พอเข้ามาในห้องของพี่ป่าได้ เพิร์ลลดาก็สำรวจใหญ่ ความวิตกกังวลก่อนหน้านี้ปลิวหายไปหมดเหลือเพียงความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ก็แน่ล่ะได้ย่างกรายเข้ามาในห้องของคนที่ชอบทั้งที มีเหรอคนอย่างเพิร์ลจะไม่ตื่นตาตื่นใจ
น่าแปลกที่คนสุภาพเรียบร้อยแบบพี่ป่าจะชอบโทนสีมืด เฟอร์นิเจอร์ในห้องล้วนแล้วแต่เป็นสีดำทั้งสิ้น ดูดุและดาร์คพอสมควรเลยนะพ่อหนุ่มคนนี้ แต่ไม่หรอก อย่างพี่ป่าน่ะเหรอจะดุ อย่างมากก็ดุกับคนไข้เท่านั้นแหละ
เพิร์ลลดาสบประมาทคนพี่เอาไว้เรียบร้อย หารู้ไม่ว่าตัวเองจะได้เจอของจริงเร็ว ๆ นี้ ถึงตอนนั้นที่นายแพทย์ป่าเหนือดุและดาร์คจริง ๆ ลำพังแค่กระดิกนิ้วเท้ายังยาก ลุกเดินเหรอ ? ไม่ต้องพูดถึงเลยด้วยซ้ำ
ร่างสูงเดินตามหนูน้อยช่างสำรวจต้อย ๆ ที่จริงเขาเป็นคนค่อนข้างหวงห้องพอสมควร ไม่ชอบให้ใครมาเดินไปเดินมาในห้อง แต่เว้นเด็กหญิงเพิร์ลลดาเอาไว้สักคนก็แล้วกัน
ถือโอกาสทำความรู้จัก...ก่อนจะใช้งานจริง
“หึ”
นายแพทย์หนุ่มหลุดขำในลำคอ สายตาเอาแต่จับจ้องไปยังร่างบางที่เดินอยู่ตรงหน้าไม่วางตา ไหน...เด็กขี้กลัว ขี้เกรงใจคนเมื่อกี้ไปไหนแล้ว ทำไมเขาเห็นแต่เด็กแสบเดินเล่นอยู่ในห้องเท่านั้น
ตาคู่สวยกวาดไปรอบห้องก่อนจะสะดุดกับแลปท็อปที่เปิดงานเอาไว้ นี่เธอไม่ได้รบกวนจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย
“เพิร์ลมารบกวนเวลาทำงานของพี่ป่าหรือเปล่าคะ”
ว่าพลางชี้นิ้วไปทางเครื่องหน้าจอสีฟ้าที่ยังเปิดค้างเอาไว้อยู่ ก่อนจะได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่มาพร้อมกับการส่ายหน้าน้อย ๆ เท่านั้น
ป่าเหนือเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของตนเองที่มีแลปท็อปวางเอาไว้ อันที่จริงก็มีงานแหละแต่ไม่ได้เร่งด่วนอะไร อาศัยทำเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็น่าจะเสร็จ ทว่ากลับต้องคิดใหม่เพราะดูท่าแล้วน่าจะ ‘เสร็จยาก’ เพราะมีตัวป่วนมาหาถึงที่
ร่างสูงหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ หลุบตามองเนื้องานตรงหน้าสลับกับคนอายุน้อยกว่าที่เดินสำรวจรอบห้องราวกับจะย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ ถ้าจะย้ายมาจริงเขาก็ไม่ติด ไม่เลยสักนิด แต่ไม่รับประกันว่าจะได้นอนเต็มอิ่มหรอกนะ...หึ
“พี่ป่าอยู่คนเดียวเหรอคะ” เพิร์ลลดาถามขึ้นอย่างไม่กลัวว่าจะเสียมารยาท...เพราะมันไม่มีตั้งแต่แรกไงล่ะ!
ความเกรงใจเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้น เพิร์ลสับขาเดินสำรวจไปทั่วห้อง ตั้งแต่ห้องรับแขกยันห้องครัวเหลือห้องเดียวคือห้องนอน เธอจะไม่รีบร้อน พี่ป่าอาจจะยังเขินอายถ้าต้องแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง ไม่เป็นไร...เธอรอได้เสมอ
ป่าเหนือเงยหน้ามองตามคนพูดที่เดินไปเรื่อยก่อนจะตอบกลับไป “พี่อยู่คนเดียวครับ” ว่าจบก็ก้มหน้าก้มตามองหน้าจอต่อ
“แล้ววันนี้พี่ป่าไม่ต้องไปทำงานเหรอ”
“วันนี้วันหยุดพี่ครับ”
เพิร์ลพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะเดินดูนู่นนี่ไปเรื่อย ไม่ทันไรก็ลืมตัวแล้วเริ่มส่อแววซนเสียแล้ว
“หูยยย พี่สะสมโมเดลรถด้วยเหรอ! ราคาแพงน่าดู”
“...”
“ตรงนี้มีต้นไม้ด้วยเหรอคะ” อาจจะดูเหมือนประโยคคำถามทว่าก็เป็นเพียงประโยคบอกเล่าทั้งนั้น เพิร์ลลดาพูดขึ้นทั้งที่ไม่คิดจะหันหน้ามามองเจ้าของห้องด้วยซ้ำ
“หมอแบบพี่มีเวลาว่างรดน้ำต้นไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” กระนั้นก็ยังพึมพำกับตัวเองไม่เลิก
เสียงเล็ก ๆ กระแง้วกระงอดกับตนเองเล็ดลอดให้คุณหมอหนุ่มได้ยินเป็นระยะ จากที่สนใจงานตรงหน้าดันเปลี่ยนเรดาห์เป็นเจ้าหนูจำไมคนนี้แทน ขยันถามขยันพูดเหลือเกิน ห้องเขาก็มีแค่นี้ไม่เห็นจะมีอะไรให้น่าสนใจนัก
‘พี่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคนหนูจะไม่สนใจหน่อยเหรอคะ’
“หืม...ระเบียงก็ปลูกต้นไม้เต็มเลยนี่คงจะ--อะ!”
เสียงหวานที่กำลังจะเอ่ยถามขาดห้วง ยามเมื่อแผ่นหลังบางกระแทกกับแผงอกกำยำของคนพี่เต็มแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว ปากที่พูดไปเรื่อยหุบฉับทันที นี่พี่ป่าเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังตั้งแต่ตอนไหนกัน
ที่ย่ำแย่ไปกว่านั้นคือลมหายใจอุ่นร้อนของอีกคนเป่ารดอยู่ที่หลังคอ บรรยากาศในห้องเงียบสงัดจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกันชัดเจนปะปนไปด้วยเสียงหัวใจเต้นโครมครามของร่างบางที่ใบหูเล็กเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจาง ๆ
“อย่าซน”
จากที่ขึ้นสีแดงแค่หูตอนนี้กลับลามไปทั่วทั้งใบหน้า เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูยังดังกึกก้องวนซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น กลิ่นหอมเย็น ๆ จากตัวอีกฝ่ายยังติดอยู่ปลายจมูก นี่เธอเสียอาการขนาดนี้เชียวหรือ
“...พี่ป่า”