เฮฟเข้าใจแล้วว่าทำไมคนตัวเล็ก ถึงไม่กล้าไปไหนมาไหนเองคนเดียว พอได้ลองพูดคุยกับคนเป็นน้องดู จึงรับรู้ได้เลยว่าพี่ชายของคนตัวเล็กหวงน้องชายมาก
แถมคนน้องก็เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง ในช่วงก่อนเปิดเทอมไม่กี่วันมานี้นี่เอง ตอนนี้พี่ชายของน้องก็โทรมาถามว่ากลับได้ไหม เดี๋ยวให้เลขามารับ แต่น้องบอกว่าออกมาจากโรงเรียนกับรุ่นพี่แล้ว
รุ่นพี่ หึ ช่างเรียกได้ดูห่างเหินกันดีจัง แต่ก็นะยังดีกว่าบอกว่าเป็นคนเพิ่งรู้จัก
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวกระผมจะ กระชับความสัมพันธ์ ให้เองครับ
“พี่ครับ พี่ชายผมอยากคุยด้วย”
ในขณะที่ร่างสูงกำลังคิดยัดเยียดสถานะให้คนตัวเล็ก ตาคมสบเห็นมือเรียวที่ยื่นโทรศัพท์มาให้คุยกับคนปลายสาย
“สวัสดีครับ”
“ครับ..ผมเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนครับ พอดีว่าเห็นน้องเขา เก้ ๆ กัง ๆ แถวป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน เลยอาสามาส่งครับ”
“ผมชื่อเฮฟครับ อ่อ..รู้จักครับ ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมพาน้องลงรถไฟฟ้าแล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปส่งให้ถึงหน้าบ้านเลยครับ”
รุ่นพี่จำเป็นจึงได้ยื่นโทรศัพท์คืนคนตัวเล็กพร้อมยกยิ้มยียวนให้ด้วย
หึ พี่ชายคนตัวเล็กตอนแรกก็ทำเสียงเข้มนะ
แต่พอรู้ว่าน้องชายตัวเองยืนเก้กังกลับบ้านไม่เป็น ก็เกิดรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเชียวล่ะ
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าฝากปลาย่างไว้กับแมว เอ๊ย! ฝากให้ผมไปส่งน้องชายสุดหวงที่บ้านให้แทน
ดีนะที่ผมตัดสินใจถูก ปล่อยทิ้งไอ้เอิร์ธแล้วรีบวิ่งตามคนตัวขาวออกมาทั้งอย่างนั้นเลย
ถึงได้มารู้จักบ้านคนตัวเล็กกับตาตัวเองแบบที่ดูง่ายดายเชียวล่ะ
“พี่ชายเราอ่ะ บอกให้พี่ไปส่งถึงที่บ้านเลย ดูท่าจะเป็นห่วงน้องชายน่าดู”
ร่างสูงหันไปเอ่ยปากแซวคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จนได้เห็นคนตัวเล็กทำท่าเขินอาย
ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วมันยิ่งน่าแกล้งชะมัดเลยแฮะ
➷
เมื่อนั่งแท็กซี่ต่อกันจนมาถึงหน้าบ้านคนตัวเล็ก หลังแท็กซี่จอดนิ่งสนิท คนตัวเล็กหันมายังคนที่นั่งคู่มาส่งที่บ้าน พร้อมยื่นเงินมาให้แต่ร่างสูงกลับไม่ยอมรับเงินจากมือเรียวสักที
แต่เฮฟกลับเป็นฝ่ายควักเงินจากกระเป๋าตังค์ของตัวเองยื่นส่งให้กับคนขับแท็กซี่เสร็จแล้วก็รีบก้าวขาลงรถออกมายืนอยู่หน้าบ้านคนตัวเล็กเช่นกัน
“ทำไมพี่ลงด้วยละครับ ผมคิดว่าจะนั่งต่อไปบ้านพี่ซะอีก”
“จะไม่ชวนพี่เข้าบ้านหน่อยเหรอครับ หิวน้ำมาก ๆ แถมปวดฉี่ด้วยเนี่ย”
