“โอ๊ย...กว่าจะเสร็จ” พรชัยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกของทางร้านแล้วถอนหายใจเฮือก เอนหลังพิงแล้วแผ่หลาอ้าซ่าเต็มที่
“ทำไม...นาน ๆ ได้ทำงานสักทีเหนื่อยสิยะ” ประภาดานั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้ามแล้วล้วงเครื่องสำอางในกระเป๋ามาเติมหน้า
“อิ่มต่างหากล่ะยะ อิ่มมาก แม่เจ้าพระคุณของอร่อย ๆ ทั้งนั้น”
“พรุ่งนี้เอาคลิปเมื่อคืนวานกับคืนนี้มาตัดต่อให้ลงตัวแล้วค่อยปล่อย ฉันคิดว่าเสร็จแล้วก็จะอัปเดตเลย จะได้ไม่เสียเวลา” หญิงสาวเป็นหนึ่งเดียวที่จริงจังกับงานเป็นที่สุด ทั้งที่หล่อนก็อ่อนล้าไม่แพ้กัน
“พี่คุณโสเครียดไปหรือเปล่าคะ...” ดาหวันช่วยบีบนวดให้หญิงสาวได้ผ่อนคลายบ้าง
“รับเงินเขามาแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ อีกอย่างเราไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน ร้านเขาอาจจะดับไปเลยก็ได้”
“ไม่หรอกน่า...อย่าคิดมาก” การะเกดที่นั่งข้าง ๆ กันจับมือแล้วบีบเบา ๆ ให้กำลังใจเพื่อน
“คืนนี้ฉันว่าจะทำงานต่อ ทุกคนกลับกันก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอ”
“ไหวรึโส...”
“ไหวสิ...วันนี้วันจันทร์ฉันได้เพิ่มสองหมื่นเลยนะ แค่สามชั่วโมงเอง”
“เวรกรรม...คิดถึงเมื่อก่อน เงินสองหมื่นแค่กดแชร์เพจให้ลูกค้าก็ได้แล้ว เดี๋ยวนี้แกต้องตรากตรำหน้าดำหน้าแดง” ประภาดาถอนหายใจแล้วทำหน้าเศร้า
“ทำยังไงได้...เราไม่มีทางเลือกนี่พี่ อะไรพอจะกอบโกยได้ก็ต้องเอาไว้ก่อน ไม่ต้องห่วงฉันหรอกฉันยังไหว” หล่อนกวาดสายตามองทุกคนขณะบอกกล่าว เพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องมีเรื่องกังวลเพิ่ม ปัญหาเท่าที่มีอยู่ก็มากพอแล้ว
“งั้นหวันอยู่เป็นเพื่อนพี่โสนะคะ”
“แล้วแต่เลย...แต่ฉันขอตัวนะแม่คุณ ไม่ไหวจริง ๆ ทั้งเพลียทั้งอิ่มแน่นไปหมดแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ฉันมีงานเช้าด้วย”
“แกรับงานนอกด้วยเหรออีพรชัย”
“แพทชี่ค่ะอีพราด้า เมื่อไหร่จะจำ หือ! ไม่ใช่งานนงงานนอกอะไรหรอก แค่ไปช่วยกองน้องอี๋น่ะ มีถ่ายทำกันที่บางแสน เขาขอมาเพราะเห็นว่าพวกเรามีปัญหาเรื่องงาน” น้องอี๋ที่ว่าก็คือเน็ตไอดอลคนหนึ่งในวงการนั่นแหละ
“เออดีว่ะ...อยากมีงานเข้าบ้างจัง” ประภาดากล่าว
“ถ้ามีงานอะไรเข้ามาพวกพี่ก็รับไปเลยนะ เพราะตอนนี้ฉันก็คงมีแค่ร้านคุณเพนนีที่กล้าจ้าง ฉันไม่อยากให้ทุกคนมาตั้งความหวัง จะพากันอดตายเปล่า ๆ”
