#หลายเดือนต่อมา
ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันนี้เป็นวันที่ฉันจะได้ก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างเต็มตัว
"กระโปรงสั้นไปมั้ยยัยนัส" เสียงพี่เบี้ยถามขึ้น
"สั้นตรงไหน คลุมเข่าพอดี" ฉันก้มมองกระโปรงพลีทที่บานคลุมเข่าก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายที่วันนี้มีหน้าที่มารับน้องสาวไปเรียนวันแรก
จะเรียกว่ามารับคงไม่ถูก ในเมื่อฉันมาอาศัยอยู่ที่คอนโดพี่ชายฉันไปพลางๆ ก่อน ตอนนี้ยังหาคอนโดที่ตอบโจทย์กับตัวเองไม่ได้สักที
"แต่พี่ว่าแค่ปีหนึ่ง ใส่มันยันตาตุ่มดีกว่าว่ะ"
พี่เบี้ยเอาแต่มองกระโปรงฉันก่อนจะย่นคิ้วไปมา
"หวงนัสล่ะสิ!" ฉันแซวพี่ชายยิ้มๆ ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ พี่เบี้ย กอดแขนซบหน้าลงไหล่กว้าง
"เปล่า พี่สงสารคนที่มองน่ะ" รีบผละใบหน้าออกทันทีที่อีพี่เบี้ยพูดไม่เข้าหู
"สงสารทำไม"
"กระโดกกระเดกขนาดนี้น่าจะใส่กางเกงไปเรียน โอ้ยๆ เจ็บ"
"นี่แหน่ะๆ สมน้ำหน้า มาว่าเขาทำไมล่ะ" ฉันทำแก้มพองลมเมื่อประทุษร้ายร่างกายพี่เบี้ยเสร็จ
คนบ้าอะไรชอบว่าน้องตัวเอง นี่ถ้าไม่ติดว่าวันนี้อารมณ์ดีเพราะจะได้ใกล้ชิดพี่คีย์อีกหนึ่งก้าว ฉันจะเอาไม้เบสบอลตีหัวพี่เบี้ยหมกห้องส้วมเลย
"ก็มันจริงไหม เรายิ่งโคตรจะเรียบร้อยอยู่ด้วย ใส่สั้นๆ ไปนั่งแหกให้คนดูมันน่าอายมั้ย"
"อย่ามาเวอร์พี่เบี้ย นัสไม่ได้ขนาดนั้นปะ นี่สิบเก้าแล้วนะ ไม่ใช่เด็กมัธยมปลาย"
ฉันกอดอกมองค้อนพี่ชายตัวเอง นี่โกรธจริงๆ นะไม่ได้แกล้ง
"โอ๋ๆ ไม่งอนๆ เฮียขอโทษ" ไม่ต้องมาง้อเลย
เดี๋ยวตัดขาดความเป็นพี่น้องกันเลย ชิ!
"นัสไปเองดีกว่า ไม่อยากเห็นหน้าพี่เบี้ยแล้ว" เสียงฉันทั้งแข็งทั้งประชด เตรียมลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายมาถือไว้ แต่คำพูดที่พี่ชายรั้งไว้กลับทำความโกรธเมื่อกี้ฉันหายเป็นปลิดทิ้งเลย
"เออดี อุตส่าห์ให้ไอ้คีย์ขับรถมารับอีกที"
ฟุบ...
หมับ!!
ความตอแหลนี้มาจากไหนกัน โบญดาคนนี้รีบนั่งลงที่เดิม กอดพี่ชายตัวโตแนบแน่น ก่อนจะใช้หัวดุนดันแผงอกแกร่งที่สาวๆ ทั้งหลายอยากซบมัน
"พี่เบี้ย~" ฉันอ้อนพี่ชายเสียงยาว
"ไม่ต้องมาเรียก" คนถูกอ้อนทำหน้าบูด แบบนี้ต้องเจอ
จุ๊บ...
แกร๊ก..
ตุ้บ!!
"พี่คีย์?!"
