ทุ่มเท 19 ความจริงปรากฏ?!

3626 Words
ผ่านไป 2 สัปดาห์.. เด็กหนุ่มวัยมหาลัย เริ่มจะรู้สึกตัวว่ามันผ่านมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ที่ตนเองนั้นไม่ได้เจอและไม่สามารถติดต่อกับแฟนตัวเล็กได้เลย หรือว่าหลังจากวันนั้น อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตที่เขาจะได้เจอกับคนเป็นน้อง เฮฟครุ่นคิดตกตะกอนอยู่ภายในใจ ว่าวันนั้น มันอาจจะมันเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ สำหรับเรื่องราวของเขากับแฟนเด็กหรือเปล่า? เพราะถึงแม้นว่าผมพยายาม หาทางติดต่อกับคนตัวเล็กยังไง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้น เฮฟพยายามโทรหาเบอร์คนน้องก็กลายเป็นว่าเปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้ว ส่งข้อความรัว ๆ ทางไลน์ไปก็ไม่ยอมขึ้นอ่านเลย ว่าที่เดือนมหาลัยยอมโดดซ้อมกิจกรรมคัดเลือกดาวเดือน เพราะยังไงเขาก็ไม่มีกระจิดกะใจจะไปทำกิจกรรมอันใดทั้งสิ้น ก็นั่นแฟนผมติดต่อไม่ได้เลยนะ!! ใครจะไปมีกระจิดกะใจอยากจะทำอะไรเล่า!! แฟนหนุ่มมหาลัยจึงลองไปรอที่หน้าโรงเรียนมัธยมอีกครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลว เขาไม่เคยได้เจอกับคนที่ต้องการเจออีกเลย ร่างสูงในร่างเด็กมหาลัยลองไปเรียบ ๆ เคียง ๆ แถวป้ายรถเมล์หน้าปากซอยบ้านคนตัวเล็ก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่เจออีกเช่นเคย จนกระทั่งเฮฟยอมไปแอบดักซุ่ม ลอบมองยังหน้าบ้านคนตัวเล็กอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่เคยได้พบเจอฟาร์รังอีกเหมือนเดิม แต่ทว่าสายตาของร่างสูงสบเห็นผู้ชายคนนั้น คนที่เคยทำให้แฟนเด็กของเขาตกใจหวาดหวั่น กับร่างของผู้หญิงที่เหมือนกับคนในรูปภาพบานใหญ่ในบ้านนั้นอยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ผมอยากเจอ กลับไม่ได้เจออีกเลยนี่สิ ท้อใจจังแฮะ เมื่อเฮฟท้อจนเริ่มหมดปัญญา ร่างสูงจึงลองเสิร์ทหาข้อมูลตระกูลของแฟนเด็ก และตัดสินใจไปหาคนเป็นพี่ชายของน้องที่บริษัท แต่ทว่าก็ไม่สามารถเข้าพบได้อย่างใจคิด นี่ผมหมดหนทางจริง ๆ สินะ นับวันคนหนุ่มวัยมหาลัยเริ่มกลับมาทำตัวเสเพลไปวัน ๆ ไม่เอาไหน ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ผ่านพ้นไปแบบสำมะเลเทเมา พาใบหน้าอันหล่อเหลากับใจโทรม ๆ แวะไปเยี่ยมเยือนตามผับดังอย่างไม่ซ้ำสถานที่ ใครเสนอตัวเข้ามาคุยด้วย มาดีลด้วย ถ้าหากเกิดอาการรู้สึกถูกอกถูกใจก็ลากกันไปต่อ จนกลายเป็นชายหนุ่มฉายาเฮฟคนเมาหยำเป จนที่บ้านเริ่มเอือมระอา โดนพ่อบ่นใส่หลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่าเจ้าตัวก็เอาแต่ยิ้ม