“ยังไงก็ต้องเอาแกเป็นหลักนั่นแหละอีคุณโส...แต่ถ้ามีอย่างอื่นให้ทำไปด้วยระหว่างนี้มันก็พอได้มีเงินเข้าบ้างไง” พรชัยอธิบาย
“ฉันเข้าใจจ้ะ...พวกพี่ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ เพราะทำให้ทุกคนลำบากกันไปหมด”
“ร่าเริง ๆ ค่ะชะนี หล่อนต้องทำงานต่อนะยะ อย่ามาทำหน้าเศร้าเหงาหงอยแบบนี้สิ” การะเกดกล่าวเตือน แล้วคว้าร่างเล็กเข้ามากอดเอาไว้อย่างปลอบโยน “ไม่หวั่นอยู่แล้วน่าพี่” หล่อนกอดตอบ แล้วหัวเราะ ปรับเปลี่ยนอารมณ์ในฉับพลัน เพราะไม่อยากให้ใจตัวเองดิ่งสู่ที่มืดนาน ๆ ไม่อย่างนั้นจะทำงานต่อลำบาก เพราะวันนี้ไม่ได้เตรียมชุดมาสคอตมา หญิงสาวจึงใช้ชุดที่สวมอยู่ในการทำงาน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด และทางร้านก็จัดกิจกรรมพิเศษให้ลูกค้าร่วมสนุกกับหล่อนเพื่อชิงรางวัลต่าง ๆ ตั้งแต่รับประทานอาหารฟรี ไปจนถึงแจกของที่ระลึก
ซึ่งมีผู้สนใจร่วมสนุกกันมากมาย...
“มาค่ะคุณพี่ผู้ชายท่านนี้นะคะ ร่วมสนุกกับเราแล้วโชคดีได้รับประทานอาหารฟรียกโต๊ะกันไปเลย ต้องขอขอบคุณทางนัวในหม้อที่มอบกิจกรรมดี ๆ แบบนี้แทนลูกค้าทุกท่านด้วยนะคะ...มาค่ะ ขอสัมภาษณ์กันหน่อยว่าคุณพี่ดีใจไหมคะกับรางวัลในคืนนี้”
“ดีใจครับ ดีใจมาก ๆ” ชายหนุ่มผู้ร่วมสนุกยกมือโบกให้กับเพื่อนร่วมโต๊ะที่พากันโห่ร้องด้วยความยินดี
“แล้วคราวหน้าคุณพี่จะมาที่ร้านเรากันอีกไหมคะ เพราะเดือนหน้าเราจัดโปรโมชันเด็ด ๆ ไว้ต้อนรับพี่เลยนะ” หล่อนชวนคุยต่อ เป็นการสร้างสีสันให้ค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล
“มาแน่นอนครับ แต่...”
“เอ...มีแต่ด้วย แต่อะไรคะคุณพี่ขา”
“อยากนัวในหม้อน้องมากกว่ามานั่งที่ร้านไง” แล้วเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะพร้อม ๆ กับลูกค้าคนอื่น ๆ
“อยากเห็นหมีเหรอคะคุณพี่” โสรยาสวนกลับทันควัน ปากไปก่อนที่สมองหล่อนจะได้ทันคิดอะไรด้วยซ้ำ แล้วก็ต้องหุบปากฉับ เมื่อรู้ตัวว่าไม่ควรต่อปากต่อคำ
“ก็เพราะอยากเห็นหมีนี่แหละถึงอยากนัวในหม้อ”
“แต่น้องว่าคุณพี่น่าจะชอบหน้าหม้อมากกว่าในหม้อนะคะ เอาละค่ะ...ขอบคุณมากที่มาร่วมกิจกรรมสนุก ๆ กับเรา ขอให้ทุกท่านมีความสุขในค่ำคืนนี้ ขอให้รับประทานอาหารกันอย่างอิ่มหนำสำราญนะคะ” หล่อนกล่าวจบเป็นการปิดฉาก พร้อมยิ้มหวานให้กับลูกค้าคนนั้น แล้วเชิญให้เขากลับไปนั่งที่โต๊ะ โดยมีพนักงานเสิร์ฟคอยประกบไปด้วย
โสรยาพูดเชิญชวนลูกค้าด้วยโปรโมชันที่ทางร้านจะจัดขึ้นอย่างละเอียดและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นก็ถึงช่วงกล่าวลา เพราะหมดหน้าที่ของหล่อนแล้ว
“พี่ฮอลล์คะ...ลูกค้าโต๊ะสิบห้าอยากคุยกับพี่ค่ะ เขาบอกว่าเขารู้จักพี่ด้วย” เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอก ในขณะที่หญิงสาวและดาหวันกำลังจะเดินเข้าไปในห้องรับแขกเพื่อเก็บของกลับที่พัก
“ไม่ต้องไปก็ได้นะพี่คุณโส...นี่ก็ดึกมากแล้ว งานเราก็เสร็จแล้วรีบกลับกันเถอะ”
“คงไม่นานหรอก หวันเข้าไปรอพี่ในห้องก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ตามไป” พูดจบหล่อนก็แตะไหล่ดาหวันเป็นการยืนยันว่าหล่อนยังรับมือไหว ก่อนจะเดินตามพนักงานเสิร์ฟคนนั้นไปที่โต๊ะลูกค้าดังกล่าว
“ว่าแล้วหน้าคุ้น ๆ น้องฮอลล์ผู้โด่งดังนี่เอง ไปไงมาไงจ๊ะ...ตกอับถึงกับต้องมาทำงานร้านปิ้งย่างแล้วเหรอ” พอไปถึงก็เจอดีทันที...
หญิงสาวฝืนยิ้มให้กับลูกค้าที่พูดจาถากถาง แน่นอนว่าหล่อนไม่รู้จักพวกเขาหรอก แต่ข่าวใหญ่ที่เผยแพร่ไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์กก็มากพอที่จะทำให้คนทั้งประเทศรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนอยู่แล้ว
“รับงานกับพี่ไหมล่ะ...ที่นี่เขาจ้างเท่าไหร่พี่จะเพิ่มให้เท่าตัว” เพื่อนอีกคนในกลุ่มของชายคนดังกล่าวเอ่ยขึ้น พวกเขาที่เหลืออีกห้าหกคนก็พากันหัวเราะร่วนราวกับเป็นเรื่องบันเทิงสนุกสนาน
“ไม่ได้รับงานส่วนตัวค่ะลูกค้า ต้องขอโทษด้วยนะคะ” ใจจริงอยากจะขุดยันเถ้ากระดูกบรรพบุรุษพวกนั้นมาด่า แต่ทำได้แค่ยิ้มหวาน เพราะหล่อนต้องสวยและสำรวม ไม่อย่างนั้นจะทำให้ร้านเสียชื่อไปด้วย
“ไม่ใช่ส่วนตัวซะหน่อย พวกพี่มีปาร์ตี้กันบ่อย สนใจอยากให้น้องฮอลล์ไปเอ็นเตอร์เทนในงานแบบ ‘ค้างคืน’ น้องฮอลล์บอกมาเลยว่าค่าตัวเท่าไหร่พี่พร้อมเปย์”
“ไม่ดีกว่าค่ะ...ฮอลล์ไม่ค่อยชอบปาร์ตี้”
“ไม่ชอบปาร์ตี้แต่พี้ยาเนี่ยนะ” แล้วเสียงหัวเราะก็เฮขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“ขอตัวนะคะ...พอดีต้องรีบไปดูหมา” หล่อนกัดฟันพูดให้สุภาพที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจิกกัดกลับไปบ้าง แต่เมื่อหญิงสาวทำท่าจะเดินออกจากโต๊ะของลูกค้ากลุ่มนั้น หล่อนก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้แล้วดึงจนร่างเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวถลาไปนั่งบนตักของคนที่พูด