ทุ่มเท 11 Debut : เดบิวต์

2616 Words
หลังจากวันนั้น..ที่พ่อนายแบบตัวน้อยถึงกับได้หลุดโฮปล่อยน้ำตาไหลกลางซูเปอร์มาร์เก็ตกันเลยทีเดียว คนเป็นแม่จึงให้น้องฮาร์ฟเลือกช็อกโกแลตไปขอโทษน้องบลู และฟาร์รังคิดว่าแค่ช็อกโกแลตมันไม่น่าจะเพียงพอต่อความรู้สึกผิดในใจของเจ้าลูกชาย ดังนั้นฟาร์รังผู้ที่เป็นแม่จึงได้ช่วยผสานความสัมพันธ์ของเด็กน้อยทั้งคู่ด้วยการลงมือทำโดนัทเป็นของกำนัลเพิ่ม เพื่อให้น้องฮาร์ฟนำไปฝากให้กับน้องบลูด้วย ฉะนั้นผลลัพธ์ในวันนี้คือพ่อนายแบบเด็กจึงเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าแววตายิ้มแย้มได้เลยเขียวละ คาดว่าน่าจะดีใจจนลืมตัวไปแล้วว่าตนเองนั้นมักจะชอบทำหน้านิ่งขรึมแทบจะตลอดเวลา คนเป็นแม่ยกยิ้มกริ่ม เพราะพอจะคาดเดาได้ในทันทีแล้วว่า น่าจะคืนดีกับว่าที่ลูกสะใภ้ของผมแล้วแน่ ๆ ฟาร์รังจึงนึกสนุกขึ้นมาโดยการอดที่จะไม่ลองเอ่ยแซวให้เด็กหนุ่มเขินเล่นๆ ดูบ้างไม่ได้เลย “เดินยิ้มกว้างกลับบ้านมาเชียวนะครับลูกชายมัม” ร่างบางอดไม่ได้จึงเอ่ยปากแซวเจ้าลูกชาย ที่นานแล้วไม่ยอมเผยรอยยิ้มให้ได้เห็นกันง่าย ๆ เช่นนี้ “มัมอ่ะ..ตกใจหมดเลย” มีคนเสียอาการไปหนึ่ง คนเป็นแม่เห็นใบหูของเจ้าลูกชายปรากฏขึ้นสีระเรื่อด้วยล่ะ แต่จะว่าไปพวกเด็ก ๆ เนี่ย ดีจังเลยนะครับ หายโกรธกันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ขนมเอง ไม่ต้องคิดอะไรให้มันซับซ้อนแบบผู้ใหญ่เป็นกันสักนิด “มัมฮ่ะ น้องบลูบอกว่าชอบโดนัทที่มัมทำให้ที่สุดเลย ขอบคุณนะครับ” น้องฮาร์ฟเอื้อนเอ่ย บอกต่อคำที่น้องบลูฝากมาบอกกับฟาร์รัง พร้อมกับเดินเข้าไปกอดเอวคนเป็นแม่แน่น “คืนดีกันแล้วใช่ไหมครับ น้องบลูรู้แล้วใช่ไหมว่าน้องฮาร์ฟไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น” มือบางลูบหัวลูบหลังเจ้าลูกชาย พร้อมถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าน้องฮาร์ฟ จะไม่ไปพูดคำสะเทือนใจให้น้องบลูได้ยินอีก “ใช่ฮ่ะ ฮาร์ฟผิดไปแล้ว ฮาร์ฟบอกน้องบลูว่าถ้าฮาร์ฟทำงานได้เงินเยอะ ๆ พอได้รับเงินก็จะยกให้มัมทั้งหมด แต่ว่าจะขอเงินจากมัมมาซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ให้น้องบลูไปด้วยครับ” “แหนะ มีสัญญาจะซื้อของให้น้องบลูด้วย ไหนบอกจะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ และยกให้มัมหมดเลยไงครับ” คนที่ยังคงโอบกอดคนเด็ก จึงลองแกล้งเย้าแหย่ เอ่ยปากถามคนลูกเรื่องที่น้องฮาร์ฟชอบบอกกับตนเองเสมอ “ก็..ก็ใช่ครับมัม ฮาร์ฟยกเงินให้มัมหมดเลย แต่แค่ขอรางวัลเปลี่ยนจากของฮาร์ฟให้น้องบลูไงครับ” หืม เจ้าลูกชายผมนี่เจ้าเล่ห์ได้ใครมาละเนี่ย อาหมอกแน่ ๆ !! เพราะน้องฮาร์ฟรู้ว่าหากน้องฮาร์ฟทำงานมา คนเป็นแม่มักจะซื้อของรางวัลให้เป็นการตอบแทน สำหรับความเหนื่อยในการทำงาน แต่ครั้งนี้จะขอรางวัลให้กับน้องบลูแทน ผมว่าคนนี้แหละ น้องบลู ว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคต จองไว้แล้วโดยน้องฮาร์ฟของผมเอง “ไม่ได้เหรอฮะ” น้องฮาร์ฟเห็นคนเป็นแม่เงียบไป ไม่ยอมเอ่ยตอบตกลงอะไรออกมา จึงกระชับออกแรงกอดมัมมี๊ให้แน่นขึ้น และส่งสายตาออดอ้อนมาให้ด้วย หึ หึ เจ้าลูกหมานี่ก็อ้อนเป็นเหมือนกันนี่นา น่ารักจริงเชียว เมื่อมัมมี๊เจอเจ้าลูกชายงัดลูกอ้อนมาใช้ แล้วแบบนี้ใครจะไปทนไหวกันละ ทุกทีเจอแต่สีหน้าแววตาขึงขัง เพื่อทำให้ตัวเองดูโตไปไหนกัน “ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ละ แล้วฮาร์ฟไม่มีของที่อยากได้เองเหรอครับ” “ไม่ครับ ฮาร์ฟอยากให้น้องบลูมากกว่านี่ฮ่ะ” ใบหน้าหวานจับจ้องมองเห็นแววตาเจ้าเล่น้องฮาร์ฟ กับมุมปากที่ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา คนเป็นแม่ก็เข้าใจได้ทันทีว่า นอกจากจะอ้อนเก่งเหมือนผมแล้วยังเจ้าเล่ห์ได้ใครมา “เพราะถ้ามีของที่ฮาร์ฟอยากได้ ฮาร์ฟจะไปขอจากเลออนกับอาหมอกไงครับมัมมี๊” ⍣ @ Paracinixz Grand Hotel กำหนดการวันที่น้องฮาร์ฟต้องมาเดินแบบ เปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ ให้กับแบรนด์เสื้อผ้าเด็กก็เวียนมาบรรจบ พอได้ย่างกายเข้ามาที่งาน จึงได้เห็นคุณบาโรพาน้องบลูมางานนี้ด้วย แบบนี้เขาก็เป็นลูกค้า V.I.P เลยนะสิ เพราะที่งานนี้มีแค่ลูกค้าระดับสูง ๆ ถึงจะเข้ามาที่งานนี้ได้ ว่าแต่คุณบาโร เขาทุ่มไปเท่าไหร่ละนั่น ? แต่เอาเถอะไม่รู้ว่าคนเป็นลูก หรือคนเป็นพ่อกันแน่ที่อยากจะมางานนี้ใจจะขาด สักพักทางทีมงานได้แจ้งกำหนดการกับฟาร์รังว่า ให้พาน้องฮาร์ฟไปแต่งตัวแต่งหน้าที่ห้องรับรองได้เลย แต่ว่าน้องฮาร์ฟได้เดินปิดเป็นคนสุดท้ายของงาน ซึ่งเขาเรียกกันว่า ฟินาเล่* ไม่ใช่หรือครับ ? น้องฮาร์ฟ เจ้าลูกชายผมไปไกลมาก! ช่วงที่รอน้องฮาร์ฟแต่งหน้าแต่งตัว ฟาร์รังจึงกดยุกยิกส่งข้อความ ไปแหย่เพื่อนสนิทตัวโตให้เสียใจเล่น ๆ ที่เจ้าตัวนั้นไม่สามารถละวางมือจากการทำงานให้เสร็จทันกับการมาร่วมงานนี้ได้เลย หมอกบ่นอุบกลับคืนมาทันควัน ว่าคอยดูจะลาออกจากงานแล้วมาเป็น ผู้จัดการส่วนตัวให้น้องฮาร์ฟภายใน 3 เดือนนี้ แบบจริงจังมาก แถมหมอกยังโอดโอยออกมาว่า เห็นไหมว่าหมอกนั้นมองการณ์ไกลไม่เคยผิด ปั้นดาวก็ได้เป็นดาวขึ้นมาทันตาเห็น “นี่ใคร ก็พี่หมอกไงครับ” ฟาร์รังถึงกับหลุดขำกับคนขี้โอ่แบบหมอก แต่ว่าหมอกก็ยังคงเป็นหมอกที่ขี้เห่อหลานคนนั้นเสมอมา ฟาร์รังจึงยอมเออออฟังไปอย่างนั้นแหละ เพราะรู้ว่าหมอกมาไม่ได้หรอก เพราะเขาก็มีคนของเขาที่ต้องดูแลเช่นกัน ตอนนี้เพื่อนสนิทของเขาก็ใช่ว่าจะเป็นหนุ่มโสดเสียเมื่อไหร่ จะไปไหนมาไหนได้สะดวกแบบสมัยตัวคนเดียวก็ดูว่าจะไม่ง่ายแล้วซะหน่อย