ๆ และกลับไปทำแบบเดิม ๆ เหตุผลที่มันตกค้างทรมานอยู่ภายใต้ก้นบึ้งหัวใจของผม ก็เพราะผมลืมคนตัวเล็กไม่ได้สักที!! จะมีใครเข้าใจผมบ้าง คนไม่เคยโดนทิ้งจะเข้าใจได้อย่างไรกันละ?! เฮฟคิดว่าถ้าหากตนเองกลับไปทำนิสัยแบบเดิม ๆ ก่อนที่จะได้รู้จักกับฟาร์รัง เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าจะเป็นใครที่เดินเข้ามาในชีวิต หรือเข้ามาเติมเต็มให้ในเวลานี้ เขาก็เปิดรับจนหมด ซึ่งมันก็อาจจะทำให้เขาสามารถลืมเลือน เรื่องราวของคนตัวเล็กไปได้บ้าง แต่มันไม่ใช่เลย! ผมยังคิดถึงเรื่องของสองเราได้เสมอ ทั้ง ๆ ที่มันผ่านมาก็ปาเข้าไปปีกว่าแล้ว แต่ในหัวสมองมันยังคงจดจำฝังใจ กับเรื่องราวครั้งแรกที่ได้เจอกับคนตัวเล็ก ทำตัวเนียน ๆ ได้แกล้งเข้าหาคนตัวเล็ก จนทำให้คนตัวเล็กโมโหเล่น ๆ ไหนจะเดตแรกแสนหวานของสองเรา จูบแรกของสองเรา และครั้งแรกที่ตราตรึงใจของเราสองคน ยิ่งผมอยากจะลืมมันมากเท่าไหร่ แต่มันกลับยิ่งตอกย้ำให้ผมจดจำได้มากกว่าเดิมเข้าไปอีก กระทั่งวันนี้ ใบหน้าหล่อเหลาทว่าแววตาติดไร้ชีวา ขายาวก้าวเท้าเดินเข้ามาร้านอาหารกึ่งบาร์ ตาคมก็ได้เจอคนที่หน้าคุ้น ๆ อย่างคลับคล้ายคลับคลา อ่อ..ที่แท้ก็เด็กผู้ชายในกลุ่มเพื่อนของคนตัวเล็กนี่เอง ทุกครั้งเฮฟจะพยายามออกให้ห่างจากคนคนนี้ เพราะเขาพอจะมองออก ดูก็รู้แล้วว่าจุดประสงค์ที่คนคนนี้ต้องการ คืออะไร โดยเฉพาะเวลาที่เฮฟหมั่นไปนั่งรอคนตัวเล็ก ที่ศาลาริมน้ำแถวห้องปกครอง คนคนนี้ก็พยายามที่จะเรียกร้องเพื่อดึงความสนใจ พยายามทำให้เฮฟฉายาคนเจ้าชู้ออกนอกลู่นอกทาง หรือทำท่ามั่นอกมั่นใจว่าตัวเองเสียเต็มประดา ว่าจะสามารถเอาชนะใจรุ่นพี่สุดป๊อปของโรงเรียน และมาแทนคนตัวเล็กของเขาได้ แต่ทว่าวันนี้เฮฟจำใจกลืนฝืนทน เพื่อที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายยอมเดินเข้าไปหาคนคนนี้ เพราะหนุ่มรุ่นพี่มีเรื่องสำคัญที่จะต้องถามนั่นเอง ผมอยากรู้เรื่องของคนตัวเล็ก คนที่ผมแสนคะนึงหากับคนคนนี้ ผู้ชายคนนี้ร้ายลึก เขาบอกกับผมเพียงว่าวันนี้เขารีบ ไม่สามารถให้คำตอบอะไรหรือสิ่งใดที่ผมอยากรู้ตอนนี้ได้ ต้องนัดคุยกันวันอื่น ซึ่งเขาก็ขอแลกช่องทางกับร่างสูงไป เพื่อที่จะได้สามารถติดต่อหากันได้ หากเขามีเวลาว่างจะเป็นฝ่ายนัดเอง แล้วผมจะทำอะไรได้ ในเมื่อเขาเป็นทางเดียวที่ผมจะสามารถรับรู้เกี่ยวกับแฟนเด็กของผมได้ เขามาเหนือผมแล้วตอนนี้ ผมเป็นต่อไปแล้วสินะ เหอะ เฮฟจึงต้องทำข้อแลกเปลี่ยน โดยการให้รพีพาคนตัวเล็กมาพบกับตนเองอีกสักครั้ง ขอเพียงอีกสักครั้งก็ยังดี ร่างสูงใบหน้าเฉยชาไร้รอยยิ้ม จึงต้องจำนนจำยอมแลกช่องทางติดต่อกับคนคนนั้นไป โดยถือตัวแบบทุกครั้งที่ผ่านมาไม่ได้เลย แต่ผมจะทำอย่างไรได้ละ ในเมื่อคนที่ผมต้องการเจอ ผมไม่สามารถหาช่องทางติดต่อคนเป็นน้องได้เลยนี่นา เฮ้อ แต่แล้วคนคนนั้นเขาพยายามที่จะส่งข้อความมาทักทายกันเสมอ แต่ทว่าเรื่องที่ผมสนใจก็คือเรื่องของคนตัวเล็กเท่านั้น และในที่สุดก็ได้ข่าวดี คนคนนั้นแจ้งมาว่าจะนัดกับฟาร์รังให้ไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้า BC ดังนั้น ให้เฮฟไปรอเจอกันตามนัด ที่ลานน้ำพุของห้างสรรพสินค้านั้นได้เลย ผมโคตรจะตื่นเต้นดีใจจนเนื้อเต้น ที่จะได้เจอกับคนที่ผมคิดถึงมากที่สุดสักที แต่ทว่าเมื่อเฮฟได้มาเจอกับแฟนเด็ก กลับกลายเป็นว่าแฟนหนุ่มรุ่นพี่ต้องหน้าม้าน และต้องใจแตกสลายพังยับเยินหนักกว่าเดิม เมื่อโสตประสาทเขาได้ยินเสียงของคนตัวเล็ก เอื้อนเอ่ยคำต้องห้ามคำนั้น ที่ริมฝีปากบางเปล่งมันออกมาได้อย่างง่ายดาย “พี่เฮฟ อย่ายุ่งกับเราอีกเลยนะ ฟาร์ขอร้อง ฮึก..” คนตัวเล็กขบริมฝีบปากบางอันสั่นเทาแน่น นัยน์ตาเริ่มขึ้นสีแดงก่ำ ที่ปกคลุมไปด้วยม่านน้ำตา ร่างสูงพยายามที่จะง้างริมปากอันหนักอึ้งของตัวเอง เพื่อพูดคำที่มันติดอยู่ในใจตั้งมากมาย ที่มันอยากเอื้อนเอ่ยบอกกับคนตัวเล็ก แต่ทว่าริมฝีปากหยักมันเอาแต่สั่นไหว กับเพียงแค่จะเปิดปากของตัวเองยังยาลำบาก เขายังทำไม่ไหวเลย "..ฟาร์.." “พี่ก็ลืมเรื่องของเราไปเถอะนะ เราขอให้พี่มีความสุขกับคน..ฮึก..ของพี่นะครับ” คนตัวเล็กใจร้าย กล่าวคำที่มันกรีดลึกลงไปยังหัวใจอันบอบซ้ำของผม เสร็จแล้วก็จากลากันไป อย่างไม่เหลียวหลังหันกลับมามองกันอีกเลย ณ ช่วงเวลานั้น เด็กหนุ่มมหาลัยที่เพิ่งจะโดนตัดขาดทำอะไรไม่ถูกเลย ได้แต่ยืนบื้อใบ้นิ่งงันอยู่ท่ามกลางลานน้ำพุของห้างชื่อดังที่ผู้คนขวักไขว่ เสียงพูดคุยหัวเราะกันสนุกสนานครื้นเครง คงมีแต่ผมคนเดียวกระมัง ที่ต้องยืนนิ่งอมทุกข์โดดเดี่ยวถูกทอดทิ้ง ให้อยู่ท่ามกลางความสุขของคนอื่น ๆ และในตอนที่เขากำลังเคว้งคว้าง ไม่รู้จะว่าจะต้องเดินกลับบ้านหรือต้องนั่งร้องไห้อยู่ ณ ที่ตรงนี้ และแล้วคนที่นัดเฮฟให้มาเจอกับคนตัวเล็ก ก็ปรากฏตัวขึ้นและยังพูดในสิ่งที่คนเพิ่งจะโดนหักอกไม่ต้องการรับรู้ แต่ทว่าในเมื่อมันเป็นเรื่องราวของคนตัวเล็ก แม้นใจจะเจ็บปวดร้าวรานสักเพียงใจ คนหล่อเหลาที่ใบหน้าอึมครึม เคลือบฉาบไปด้วยแววตาแดงก่ำก็ยังอยากจะรับฟัง ยิ่งเมื่อเฮฟได้รับฟังเรื่องราวของคนตัวเล็กผ่านจากปากคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้า มันก็ยิ่งตอกย้ำฝังหัวคนโดนเทแล้วว่า ความรักของผมมันช่างเปราะบาง น้องทิ้งผมไปแล้ว ผมพร่ำถามกับตัวเองว่า ความรักที่ผมทุ่มเทให้กับคนเป็นน้องไปนั้น..