ตอนที่ 4 : มาดาม “มาเบลล์”
ร้านเหล้า MB
ในยามค่ำคืนที่หลายคนต่างหลับใหลแต่พื้นที่แห่งนี้ไม่เคยหลับใหลในช่วงกลางคืน ผู้คนพลุกพล่านและยังมาไม่ขาดสาย สถานที่ที่กำลังสนุกสนานไปกับเสียงเพลงและผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลั่งไหลกันเข้ามา ร้านเหล้าที่ขึ้นชื่อของลอนดอนทำให้ชายผู้เหงาหงอยอยากจะมาสัมผัสสักครั้ง รสชาติของเหล้าราคาแพงก็เหมือนกันทุกร้านแต่จุดเด่นของร้านนี้ก็คือเจ้าของร้านสุดสวยที่จะโชว์ตัวในชุดวาบหวิวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้วันนี้เหล่าชายหนุ่มคลับคลั่งจนแน่นร้าน
ร้านเหล้าในลอนดอนมีมากมาย มีเยอะราวกับร้านกาแฟ ผู้คนที่นี่มักชอบความสนุกทำให้ร้านเล็กร้านใหญ่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ละร้านก็มีกลยุทธ์งัดสู้กันสุดฤทธิ์ ถ้าได้ดีก็ติดลมบนจนเจ้าของร่ำรวย แต่ถ้าไม่น่าสนใจก็ปิดตายปิดกิจการ การที่ร้านเหล้าผับบาร์ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดขนาดนี้คนที่จะอยู่รอดได้ก็ต้องหาจุดเด่นของร้านตัวเอง อย่างเช่นกับร้านของฉันที่เอาตัวเองเป็นจุดเด่น ในเมื่อมีความสวย และความกล้าบวกกับความมั่นใจก็ใช้สรีระตัวเองเรียกลูกค้า ใครจะคิดว่าความคิดง่ายๆแบบนี้ไม่ต้องเปลืองเงินจ้างคนอื่นจะทำให้ร้านฉันกลายเป็นที่นิยมของเหล่าผู้ชายที่หื่นกระหาย ตั้งแต่นั้นมาจุดเด่นของร้านฉันก็คือตัวฉันเอง
'เจ้าของร้านสุดแซ่บที่ใครๆก็อยากสัมผัส'
ร้านเหล้า MB ย่อมาจากชื่อของฉันเองคือมาเบลล์ ไม่ต้องมีอะไรซับซ้อน ไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวาย ชีวิตฉันต้องการหาเงินมากกว่าเรื่องปวดหัว และนั่นก็คือจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุยี่สิบปี เรื่องเรียนนะเหรอ? ปวดหัวเปล่าๆ ยุคนี้สมัยนี้เงินเท่านั้นที่จะชนะทุกอย่าง ความรู้หาได้จากรอบตัว ประสบการณ์ก็เช่นกัน
ฉันมาอยู่ที่ลอนดอนก็ไม่คิดที่จะเรียนอีกเลย และไม่มีแม้แต่เพื่อน อาศัยโลกอินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูล หาที่พัก และหางานทำในช่วงระยะเวลาที่ยังหาที่ทางทำมาหากินไม่ได้
ตอนอยู่ที่ไทยเจอหน้าญาติพี่น้องกันแต่ละทีก็ถามแต่ว่าเรียนอะไร จบแล้วจะไปทำอะไร แต่งตัวแบบนี้ได้ยังไง กิริยามารยาทต้องดี เพียบพร้อมให้ผู้ชายหมายปอง พอฉันไม่ทำตามแหกกฎทุกอย่างของคำว่าผู้ดี ทุกคนก็พาลไม่ชอบฉัน หาว่าฉันเป็นไม้แข็งที่ดัดไม่ได้ ให้เรียกว่าไม่ชอบหน้าจะเข้าใจง่ายกว่า ทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศจนไม่นับฉันเป็นญาติซะด้วยซ้ำ แม้แต่พ่อแม่ตัวเองยังไม่เห็นฉันเป็นลูกสาวเพราะตั้งแต่ฉันออกจากบ้านบอกแค่ว่าจะไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองพ่อกับแม่ฉันยังไม่มีท่าทีที่จะห้าม พ่อกับแม่รักพี่ชายกับน้องสาวคนสุดท้องมาก เหมือนฉันเป็นหลุมดำของครอบครัวเป็นลูกสาวคนกลางที่ถูกมองข้าม
ชีวิตมาเบลล์ผู้แสนอาภัพ...เหอะ! บัดซบสิ้นดีต่างหากละ ฉันไม่เคยแสดงความสงสารให้ใครเห็นใจ เพราะฉันคือมาเบลล์ผู้แข็งแกร่งและไม่แคร์ใคร
ฉันสามารถเฉิดฉายได้ด้วยตัวเอง การแต่งตัวโป๊ แต่งตัววาบหวิว และเรียนไม่จบก็สามารถเรียกผู้ชายได้เหมือนกัน แถมยังได้เงินมีกินมีใช้แบบไม่ขาดมืออยู่ทุกวันนี้ ยอมรับว่าเงินที่ใช้จ่ายดั่งลูกคุณหนูก็มาจากเรื่องแบบนี้ แต่ไม่เคยไปเป็นอีหนูของใคร
ดวงตากลมโตมองตัวเองผ่านกระจก ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเลือดนกฉีกยิ้มประหนึ่งเป็นเพื่อนอีกคนที่คอยให้กำลัง ใบหน้าสวยเสมือนรูปไข่ที่หลายคนใฝ่ฝันถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ผมตรงยาวสลวยยิ่งทำให้ใบหน้าเรียวสวยโฉบเฉี่ยวและเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น เนินอกอวบอิ่มที่ไร้มีดหมอถูกดันออกมาแทบจะเห็นจุกสวาท เดรสสีดำหนังแนบเนื้อบีบรัดลำตัวจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจน ความยาวของชุดเดรสหนังสั้นแค่คืบเผยให้เห็นต้นขาอันขาวเนียนที่ถูกพรางตาด้วยถุงน่องตาข่ายสีดำและเสริมขาให้เรียวยาวด้วยส้นสูงสี่นิ้ว แต่แล้วดวงตาที่เชยชมร่างกายตัวเองก็ต้องมองบุคคลที่เข้ามาใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งผ่านกระจกเงาบานใหญ่
"มาดามครับตอนนี้ลูกค้าแน่นร้านจนเด็กของเราดูแลแขกไม่ทั่วถึง บางคนก็อยากเห็นมาดามโชว์ตัวแล้วครับ" เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดเด็กเสิร์ฟของร้านเดินเข้ามาด้วยท่าทีร้อนอกร้อนใจเพราะลูกค้าเริ่มโวยวายจนกลัวว่าจะเกิดเรื่อง และวันนี้คนก็แน่นร้านจนล้นทะลักออกไปด้านนอก
"ก็แน่นแบบนี้ทุกอาทิตย์ทำเหมือนเรื่องตื่นเต้นไปได้" ฉันส่ายหัวให้กับความร้อนรนของเด็กหนุ่มที่เดินเข้ามาอย่างหน้าตาตื่นราวกับมีเรื่องชกต่อยกันในร้าน
ทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ผู้คนก็จะแน่นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะเป็นวันหยุดงานแต่เป็นเพราะฉันจะขึ้นโชว์ตัวด้วยลีลาอันวาบหวิว มัดใจชาย แค่เดินกรีดกรายบนเวทีและโชว์นิดๆหน่อยๆตามความมั่นใจของตัวเอง พวกหื่นกามทั้งหลายก็พร้อมที่จะเข้ามาเชยชมจนแน่นขนัด และไม่ใช่แค่เดินกรีดกรายโชว์ความสวยของตัวเอง แต่ยังแย่งกันประมูลตัวฉันเพื่อจะไปปรนนิบัติดูแลตลอดการดื่มกิน นี่คือวิธีเรียกเงินเข้ามาเป็นกอบเป็นกำโดยที่ฉันทำมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องจ้างใคร ใช้สัดส่วนร่างกายของตัวเองเรียกเงิน ถ้าเป็นที่ประเทศไทยคงอายขายขี้หน้าชาวบ้าน แต่อยู่ที่นี่ไม่มีใครมาชี้หน้าด่ามันคือเรื่องปกติ ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหน ไลฟ์สไตล์แบบไหนไม่มีใครมาสนใจ การใช้ชีวิตในที่นี่ของฉันเลยมีแต่คำว่า 'อิสระ'
"แต่วันนี้แน่นกว่าทุกอาทิตย์ จนลูกค้าบางคนต้องไปร้านอื่นแทนไม่สามารถเข้ามาในร้านได้"
ใบหน้าสวยก็ยังคงนิ่งเรียบ ร่างอรชรหันมายืนประจันหน้ากับเด็กหนุ่ม
"ทำงานที่นี่มานานหรือยัง" คิ้วสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงคำถาม สายตาจดจ้องไปที่หน้าเด็กหนุ่ม
"หนึ่งปีแล้วครับ"
"ควรชินได้แล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร้านของเราคนแน่นแบบนี้ ทำได้หรือเปล่าละ?"
"ครับ?" เด็กหนุ่มทำหน้างุนงงกับคำถามที่เหมือนแฝงไปด้วยบางอย่าง
"ถ้าทำไม่ได้ประตูมีทางออก ถอดผ้ากันเปื้อนนี่วางไว้ตรงนี้ แล้วเดินออกไปได้เลย"
"ผมทำได้ครับมาดาม ผมจะไม่ตื่นเต้นและรับมือกับลูกค้าเหมือนที่มาดามสอนพนักงานทุกคนครับ"
ฉันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และส่งสายตาให้เด็กของร้านเดินออกไปจากห้อง ความใจดีของฉันมักเกิดขึ้นในช่วงที่ไม่ใช่โหมดทำงาน ทุกคนต่างรู้ดีว่าเวลาอยู่ในเวลางานฉันก็คือมาดามซาตานร้าย ถ้าฉันไม่แข็งข้อกับเรื่องงานระบบของร้านก็จะเละเทะ กว่าฉันจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ง่ายเลย เริ่มแรกฉันทำร้านเหล้าแห่งนี้ด้วยตัวคนเดียว ทำทุกหน้าที่ด้วยตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ล้างห้องน้ำจนประสบความสำเร็จด้วยสองมือตัวเอง กับแค่รับมือกับลูกค้ามันเป็นเรื่องที่ง่ายคล้ายกับปอกกล้วยเข้าปากถ้าทำไม่ได้ก็มีสถานเดียวคือออกไปซะ