เพราะต่างคนก็ต่างมีเรื่องต้องทำ และเขาคนคนนั้นคงจะยอมปล่อยให้หมอกมาได้หรอก ก็เล่นหวงกันซะขนาดนั้น ฟาร์รังละความสนใจข้อความจากหมอกก็สบเวลากับน้องฮาร์ฟที่แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพอดี โอ้ว! ลูกผมนี่หล่อทะลุร่างเด็กออกมาเชียว นี่เด็ก 7 ขวบจริง ๆ เหรอเนี่ย หล่อเหลือร้ายมาก “ไหน นี่ใครเอ่ย ทำไมลูกชายมัมหล่อจังเลยครับ” ดูท่าว่าน้องฮาร์ฟ สงสัยจะเขินที่ถูกชมเปาะ เจ้าลูกชายถึงกับมือไม้ระเกะระกะไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหนดี จะยกขึ้นเกาบนศีรษะก็ไม่ได้เพราะทรงผมที่ถูกเซตไว้อย่างดีจะเสียทรงได้ พอจะเลื่อนมือไปลูบใบหน้าก็ไม่ได้อีกเพราะเมคอัพเอาไว้ คนขี้เขินจึงเปลี่ยนเรื่องแก้อาการเก้อเขินแทนซะเลย “มัมมี๊คุยกับใครอยู่ครับ” “อาหมอกครับ มาถ่ายรูปส่งให้อาหมอกดูหน่อยเร็ว” ใบหน้าหวานของคนเป็นแม่ยกยิ้มพร้อมเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ลูกชายรู้สึกเก้อเขินไปมากกว่านี้ พองานเริ่มได้สักพักแล้ว ทีมงานให้น้องฮาร์ฟเข้าไปรอในห้อง ที่เหล่าบรรดานายแบบนางแบบตัวน้อย ไล่เรียงลำดับเดินขึ้นเวทีโชว์ชุดที่ตนเองใส่ ฟาร์รังจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่สต๊าฟ ส่วนตัวฟาร์รังเองได้เดินกลับไปยังที่นั่งโซน VVIP สำหรับผู้ที่มาชมงานเปิดตัวเสื้อผ้าเด็กแบรนด์หรู คนที่นั่งอยู่ด้านข้างของฟาร์รังนั้นก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี สองพ่อลูกคุณบาโรกับน้องบลูที่ยอมทุ่มค่าบัตรจนได้มานั่งอยู่ตรงโซนนี้ด้วยกันจนได้นั่นเอง “ฮาร์ฟใกล้จะออกมาแล้วเหรอฮะน้าฟาร์” น้องบลูเก็บความตื่นเต้นที่แสดงออกมาทางสายตาแบบปิดไม่มิด ด้วยความอยากรู้จึงกล่าวเอ่ยถามออกมาด้วยความลุ้นระทึก “ใกล้แล้วครับ น้องบลูรอดูน้องฮาร์ฟดี ๆ เลยนะครับ” คนเป็นน้าส่งยิ้มหวานตอบกลับให้น้องบลูไป และเมื่อมองเลยไปยังคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คนเด็ก จึงได้เห็นว่าคุณบาโรส่งแววตาวาววับจ้องมองมาให้กันอยู่ ฟาร์รังจึงส่งยิ้มบางกลับคืนไปให้เล็กน้อย ก่อนจะรีบเบนใบหน้าหวานหันกลับไปมองทางด้านหน้าเวทีดังเดิมแทน น้องบลูจดจ่อรอน้องฮาร์ฟเดินออกมาอย่างตื่นเต้นใหญ่เลยล่ะครับ น่ารักเชียว ส่วนคนพ่อนั้น ก็ปล่อยเบลอเขาไปเถอะครับ เมื่อถึงคิวน้องฮาร์ฟเจ้าของชุดฟินาเล่ปิดท้ายงานของวันนี้ ได้ปรากฏกายกายก้าวเท้าเดินออกมาด้านหน้าเวทีพร้อมกับชุดสูทเด็กคอลเลกชันใหม่สุดเท่ ใบหน้าหล่อเหลาแต่เด็กถูกสวมทับด้วยแว่นกันแดดสีเข้มได้โผล่ออกมายืนโพสต์เพียงแป๊บเดียวก็มีเสียงฮือฮาพร้อมเสียงรัวแสงแฟรชใส่ทันที ชุดที่น้องฮาร์ฟสวมใส่อยู่นี้ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนจั้มสีขาวตัดทับด้วยเสื้อกั๊กสีแดงเบอร์กันดีใส่คู่กับกางเกงทรงเข้ารูป จึงทำให้เรียวขาของคนเด็กดูยาวขึ้นประดุจเป็นเด็กหนุ่มแรกรุ่นยังไงยังงั้นเลย และที่มือก็ได้ถือเสื้อสูทตัวนอกพาดบ่าเดินออกมาด้วยท่าทางองอาจมาดมั่นจนดูเฟี้ยวดีไม่หยอก ช่างภาพจึงพากันระดมสาดรัวแสงแฟรชใส่ร่างนายแบบเด็กที่มาจากทั่วทุกสารทิศล้อมรอบทั่วทุกมุมของเวที แสงวูบวาบที่ได้ปะทะเข้ากับร่างของนายแบบสุดหล่อตัวน้อย ที่อยู่บนเวทีอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เพราะด้วยน้องฮาร์ฟที่เป็นมือโปรฯ จึงยังสามารถก้าวเดินด้วยท่วงท่าสง่างามตามที่ได้ฝึกซ้อมมาได้อย่างเป๊ะๆ ยืนโพสต์ท่าหล่อ ๆ ตามพอยท์ที่กำหนดไว้ เพื่อให้ผู้ชมได้ดูชมกันได้โดยปราศจากความประหม่า หรือไร้ความเก้อเขินเหมือนดั่งเช่นตอนที่อยู่หลังเวทีกับคนเป็นแม่เลยสักนิด ลูกชายผมนี่ มืออาชีพมาเองชัด ๆ น้องฮาร์ฟเก่งมาก ทำให้ช่างภาพบันทึกภาพอันหล่อเหลา กับชุดที่ใส่เดินวันนี้ได้มุมดีทุกท่วงท่า ทุกช็อต เมื่อน้องฮาร์ฟเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหน้าของคนเป็นแม่ จากที่สีหน้านิ่งเรียบกลับยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ ทำเอาบรรดาเหล่าตากล้องต้องรีบลั่นชัตเตอร์รัวเก็บภาพกันเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเสียงรัวชัตเตอร์เงียบลงไปพร้อมกับน้องฮาร์ฟที่เดินหายลับกลับเข้าไปด้านในหลังเวทีแล้ว แสงไฟสาดส่องไล่ตามหลังไปด้วยจึงได้ดับลงไปพร้อมกับนายแบบเด็กหนุ่มด้วยเช่นกัน และบนเวทีก็ได้สว่างว่าปรากฏแสงของสปอตไลต์สาดส่องลงมาอีกครั้ง พร้อมกับได้ปรากฏร่างของดีไซเนอร์ที่ออกแบบชุดเด็กคอลเลคชั่นนี้ ก้าวเท้าเดินออกมาโบกไม้โบกมือให้กับผู้ชมงาน และนี่ก็เป็นการเดินเวียนโชว์ชุดของบรรดาเหล่านายแบบนางแบบตัวน้อย ๆ อีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนเก็บภาพในความสำเร็จครั้งนี้ไปด้วยกัน หลังจากจบงานเดินแบบครั้งนี้ น้องฮาร์ฟก็เป็นที่สนใจอย่างไม่สร่างซา มีคนแวะเวียนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย พูดคุยด้วยอย่างไม่ขาดสาย ฟาร์รังละสายตาไปจากน้องฮาร์ฟที่กำลังตอบคำถามแขกในงาน จึงทำให้ได้ปะทะเข้ากับสายตาปริศนาของบุคคล 2 คนเข้า แม้นจะดูมีอายุแล้วแต่ทว่าทั้งสองคน ยังคงดูภูมิฐานอยู่มากโข เพราะรักษารูปร่างหน้าตาและผิวพรรณแลดูดี ไหนจะชุดที่สวมใส่มาร่วมในงานวันนี้ ก็คงจะไม่ธรรมดา และแล้วพอเมื่อทั้งคู่ได้เหลือบตามองมาสบเข้ากับคนตัวเล็ก ทั้งคู่จึงยกยิ้มน้อย ๆ ส่งกลับคืนมาให้ ก่อนจะคล้อยหลังพากันเดินออกจากงานไป ฟาร์รังจึงไม่ได้เรื่องนี้เอามาใส่ใจนัก คงจะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายไหนของสักแบรนด์ที่มาร่วมงาน ก็คงจะเอ็นดูน้องฮาร์ฟอยู่ไม่น้อย ถึงได้มาเรียบ ๆ เคียง ๆ แอบยืนดูอยู่ห่าง ๆ แบบนี้ ⍣ หลังจากการเดบิวต์เปิดตัวของน้องฮาร์ฟ ด้วยชุดฟินาเล่ให้กับแบรนด์ดังครั้งแรกนั้น ก็ทำให้น้องฮาร์ฟเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง ของวงการแฟชั่นเด็กขึ้นมาทันที จนบรรดาเหล่าแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก เกิดสนอกสนใจต้องการตัวพ่อนนายแบบตัวน้อยคนนี้ ต่างจับจองให้น้องฮาร์ฟไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ของตนเอง ซึ่งก็มีแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ติดต่อเข้ามา จนคนเป็นแม่ต้องคัดเลือกงานให้น้องฮาร์ฟ เพราะว่าไม่สามารถตอบรับให้น้องฮาร์ฟไปร่วมงานได้กับทุกที่ที่ได้รีเควสกันมา แม้นน้องฮาร์ฟจะชอบทำงาน และพยายามเข้ามาบอกให้ฟาร์รัง รับงานให้หมดเลยจะได้ค่าตอบแทนเยอะ ๆ เพราะอยากเก็บเงินไว้ให้คนเป็นแม่ มัมมี๊จะได้ไม่ต้องไปทำงานกับเลออนให้เหนื่อย แต่น้องฮาร์ฟเป็นเพียงแค่เด็ก 7 ขวบ จะมาทำงานเหนื่อยแทนผมที่อายุ 27 ทำไมกัน?! จนกระทั่งน้องฮาร์ฟได้มีงานเดินแบบ ให้กับแบรนด์ดังรองเท้าเด็กยี่ห้อหนึ่ง ก็ทำให้ฟาร์รังได้เจอเข้ากับ 2 คนคู่สามีภรรยานี้อีกครั้ง แต่แล้วการเจอกันครั้งนี้ เจ้าของแบรนด์ก็ดันเชิญให้ฟาร์รังและน้องฮาร์ฟได้เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย ฟาร์รังจึงได้รู้ว่า 2 บุคคลคู่สามีภรรยาคู่นี้นั้น มีนามสกุลเดียวกับคนคนนั้นนั่นเอง ...วรวงค์ดิสษากร... ฟาร์รังจึงคอยลอบสังเกตทั้งสองคนนั้นที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความปลาบปลื้มยามเมื่อมองไปยังน้องฮาร์ฟอย่างไม่ปิดบัง แต่ทว่าเมื่อใดที่สองสามีภรรยาคู่นั้น เขายังไม่รุกล้ำก้าวก่ายหรือทำให้เกิดความลำบากใจกับเรื่องของน้องฮาร์ฟ ฟาร์รังคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้พวกเราก็ยังสามารถอยู่ร่วมโต๊ะกับพวกเขาได้ แต่ทางที่ดี หากจะตัดสินใจรับงานครั้งหน้า ฟาร์รังคงต้องสอบถามรายละเอียดทั้งหมดของผู้สนับสนุนแบรนด์เป็นอันดับแรก เราสองคนแม่ลูกควรอย่างยิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงออกให้ห่าง จากตระกูลนี้ท่าจะดีที่สุด เพราะอย่างไรเขาคนนั้น ก็ไม่เคยอยากจะรับรู้การมีตัวตนของลูกชายผม ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา... #ทุ่มเทเพื่อรัก -- เชิงอรรถ -- ฟินาเล่* ฉากสุดท้าย,ตอนจบ,grand finale เป็นคำมักจะใช่เรียกกันในงานเดินแบบสำหรับชุดเปิดตัวสุดท้ายในการเดินแบบค่ะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแจ้งนักเขียนได้เลยนะคะ oo (> ω <)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD