของตัวเอง แล้วหายเข้ามาในอาคาร
"ไม่ใช่หรอกค่ะ" ฉันตอบกลับไปแล้วยิ้มแห้งๆ ให้พี่เก้า
"งั้นก็ดี พี่เป็นห่วงถ้ามีอะไรก็... ทักมาคุยกับพี่ได้นะ" พี่เก้าพูดแล้วเว้นจังหวะอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นตอนเดียวกันกับที่ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พี่เก้าส่งยิ้มให้ฉันแล้วเดินออกไปในขณะที่กำลังสวนกับคนที่กำลังเดินมาทั้งสองคนก็จ้องตากันอย่างเอาเรื่องราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าฟาดใส่กันทางสายตาอย่างดุเดือด ก่อนที่วาคีนจะเป็นฝ่ายผละสายตาออกแล้วจ้องสายตาเข้มดุมาที่ฉันแทน
"มึงทำอะไร!" ตะคอกฉันเสียงดัง
"อะไร เบาๆ สิวาคีนเฟิร์นกำลังเรียนอยู่นะ"
"เรียนเหี้ยอะไร กูรอมึงแต่มึงระริกระรี้คุยกับผู้ชายเหรอ"
"วาคีน!"
ฉันเสียงดังใส่เขาคืนบ้าง แต่วาคีนก็ยิ่งจ้องฉันจนทำให้ฉันรู้สึกกดดัน เขายกนาฬิกาข้อมือดูก่อนที่จะนั่งลงที่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งไม่ไกลห้องเรียนของฉันมากนัก
"กูจะรอตรงนี้ มึงอย่าคิดแรดไปคุยกับใครอีกนะ"
วาคีนชี้หน้าฉันจ้องหน้าฉันอยู่ตลอดเวลาที่ฉันถูกทำโทษ ก่อนที่จะเป็นลลิลชะโงกหน้าออกมาตามฉันให้เข้าไปนั่งเรียนได้แล้ว
"ทะเลาะกันเหรอ เสียงดังมากเลย"
"อืมม"
ฉันนั่งเรียนไปเรื่อยๆ โดยที่รู้สึกกดดันอยู่เล็กน้อยทั้งจากสายตาของเพื่อนร่วมห้อง อาจารย์ และคนที่นั่งอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็ปล่อยคาบเรียน ฉันรีบเก็บของอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้วาคีนต้องรอนานเดี๋ยวเขาโมโหก็มาลงที่ฉันอีก
ฉันเดินออกไปในตอนที่วาคีนยืนพิงประตูห้องเรียนของฉันอยู่ เขากระชากกระเป๋าสะพายของฉัน แล้วจูงมือฉันออกไปทันทีด้วยอารมณ์โมโหที่มีอยู่ก่อนแล้ว วาคีนพาฉันเดินมาที่ลานจอดรถเราผ่านหลายคณะทำให้ใครหลายๆ คนต่างก็มองมา
วาคีนของฉันนับเป็นผู้ชายที่หล่อดูดีเลยทีเดียว ใบหน้าหล่อไร้ที่ติราวกับหนุ่มเกาหลี อีกทั้งยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำมหา'ลัยอีกต่างหาก เขามีผิวกายค่อนข้างขาวแต่ก็ไม่ได้ขาวมากนัก สูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้ารูปร่างของเขาก็ดีแน่นไปทุกส่วนเพราะชอบดูแลตัวเองมากเรียกว่าสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว เขาชอบออกกำลังกาย และสามารถเล่นกีฬาได้ทุกชนิด แถมที่บ้านยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โตติดอันดับธุรกิจร่ำรวยเป็นอันดับที่เก้าของประเทศ มันเลยไม่แปลกที่จะมีใครหลายคนอยากจะเข้าหาเขาใช่ไหมคะ
ตุบ!
"โอ๊ย! เฟิร์นเจ็บนะ!" วาคีนเหวี่ยงฉันเข้าไปในรถหรู พร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างของฉันที่เขาโยนเข้ามาบนตักของฉันก่อนจะปิดประตูรถจนเสียงดังสนั่นแล้วเดินด้วยความรวดเร็วไปนั่งตำแหน่งคนขับ
"มึงคิดจะมีคนอื่นเหรอเฟิร์น มึงไว้หน้ากูบ้างไหม"
"วาคีน! เฟิร์นไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ"
"แล้วที่คุยกับไอ้เหี้ยเก้าล่ะ กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ยุ่งกับมันอ่ะ มันจ้องจะเอามึง มึงอย่ามาทำเป็นไม่รู้"
พอเข้ามาในรถก็สาดอารมณ์ใส่ฉัน อันที่จริงพี่เก้าแค่เดินมาคุยกับฉันเท่านั้น ฉันตวัดสายตาไม่พอใจหันไปมองหน้าวาคีนที่กำลังขับรถหรูของตัวเองอยู่ เขาขับรถเร็วตามแรงอารมณ์ของตัวเองจนฉันหวาดกลัวรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้
"มึงอย่าคิดจะไปจากกูนะเฟิร์น กว่ากูจะได้มึงมามันไม่ใช่เรื่องงายเลยนะ"
"ในเมื่อพูดแบบนี้ แล้วทำไมวาคีนถึงได้ไปกับคนนั้นคนนี้อยู่บ่อยๆ ละ วาคีนคิดว่าเฟิร์นไม่รู้รึไง"
"ก็กูบอกว่าไม่มีอะไรไง มึงจะเอาเรื่องเก่ามาพูดทำไม"
"แล้วถ้าเฟิร์นบอกว่า กับพี่เก้าเราก็ไม่ได้มีอะไรเหมือนกันละ"
"มึงไม่มี แต่มันมีไง! มึงอย่าท้าทายกูนะเฟิร์น" ตวาดฉันอีกครั้งเสียงดังลั่นรถจนฉันตกใจ
ใช่ค่ะ เราทะเลาะกันอีกแล้ว...