เฮฟเห็นคนตัวเล็กละล้าละลัง อ้าปากแล้วก็หุบ ใบหน้าหวานก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองอย่างเป็นกังวลแล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมาสบมองเฮฟด้วยแววตาลูกกวางหลงทางไม่มีความมั่นใจใดๆ เลย
“งั้นเข้าบ้านก่อนก็ได้ครับ” คนตัวเล็กจึงยอมจำใจเอ่ยคำเชิญออกมาพร้อมกับผลักบานประตูเหล็กหน้าบ้านเปิดออกเดินก้าวนำหน้าร่างสูงเข้าบ้านไป
“ห้องน้ำอยู่ทางด้านนู้นครับ” คนตัวเล็กชี้บอกทิศทางของห้องน้ำ
เฮฟคิดในใจ ไม่ได้ปวดฉี่จริง ๆ ซะหน่อย แค่อยากจะเข้ามาเห็นบ้านเธอ ยัยตัวเล็ก
“ครับ” คนหล่อส่งยิ้มให้คนตัวเล็ก และหันมองรอบ ๆ บ้าน ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ กลับมานั่งที่โซฟาเห็นมีแก้วน้ำวางไว้ให้ กะว่าจะชวนคนตัวเล็กคุยไปเรื่อยเปื่อย แต่ทว่า
“พี่จะกลับเลยไหมครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
อ่าว เอ่ยปากไล่เฉย แล้วไอ้ที่ผมวาดฝันไว้มลายหายไปเลย
เฮฟจึงจำต้องส่งยิ้มแหยไปให้เจ้าบ้านที่เอ่ยปากไล่แขกกันแบบซึ่งๆ หน้าเช่นนี้เลย
โอเค๊! ไหน ๆ ก็ได้รู้บ้านแล้ว
วันนี้จะยอมถอยทัพให้ก่อนก็ได้
เพราะจีบพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย..หึหึ
“ครับ ขอบคุณสำหรับน้ำนะครับ” เฮฟจึงยกแก้วน้ำที่วางเตรียมไว้ให้ขึ้นจิบพอเป็นพิธี และเอ่ยคำขอบคุณคนตัวเล็กออกไป
ร่างสูงเดินตามคนตัวเล็กที่เดินนำออกไปทางด้านประตูหน้าบ้าน คนตัวเล็กเดินมาส่งคนเป็นรุ่นพี่ที่ป้ายรถเมล์
ระหว่างที่รอรถช่วงนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว การจราจรติดขัดดีนักแล เฮฟเลยได้เอ้อระเหย หยุดสายตาโฟกัสมองแต่เสี้ยวใบหน้าหวานของคนตัวเล็กที่ชะเง้อมองหาแท็กซี่ให้กับเขา เพื่อเป็นการฆ่าเวลาได้ดีทีเดียว
ผมภาวนาให้แท็กซี่มีน้อย ๆ ผ่านมาก็ขอให้ไม่ว่าง จะได้อยู่แบบนี้ไปนาน ๆ
“นี่ค่ารถเมื่อกี้ครับ” คนตัวเล็กยังพยายามยื่นเงินให้กับร่างสูงอีกครั้ง
“ไม่เอาครับ ถือว่าพี่มาส่งไงครับ” มือใหญ่ดันมือคนที่พยายามยัดเยียดเงินให้เก็บเงินไปซะ
“แต่ว่าผมเกรงใจนะครับ ให้พี่มาส่งแล้วยังจ่ายเงินให้ผมอีก” คนตัวเล็กตีสีหน้ายุ่ง พร้อมมุ่ยปากใส่คนเป็นพี่
น่าบีบแล้วจับเคี้ยวๆ แล้วกลืนลงท้องไปเลยจริงเชียว
“ไม่เป็นไรครับ...ถ้างั้นพรุ่งนี้ซื้อน้ำให้พี่แก้วหนึ่ง เป็นการตอบแทนก็ได้ครับ”
“อื้อ..แบบนั้นก็ได้” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนสูงกว่าใจกระตุกเล่น ๆ อีกครั้งแล้ว
“รถแท็กซี่มาแล้วครับพี่” คนตัวเล็กโบกรถเก๋งสาธารณะให้รุ่นพี่เรียบร้อย
“พรุ่งนี้เจอกันนะครับ เดินกลับเข้าบ้านดีๆ นะ บายๆ ครับ” ริมฝีปากหยักเอ่ยบอกทิ้งท้ายก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแท็กซี่ไป
คนน้องทำเพียงแค่พยักหน้าหงึกหงักตอบและโบกมือลา
โอ๊ยแค่นี้ก็เพียงพอแล้วค้าบบ!!
