วันต่อมา @มหาวิทยาลัย
เมื่อคืนฉันนอนแทบไม่หลับ ทั้งที่ไม่อยากสนใจคำพูดของผู้ชายคนนั้นแต่ในหัวมันเอาแต่คิดฟุ้งซ่าน
“มีนเมื่อคืนแกไม่ได้นอนหรอ หน้าโทรมเชียว”
เสียงที่ท้วงขึ้นนั้นคือเสียงของ ‘ดาบี’ เพื่อนสนิทของฉัน เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กเรียนด้วยกัน บ้านอยู่ใกล้กัน แถมยังได้ทุนมาเรียนต่อเหมือนกันอีก ดาบีคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน
“อือ พอดีมีเรื่องให้คิดมากน่ะ”
“เรื่องที่ทำงานหรอ”
“ก็…ประมาณนั้น” ดาบีรู้ว่าฉันทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ที่คลับ เธอเองก็อยากหางานทำแต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนเรียบร้อยและขี้อายเธอจึงไปเป็นพนักงานร้านคอฟฟี่แทน ถึงแม้ว่างานที่ฉันทำจะได้เงินดีกว่า
“น้องมีนครับ”
“ไปกันเถอะดาบี” ฉันรีบลุกขึ้นไม่สนใจคนที่เรียกชื่อตัวเองเมื่อครู่
เขาคือพี่ ‘เจ’ อดีตคนที่ฉันเคยชอบ แต่เขาทำให้ฉันเจ็บ เจ็บมากๆ จึงไม่อยากแม้แต่จะเจอหน้า
เพราะอะไรน่ะหรอ เขามีผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน คิดว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งแต่กลับเป็นที่เท่าไรก็ไม่รู้ แถมยังเจอพวกบรรดาผู้หญิงของเขาตามหาเรื่องอีก นี่คงเป็นอีกเหตุผลที่ฉันไม่ไว้ใจผู้ชายหน้าตาดี
“เดี๋ยวสิ” พี่เจวิ่งมาดักหน้าฉันเอาไว้ “ใจคอจะหนีหน้าพี่ไปถึงเมื่อไร”
“ไม่ได้หนีค่ะ”
“แบบนี้ไม่เรียกว่าหนีหรอครับ”
“แปลว่าไม่อยากเจอ มีนเคยบอกไปแล้วนี่คะว่าอย่ามาให้เห็นหน้าอีก”
ฉันรวบรวมแรงที่มีผลักพี่เจออกให้พ้นทาง จากนั้นก็รีบเดินหนี โชคดีที่เขาไม่ได้ตามมา
“แกยังชอบพี่เจอยู่ใช่ไหม” ดาบีถาม เธอรู้ใจฉันเป็นที่สุด และมันก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิด “ถึงจะยังชอบอยู่แต่ฉันไม่มีทางกลับไปเป็นคนโง่เด็ดขาด”
“ดีมาก แกใจแข็งจัง”
“ไปเรียนกันเถอะ สายแล้ว”
@เลิกเรียน
วันนี้ฉันเกือบมาทำงานสายเพราะเลิกเรียนค่ำ มาถึงที่คลับก็รีบเปลี่ยนชุดทันที
“มีน”
“คะ” พี่ที่เป็นผู้จัดการร้านเรียกฉัน แต่สีหน้าดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
“คือ…วันนี้ไม่ต้องเดินเชียร์เบียร์นะ”
“อ้าว ทะ ทำไมหรอคะ” หัวใจดวงน้อยหล่นลงมาอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น หรือว่าฉันถูกไล่ออกแล้ว ไม่นะ
“นะ หนูถูกไล่ออกแล้วหรอคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือคุณต้าอยากให้เธอไปเสริฟในห้องทำงานส่วนตัวน่ะ”
“หนูหรอคะ?”
“ใช่จ้ะ รีบๆ เตรียมตัวขึ้นไปชั้นสองของคลับเดี๋ยวนี้เลยนะคุณต้ารอนานแล้ว”
“หนู…ไม่อยาก…”
“พี่จะบอกอะไรให้นะ ใครที่ได้ขึ้นไปเสริฟแบบส่วนตัวกับคุณต้าน่ะได้ทริปเยอะกันทั้งนั้น เธอก็คิดซะว่าทำเพื่อเงิน”
“……..” พูดง่ายสิ ถ้าเขาไม่เคยชวนฉันไปนอนด้วย ไม่เคยยื่นข้อเสนอบ้าๆ มาให้ฉันคงไม่ลังเลหรอก
เฮ้อ! แต่เป็นลูกจ้างเขานี่จะทำอะไรได้ล่ะ
“ค่ะ หนูจะรีบไป”
ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะเดินมาแอบในห้องน้ำเพื่อทำใจ
“แก ฉันได้ยินพี่จิ๊บบอกว่าเสี่ยเรียกนางเด็กใหม่เข้าไปที่ห้องทำงาน”
“เพิ่งมาทำงานไม่กี่วัน กล้าดีนักนะยัยนี่!”
“นั่นสิ น่าหมั่นไส้จริงๆ”
ฉันถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงสนทนาของผู้หญิงสองคนที่หน้าประตูห้องน้ำ มาทำงานไม่ทันไรก็ถูกหมั่นไส้ซะแล้ว ทำไมไม่คิดบ้างว่าฉันไม่ได้อยากจะทำตามคำสั่งเลยสักนิด
ฉันรอให้ผู้หญิงสองคนนั้นออกไปแล้วจึงเปิดประตูห้องน้ำออกมา ยืนทำใจที่หน้ากระจกมองตัวเองอยู่ครู่ใหญ่
หน้าประตูห้องทำงาน ฉันกำมือทั้งสองข้างแน่นจนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะตัดสินใจเคาะห้อง
“เข้ามา” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่ง ฉันค่อยๆ เอื้อมมือที่สั่นเทาจับลูกบิดประตูเปิด แล้วก้าวขาเข้ามาด้านใน
“รู้ไหมว่าฉันรอเธอนานแค่ไหน”
“……..” ฉันรีบก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้นที่เอาแต่จ้องมองอย่างไม่ยอมลดละ ราวกับเขากำลังเอาผิดฉันทางสายตา