ฉันกำลังกอดจูบจุ๊บแก้มพี่ชายตัวแสบอยู่พี่คีย์ก็เปิดประตูเข้ามาพอดี ก่อนที่พี่เขาจะทำกุญแจรถหลุดมือแล้วมองมาที่เราสองคน
"มือไม้อ่อนเหรอมึง" พี่เบี้ยผละฉันออกเล็กน้อย ก่อนจะทักทายเพื่อนเขา
"ไปได้ยัง" พี่คีย์ไม่มองแม้หน้าฉัน เอาแต่ถามพี่เบี้ยก่อนจะเดินเข้าไปในครัว
"พี่คีย์เป็นไรอะ ดูเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี" แม้จะมีแมสปิดกั้นใบหน้าไปครึ่งหนึ่งแต่ฉันเห็นแววตาเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่างในแววตาคู่คมนั้นของพี่เขา
"สงสัยจะปลุกมันเช้าไป" พี่เบี้ยอธิบาย
ฉันได้แต่ใช้หูฟังคนข้างๆ พูด แต่สายตาเอาแต่จับจ้องแผ่นหลังกว้างที่น่าซบนั้นอย่างเงียบๆ
"เช็ดน้ำลายบ้าง โอ้ย น้องกูจะรอด ไม่สิ เพื่อนกูจะรอดจากน้องสาวกูเปล่าวะ!"
เสียงพี่เบี้ยบ่นงุ้งงิ้งแต่ฉันไม่สนใจ สายตายังจดจ่ออยู่กับร่างหนาที่สวมเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูกางเกงยีนส์สีเข้ม
โอ้ยยย คนอะไรอย่างหล่อ หล่อจนมดลูกโบนัสสั่นสะท้านไปหมดแล้ว!!
"ลุก!" เสียงพี่เบี้ยที่มาพร้อมแรงกระชากทำฉันมองค้อนตาขวาง
"ไอ้พี่เบี้ยรุนแรง" ฉันแกล้งสำออย ก็พี่คีย์เดินออกมาจากในครัวพอดีไง
ตอนแรกจะอาละวาดพี่ชายเลยกลายเป็นสวมร่างสาวน้อยผู้บอบบางแทน
"จ้าแม่บอบบาง โอ๋ๆ มามะ เดี๋ยวพี่ชายผู้แสนดีจะเบาๆ ให้"
ฉันได้แต่ด่าพี่เบี้ยที่แกล้งทำเอาอกเอาใจฉันเพื่อประชดกลับ อย่าให้ถึงทีโบนัสบ้างล่ะ จะแกล้งไล่สาวๆ หนีให้ไกลไอ้พี่บ้านี่เลย
"เลิกเล่นได้ยัง เวลาเป็นเงินเป็นทอง"
เสียงเข้มของพี่คีย์ดังขึ้น ฉันและพี่เบี้ยเลยต้องเลิกเล่นเป็นเด็กๆ ไปโดยปริยาย รีบสาวเท้าเดินตามร่างสูงร้อยแปดสิบลงไปยังลานจอดรถชั้นสิบสี่
@มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง
พี่คีย์ใช้เวลาขับรถจากคอนโดพี่เบี้ยมามหา'ลัยไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพราะคอนโดพี่ชายฉันอยู่ใกล้มหาลัย
"หาคณะตัวเองถูกใช่ไหม" พี่เบี้ยถามก่อนที่ฉันจะหอบข้าวของของตัวเองลงจากรถหรูของสามีในอนาคต
"เดี๋ยวพวกแพนเค้กก็มารับ" ฉันนัดแพนเค้กไว้น่ะเพราะเราเรียนการโรงแรมเหมือนกัน ส่วนตุ๊ดเรียนนิเทศสาขาการแสดง กิมหมวยเลือกบริหารธุรกิจ
"ให้เฮียรอเป็นเพื่อนเปล่า" พี่ดอกเบี้ยถามขึ้นเตรียมความพร้อมที่จะลงไปกับฉัน
"ไม่ต้องๆ " ฉันรีบโบกไม้โบกมือห้าม
นี่แค่มีรถหรูมาจอดหน้ามหาลัยเพราะพี่คีย์ไม่ยอมขับเข้าไปแค่ไม่กี่นาที .