@ Xc School
7.15 น.
(เชี่ยมึงอยู่ไหนเนี่ย)
หลังมือใหญ่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อที่หู ก็ได้ยินเสียงไอ้เอิร์ธเปล่งเสียงถามหาทันทีที่มาถึงโรงเรียน
ไอ้นี่แม่ง..
“ที่เดิม” คนทำหน้าเหนื่อยหน่ายตอบกลับปลายสายไป
(ที่เดิมไหนวะ กูก็เดินมาโต๊ะพวกเราแถวหนามบาส ไม่เห็นหัวมึงเลยค้าบ)
“ที่เดิมเมื่อวาน” เฮฟถอนหายใจใส่มันไปที
(เอ้า ที่เดิมเมื่อวาน แหมะ ติดใจศาลาริมน้ำข้างห้องปกครองว่างั้น)
ไอ้เหี้xนี่ ถ้าไม่ตีฝีปากกับผมสักวัน มันคงนอนไม่หลับสินะ
เฮฟไม่ได้ตอบอะไรไอ้เอิร์ธไป มือใหญ่กดสายทิ้งเพราะเป้าหมาย ของร่างสูงเดินใกล้เข้ามาแล้ว
“เห้ย!..พี่..ตกใจหมด มาแต่เช้าจัง” น้องผู้หญิงที่ลุกออกจากโต๊ะไปคนแรกเมื่อวานตอนเย็น เดินมาพร้อมกับคนตัวเล็กของรุ่นพี่สุดหล่อ
ร่างสูงส่งยิ้มไปให้น้อง ๆ “นั่งด้วยนะ พอดีนัดกับเพื่อนไว้ตรงนี้อ่ะ” คนตีเนียนยังคงแถไปเรื่อย
“ตามสบายเลยพี่ แต่ว่าเดี๋ยวพอน้ำกับพีมา มันก็จะเสียงดังวุ่ยวายเลยนะพี่ แหะ ๆ” น้องผู้หญิงยังพูดบอกคนเป็นรุ่นพี่ต่อ
“ถ้างั้นพี่ขอยืมตัวเพื่อนเราหน่อยนะ รอเพื่อนมากินข้าวด้วย สงสัยมาสายแน่ ๆ หิวข้าวมาก ๆ เลยเนี่ย” คนโตสุดพูดประโยคหิวข้าวออกมาแบบลอยๆ พลางใช้สายตาคมตวัดมองไปทางคนตัวเล็กด้วยแววตาละห้อย แต่คนตัวเล็กกลับนั่งมองคนพี่ด้วยแววตาเฉยชา แล้วก็ยังคงเงียบกริบไม่เอื้อนเอ่ยคำตอบใด ๆ ออกมาจากริมฝีปากบางด้วย
“ว้า เมื่อวานยังมีคนบอกจะเลี้ยงน้ำอยู่เลย” น้ำเสียงน้อยใจที่ราวกับว่าพูดอยู่คนเดียวหลุดลอยออกมา จนทำเอาคนตัวเล็กที่ขี้ระแวงอยู่แล้วต้องรีบหันไปมองเพื่อนผู้หญิงด้านข้างทันที ทว่าโชคดีที่เพื่อนสาวกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดจดจ่ออยู่กับสมุดการบ้าน มือเล็กจึงรีบดึงข้อมือของคนพี่ให้ลุกขึ้นทันที
“แก้ว เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อนนะ เมื่อเช้าตื่นสายเลยยังไม่ได้กินข้าวมาเลยน่ะ แกไปด้วยกันไหม” ฟาร์รังโพล่งบอกเพื่อนรัวเร็วก่อนจะถูกจับพิรุจได้
“ไม่อ่ะแก ดูดิทำการบ้านข้อนี้ของสุนีย์ไม่ได้วะ แกทำได้ม่ะ เอามาลอกหน่อยดิ” เพื่อนผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมองไปทางคนตัวเล็ก ทำให้คนเลิ่กลั่กต้องรีบปล่อยมือคนพี่ออกไปอย่างไร้เยื่อใยทันที