มันยังไม่เพียงพออีกหรือ? หรือผมผิดพลาดอะไรไป ทำไมไม่บอกผมบ้าง? ทุกครั้งที่คนซังกะตายแบบเฮฟเริ่มที่จะนึกถึงเรื่องของสองเรา ไล่เรียงเรื่องราวความทรงจำที่แสนอุ่นซ่านในหัวใจต่าง ๆ หรือว่าจะจวบจนวันที่คนตัวเล็กบอกลากันอย่างไม่มีเหลือเยื่อใย คนที่ถูกทิ้งก็มักจะปลดปล่อยความฟุ้งซ่านภายในอก ที่มันบอบซ้ำแสนสาหัส ด้วยการกระดกน้ำเมาเข้าไป จนทำให้สมองของเขาประมวลสิ่งรอบข้างอย่างพร่าเลือนทุกขณะ แต่แล้วทำไมครั้งนี้ผมรู้สึกถึงแรงพยุง ร่างกายอันหนักอึ้งของตนเองอยู่? จนต้องทำให้คนเมามายมึนเบลอขยับออกเดินตามแรงพยุงชักจูง และก็สัมผัสได้ถึงการล้มตัวนอนลงบนที่นอนนุ่มนิ่ม หยดน้ำใสที่มันรินไหลออกมาจากหน่วยตา มันไหลนองจนทำให้สายตาคมที่ปรือปรอยอยู่ก่อนแล้ว เริ่มพร่ามัวหนักขึ้นกว่าเดิมอีก แต่ทว่าร่างแกร่งที่ยังคงฝืนไม่ให้หลับ พยายามเบิกม่านตาเพื่อจ้องเขม็งกลับไปยังสรีระร่างบางที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาสีเข้มทำให้เห็นว่าคนร่างบางที่นั่งอยู่ด้านข้างตรงนี้ มันช่างเหมือนกับคนที่ตนเองกำลังถวิลหาดแปะเลย ผมอยากเจอ ผมอยากเจอคนรักของผมใจแทบขาด... ฟาร์..ฟาร์รัง..นี่คนเป็นน้องยอมกลับมาหาผมแล้วเหรอ? กลับมาหากันแล้วสินะ! “ฟาร์ น้องฟาร์ครับพี่คิดถึงจังเลยครับ” แขนแกร่งยื่นออกไปคว้าดึงคนร่างเล็กเข้ามากอด ออกแรงโอบรัดจนแนบชิดไปกับแผ่นอกแกร่ง เมื่อคนที่ยังคงโหยหาความรักได้กอดร่างบางจนเป็นที่พอใจ ร่างสูงที่ถูกความลุ่มหลงถูกความพร่าเบลอครอบงำจึงเป็นฝ่ายจับพลิกตัวให้หลังคนแผ่นหลังเล็กแตะลงบนพื้นที่นอนนุ่ม คนกึ่งมีสติกึ่งไร้สติเอาแต่พูดพร่ำพรรณนาออกปากเพ้อบ่นคิดถึงกับคนที่นอนอยู่ใต้ร่างอย่างไม่หยุดหย่อน “พี่คิดถึงฟาร์มาก ๆ เลยครับ ทำไมตัวเล็กหนีหน้าพี่แบบนี้อีกแล้วละครับ หื้ม” ใบหน้าหล่อเหลาติดหมองคล้ำ โน้มก้มลงไปพรมจูบคนใต้ร่างสะเปะสะปะ ที่ตอนนี้คนใต้ร่างถูกวงแขนแกร่งทาบทับคร่อมกักกันเอาไว้ ริมฝีปากหยักออกแรงขยับ ใช้ฟันคมขบเม้มเข้ากับซอกคอระหงของคนร่างบาง จนคนใต้ร่างถึงกับสะดุ้งเฮือก เผลอกดจิกขูดเล็บคม ลงกับแผ่นหลังกว้างของคนที่กักคร่อมทับตนอยู่ ให้ได้รู้สึกแสบเคืองระคายเล่น ทว่าคนพร่ำเพ้อตกอยู่ในห้วงอารมณ์ถวิลหา ไม่สนใจกับรอยขูดเล็บอันจิ๊บจ้อยแม้แต่น้อย มือแกร่งเริ่มปัดป่ายออกแรงขยุ้มขยำ ปล้นถอดเสื้อคนใต้ร่างที่แสนจะเกะกะออกไปให้พ้น แต่มันช่างขัดใจเขายิ่งนัก นิ้วยาวจึงจัดการฉีกทึ้งกระชากดึงเสื้อที่มันแสนจะแกะยากแกะเย็น จนเม็ดกระดุมหลุดกระเด็นออกจากรังดุมขาดวิ่นไปทั้งตัว "อ๊ะ..