สาวๆ น้อยใหญ่ทั้งหลายยังมองตาเป็นมัน บางคนซุบซิบไรกันไม่รู้ บางคนถึงกับกัดมือร้องกรี้ด
เฮ้อ! แค่รถยังจำกันได้อีกเหรอ นี่โบนัสต้องรบกับคนทั้งมหาลัยที่พร้อมจะงาบพี่คีย์ไปกินใช่ไหม
"ทำไม" พี่เบี้ยถามเสียงต่ำ
นี่ก็ไม่ดูสถานการณ์อะไรเลย ตัวเองกับเพื่อนน่าจะป๊อบในมหาลัยนะ สาวๆ ถึงได้เดินมามุงขนาดนี้
"พี่เบี้ยจะทำนัสเดือดร้อนน่ะสิ" ฉันยู่ปากใส่พี่ชาย
สายตาลอบมองพี่คีย์คนขับรถแสนจะหล่อเหลาผ่านกระจกมองหลังเป็นระยะๆ ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ ฉันที่เตรียมตัวลงจากรถสปอร์ตคันหรูสีดำเมี่ยมก็เกือบหัวคะมำ เมื่อคุณ(ว่าที่)สามีเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน
"อูย" ยกมือลูบหน้าผากป้อยๆ เพราะแรงเคลื่อนตัวรถเมื่อกี้ทำให้ฉันไม่ทันได้ทรงตัว หัวเลยโหม่งเบาะที่พี่เบี้ยนั่งพอดี
"ไอ้คีย์ มึงจะไปไหน" พี่เบี้ยหันมามองฉันแวบหนึ่งเหมือนจะเห็นว่าไม่ได้เจ็บอะไรมากเลยหันไปถามเพื่อนเขาแทน
"วุ่นวาย" พี่คีย์ตอบมาแค่สองคำ ก่อนจะหักรถเลี้ยวซ้ายเข้าประตูมหาลัยด้านหลังแทน
"เออ ลืมไป แค่รถมึงพวกสาวๆ ที่คลั่งไคล้ก็จำได้แล้ว" พี่เบี้ยพยักหน้าให้เพื่อน
ส่วนฉันนี่หน้าเหี่ยวเลยเมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้น พี่คีย์ฮอตเกินไปแล้วนะ นี่ยังไม่ลงจากรถยังมีสาวๆ มารุมตอมเป็นสิบ ถ้าจะให้นัสไฝว้กับคนเป็นร้อยคงไม่ไหวแน่ๆ
"เจ็บมากเหรอ" พี่เบี้ยลงจากรถตอนไหนไม่รู้ แกเปิดประตูเบาะหลังชะโงกหน้าเข้ามาถาม "อื้อ เจ็บมาก" ฉันทำน้ำเสียงอ้อนพี่ชาย ก่อนจะมองค้อนคนขับเล็กน้อยไม่ได้จริงจังอะไร ตอนนี้หมั่นไส้ความหล่อภายใต้แมสปิดปากนั่นของคุณคีย์เหลือเกิน
"ไหนพี่ดูสิ ช้ำเปล่า" พี่เบี้ยขยับเข้ามานั่งเบาะหลังกับฉันก่อนจะเปิดหน้าม้าฉันขึ้นเพื่อดูแผลที่โขลกเมื่อกี้
"แดงนิดเดียวทำเป็นจะร้องไห้"
พี่เบี้ยจัดแจงหน้าม้าฉันให้เรียบร้อยเหมือนเดิมก่อนจะล้อเลียนหาว่าฉันใจเสาะ
"ถ้าเพื่อนพี่เบี้ยไม่ออกรถกะทันหันนัสคงไม่เจ็บ" ฉันทำแก้มอมลมงอนคนขับที่เผลอสบตากันผ่านกระจกมองหลังเมื่อกี้
"จะไปโทษมันทำไม นี่ดีแค่ไหนที่ไอ้คีย์ขับมาส่งที่ด้านหลัง ถ้าขืนเราลงเมื่อกี้มีหวังโดนรุมยับ" พี่เบี้ยทำหน้าสยดสยองจนฉันขนลุกขนพองตาม
"ถอยเลย นัสจะลง เดี๋ยวต้องโทรหายัยแพนด้วย" ผลักไหล่พี่ชายให้ถอยลงไปจากรถฉันจะได้ลงตาม
"เดี๋ยว!" แต่พอพี่เบี้ยลงไปได้ไม่ถึงนาที ฉันก็ถูกรั้งไว้ด้วยเสียงทุ้มที่ชวนฟัง
"คะ?" ใจเต้นรัวเมื่อหันไปเจอพี่คีย์ยื่นอะไรบางอย่างมาให้
เป็นซองสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่เล็กไม่ใหญ่ลายแฮมสเตอร์สีน้ำตาลแดงน่ารักๆ
"เอา" เพราะฉันมัวแต่มองอย่างสงสัยว่าพี่คีย์เอามันมาให้ฉันทำไม คนที่ยื่นมืออยู่เลยเรียกสติอีกครั้ง
"ให้นัส?" ฉันยังไม่รับของสิ่งนั้นแต่เลือกถามพร้อมชี้นิ้วเข้ามาหาตัวเพื่อยืนยันว่าไม่ได้คิดไปเอง
"อืม" เสียงทุ้มดังออกมาในลำคอเบาๆ ฉันเห็นลูกกระเดือกแสนน่ารักของพี่คีย์เคลื่อนขึ้นลงเวลาพี่เขากลืนน้ำลาย