“อ่อ..เอาดิ เราทำเสร็จแล้ว” ฟาร์รังนั่งลงค้นกระเป๋าตัวเอง แล้วหยิบเอาสมุดการบ้านยื่นให้เพื่อนก่อนที่จะหันหน้ามองมาทางคนพี่ที่ยังคงนั่งนิ่งเฉยมองกันอยู่เช่นกัน
ผมก็อยากรู้เช่นกัน ว่าคนน้องจะจับมือแล้วลากตัวเอง ออกจากโต๊ะไปด้วยกันอีกไหม
“เราไปกินข้าวก่อนนะ”
อ่าว..แต่น้องดันลุกขึ้นแล้วเดินออกจากศาลาไปเลย ผมได้แต่ยกยิ้ม แล้วลุกขึ้นเดินตามคนตัวเล็กไป
“ไม่ดึงมือพี่แล้วเหรอครับ” ร่างสูงสังเกตเห็นว่าใบหูของคนตัวเล็ก เริ่มขึ้นสีระเรื่อแล้วครับ
“ก็พี่จะพูดแบบนั้นทำไมครับ” คนตัวเล็กหันมามองหน้าคนพี่และมุ่ยหน้าลงทันที
“ทำไมละ ไม่อยากให้เพื่อนรู้เหรอว่าพี่จีบเราอยู่นะ”
คนตัวขาวทำตาโตใส่พร้อมอ้าปากหวอออกกว้าง พร้อมกับหูที่ขึ้นสีระเรื่อ ไหนจะแก้มใสก็เริ่มมีสีเลือดฝาดผุดขึ้นมาด้วย
คนอะไรยิ่งเขินยิ่งน่าแกล้ง หึ้ยย
“น้องจะไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่จริงเหรอ ใจดีจัง” เฮฟเลยลองเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนที่ตัวเองนี่แหละจะทนคนตัวเล็กไม่ไหวก่อน
“ผมกินมาแล้ว ก็พี่อยากกินน้ำไม่ใช่เหรอ ผมมาซื้อน้ำให้เป็นค่าตอบแทนเรื่องเมื่อวานไง”
“อ่อครับ..แต่พี่ไม่มีเพื่อนนั่งกินข้าวด้วยเลย เหงาใจจังครับ น้องฟาร์นั่งเป็นเพื่อนพี่ได้ไหมครับ นะ”
ไหนๆ ก็เปิดตัวจีบไปแล้ว บุกแรงๆ แบบชัดเจนไปเลยสิครับ จะรออะไรละ
คนตัวเล็กไม่ตอบอะไรแต่เดินนำลิ่ว ๆ ไปยังโรงอาหารแล้วครับ ฮ่า ๆ
“พี่เอาน้ำอะไรครับ” คนตัวเล็กเอ่ยถามร่างสูงที่เอาแต่นั่งมองใบหน้าจิ้มลิ้ม
“เอาน้ำ..น้องฟาร์...ได้ไหมครับ” คนพูดจาสองแง่สองง่าม จุดยิ้มขึ้นที่มุมปากพร้อมส่งสายตาวาววับ จับจ้องมองไปยังหน้าใบหน้าหวานที่ขึ้นสีของคนตัวเล็ก
“จะบ้าเหรอ งั้นเอาเงินไปซื้อเองเลย เราจะกลับไปหาเพื่อนแล้ว”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนครับ พี่เหงา เพื่อนพี่ปล่อยทิ้งพี่ไว้คนเดียวจริงๆ นะครับ”
มือใหญ่ดั่งคีมเหล็กรีบฉวยคว้าข้อมือเล็กไว้ในมืออุ่น
เรื่องอะไรจะปล่อยไปง่าย ๆ ว่ะแม่ง อุตส่าห์มีโอกาสทั้งที