พี่เฮฟครับ" เสียงครางเครือปนอารมณ์ตกอกตกใจ ทำให้คนด้านบนผินใบหน้ากลับไปจ้องมองคนใต้ร่าง พลางยกยิ้มกริ่มออกมาด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มหื่นกระหาย “วันนี้ที่รักต้องเป็นของพี่นะครับ..ตัวเล็ก” ➷ คนเมาหัวราน้ำเมื่อคืนเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหนักหัว รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนจึงรีบชันกายลุกพรวดออกจากที่นอน ตรงดิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อโก่งคออาเจียน เอาของเก่าออกมาจนหมดกระเพาะ มือหนาวักน้ำบ้วนปาก และประพรมล้างหน้าอย่างลวก ๆ ตาคมเพ่งมองดูตัวเองที่กระจกบานใหญ่ เป็นอันว่าเขารับสภาพหน้าตัวเองไม่ได้เลย แย่เหี้- ๆ นี่เมื่อคืนกูเมาหนักจนฝันว่ามีอะไรกับน้องฟาร์เหรอวะ เหอะ ท่าจะบ้า คิดถึงคนตัวเล็กจนเป็นบ้า มันเป็นแบบนี้นี่เอง.. ร่างสูงกับใบหน้าอิดโรยสะบัดหัว เขาแค่นยิ้มดูแคลนให้กับความมโนเพ้อฝันถวิลหาคนตัวเล็กของตนเอง คิดถึงจนเป็นบ้า เลยเอาไปฝันทะลึ่งตึงตังสินะ ไอ้เฮฟเอ๊ย น่าสมเพชมึงฉิบหาย!! ขายาวเดินลากร่างสะโหลสะเหลเดินออกจากห้องน้ำมาอย่างระโหยโรยแรง เขากะว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อย เผื่ออาการเมาค้างจะดีขึ้น แต่ทว่าเมื่อดวงตาคมได้กวาดมองไปรอบ ๆ บรรยากาศของห้องนี้อีกครั้ง เชี่ยนี่มันที่ไหนเนี่ย??!! ตอนผุดลุกออกไปจากเตียงก็ไม่ได้สังเกตสังกาอะไรเลย ใบหน้าอิดโรยทว่านัยน์ตาเบิกค้าง เมื่อหันไปโฟกัสเข้ากับก้อนผ้าห่ม ที่มีเพียงแค่เส้นผมโผล่พ้นออกมาให้เห็นเพียงเล็กน้อย คนที่รู้สึกว่าแฮงค์ตอนนี้กลับเบิกตาโพล่ง ใจเต้นระส่ำสั่นระรัว คิดว่าถ้าเมื่อคืนเป็นเรื่องจริง แล้วมันไม่ได้เป็นความฝันละ? ฟาร์ใช่ไหม? คนตัวเล็กมาหาผมจริง ๆ ใช่ไหม? คนตื่นตระหนกละคนดีใจจึงเกิดอาการลุกลี้ลุกลน ขยับเคลื่อนกายค่อย ๆ เข้าไปหาก้อนผ้าห่มผืนหนาด้วยความตื่นเต้น แต่ทว่าหลังมือแกร่งได้ลองตลบผ้าห่มผืนหนา ให้หลุดออกจากการทำหน้าที่ปิดปกคลุมร่างกายของคนที่ยังคงนอนหลับสนิทออกไปแล้วนั้น กลับทำให้ต้องใจหลุดกระดอนหล่นตกลงไปดั่งห้วงหุบเหวทันที เชี่ยเอ้ย บัดซบ กูพลาดแล้วไง!!! คนที่คาดหวังสูงแต่กลับผิดหวังจึงหมดเรี่ยวแรง คลานกลับไปนั่งกุมขมับอยู่ที่หัวเตียง สมองเขาตีรวนคิดสะระตะ พยายามนึกถึงความทรงจำเรื่องเมื่อคืน แต่ทว่ามันก็มึนตื้อจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง คนคิดหนักสีหน้าถมึงทึง จึงเลือกลุกออกจากที่นอน เดินจ้ำอ้าวตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ เพราะหากได้ชำระล้างร่างกาย อาจจะทำให้สมองปลอดโปร่งและอาจจะคิดออกว่าเมื่อคืนมันเป็นยังไงกันแน่ แต่เฮฟคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไรไปมากกว่าที่ตนเองเมาหนักมากจนเผลอน็อกหลับไป แต่แล้วเพียงแผ่นหลังกว้างได้รับสัมผัสเข้ากับน้ำเย็น มันดันรู้สึกแสบยุบยิบขึ้นมานี่สิ เมื่อเขาหันหลังกลับไปส่องกระจกบานใหญ่ก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง เพราะร่องรอยขูดของเล็บคมนั้น มันปรากฏขึ้นมาอยู่บนแผ่นหลังของเขาอย่างชัดเจนนั่นเอง เวรเอ๊ย!! เฮฟอารมณ์คุกรุ่นพร้อมแววตาโกรธเคืองวาวโรจน์ นั่งรอเจรจากับคนด้านข้างที่ยังคงนอนหลับตาพริ้ม จนเจ้าตัวพยายามข่มอารมณ์ด้วยการสั่นขาแรงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่บนที่นอนกว้าง เมื่อคนใต้ผ้าห่มได้ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ได้เห็นในม่านตาก็คือใบหน้าบึ้งตึงน่ากลัวของรุ่นพี่ที่ตนแอบชอบมานาน จึงรีบผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับตวัดผ้านวมผืนหนา พลางใช้ห่มคลุมปกปิดร่องรอยร่างกายของตนเองจนมิดชิด “เมื่อคืนคุณพาผมมาที่นี่รึ” ใบหน้ากรุ่นโกรธพร้อมกับแววตาดุดัน จ้องคนที่นั่งขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่ม พร้อมเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ "...” คนในผ้าห่มไม่ยอมหลุดเสียงอันใดออกมา จนคนที่อารมณ์พลุ่งพล่านเป็นทุนเดิม ต้องจ้องเขม็งมากกว่าเดิมจนสังเกตเห็นว่า คนในผ้าห่มนั่งกัดริมฝีปากแน่นและพยักหน้าส่งมาให้ “แล้วคุณกับผม..ก็มีเซ็กส์กัน?” ริมฝีปากหยักยังคงเป็นฝ่ายคาดคั้นเอ่ยถามเรื่องเมื่อคืนต่อ เพราะเขาอยากจะถามให้ชัดเจนไปเลย ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นจริงไหม เพราะตอนผมนั่งคิดจนสมองแทบระเบิด ก็จำอะไรไม่ได้อยู่ดี บัดซบฉิบหาย "เหอะ" ร่างสูงแค่นหัวเราะในลำคอเพราะคนที่เขายิงคำถามไปยังคงเพิกเฉย เมินคำถามของเขา “คุณ..เป็นคุณที่บังคับผม! คุณบอกว่าจะรับผิดชอบผม! ถ้าผมยอมคุณ!” คนในผ้าห่มรีบพลั่งพรูคำพูดออกมาประดุจน้ำหลาก ด้วยน้ำเสียงชัดเจนอย่างรวดเร็ว “เหอะ ผมเนี่ยนะบอกว่าจะรับผิดชอบ..นี่คุณ..คุณก็รู้อยู่แล้วปะวะ ว่าคนอย่างผมเนี่ยวันไนท์*อย่างเดียว ไม่เคยผูกมัดกับใครทั้งนั้น ผมว่าคุณคงเข้าใจผิด” ร่างแกร่งหันไปโต้ตอบเสียงขุ่นใส่คนในผ้าห่มมิดชิด น้ำเสียงที่ดังฟังได้อย่างชัดเจน ไม่แพ้กับคนที่พูดออกมาก่อนหน้านี้ คนใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มปลดปล่อยให้น้ำใส ให้ไหลรินร่วงหล่นออกมาจากดวงตาหลุกหลิก เขาปล่อยสะอื้นออกมาได้อย่างไม่อายสายตาคนหน้าตึงที่นั่งมองกัน ผมไม่ชอบเห็นคนร้องไห้ มันเหมือนกับว่าเขาโดนผมรังแก และพยายามเรียกร้องความสนใจ ซึ่งการบีบน้ำตาแม่ง ใช้กับคนแบบผมไม่ได้ไง และผมก็ไม่เคยผูกมัดกับใครทั้งนั้น ตั้งแต่ผมเลิกกับฟาร์รังมา ผมก็แค่เล่นสนุกกับใครก็ได้ แต่จะไม่ได้สถานะอะไรทั้งสิ้น “ฮึก..พี่..พี่ผิดคำพูด ทีเมื่อคืน..ฮึก ผมเจ็บแทบตายพี่ก็ยังบังคับจนผมต่อต้านสู้แรงพี่ไม่ได้..ฮึก” คนในผ้าห่มยังพูดออกมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “แล้วมึงจะเอายังไงวะ ให้กูรับผิดชอบรึ แล้วทำไมถึงลากกูมาที่นี่ มึงไม่ปล่อยกูนอนตายห่าที่ผับนั้นไปวะ” คนที่จมจ่ออยู่กับอารมณ์ร้อนที่มันทวีคุกรุ่นอยู่ในอก เริ่มหงุดหงิดหัวเสียจนถึงกับขึ้นเสียงตวาดกร้าว และเผลอหลุดคำหยาบคายไปกับคนในผ้าห่ม ที่ตอนนี้ออกอาการสั่นเทิ้ม กดใบหน้าของตนเองให้จมมิดลงไปภายใต้ผ้าห่ม จนคนที่ตวาดลั่นมองไม่เห็นสีหน้าและแววตาของคนแสร้งกลัว มือแกร่งขยี้หัวตัวเองรุนแรง จนกลุ่มผมบนหนังศีรษะแทบจะหลุดติดมือออกมาเป็นก้อน แต่เขาก็ไม่ชอบผิดคำสัญญา แม้นเขาจะเมาไม่รู้เรื่องจนจำเรื่องเหี้x ๆ เรื่องห่าเหวอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นก็ตาม “แต่กูจะบอกไว้เลยนะ ถ้ามึงคิดจะให้กูรับผิดชอบ นั่นมึงคิดผิด และกูว่ามึงก็ทนกับคนสันดานอย่างกูไม่ไหวหรอก เพราะกูไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อใครด้วย ถ้ามึงรับได้ก็เรื่องของมึง แต่มึงต้องห้ามตามมายุ่งวุ่ยวายก้าวก่ายกับชีวิตของกูเด็ดขาด” คนอารมณ์ร้อนเดือดปะทุประกาศกร้าวออกไป เพราะยังคงสับสนกับเรื่องของคนในผ้าห่ม "..." คนในผ้าห่มนั่งเงียบกริบ ไม่พูดอะไรออกมา นอกจากเสียงสะอื้นฮึก ๆ ให้ได้ยินเป็นระลอก “เอาเลขบัญชีมึงมากูจะโอนเงินให้ และก็ไม่ต้องถามหาการดูแลเอาใจใส่จากกูนะ เพราะกูดูแลใครไม่เป็น” คนนิสัยเสียเคยชินกับการแก้ปัญหาด้วยเงิน หันไปจ้องมองร่างของคนที่ยังนั่งสะอื้นไห้ อยู่ภายใต้ผ้าห่มอีกครั้ง ก่อนที่เฮฟจะลุกเดินออกไปโทรศัพท์หาพี่ชายคนโตที่นอกระเบียงห้อง เพื่อให้คนพี่ส่งคนมารับเขาหน่อย เพราะดูจากสภาพเสื้อที่แม่งขาดกระจุยกระจายขนาดนั้น จนไม่รู้ว่ากระดุมเม็ดไหนเป็นของใคร ร่างสูงก็ถึงกับหงุดหงิดหัวเสียขึ้นมาทันควันอีกรอบ โดยที่คนหัวเสียนั้นไม่ได้หันหลังกลับไปมองยังร่างบาง ที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่นั่งอยู่บนเตียงยับยู่อีกเลย แต่ทว่าตอนนี้ ร่างบางคนนั้นกลับโผล่ใบหน้าแสนเจ้าเล่ห์ออกมานอกผ้าห่ม กลับได้เผยรอยยิ้มกริ่มที่ตรงมุมปากอยู่ภายในห้องคนเดียวซะแล้ว #ทุ่มเทเพื่อรัก -- เชิงอรรถ -- วันไนท์ * = One night stand คือ คู่นอนคืนเดียว และมีความสัมพันธ์แบบไม่มีข้อผูกมัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD