เสียงนาฬิกาปลุกที่วางไว้บนโต๊ะตัวเตี้ยใกล้กับหัวเตียงดังขึ้น ร่างบอบบางในชุดนอนผ้าฝ้ายลายการ์ตูนสีชมพูหวานขยับตัวไปมา มือเรียวค่อย ๆ ควานหาต้นเสียงที่น่ารำคาญนั้นอย่างหัวเสีย และพอเจอเจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้หล่อนตื่นจากความฝันอันแสนหวาน หญิงสาวก็จัดการปิดเจ้าเสียงร้องอันน่าเกลียดนั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจับเจ้านาฬิกาปลุกรูปหมูอ้วนสีชมพูนั้นวางลงที่เดิม
“กวนใจจริง ๆ เลย” พวงชมพูบ่นพึมพำ ก่อนจะพลิกตัวกลับไปนอนตามเดิม แต่ไม่นานเหมือนหล่อนจะนึกอะไรออก เพราะไม่ช้าร่างบางก็ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง เส้นผมสีดำสนิทแสนยุ่งเหยิงตกลงมาคลอเคลียไหล่มนจำนวนมาก
“อาต้น! ไม่ทันแล้ว” เท้าบอบบางรีบก้าวลงจากเตียงนอนหน้าตาตื่น ก่อนจะวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ในห้องนอนของตัวเอง เด็กสาวเบิกตากว้าง เรียวปากอิ่มที่แสนจะเย้ายวนนั้น เผยอออกจากกันอย่างลืมตัว
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้หล่อนอดตื่นตะลึงไม่ได้ ร่างสูงใหญ่ของเมธาพัฒน์ที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ อยู่ที่พื้นเบื้องล่าง ทำให้หล่อนแทบอยากจะกระโดดลงไปหาเขาโดยทันที
เรือนร่างบึกบึนสมชายชาตรีที่ซ่อนอยู่ในเสื้อกล้ามสีขาว กับกางเกงขายาวสีดำ แถมพ่วงด้วยรองเท้าผ้าใบทำให้เขาดูน่าหลงใหล หล่อนเห็นเขาดึงผ้าขนหนูสีขาวที่พาดอยู่ที่คอขึ้นมาเช็ดใบหน้าที่ชื้นเหงื่ออย่างไม่ใส่ใจนัก ท่วงท่าราวกับเทพบุตรเดินดินเช่นนี้ของเขาทำให้หล่อนลำคอแห้งผาก
สาวน้อยยืนอมยิ้มให้กับภาพที่เห็นตรงหน้านั้น แต่ก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ ที่ตื่นมาไม่ทันที่จะวิ่งจ๊อกกิ้งกับเขา แต่แค่ได้มองอิริยาบถของเขาจากระยะไกลแบบนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ
แต่พวงชมพูก็ชื่นชมกับภาพตรงหน้าได้ไม่นาน เพราะไม่ช้าเมธาพัฒน์ก็รู้สึกตัวว่าถูกแอบมอง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับหล่อน แม้ระยะทางจะแสนไกล แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ก้นบึ้งหัวใจก็แล่นปรู๊ดปร๊าดไปตามเส้นเลือดใหญ่ก่อนจะตรงเข้าหัวใจของหล่อน
เด็กสาวรู้สึกถึงความร้อนที่แพร่กระจายจากลำคอขึ้นมาถึงแก้มทั้งสองข้าง สายตาของเขาที่จ้องมองมานิ่งนั้น เหมือนกับโซ่ตรวนที่จับหล่อนยึดไว้กับผนัง พวงชมพูเป็นอัมพาตขึ้นมาชั่วขณะ สองขาของหล่อนไม่มีเรี่ยวแรง และดูเหมือนเขาจะรู้ เพราะไม่ช้าเขาก็ละสายตาจากหล่อน และก็วิ่งหายไป
พวงชมพูหอบหายใจออกมาถี่ ๆ ราวกับหล่อนผ่านการวิ่งมาอย่างทรหด ริมฝีปากอิ่มแห้งผาก หญิงสาวค่อย ๆ พาร่างบอบบางของตัวเองเดินกลับไปนั่งที่เตียงนอน
“ทำไมถึงได้ใจสั่นแบบนี้นะ”
พวงชมพูพึมพำออกมาอย่างสุดแสนจะประหลาดใจในอาการของตนเองที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ถึงแม้หล่อนจะรู้ตัวเองดีกว่าหลงรักเมธาพัฒน์สุดหัวใจแค่ไหน แต่หล่อนไม่เคยคิดว่าอาการมันจะรุนแรงและบ้าคลั่งได้มากมายเช่นนี้
เมธาพัฒน์ก้าวเท้ายาว ๆ วิ่งออกไปยังไร่กว้างตรงหน้า ภาพเด็กสาวสวย ผมเผ้ายุ่งเหยิงที่ยืนจ้องมองเขาตาเป็นมัน แม้จะเห็นไม่ถนัดนัก แต่เขารู้ดีว่าพวงชมพูต้องการอะไร ก็สายตาเจ้าหล่อนไม่เคยปิดบังเลยว่าตัวเองนั้นรู้สึกอะไรกับเขา และเขาคิดว่าคนทั้งโลกก็ต้องรู้ เพียงแค่ได้เห็นมันเท่านั้น
“สิ่งที่ชมพูต้องการ คือสิ่งสุดท้ายที่อาคิดจะทำ...” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเสียงแหบแห้งแฝงไปด้วยอารมณ์รุนแรง ร่างสูงใหญ่ของเขายังคงวิ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ เพื่อเผาผลาญความรู้สึกบางอย่างที่เจ้าตัวไม่ต้องการให้ใครเห็น เพราะแม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากจะเห็นมันแม้แต่นิดเดียว
เมธาพัฒน์วิ่งออกกำลังกายจนพอใจก็รีบกลับขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวและลงมาทานอาหารทันที วันนี้เขาสั่งให้แม่บ้านตั้งโต๊ะก่อนเวลาถึงครึ่งชั่วโมง ด้วยเหตุผลอะไรนะเหรอ ก็เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับพวงชมพูนะสิ หล่อนเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่เขาคิดจะอยู่ใกล้ ไม่ใช่ว่าหล่อนน่าเกลียดน่ากลัวหรอกนะ ตรงกันข้ามหล่อนกลับน่าปรารถนาเอามาก ๆ ต่างหาก
ภาพสาวน้อยแสนสวย ยืนมองเขาตาละห้อยอย่างนั้น แม้แต่เทวดาก็คงอดหวั่นไหวไม่ได้ แต่หล่อนคือสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา หล่อนคือผู้หญิงที่เขาจะต้องส่งมอบให้กับผู้ชายที่ดีพร้อมคนหนึ่งเมื่อถึงเวลา เมธาพัฒน์หัวเราะเยาะตัวเองในใจอย่างสุดแสนสมเพช
ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คงหนีไม่พ้นหัวใจของเขานั่นเอง... มันร่ำๆ อยากจะลากแม่พวงชมพูแสนสวยทำเมียซะวันละร้อยสองร้อยรอบ...