ทุ่มเท 12 จิ๊กซอว์ชิ้นที่หายไป

3921 Words
Hafe’ s Part ตอนนี้ผมก็อายุปาไป 29 ปีแล้ว ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการจะได้ใช้ชีวิตกับเลข 2 แล้วสินะ แต่เพราะข่าวคราวของนายแบบหนุ่มคนดัง มีเยอะขึ้นตามมาหลังจากที่ก้าวเข้าสู่วงการนายแบบมืออาชีพ เป็นอันรู้กันว่าถ้านายแบบชื่อดังแบบเฮฟ ได้ร่วมงานกับใครก็จะต้องมีข่าวกับคนนั้นหลุดออกมาให้เห็นกันเสมอ ไม่รู้ว่าเพราะเจ้าตัวเป็นคนเจ้าชู้เป็นทุนเดิมอยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะเมื่อเวลามีงานเลี้ยงหรือไปงานกลุ่มกับเพื่อนร่วมงานคนไหน ก็จะโดนจับจ้องเป็นพิเศษ และกลับกลายเป็นว่าเขามักโดนปล่อยข่าวออกเดตทุกครั้งไป จนทั้งพ่อและแม่กล่าวเตือนลูกชายของตนอยู่หลายครั้ง เพราะไม่อยากให้ข่าวเสียมากระทบมาถึงวงศ์ตระกูล ที่บ้านจึงเกรงว่าปู่กับย่าจะไม่พอใจ จนปลดลูกชายคนรองของตระกูลออกจากกองมรดกน่ะสิ นายแบบหนุ่มจึงแก้ปัญหา โดยขอให้พี่เก๋เมเนฯ ส่วนตัวจัดตารางงานให้ใหม่ทั้งหมด งดรับงานไปก่อน ช่วงนี้นายแบบคนดังจึงได้หยุดพักงานไว้เพื่อจะได้มีเวลานัดทานข้าวกับที่บ้านสักที วันนี้จึงเป็นวันว่างของพ่อนายแบบแสนสุดจะยุ่ง ที่นายแบบหนุ่มคนดังแบบเฮฟ จะสามารถปลีกวิเวกได้มาใช้เวลาพักผ่อน กินข้าวพร้อมกับครอบครัวในรอบหลายเดือน แต่ทว่าเมื่อร่างแกร่งเปิดประตูเข้าไปยังห้อง VIP ของร้านอาหารตามที่มีนัดไว้กับครอบครัว เจ้าตัวถึงกับต้องผงะ เพราะที่โต๊ะอาหารนอกจากจะไม่มีฮิมกับฮุ้งแล้ว ก็ไม่ได้มีเพียงแค่พ่อกับแม่ของคนที่ตื่นตะลึง แต่ดันมีแขกที่รออยู่ร่วมรับประทานอาหารเพิ่มเข้ามาอีกด้วย 3 ชีวิต และทุกสายตายังจ้องมองมาที่คนมาสายเป็นจุดเดียวกัน เมื่อร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปยังโต๊ะที่หมายก็โดนบริภาษใส่ทันที “ตาเฮฟมานั่งนี่เร็ว ทำไมมาสายแบบนี้ละลูก ดูสิปล่อยให้น้องพีรอนานเชียว เสียมารยาทจริง” คนเป็นแม่กล่าวติเตียนคนลูกออกมาทันควัน เมื่อดวงตาสวยสบมองใบหน้าของลูกชายตัวแสบ ที่เพิ่งจะเปิดประตูห้องรับรอง VIP เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ แม่ ลุงนพคุณแขไข” เฮฟจำใจต้องฝืนเผยรอยยิ้มออกมา แทนความไม่พอใจที่มันก่อขึ้นอยู่ในอกตอนนี้ไปก่อน “วันนี้พี่เฮฟว่างแล้วเหรอครับ พีดีใจจัง กว่าจะได้เจอพี่เฮฟคนดังนี่ยากจังเลยนะครับ คิก คิก” คนที่นั่งรออยู่เก้าอี้ด้านข้างของร่างแกร่งพูดแกมหยอกเย้า ทำท่าทางเหมือนกระเง้ากระงอดออกมา แต่ผมรู้ว่าเขาพูดแกมประชดประชันต่างหาก “โทษทีนะ พี่ไม่รู้ว่าครอบครัวพีจะมาด้วย