“มะ..มะพร้าวปั่นใช่ไหมครับ” คนน้องพยายามบิดข้อมือให้หลุดพันธนาการออกจากมือกาวของคนพี่
แต่เอ๊ะ! จำได้ด้วยเหรอว่าเมื่อวานผมสั่งน้ำมะพร้าวปั่น? หึ หึ
“จำได้ด้วยหรือครับ” คนพี่ส่งยิ้มกว้างไปให้คนน้องทันที
ฟาร์รังเลือกที่จะไม่ตอบอะไรออกมา แต่กลับรีบเดินหนีไปร้านน้ำแทนแล้ว เพื่อที่จะได้รีบหลบเลี่ยงสายตาวาววับของรุ่นพี่ตัวสูงที่เอาแต่จ้องมองกันอยู่ได้
หนีผมอีกแล้ว หนีเก่ง แต่ไม่เป็นไร หนีได้หนีไปแต่ผมจะตามเองครับ
คนน้องวางน้ำมะพร้าวปั่นลงตรงหน้ารุ่นพี่แสนเจ้าเล่ห์ และมีแก้วโกโก้ใส่วิปปิ้งล้น ๆ วางตรงหน้าตนเอง
ดวงตาคมยังคงจ้องมองแก้วโกโก้ปั่นที่มีวิปปิ้งพูน ๆ ยิ่งตอนคนน้องยกขึ้นไปดูด สายตาเหยี่ยวเลื่อนไปหยุดพักอยู่กับริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ ที่เฮฟแสนจะอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง จนคนหน้าหล่อคลี่ยิ้มออกมาจนเผลอใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตนจนได้
“โกโก้ร้านนี้อร่อยรึเปล่า ขอลองชิมหน่อยสิ”
คนน้องหลังจากที่ได้ยินคนที่นั่งตรงข้ามพูดขอชิมออกมา ก็มีท่าทีตกใจและรีบดึงแก้วโกโก้เข้าหาตัวเองทันที
“ทำไมพี่ไม่บอกก่อนว่าอยากกินโกโก้ เราจะได้ซื้อมาให้”
“ไม่เป็นไร เอาแก้วที่อยู่ในมือน้องนั่นแหละ"
หลังพูดจบ เฮฟสังเกตเห็นคนน้องเงียบนิ่งไม่ไหวติง จึงเลือกที่จะเอ่ยแซวออกไป
"อ๋า...เป็นคนหวงของกินอ่อเราอ่ะ” คนพี่แสร้งทำเป็นมีท่าทีน้อยอกน้อยใจ เลยเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาตักข้าวกินต่อ
“ถ้าพี่ไม่รังเกียจน้ำลายเราอ่ะนะ” มือเรียวเลื่อนแก้วโกโก้มาไว้ใกล้ ๆ หน้าคนที่ม้อยหน้าลงไป
เฮฟผุดรอยยิ้มออกมาทันที
หึ เจ้าแมวน้อยเอ๊ยพยศได้แค่นี้แหละนะ
คนแสร้งน้อยใจจึงยอมเงยหน้ามองใบหน้าหวาน และก็จัดการจับแก้วโกโก้ปั่นของคนน้องขึ้นมาดูดจ๊วบ จ๊วบ
ร่างสูงดูดหลอดเดียวกันกับคนน้องนั่นแหละ ซึ่งรสชาติของโกโก้ปั่นมันก็ไม่ต่างกันมากมายหรอกนะผมว่า
แต่สำหรับโกโก้ปั่นแก้วนี้มันเป็นความรู้สึกที่แสนพิเศษ
ไม่รู้ว่ามันหวานเพราะวิปครีมหรือหวานเพราะคนตรงหน้ากันแน่
“รู้ไหมว่าดูดหลอดเดียวกัน เขาว่ามันคือจูบทางอ้อมนะ”
เฮฟแลบลิ้นเลียที่มุมปากตัวเอง พลางใช้สายตาลุ่มลึกจ้องไปยังริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ของคนตัวเล็กด้านหน้า คนที่วางสายตาหยุดอยู่ที่ใบหน้าหวาน จึงได้เห็นคนตัวเล็กหน้าขึ้นสีขึ้นมาทันที
น่าฟัดฉิบหาย
“งั้นพี่เอาแก้วนั้นไปเลย เรายกให้”
หลังกินข้าวเช้าเสร็จ ร่างสูงรีบเอ่ยถามคนน้องว่า ตอนกลางวันมานั่งกินข้าวด้วยกันไหม แต่คนน้องตอบปฏิเสธ
เฮฟเลยเป็นคำถามแทน แล้ววันนี้ไปเรียนพิเศษยังไง น้องบอกว่าเดี๋ยวพี่ชายส่งคนขับรถมารับ
เฮ้ออ..แบบนี้ผมก็อดอยู่กับน้องนะสิ เห่อ ๆ
ทำไมต้องเรียนพิเศษตั้งแต่ม.4 ด้วยละวะเนี่ย?
แต่ไม่เป็นไร..ผมจะหน้าด้านไปนั่งกินข้าวกับโต๊ะน้องแทนแล้วกัน!!
12.00 น.
“ไอ้เหี้xเฮฟแม่งทิ้งกูแต่เช้าอ่ะโบ้ กูไปหามันที่โต๊ะข้างหนามบาส แม่งเสือกบอกอยู่ศาลาริมสระน้ำข้างห้องปกครอง พอกูเดินไปที่นั่น เพื่อนน้องที่มันไปจีบอยู่บอกไปโรงอาหารแล้ว ไอ้สัส ติดเด็กทีไร เพื่อนอย่างกูนี่หมาเลย”
ร่างสูงได้ยินเสียงไอ้เอิร์ธบ่นวีรกรรมของตนเอง แต่โบ้มันคงชินแล้ว ก็คบกันมาจะครบ 3 ปีอยู่รอมร่อ ซึ่งพวกมันก็รู้ ๆ กันอยู่เพราะสันดานของผมมันแก้ไม่หายอ่ะ
ถ้าเวลาเขาสนใจใครก็จะหายหัวไปรุกจีบคนนั้นหนัก ๆ และถ้ามีใครมาอ่อยใส่ก่อน แล้วถ้าดูน่าสนใจรุ่นพี่สุดป๊อปก็เหมาคุยหมดแหละ แต่แค่จะคุยได้กี่วันก็เท่านั้นเอง
เพราะผมเป็นคนเบื่อง่าย
โรงอาหารตอนเที่ยงนี่มันช่างนรกแตกเสียจริง เฮฟพยายามกวาดตามองหาเป้าหมาย และในที่สุดสวรรค์ยังคงมีเมตตา ให้ได้หันไปเจอกับคนที่ต้องการพบทันที
อาจจะเป็นเพราะว่าผมสีอ่อนของคนตัวเล็ก จึงโดดเด่นทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย ขายาวออกก้าวเดินมุ่งมั่นไปยังโต๊ะนั้นอย่างไม่ลังเล โดยที่เอิร์ธกับโบ้ก็ต้องเดินตามติดมาด้วย
“ดีครับ ขอนั่งด้วยได้ไหมเอ่ย โต๊ะอื่น ๆ เต็มหมดเลย”
คนหน้าหล่อไปหยุดยืนอยู่ด้านข้างของคนตัวเล็กที่เฮฟหมายปองเอาไว้ ซึ่งเอิร์ธกับโบ้ได้แต่ยืนมองหน้ากัน ทำตาปริบ ๆ เพราะว่าที่จริงแล้ว โต๊ะฝั่งหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวก็ว่าง
แต่แล้วไงก็ผมจะนั่งตรงนี้อ่ะค้าบบ
“นั่งเลยครับพี่..”
เด็กผู้ชายอีกคนในกลุ่ม รีบเอ่ยตอบรับออกมาแทนทุกคนในโต๊ะ พร้อมคลี่รอยยิ้มกว้างออกมา ส่วนอีก 2 สาวที่กำลังคุยกัน ก็เงยหน้ามามองรุ่นพี่ม.6 ขาประจำที่เริ่มจะคุ้นเคยด้วยแล้ว
สองสาวเพียงแค่ยิ้ม ๆ ออกมาให้ แต่คนแบบเฮฟเคยสนใจใครที่ไหนกัน ขอแค่คนตัวขาวที่ยอมหันมามองหน้ากัน เท่านั้นก็พอแล้วล่ะ
เฮฟกับเพื่อนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีก 2 คน จึงเดินไปซื้อข้าวพร้อมกัน ร่างสูงมองตามโบ้กับเอิร์ธที่เลือกไปต่อแถวร้านอาหารตามสั่งที่ปลายหางแถวยาวเฟื้อย เขาสุดจะขี้เกียจรอนาน เพราะมันเสียเวลา
ซึ่งคนที่ต้องการอะไรก็ได้ที่เร็ว ๆ แบบเขา จึงเลือกเดินไปร้านข้าวราดแกงแทน มือใหญ่ที่เดินถือจานข้าวราดแกงกลับมา เพิ่งจะรู้สึกตัวก็เป็นตอนที่เดินกลับมาถึงโต๊ะกินข้าว ที่คนตัวเล็กนั่งอยู่นั่นเอง
นี่กูสั่งอะไรมาก็ยังงง ๆ ตัวเองเลย หมูทอดกับไข่ดาว
ไอ้เหี้x มีแต่แห้ง ๆ ติดคอตายไปเลยดิกู สติไม่มีดีนักสาดด
เฮฟเลือกที่จะนั่งลงด้านข้างของคนตัวเล็ก ร่างสูงยืนเบียดกระแซะกดดันคนเด็ก จนทำให้คนตัวเล็กต้องยอมหันมาจ้องหน้า ทำตาเขม็งใส่คนพี่อีกรอบทันที
ก็ผมจะนั่งตรงนี้อ่ะครับ ยัยตัวเล็ก
แต่คนน้องดันขยับเข้าไปฝั่งด้านใน แทนที่จะให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งตรงนั้น มันจึงกลายเป็นว่าเหลือที่นั่งระหว่างน้องที่หมายตากับเพื่อนผู้ชายอีกคนที่ไม่ค่อยจะถูกชะตาด้วยนี่สิ
ร่างสูงบู้ปากก่อนที่จะต้องจำใจนั่งลงไป ตรงกลางระหว่างคนตัวเล็กที่อยากนั่งกระแซะด้วย กับเด็กผู้ชายในกลุ่มอีกคนแทนอย่างช่วยไม่ได้
แต่คนเจ้าเล่ห์ ก็ยังพยายามที่จะเบียดเสียด นั่งชิดลงไปตรงนั้นให้ได้ จนไหล่ของคนพี่กับคนน้องได้เกยสัมผัสกันและกัน
แค่นี้กูก็เอา เพราะมันสุขใจซะเหลือเกิน...
#ทุ่มเทเพื่อรัก