เลยมาช้า รอกันนานเลย ขอโทษด้วยครับ” นายแบบหนุ่มเอ่ยกล่าวขอโทษขอโพย พ่อแม่ของรพีไปตามมารยาทที่ควรจะเป็น แม้นเจ้าตัวจะไม่ชอบรพีแต่ยังไงก็ไม่ควรเสียมารยาทกับครอบครัวของเขา เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลของตนนั่นเอง “อ่าว ไม่เป็นไร ๆ เด็ก ๆ น่าจะหิวกันแล้ว กินข้าวกันเลยดีกว่า” ลุงนพกล่าวออกมาขัดบรรยากาศมาคุพลางเผยรอยยิ้ม เพื่อให้ทุกคนผ่อนคลายอารมณ์ลง คนมาสายลอบสังเกตสีหน้าของพ่อตนเองว่าจะเอ่ยปากตำหนิติเตียนกันไหม แต่ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรออกมา ในเมื่อประมุขสูงสุดไม่พูดอะไร ร่างแกร่งจึงลงมือกินข้าวเงียบ ๆ แต่คนด้านข้างกลับพยายามเจ๋อ โดยการยัดเยียดตักอาหารที่ผมไม่ได้ต้องการมาวางในจานข้าวให้นี่สิ ร่างแกร่งจึงก่อกำเริบเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาอีกครา แต่ก็ต้องพยายามข่มใจ ฝืนยิ้มรับ กล่าวขอบคุณ และตักอาหารเข้าปากไปโดยที่ไม่ได้รับรู้รสชาติของอาหารค่ำนั้นเลยแม้นแต่น้อย ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อยกันแน่ ตาคมเหลือบสังเกตพวผู้ใหญ่ ที่ฝ่ายนั้นก็คอยชำเลืองลอบมองกลับมา ระหว่างเขากับรพีอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน ร่างแกร่งจึงต้องแสร้งทำเป็นตักอาหารคืนให้คนข้าง ๆ ไปบ้างอย่างฝืดเฟื่อนใจ ที่ทำไปก็เพื่อเป็นมารยาทอัน จอมปลอม ของผมที่มอบให้นั่นเอง หึ เมื่อทานอาหารมื้ออึดอัดทรมานจิตใจกันเสร็จ พวกผู้ใหญ่ก็บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกกล่าว เพราะเฮฟก็ใกล้จะมีอายุครบ 30 ปีแล้ว ในอีกแค่ไม่กี่เดือนนี้เอง ส่วนรพีนั้นก็อายุย่างวัย 27 ปีแล้ว ควรจะเป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้วเช่นกัน เพราะคุณนพกับคุณแขไขจะได้หมดห่วง และไหนจะเพราะพวกเราทั้ง 2 ครอบครัวก็เป็นมิตรที่ดีต่อกันมาอย่างช้านานแล้วด้วย จึงเห็นว่าเฮฟกับรพีก็รู้จักกันมานาน แถมตอนนี้ต่างคนก็ต่างยังไม่มีคนที่หมายปองกันอยู่ด้วย ทางพวกผู้ใหญ่จึงอยากจะให้ทั้งคู่แต่งงานกันได้อย่างเหมาะสม เฮฟรู้สึกลำคอแห้งผาก น้ำลายหนืดเหนียวกลืนลงคออย่างยากลำบากขึ้นมาทันควัน เพราะเจ้าตัวนั้นไม่ได้ชอบพอกับรพีเลยสักนิดเดียว นายแบบหนุ่มจึงขอออกตัวแถไปก่อนว่า ขอเวลาทำงานอีกเพียง 2 ปีเท่านั้น แล้วถ้ารพียังไม่มีใครจริง ๆ ค่อยแต่งงานกัน เพราะเจ้าตัวยังอยากทำงานอยู่ แต่กลับกลายเป็นทางฝั่งพ่อของเฮฟ ไม่อยากให้ความสัมพันธ์อันดีกับลุงนพต้องขุ่นหมอง จึงบอกให้ทั้งคู่หมั้นหมายกันไว้ก่อน และทางผู้ใหญ่ก็ได้ดูฤกษ์งามยามดีวันหมั้นมาให้แล้วด้วย ซึ่งมันจะเกิดขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้เอง อะไรจะเร็วด่วนจี๋ขนาดนี้ เห้อออ ผมจนปัญญาแล้วสิ เท่านี้ยังไม่พอ คุณคณินยังป่าวประกาศให้ทุกคนได้ยินกันอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากเจ้าลูกชายตัวดีของตนเองนั้น ยังเกเรออกนอกลู่นอกทางมีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ มาให้ได้ยินอีก พ่อของเฮฟจะจัดงานแต่งงานขึ้นโดยฉับพลัน ซึ่งมันทำให้ผมเหมือนถูกมัดมือชกไม่พอ นี่มันยังโดนโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นมาล่ามกันเอาไว้อีกด้วย เหอะ!! เมื่อประมุขสูงสุดในที่นี้ได้ประกาศกร้าวจบลงไป ทางผู้ใหญ่ก็หันไปพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้มีใครสนใจความรู้สึกของคนถูกมัดมือชก โดยไม่ถามความคิดเห็นกับเจ้าตัวเลยสักนิด ตอนนี้ความรู้สึกของคนหน้าตึงมันจุกตีรวนกันอยู่ภายในอก จนมันแทบจะปะทุออกมาอยู่รอมร่อ แต่แล้วคนด้านข้างก็ยิ่งมาสุ่มความโทสะให้กับร่างแกร่งยิ่งขุ่นมัวมากยิ่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก “พี่เฮฟ ไม่เห็นตอบข้อความหรือเมนต์ IG คืนพีบ้างเลยนะครับ พีแอบน้อยใจนะเนี่ย” คนตัวบางเอี้ยวตัวมากระซิบข้างใบหูของคนสีหน้าเรียบเฉยบูดบึ้งให้ได้ยินกันแค่ 2 คน “พีก็เห็นว่าพี่งานยุ่งมาก ไม่มีเวลาเข้าไปดูเลย..ครับ” คนที่อารมณ์ยังคุกรุ่นตอบเฉไฉออกไปด้วยอารมร์ค่อนข้างจะฉุนเฉียว “ถ้าอย่างนั้น ขอมือถือพี่เฮฟหน่อยครับ” รพีแบบมือขอโทรศัพท์เฮฟ แต่ร่างแกร่งกลับทำท่าอิดออด กำลังจะเอ่ยปากหาทางบ่ายเบี่ยง “แสดงว่าพี่เฮฟอยากให้พ่อแม่พวกเรา รู้เรื่องที่พี่เฮฟข่มเหงพีจนเรามี ความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ตอนที่พีอยู่แค่ ม.6 ดีไหมน้า จะได้แต่งงานกันพรุ่งนี้เลย เอาแบบนี้ดีไหมล่ะครับ” รพีฉีกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาใส่คนพี่ พร้อมแบบมือรอโทรศัพท์จากคนสีหน้าถมึงทึงอีกครั้ง มือหนาจำต้องหยิบยื่นโทรศัพท์ส่งไปให้คนที่ทำตัวเจ้ากี้เจ้าการ หลังมือเรียวหยิบสมาร์ตโฟนจากคนแววตาวาวโรจน์ไป ใบหน้าคมแววตาดุก็ได้เห็นคนที่จ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของเขา ด้วยอาการขมวดมุ่นคิ้วกัดเม้มริมฝีปากแน่น พอจัดการเสร็จก็ส่งมือถือกลับคืนให้คนที่ไม่สบอารมณ์จ้องเขม็งมองกันอยู่ “ถ้าพีส่งข้อความหาพี่เฮฟหรือว่าติดแท็กไปหา พี่เฮฟต้องอ่านและเมนต์ตอบพีด้วยนะครับ” ร่างบางฉีกรอยยิ้มปีศาจอันน่ารังเกียจ ที่มั่นใจซะเหลือเกินว่าตนเองเหนือกว่าเขาแบบนี้ออกมาอีกแล้ว เฮฟขบกรามแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ จึงเบนใบหน้าถมึงทึงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก้มหน้าลงกดยุกยิกที่โทรศัพท์ดู จึงพบว่าแอป IG กลับเข้ามาอยู่ในเครื่องตนเองอีกครั้ง แถมพ่วงด้วยแอปสีเขียวที่มีรายชื่อของรพีเพิ่มเข้ามาเป็นที่เรียบร้อย จิ๊!! กูจะสลัดอิปีศาจคนนี้ ออกไปจากชีวิตกูได้ยังไงบ้างวะเนี่ย?! เฮ้อออ.. เมื่อได้เวลาที่ทั้งสองครอบครัวต้องแยกย้ายพากันกลับบ้าน นายแบบหนุ่มคนดังก็โดนพ่อกับแม่เรียกคุยเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง เอาพูดตอกย้ำเรื่องที่เขาห้ามออกนอกลู่นอกทาง เพราะรพีจะเป็นคู่หมั้นในเร็ววัน อย่าทำตัวแย่ให้เป็นข่าวฉาวจนคุณปู่ไม่พอใจแบบนี้อีก เมื่อหมดเรื่องที่ต้องนั่งฟังเทศนาให้ผ่านทวนหูไปได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมงจบ ร่างแกร่งได้เดินลากสังขารกับอารมณ์แห่งความเบื่อหน่ายให้กลับเข้าไปยังห้องนอนตัวเอง มือแกร่งหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดูทันที เฮ้ออ.. คนซังกะตายถอดถอนลมหายใจออกมายาวนานจนสุดปอด ถ้าหากบอกว่าการถอนหายใจจะทำให้อายุสั้นลง วันนี้เขาคงอายุสั้นไปสิบกว่าปีแล้วล่ะ เขานี่รึอยากจะบล็อกและลบแอปฯทิ้งแม่งไปให้หมด รกหูลูกตาชะมัด ไอ้เหี้x!! แต่เมื่อกดยุกยิกเข้ามาใน IG ตาคมกวาดมอง เห็นตัวเลขในกล่องข้อความจำนวนเยอะมาก จึงลองเลื่อนดูชื่อผ่าน ๆ จนเจอเข้ากับชื่อของคนคนนั้น คนที่ผมยังมีเรื่องค้างคากับเขาจนผ่านมานานถึง 7 ปีแล้ว แต่ทว่าเฮฟก็ยังจดจำชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาได้อย่างแม่นยำเลย..ฟาร์รัง.. นิ้วยาวจึงลองกดเข้าไปดูข้อความที่ระบุเดือนปีที่เนิ่นนานผ่านมาแล้ว และข้อความที่ปรากฏมันทำให้ผมรู้สึกตกใจมาก จนคนตาคมต้องอ่านทวนข้อความนั้นไป 4-5 รอบ 7 ปีที่แล้ว Jun 2014 พี่เฮฟจำผมได้ไหมครับ ผมฟาร์รังนะครับ ฟาร์มีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับพี่เฮฟ แต่ว่าฟาร์ติดต่อพี่เฮฟไม่ได้เลยครับ วันนั้นฟาร์ไปรอพี่ที่สตู A12 และส่งจดหมายให้กับเมเนฯ ของพี่ แต่พี่เฮฟก็ไม่ได้ออกมาเลย ผมจึงลองไปรอที่บาร์ SSS อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เจอพี่อยู่ดี ถ้าพี่เฮฟเข้ามาอ่าน ช่วยตอบผมบ้างได้ไหม เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่เฮฟจริง ๆ ครับ Nov 2014 พี่เฮฟครับ ถ้าพี่เห็นข้อความผม ช่วยตอบผมสักนิดนะครับ เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่จริง ๆ Mar 2015 คุณไม่ยอมอ่านและไม่ตอบกลับผมเลย ครั้งนี้ผมจะส่งหาคุณเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ผมยังคงรักคุณเสมอ แม้ว่าคุณจะไม่เคยจำผมได้เลยสักครั้ง หรือคุณอาจจะลืมผมไปจนหมดสิ้นแล้ว ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นสำคัญ ผมจะรักและดูแลให้ดีที่สุด และขอให้คุณมีความสุขกับเส้นทางนายแบบที่เคยวาดฝันเอาไว้ จนมันกลายเป็นจริงสมดั่งใจคิดแล้วนะครับ :) ดวงตาคมจับจดจ้องมองค่อยๆ ทบทวนอ่านประโยคทีละตัวอักษรอย่างละเมียดละไมอยู่หลายต่อหลายครั้ง นี่มันอะไรกัน?! ผมกับฟาร์รังเคยรู้จักกันมากก่อนเหรอ?! แล้วของขวัญชิ้นสำคัญคืออะไร?! ใบหน้าเคร่งเครียดเริ่มเกิดความสับสนกับประโยคที่แฝงไปด้วยความนัย จนทำให้สมองตีรวนมึนเบลอกับรูปประโยคที่เต็มไปด้วยคำถาม จากคนตัวเล็กที่เคยมีวันไนท์กันในครั้งนั้น แล้วได้พิมพ์ส่งข้อความปริศนาทิ้งเอาไว้ให้กันอีก แล้วที่สำคัญ คือมันผ่านมาตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว.. 23:45 May 2022 ฟาร์ครับพี่ขอโทษ พี่เพิ่งจะเข้ามาเห็นข้อความที่ฟาร์ส่งถึงพี่ เรานัดเจอกันได้ไหมครับ พี่มีเรื่องอยากคุยกับฟาร์เยอะเลย และอยากจะขอโทษฟาร์จากใจจริงด้วยครับ เฮฟตัดสินใจพิมพ์ข้อความตอบฟาร์รังไว้ใน IG ดวงตาคมจับจ้อง เอาแต่เฝ้ามองที่กล่องข้อความที่ส่งไปซ้ำ ๆ รอจนผ่านไปราว 3 ชั่วโมงแบบไม่รู้ตัว แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แวว ไม่เห็นขึ้นว่าอ่านแล้วสักที จนเฮฟเริ่มร้อนรนไปหมด ผมจะทำยังไงดี? ผมจะหาทางติดต่อน้องยังไงได้บ้าง?! ฮิม!! ⍣ @ The triple H property company เฮฟคิดออกเพียงแค่ว่า ฮิมน่าจะเป็นคนที่ยังจำเรื่องราวในช่วงที่เฮฟลืมเลือนไปได้ จึงตัดสินใจรีบมาปรึกษาฮิมโดยไม่โทรแจ้งล่วงหน้า และพ่อนายแบบคนดังจึงได้รับรู้ว่า พี่ใหญ่ของพวกเรานั้นมีชีวิตที่ยุ่งมาก ๆ ต้องทำการนัดล่วงหน้าก่อนจะเข้าพบเท่านั้น ถึงจะพบท่านประธานได้ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าฮิมมีประชุมกับลูกค้าคนสำคัญ แต่เฮฟก็เลือกที่จะรอ แม้นในอกจะร้อนรนขนาดไหน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในระหว่างที่นั่งรอท่านประธานสุดยุ่ง มือแกร่งเลือกที่เข้าไปเช็กกล่องข้อความอีกครั้ง เผื่อว่าฟาร์รังจะตอบข้อความของตนเองมาแล้วอย่างมีความหวัง แต่มันก็ยังเหมือนเดิมเฉกเช่นเดียวกับเมื่อวานไม่มีการเคลื่อนไหวหรืออะไรเปลี่ยนแปลง จึงมีแค่เพียงข้อความที่เฮฟเป็นคนพิมพ์ส่งออกไปค้างไว้แค่นั้น โดยที่อีกคนนั้นยังไม่ได้เปิดอ่านมันเลยด้วยซ้ำ เสียงประตูห้องท่านประธานเปิดออก พร้อมกับร่างของพี่ชายคนโตของตระกูล ก้าวขาเข้ามาด้วยใบหน้าเป็นกังวล คนที่นั่งรออยู่ เห็นคนที่ต้องการรอพบ ก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความงุนงง ทั้งที่เขาเพิ่งจะนั่งรอผ่านไปได้แค่ 20 นาทีเอง ก็ไหนเลขาหน้าห้องบอกผมว่าฮิมประชุมเสร็จก็หลัง 4 โมงเย็น คือผมต้องนั่งรอราว ๆ 2 ชั่วโมงเลยนี่นา? “อ่าว ไหนเลขาหน้าห้องนายบอกว่าประชุมถึง 4 โมงเย็นไง” “ก็คุณแววโทรหาศิลาให้แจ้งฉันว่านายมารอพบ แถมสีหน้าไม่สู้ดี ฉันเลยขอเลื่อนประชุมไปก่อน แล้วรีบกลับมาน่ะสิ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า ทุกทีไม่เห็นจะแวะเข้ามาเลย” เฮฟไม่คิดว่าฮิมจะห่วงกันถึงขนาดเลื่อนนัดประชุมครั้งสำคัญออกไปก่อน ถ้าพ่อกับปู่รู้ผมต้องโดนเรียกไปเข้าห้องเย็นอีกแน่ ๆ “โทษทีนะ ทำให้นายเสียงานเลย” นายแบบคนดังกล่าวด้วยแววตารู้สึกผิดจริง ๆ “ช่างเถอะ ว่าแต่นายมีอะไรก็ยังบอกฉันได้เสมอไง ยังไงครอบครัวก็สำคัญสำหรับฉันที่สุด” ท่านประธานเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับคนที่ต้องการเข้าพบ เพื่อจะได้มองหน้ากันตรงๆ ได้ซึ่งนับครั้งได้เลยที่เฮฟจะยอมเข้ามาพบกันแบบนี้ นอกเสียจากมีเรื่องสำคัญจริงๆ และเพื่อที่ฮิมจะได้ยืนยันกับคนน้องแบบจริงจังไปด้วยว่าเรื่องครอบครัวนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับพี่ชายคนโตแบบฮิมเสมอ “เออ..คือ ฮิม..นายช่วยเล่าเรื่องก่อนที่ฉันจะเกิดอุบัติเหตุให้ฟังได้ไหม” หลังได้ถามออกไป เฮฟได้เห็นแววตาอันดุดันของฮิมวูบไหวไปเล็กน้อยก่อนจะปรับกลับมาเป็นปกติ คนน้องรู้ทันทีว่าฮิมคงไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เนื่องจากฮิมนั้นกลัวการสูญเสียเป็นที่สุด เพราะเราต่างก็เคยได้รับความเจ็บปวดกับการสูญเสียครั้งสำคัญไปแล้วครั้งหนึ่ง.. “ฉันว่านายลืมเรื่องทั้งหมดไปก็ดีแล้ว ถ้าหากรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก นายจะกลับมาปวดหัวหนัก ๆ อีกหรือเปล่า ฉันไม่อยากเห็นนายทรมานอีกนะเฮฟ” “ฉัน..ฮิมจำแฟนฉันตอนมัธยมได้ไหม” เฮฟยังลังเลว่าจะให้ดูข้อความในโทรศัพท์เลยดีไหม แต่เฮฟก็รู้สึกไม่แน่ใจว่าฮิมจะยังจำฟาร์รังได้ไหม “แฟนนายเยอะแยะไปหมด” ฮิมจ้องเข้ามาในตาสีเข้มของคนที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม นายแบบหนุ่มลอบถอนหายใจ ก็จริงที่ผมสนใจใครก็คบไปทั่ว แต่ไม่มีใครได้สถานะไปมากกว่าคนคุยซะหน่อย “ก่อนที่ฉันจะขับรถไปชนกับเสาไฟ ฉันคบกับใครละ” “เฮ้อ..นี่นายจะไม่เป็นไรแน่นะ ฉัน..ไม่อยากให้นายกลับไปปวดหัวรุนแรงแบบตอนนั้นอีกแล้วนะเฮฟ” สีหน้าของฮิมแสดงออกมาด้วยความอ่อนใจเจือไปด้วยความกังวล “ขอร้องนะฮิม บอกมาเถอะ ฉันต้องรู้ให้ได้” เฮฟร้อนรนจนแสดงออกทางสีหน้าแววตาอย่างชัดเจน แต่ทว่าตาคมก็ยังเห็นฮิมเงียบไม่ยอมเอ่ยออกมาสักคำ “นายรู้จักเด็กผู้ชายที่ชื่อ ฟาร์..ฟาร์รังไหม” ริมฝีปากหยักจึงลองโยนหินถามทางดูก่อนเลย "..." เฮฟเห็นฮิมขมวดคิ้วแน่นฉับเข้าหากันทันที “จำได้ใช่ไหม ฉันเคยคบกับน้องเขาหรือเปล่า” คนน้องยังคงเร้าหรือให้คนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเอ่ยปากออกมาสักที “ฮิมบอกมาเถอะนะ ขอร้องละ” นายแบบหนุ่มแทบจะลงไปกราบกรานคนพี่ที่ยังนั่งอมพะนำ คิ้วได้รูปขมวดมุ่นไปหมด “ถ้าบอกว่าใช่ละ” ฮิมจ้องหน้าเฮฟด้วยแววตานิ่งสงบ “ฉันว่าฉันทำเขาเสียใจซ้ำ ๆ ..อีกแล้ว..” เฮฟจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเข้ากล่องข้อความเพื่อส่งให้ฮิมดู ซึ่งปฏิกิริยาของฮิมตอนที่ได้อ่านข้อความแล้ว ยิ่งทำให้หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นอยู่ก่อนแล้วยิ่งขมวดยับยู่ผูกกันเป็นปมแน่นหนักกว่าเดิม เฮฟสบเห็นคนพี่ที่พยายามเลื่อนอ่านข้อความที่มีนัยอย่างซ้ำ ๆ ไม่ต่างกับตัวเองที่เห็นครั้งแรกเลย “นี่มันตั้งแต่ 7 ปีที่แล้วนี่ ได้ไปเจอกันที่ไหน” “บาร์ของนายไง ฉันเข้าไปดีลกับน้อง แล้วก็ไปต่อกันที่คอนโดของฉัน คือฉันน่ะทำ..ฉัน..” ริมฝีปากสั่นไหวรู้สึกหนักขึ้นมาซะดื้อๆ จนเริ่มพูดต่อไม่ออกแล้ว เฮฟจึงทำได้แค่เพียงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมหัวปิดบังใบหน้า “แล้วของขวัญชิ้นสำคัญนี่คืออะไร นายให้อะไรน้องไป” ฮิมเอ่ยถามออกมาด้วยความข้องใจกับข้อความน่าสงสัย “ฉันไม่รู้เลย” เฮฟเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยแววตาสับสนเช่นกันเพราะตัวเองก็รู้สึกจนใจเช่นกัน ซึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าของขวัญชิ้นสำคัญนั้นมันคืออะไรกันแน่ “อาจจะแค่ คนชื่อฟาร์รังเหมือนกันเฉยๆ ก็ได้” ฮิมตอบออกมาราวกับกำลังปลอบใจน้องชายที่เอาแต่นั่งหน้าเครียดเขม็ง “ถ้างั้นนายมีรูปฉันกับน้องช่วงเวลานั้นอยู่บ้างไหม ฉันอยากดูให้แน่ใจ” เฮฟได้แต่ภาวนาขอให้ฮิมยังเก็บทุกอย่างไว้ ไม่เอาไปโยนทิ้งตามคำที่ผมเคยตะโกนสั่งดังลั่นออกไป ซึ่งตอนนั้นเฮฟจะมีอาการปวดหัวรุนแรง หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น “ที่ห้องเก็บของน่าจะยังมีนะ” หลังคำตอบที่ทำเอาใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง นายแบบหนุ่มจึงยกยิ้มบางออกมา เพราะอย่างน้อยก็ยังอยู่ไม่ได้เอาไปทิ้งจนควานหาไม่ได้ แต่ทว่าคำพูดต่อมาของฮิมก็ได้ดับฝันของคนที่ยกยิ้มค้างไว้ให้มลายหายไปทันควัน “ถ้าแม่บ้านไม่เก็บไปทิ้งหมดแล้วน่ะนะ เพราะเดือนก่อนคุณแม่เพิ่งจะสั่งให้พวกแม่บ้านจัดการเก็บของในห้องนั้นทิ้งไปเอง” เมื่อนายแบบหนุ่มได้ยินแบบนี้ยิ่งเกิดความร้อนใจ จนอยากจะรีบบึ่งกลับไปให้ถึงบ้านไว เพื่อจะได้รีบกลับไปหาของในห้องเก็บของที่บ้านโดยด่วนเลย “งั้นฉันกลับก่อนนะ ขอโทษด้วยที่มากะทันหัน แถมรบกวนเวลางานของท่านประธาน และก็ขอบคุณมากนะ พี่ฮิม” เฮฟยกยิ้มกว้างที่สุดส่งให้คนพี่ ซึ่งตอนนี้ท่านประธานหรือพี่ฮิมเกิดอาการผงะจนเสียศูนย์มาดของท่านประธานไปซะแล้ว คงเป็นเพราะผมเรียก พี่ฮิม อีกครั้งในรอบ 20 ปีสินะ “นายมายังไงให้ศิลาขับรถไปส่งไหม” เมื่อท่านประธานตั้งสติกลับมาได้จึงรีบเอ่ยปากถามคนน้องที่กำลังจะก้าวขาออกจากห้องไป “ไม่ต้องหรอก ฉันขับรถมาเอง ไปนะ” “ขับรถดี ๆ ละ” “ครับพี่...ท่านประธาน” เฮฟยกยิ้มขำ ๆ ใส่หน้าเหวอของท่านประธานส่งท้ายก่อนเดินออกมาด้วยอารมณ์ดี ⍣ นายแบบคนดังเดินออกมาจากห้องท่านประธาน เมื่อคุณศิลาเห็นน้องชายของท่านประธานก็ผุดลุกทำท่าจะเดินออกไปส่ง เฮฟจึงรีบเอ่ยขัดบอกว่าไม่เป็นไร เขากลับเองได้สบายมาก เพราะตอนนี้เฮฟอยากใช้ความคิดกับตัวเอง เขาต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปหาของสำคัญที่ห้องเก็บของโดยด่วน และชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่มันขาดหายไป ถ้ามันได้เติมเต็มชิ้นส่วนจนครบ มันก็อาจจะได้คำตอบในสิ่งที่ผมลืมเลือนไปกลับมา.. ยิ่งคิดได้แบบนี้ ใบหน้าหล่อเหลาก็ยกยิ้มกว้างออกมาเองโดยอัตโนมัติ เฮฟรู้สึกอยากวาร์ปไปให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด เมื่อเดินออกจากลิฟต์ขายาวจึงรีบก้าเดินออกไปเร็ว ๆ ยังลานจอดรถที่เขาได้จอด Audi สีขาวของตนเอาไว้ นายแบบหนุ่มยกยิ้ม โฟกัสมองไปยังรถยนต์ของตนที่จอดอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ..แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้ก้าวขาข้ามฟากไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่นั้น ปัง!!! ...ผมก็รู้สึกว่าร่างกายผมน่าจะปะทะเข้ากับของแข็งอะไรสักอย่าง ก่อนที่ตาผมจะปรือปรอยปิดลงไป ก็เห็นว่าเป็นรถยุโรปสีดำนั่นเอง... #ทุ่มเทเพื่อรัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD