บทที่ 17 คุยเพื่อให้ได้ฟังและคิดไตร่ตรองเหตุที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ

4102 Words
หลังจากที่อชิระวัตรออกไปทำงาน เขาขับรถไปด้วยความว้าวุ่นใจ งานก็ต้องไปทำเพราะถ้าไม่ไปทำมีหวังโดนไล่ออกแน่เล่นหยุดงานไปเที่ยวมาสามวันติดบวกเสาร์อาทิตย์ด้วยก็เป็นห้าวันพอดี อชิระวัตรขับรถไปในสมองก็คิดไปว่าจะคุยกับสุชาวดียังไงดีให้สุชาวดีโทรไปหาแพรวพรรณทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าสุชาวดีไม่โทรไปเคลียร์มีหวังโดนแพรวพรรณอาละวาด เรื่องต้องไปถึงสามีที่บ้านและที่ทำงานของสุชาวดีแน่ ๆ แล้วที่นี่เรื่องอับอายต้องได้เกิดขึ้น ได้เอาปีบคลุมหัวเดินกันอย่างแน่นอน "ว่ายังไงจ๊ะบาส ไหนบอกว่าไม่ให้เราโทรคุยหรือไลน์คุยกันในช่วงเช้าไง ทำไมไม่คุยกันใน Wechat ล่ะ" สุชาวดีกรอกเสียงมาตามสาย "คุณวดี ผมมีเรื่องกับภรรยาที่บ้านแล้วนะ เขาจับได้แล้ว เขารู้เรื่องของคุณกับผมแล้วคุณได้ยินผมมั้ย" "ได้ยิน รู้แล้วยังไงล่ะ เธอก็เลิกกับเขาสิ ฉันก็จะเลิกกับไอ้ผัวเลวๆ ของฉันเหมือนกันแล้วเราสองคนก็มาเริ่มต้นกันใหม่" สุชาวดีพูดอย่างไม่คิดอะไรมาก พูดเข้าข้างตัวเองเห็นแก่ตัวเองว่าต้องได้อชิระวัตรมาและได้หลุดพ้นจากสามีเก่า "คุณวดี ผมไม่ตลกนะครับ ยังไงล่ะ ก็คุณยังไม่หย่ากับสามีของคุณไง สามีคุณก็เป็นหุ้นส่วนกับเจ้านายของผม แล้วหน้าที่การงานของผม ภรรยาผมอีกล่ะคุณวดี" อชิระวัตรพูดน้ำเสียงดูร้อนรนเป็นอย่างมาก "ภรรยาของเธอ แล้วยังไง ไหนเธอเคยบอกว่าเมียของเธอไม่รับฟังเธอ ไม่ให้เกียรติ ชอบดูถูกเธอและครอบครัวของเธอไง เธอก็เลิกกับเขาสิแล้วมาอยู่กับฉัน ฉันมีให้เธอทุกอย่าง ทุกอย่างที่เมียเธอให้ไม่ได้ ฉันออกเงินให้เธอเปิดบริษัทรับเหมาแข่งกับไอ้สารเลวผัวของฉันยังได้เลย เธอแค่ไปขอหย่ากับเมียเธอ แล้วฉันเองจะไปจัดการเรื่องของฉันให้เรียบร้อย ฉันจ้างนักสืบเอาไว้แล้วจะขอหย่ามันให้เร็วที่สุด นะบาสนะ เธอเลิกกับเมียเธอแล้วมาอยู่กับฉันนะ ฉันจะให้เธอทุกอย่าง" สุชาวดีพูดเสนอทางออก ตามความคิดเห็นแก่ตัวชอบแย่งของของคนอื่นของตัวเอง "ผมเลิกกับแพรวไม่ได้คุณวดี" อชิระวัตรพูดออกไปน้ำเสียงสั่นเครือ "ทำไมจะเลิกไม่ได้ เธอเองก็ได้คิดนอกใจเมียเธอไปแล้ว เราสองคนก็แค่ไปเคลียร์กับปัญหาที่บ้านของตัวเองให้จบ เราก็คุยกันมาตั้งนานแล้วนะบาส เธอก็รู้ว่าฉันคิดจริงจังกับเธอมากแค่ไหน" "ครับ คุณวดีจริงจังผมรู้ แต่คุณวดียังมีสามี ผมยังมีภรรยาและแพรวภรรยาของผมเขาไม่ผิดอะไรเลย คุณวดีคุณฟังผมนะ แพรวเขาไม่ใช้คนโง่ เขามีหลักฐานเรื่องของเราทุกอย่าง คุณอยากตกเป็นข่าวดังว่านอกใจสามีแล้วคุณมายุ่งกับพนักงานบริษัทของหุ้นส่วนสามีคุณเหรอ คุณจะยอมแลกหรือคุณวดี แล้วที่คุณคิดจะฟ้องสามีคุณ สามีคุณเขามักมากก็จริงแต่เขาไม่ได้คิดเอาใครจริงๆ จังๆ คุณจะไปฟ้องอีตัวที่สามีคุณซื้อกินไม่ได้หรอกนะ แต่แพรวฟ้องคุณได้หรือคุณจะเอาอย่างนั้น" อชิระวัตรพูดขึ้นแล้วหยิบยกเหตุผลมาพูดให้สุชาวดีฟัง "แล้วเธอจะเอายังไง เธอคิดจะตัดฉันออกไปจากชีวิตเธอเลยใช่มั้ย มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ เธอก็รู้นะว่าชีวิตของฉันต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ไหนเธอเคยบอกว่าจะเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างฉันไงล่ะบาส" "ผมก็ยังคงเป็นเพื่อนของคุณ ยังคงปรารถนาดีกับคุณ ถ้าคุณอยากฟ้องหย่าผัวของคุณให้สำเร็จคุณต้องเชื่อผม คุณต้องโทรไปหาแพรว บอกปฏิเสธเรื่องทั้งหมด ยืนยันกับภรรยาผมว่าคุณกับผมเป็นแค่เพื่อนกัน เราแค่ดิวกันในเรื่องธุรกิจเท่านั้น ถ้าคุณไม่อยากโดนทั้งภรรยาผมและสามีของคุณฟ้องจนหมดตัว คุณต้องเชื่อผมเข้าใจมั้ย" "เออ ฉันรู้แล้วฉันเข้าใจ แต่เธอเลิกใช้คำว่าภรรยาผมและสามีคุณเดี๋ยวนี้เลยนะ มันเสียดแทงใจฉัน ภรรยาของผมเหรอ แล้วฉันล่ะบาสฉันเป็นอะไรกับเธอ" "คุณอย่ามาเยอะตอนนี้เลยคุณวดี คุณก็เป็นเพื่อนผมเหมือนที่เราตกลงกันไว้ไง คุณโทรไปแก้ตัวกับแพรวเดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป แล้วเราทุกคนจะฉิบหายกันหมด" อชิระวัตรพูดออกคำสั่งน้ำเสียงหงุดหงิดในความปัญญาอ่อนของคนอายุเยอะแล้วอย่างสุชาวดี "เออ นี่เธออย่ามาว่าฉันเยอะนะบาส เธอเองก็เล่นด้วยกับฉันเรื่องนี้มันถึงเกิดขึ้นมา ฉันป้ายยาให้เธอมาฉันเหรอ ก็ไม่ใช่มั้ยวะ แล้วตอนนี้พอมันมีปัญหาแล้วเธอจะมาหงุดหงิดใส่ฉันทำไมกัน" "ไม่ได้หงุดหงิดเว้ยคุณวดี แต่ประเดี๋ยวผมจะมีประชุม ผมอยากให้คุณตั้งสติและคิด คิดก่อนที่จะพูดออกมา คุณต้องพูดยังไงก็ได้ให้แพรวเชื่อว่าเราสองคนไม่มีอะไรกันนอกเหนือจากพูดคุยช่วยเหลือกันเรื่องงานธุรกิจที่คุณเสนอจะลงทุนให้ผมเป็นคนบริหารให้ก็เท่านั้น คุณพูดได้ใช่มั้ย นี่คุณฟังผมเข้าใจหรือเปล่า" อชิระวัตรถามย้ำน้ำเสียงหงุดหงิด "เข้าใจ เอาเบอร์เมียเธอมาสิ ฉันจะโทรไปบอกเขาเองว่าเรายังไม่มีอะไรกัน เราเป็นแค่... เพื่อนกัน..." "พูดให้ดีนะเว้ยคุณวดี แพรวภรรยาผมเขาฉลาดมาก ดีกรีบริหารจากจุฬานะคุณวดี คุณพูดยังไงก็ได้ให้เขารับรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน อย่าทำเสียเรื่องล่ะ ถ้าไม่คุณไม่อยากโดนทั้งสามีคุณและภรรยาผมฟ้อง เผลอๆ คำพูดของคุณอาจจะทำให้ผมหายไปจากโลกนี้เพราะฝีมือสามีคุณก็ได้ คุณเข้าใจหรือเปล่า" อชิระวัตรพูดย้ำ "เออ ฉันรู้แล้ว เอาเบอร์โทรเมียเธอมา ฉันจะยืนยันว่าตอนไปฮ่องกงฉันไม่ค่อยเก่งภาษาเลยชวนเธอไปเป็นล่าม แล้วฉันก็ไปกับเพื่อนของฉันด้วยไม่ได้ไปกับเธอแค่สองคนแบบนี้ได้มั้ย" "ได้ อย่าทำเสียเรื่องนะคุณวดีถ้าคุณไม่อยากสูญเสียทุกอย่างของสามีคุณไป ผมส่งเบอร์ของแพรวไปให้คุณทางไลน์แล้วนะ" อชิระวัตรพูดข่มขู่สำทับเอาไว้พร้อมกับส่งเบอร์โทรศัพท์ของแพรวพรรณไปให้ ฝั่งแพรวพรรณก็นั่งรอโทรศัพท์ของสุชาวดีที่จะโทรมาเคลียร์ แพรวพรรณอยากรู้จัก อยากฟังคำพูด เพราะมุมมองคำพูดออกมาจากความคิด อย่างน้อยการพูดสื่อสารก็ทำให้เราได้เห็นตัวตน มุมมองการใช้ชีวิต สันดานของคนบางส่วนได้เป็นอย่างดี เรียนรู้เอาไว้จะได้เตรียมรับมือได้ถูก "พี่บาสบอกจะให้มันโทรหาฉันว่ะกัลยา" แพรวพรรณบอกเพื่อนเสียงสะอื้น  "ให้โทรหาแล้วยังไง ทำไมไอ้พี่บาสให้ผู้หญิงเคลียร์กันเองแล้วมันไปไหน" สิริกัลยาถามด้วยความโมโห "ไปทำงาน เพราะว่าวันนี้มีประชุม อือๆ กัลยาฉันจะทำยังไงดีวะ ฉันจะบอกที่บ้านยังไง ฉันจะตอบสังคมคนแวดวงในสังคมของฉันยังไง ฉันควรหย่ากับพี่บาสมั้ย ฉันโทรไปบอกพ่อกับแม่ของฉันเลยดีมั้ยแกกัลยา แกช่วยฉันนะ ช่วยฉันคิดหน่อยฉันต้องทำยังไง" แพรวพรรณบอกเพื่อนและโผเข้าไปกอดเพื่อนไว้อย่างต้องการที่พึ่งพิง "ใจเย็นๆ นะแพรว แกตั้งสติแล้วฟังมันพูดดูก่อน" สิริกัลยาพูดเตือนสติเพื่อน "ตกลง ถ้ามันโทรมาฉันจะฟังมันพูดก่อน คิดแล้วค่อยพูด ฉันมีหลักฐาน มีใบทะเบียนสมรส ให้มันพูดมาแล้วฉันจะคิดตามอย่างมีสติ ตั้งหลักแล้วรับมือกับมัน" "แล้วแกเคลียร์กับพี่บาสว่ายังไงบ้าง" สิริกัลยาถามเพื่อนอีก "มันยอมรับว่ามันคบกันไปในทำนองชู้สาวจริง แต่พี่บาสมันไม่ยอมรับว่ามีอะไรกับอีนั่นแล้ว แต่มันน่าแปลกนะเว้ยกัลยา ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมานี้พี่  บาสมันไม่สนใจฉันเลย เรื่องบนเตียงก็เหมือนไม่ต้องการฉัน ฉันว่าก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะไปมีอะไรกับอีแก่นั่น" "พี่บาสไม่มีอะไรกับแกทั้งที่แกทั้งสาวกว่าสวยกว่าอีแก่นั่นนี่อะนะ แต่ไปมีกับคนแก่เหรอ ฉันว่ามันแปลกนะ ผัวแกหน้าตาดีนะเว้ยแพรว ตัวแกเองก็สวย แล้วจากที่ฉันเห็นรูปมัน อีนั่นมันแก่คราวน้าแกนะ คือโอเคนะมันดูดีแต่งตัวดีหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่แต่มันแก่แล้ว อายุห่างกับพี่บาสผัวของแกรอบกว่านะเว้ยแพรว พี่บาสไม่น่าจะพิศวาสอีนั่น อย่างดีก็คงแค่คบหาเพราะตำแหน่งการงานเงินทอง ถ้าเป็นเรื่องSexจริงพี่บาสมันไปซื้อกินสาวๆ สวยๆ ไม่ดีกว่าหรือทีหนึ่งไม่กี่พันเองนะแพรว ฉันว่าแกใจเย็นๆ เช็ดน้ำตาก่อนแล้วรอฟังมันพูด ตอนมันโทรมาฉันจะอัดคลิปเสียงมันไว้ด้วย แกเปิดโฟนคุยกับมันนะ"  "อือ" แพรวพรรณรับคำแล้วเช็ดน้ำตา "มันหรือเปล่าเบอร์นี้โทรมาแล้ว เบอร์แปลกฉันไม่ได้บันทึกไว้" แพรวพรรณพูดบอกเพื่อน "น่าจะใช่ รับเลยแล้วพูดดีๆ อย่าด่ามันนะ เปิดลำโพงด้วย" สิริกัลยาบอกเพื่อน แพรวพรรณพยักหน้าแล้วกดรับสาย "สวัสดีค่ะ"  "ฮัลโหล น้องแพรวพรรณใช่มั้ย เห็นบาสเขาบอกว่าน้องแพรวไม่สบายใจเรื่องที่เห็นบาสไปเที่ยวกับพี่ที่ฮ่องกง" เสียงสุชาวดีพูดมาตามสาย "อีดอก กูไม่ใช่แค่ไม่สบายใจมั้ยคือมึงก็มีผัวแล้ว แล้วมึงยังไปไหนมาไหนกับผัวชาวบ้านเขา มึงใช้คำว่ากูไม่สบายใจเหรอ อีผีเปรต" แพรวพรรณได้แต่คิดด่าในใจไม่ได้เอยในสิ่งที่คิดออกมาทั้งที่อยากด่ามันออกไปแบบนี้ "ค่ะ ดิฉันไม่สบายใจแล้วคุณล่ะ คุณก็มีสามีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ตัวของคุณเองล่ะคุณรู้สึกอย่างไรละคะกับการที่โดนนอกใจ คุณเองก็เคยโดนมาแล้วไม่ใช่เหรอ" แพรวพรรณจี้ถามคืนบ้าง "พี่กับบาสเป็นแค่เพื่อนกันนะคะ น้องแพรวอย่าคิดมากเลย" สุชาวดีพูดบอกเสียงสั่นน้อยๆ เหมือนพยายามบังคับจิตตัวเองไม่ให้พูดสั่น "ขอโทษนะคะอย่าเรียกดิฉันว่าน้อง ดิฉันเป็นลูกคนเดียว พ่อของดิฉันมีแม่คนเดียวไม่ได้สำส่อนไปมีลูกกับใครฉันจึงไม่มีพี่น้องค่ะ แล้วที่คุณบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกับพี่บาสขอโทษนะคะคุณเป็นเพื่อนประเภทไหนกันหรือคะ เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว หรือว่าเพื่อนนอนถึงได้นัดกันไปเจอตามโรงแรมบ่อยๆ โทษนะสามีของคุณเขารู้มั้ยว่าคุณทำตัวแบบนี้ อายุขนาดคุณมีลูกแล้วหรือยัง ถ้าคุณมีลูกมีหลานแล้วคุณทำตัวแบบนี้คุณไม่อายพวกเขาเหรอคะ" แพรวพรรณเกลียดจนอดไม่ได้ต้องพูดแบบเหน็บสุชาวดีออกไป "ไม่เรียกน้องก็ได้ ขอเรียกแพรวเฉยๆ ก็แล้วกัน คือฉันเองก็มีปัญหากับสามีแยกกันอยู่กับเขามานานแล้ว ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว" "ไม่เกี่ยวข้องกันได้ยังไง ฉันเห็นคุณกับสามีของคุณยังไปเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างเมื่อสามเดือนที่ผ่านมาเอง คุณแน่ใจหรือว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว" "นี่แพรวเข้ามาส่องดูFacebook Instagram ของพี่เหรอ" สุชาวดีพูดถามขึ้นน้ำเสียงไม่พอใจและออกจะตกใจเมื่อแพรวพรรณพูดถึงสามีของตนเอง "ฉันไม่ได้อยากจะเข้าส่องหรอก แต่ฉันจำเป็นต้องเข้าไปสืบดูเรื่องราวของคนที่มันพยายามจะเข้ามาเป็นมือที่สามของครอบครัวฉันแค่นั้นเอง ขอโทษนะปกติฉันก็อยู่ของฉันดีๆ ไม่เคยอยากรู้เรื่องราวของคุณหรอกนะ แต่คุณได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับสามีของฉันไงฉันถึงต้องเข้าไปดู" แพรวพรรณพูดสวนกลับทันที "ก็ฉันบอกเธอแล้วไงว่าเป็นเพื่อนกัน ก็เหมือนเธอมีเพื่อนผู้ชายทั่วไปนั่นแหละ" "ไม่เหมือนนะคะ ฉันมีเพื่อนผู้ชายก็จริงแต่ฉันไม่เคยหนีสามีไปเที่ยวหรือไปพักค้างคืนในโรงแรมกับเพื่อนผู้ชายคนไหน" แพรวพรรณด่าแบบผู้ดีกลับไปอีกดอก "ก็บอกแล้วไงว่า ตอนไปฮ่องกงพี่มีเพื่อนไปด้วย พี่ไม่ได้ไปกับบาสแค่สองคน" "ค่ะ ไม่ได้ไปกันสองคน แล้วที่คุณไปคุณได้บอกสามีของคุณมั้ยคะว่าคุณไปกับสามีของฉันด้วย ส่วนสามีของฉันเขาไม่บอกนะว่าไปกับคุณ ฉันถามเขาเขาบอกว่าไปทำงาน ไม่แน่ใจว่าคุณบอกกับสามีของคุณว่ายังไงเหรอคะ" "ไม่ได้บอก ก็บอกแล้วไงว่าเราแยกกันอยู่ พี่มีปัญหากับเขา ว่าแต่แพรวเถอะแพรวมีปัญหาอะไรกับบาสเขาหรือเปล่า พี่ว่าเขาดูไม่ค่อยมีความสุขนะ เขาเล่าให้พี่ฟังว่าแพรวเอาแต่ใจ เขาอยู่กับแพรวแล้วเขากดดัน" "คุณไม่บอกสามีว่าไปไหน แสดงว่าเจตนาคุณมันไม่บริสุทธิ์ ส่วนเรื่องฉันกับพี่บาสเราจะมีปัญหาอะไรกันมันก็เรื่องของเรา คุณซึ่งเป็นคนนอกไม่มีสิทธิ์มาถามฉัน แค่คุณรู้ว่าพี่บาสมีฉันเป็นภรรยาแล้ว คนดีๆ ผู้หญิงดีๆ เขาไม่ทำแบบคุณทำกันหรอกนะคะ" "นี่คุณแพรวกำลังดูถูกพี่อยู่นะ" สุชาวดีพูดขึ้นเสียง "ดูถูกเหรอ ฉันน่ะไม่ได้ดูถูกคุณหรอก แต่สิ่งที่พวกคุณทำนั่นแหละกำลังดูถูกความเป็นคนของพวกคุณอยู่รู้เอาไว้เสียด้วย คุณเองก็มีผัวอยู่คาบ้าน พี่บาสก็มีฉันอยู่ พวกคุณทำมันลงไปได้ยังไง" "ก็บอกแล้วไงว่ายังไม่ได้ทำอะไร นี่จะให้มันมีอะไรให้ได้ใช่มั้ย พี่เหนื่อยแล้วพี่ว่าแพรวเองก็ควรพักผ่อนเถอะ พี่ไม่สะดวกคุยแล้วพอดีพี่มาทานข้าวกับที่บ้าน" "คุณไม่สะดวกแต่ฉันยังคุยไม่จบ ถ้าไม่คุยให้จบฉันจะตามไปคุยกับผัวและแม่ผัวของคุณต่อที่บ้าน หรือจะให้ตามไปที่บ้านของคุณก็ได้นะ หรือว่าจะให้ฉันประกาศกลางโซเชียลดีนะ" "อย่าทำแบบนั้นนะแพรว แพรวก็รู้โซเชียลมันไว ก็พี่บอกแพรวแล้วไงว่าพี่กับบาสเป็นแค่เพื่อนกัน ก็แค่ไปกินข้าวกันบ้าง ดูหนังกันบ้างตอนบาสเขาแตะบอลเสร็จ เราแค่คนทำธุรกิจด้วยกันนะแพรว" "ธุรกิจอะไร ค้าอะไร คงไม่ใช่ค้ากามใช่มั้ย แล้วที่บอกไปกินข้าวดูหนัง คุณมีสิทธิอะไรออกไปกินข้าวดูหนังกับสามีของคนอื่นเขา ทำไมไม่ไปกับสามีของตัวเอง" "พี่บอกแพรวไปแล้วนะว่าพี่กับสามีเรามีปัญหากัน เราแยกกันอยู่ กำลังจะหย่ากัน แล้วพี่ก็แค่เป็นเพื่อนกับบาสเท่านั้น" "ถ้าคุณแค่เป็นเพื่อนกัน คุณฟังฉันเอาไว้นะ ครั้งนี้ฉันจะไม่ประจานคุณให้ต้องอับอาย แต่คุณต้องเลิกยุ่งกับพี่บาส อย่ามาติดต่อ อย่าเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเราสองคนอีก ออกไปจากชีวิตของเราเสียตั้งแต่ตอนนี้" "พี่คงทำแบบนั้นไม่ได้ พี่กับบาสเป็นเพื่อนกัน ทำงานและมีแผนจะลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน" "เป็นเพื่อนเหรอ คุณเป็นเพื่อนกิน เพื่อนนอน เพื่อนเที่ยว หรือเพื่อนแบบไหนกันฉันไม่รู้หรอกนะคุณสุชาวดี แต่ขอให้คุณรับรู้เอาไว้ว่าคุณมีผัวรออยู่ที่บ้าน อายุคุณก็ไม่น้อยแล้ว ไม่ใช่เด็กสิบเจ็ดที่จะวิ่งแร่ตามจับผู้ชายของคนอื่นเขา" "ฉันไม่ได้แร่วิ่งจับแต่สามีเธอเขามีความสุขที่ได้อยู่พูดคุยกับฉันอย่างเพื่อน เพื่อนที่บางมุมเธอเป็นให้เขาไม่ได้น่ะ" "คงจะเป็นเพื่อนนอนคุยกันสินะ" แพรวพรรณทนไม่ไหวเลยโพรงพูดออกไป "เธอนี่ชอบดูถูกคนอื่นเหมือนที่บาสบอกจริงๆ ด้วย เขาบอกฉันว่าเธอไม่ชอบครอบครัวเขา ดูถูกครอบครัวของเขา เธอฟังฉันนะแพรวฉันกับบาสเป็นเพียงเพื่อนกัน เราแค่ตกลงจะทำธุรกิจด้วยกัน นัดเจอไปกินข้าว ไปดูหนังกันบ้าง บางทีเขาแตะบอลเสร็จก็แค่กินข้าว ฉันรู้ว่าเขาเล่นกีฬามาเหนื่อยๆ ก็แค่กินข้าวกันเท่านั้น เธอไปนอนเถอะไม่ได้นอนมาทั้งคืนไม่ใช่เหรอ มันไม่มีอะไร ฉันกับบาสเป็นเพื่อนกันท่านั้นและฉันก็เห็นว่าเขาเป็นคนดีคบกับเขาแล้วฉันก็สบายใจ" "ไม่มีอะไร แต่ไปกินข้าวไปดูหนังกันจะบ้าเหรอ เพื่อนพี่บาสทุกคนคือเพื่อนฉันด้วย ทุกคนในชีวิตพี่บาสแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นเพื่อนของฉัน มีแต่คุณนั่นแหละที่เข้ามา ถ้าพอจะมีจิตสำนึกก็ช่วยออกจากชีวิตของเราสองคนไปด้วยนะคะ กลับไปหาสามีคุณเสียสิ คุณจะทิ้งสามีเพื่อมาแย่งผัวชาวบ้านเขาเหรอ" แพรวพรรณพูดเหมือนคนฟิวส์ขาดด้วยความรู้สึกเกลียดสุชาวดีจับขั่วหัวใจ "พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะคุณแพรว แพรวไปพักผ่อนเถอะวันนี้พี่ไม่สะดวกแล้วพอดีมากินมื้อเที่ยงกับที่บ้าน" สุชาวดีพูดตัดบทไม่อยากพูดกับแพรวพรรณอีก "เดี๋ยว คุณรู้มั้ยที่คุณบอกว่าพี่บาสเป็นคนดีน่ะ ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาพี่บาสเป็นสามีที่ดีของฉันมาโดยตลอด คุณรู้มั้ยว่ากว่าเราสองคนจะได้แต่งงานกันเราสองคนลำบากด้วยกันมาขนาดไหน ฉันกับพี่บาสเราคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ความรักของเราค่อยๆ เติบโตขึ้น จนเราสองคนต้องแยกมหาวิทยาลัยกันเรียน เราสองคนก็ยังซื่อสัตย์มั่นคงต่อกัน จนทำงานเก็บเงินแต่งงาน เราอาจจะมีปัญหากันบ้างภายในครอบครัวของเราแต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะเลิกกับเขา เขาเองก็ไม่เคยพูดว่าจะเลิกกับฉัน แล้วคุณรู้มั้ยคะ ตอนเขาไปไหนมาไหนอยู่กับคุณ แม้แต่ตอนไปฮ่องกงฉันกับเขาก็ยังวางแผนเรื่องทำเด็กหลอดแก้วด้วยกัน ฉันเตรียมตัวจะทำลูกด้วยกันอยู่" แพรวพรรณพูดเล่าเรื่องของตัวเองกับอชิระวัตรเพื่อต้องการให้สุชาวดีนึกถึงความผิดชอบชั่วดีขึ้นมาได้บ้าง "อือ พี่รู้แพรวก็ทำไปสิ พี่สาวพี่ก็ทำสำเร็จตอนอายุสี่สิบสาม พี่เองก็ไม่ได้บอกว่าพี่คบกับบาส เป็นเพื่อนกับบาสแล้วไม่อยากให้บาสมีลูก เขาเองก็บอกพี่ว่าเขาอยากมีลูกมาก แต่เขาเครียดเรื่องงานจนมีไม่ได้ต้องพึงหมอ พี่ยังแนะนำหมอที่พี่สาวทำจนสำเร็จให้เขาอยู่เลย ส่วนเรื่องแพรวกับบาสจะคบกันมาตั้งแต่สมัยไหนพี่ไม่ได้อยากรู้มันเป็นเรื่องของแพรวกับบาสไม่เกี่ยวกับพี่นะ" สุชาวดีพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ได้สำนึกอะไร "คุณฟังมาขนาดนี้แล้วยังพูดแบบนี้ ฉันนึกไม่ออกเลยนะว่าคุณเติบโต โดนเลี้ยงดูมาแบบไหน คือคุณจะเอาให้ได้ใช่มั้ย จะเอาทั้งๆที่มีผัวอยู่แล้วใช่มั้ย" แพรวพรรณถามออกไปทันทีเมื่อสุชาวดีพูดแบบนั้นออกมา "อีนี่มันเป็นผู้หญิงรักสนุก แกฟังมันพูดก่อนให้มันพูดเอาหลักฐานต่างๆ ออกมา ฟังแล้วแกค่อยพูด" สิริกัลยาพิมพ์บอกเพื่อนในโทรศัพท์ตอนที่นั่งเปิดspeakerและอัดเสียงไปด้วย "นี่แพรวกำลังพูดจาดูถูกพี่อีกแล้วนะ พี่ก็โตมาเหมือนที่แพรวโตมานั่นแหละ เรื่องของแพรวกับบาสควรไปเคลียร์กันเองให้จบสองคน พี่เป็นคนอื่นแพรวจะมาคุยกับพี่แค่คนเดียวทำไม ถ้าบาสเขายังรักแพรวมาก ยังไงเขาก็ไม่มีทางวอกแวก ออกนอกลู่นอกทางหรอกจริงมั้ย" สุชาวดีพูดกระทบแดกดันบาดแผลในหัวใจแพรวพรรณจังๆ "ค่ะ ฉันเคลียร์กับคนของฉันแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคุณมากไปกว่าหุ้นส่วนธุรกิจคนหนึ่ง แต่เขายอมรับว่าเขาเข้าหาคุณในเชิงชู้สาวจริงๆเพราะเห็นว่าคุณกำลังมีปัญหากับสามีของคุณเรื่องที่สามีของคุณนอกใจคุณ เขาเห็นคุณเสนอเขาเลยสนอง แต่คุณสุชาวดีคะ สามีคุณนอกใจก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องมาแย่งสามีคนอื่นได้นะ พี่บาสเขายังเป็นสามีของฉันถูกต้องตามกฎหมายอยู่คุณเข้าใจหรือเปล่า พี่บาสเขาบอกว่าเขาไม่ได้รักคุณแต่จำเป็นต้องมีคุณเพราะมีความจำเป็น คุณคิดว่าเขามีความจำเป็นเรื่องอะไรหรือคะ" "บาสเขาพูดอย่างนั้นกับแพรวก็ตามนั้นนั่นแหละค่ะ เรื่องเป็นสามีตามกฎหมายเอาเป็นว่าพี่รับรู้นะคะ" สุชาวดีพูดอย่างต้องการจะตัดบทจบและอยากวางสายเต็มที "คุณรับรู้แล้วนะ เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังมายุ่งยังไปไหนมาไหนกับสามีของฉัน ฉันจะฟ้องคุณ คุณจำเอาไว้นะคุณสุชาวดี เริ่มจากเอาหลักฐานทั้งหมดปล่อยลงโซเชียลก่อน คุณรู้ใช่มั้ยฉันมีอะไรอยู่ในมือบ้าง รูปที่คุณถ่ายด้วยกัน ข้อความที่คุณนัดแนะไปเจอกันตามสถานที่ต่างๆ ฉันจะเอามาประจานให้หมดให้ผัวของคุณ ญาติพี่น้องของคุณ ให้สังคมรับรู้ด้วย คุณจำเอาไว้นะ" "นี่แพรวขู่พี่เหรอ ก็เอาสิถ้าแพรวทำ แพรวก็เท่ากับทำร้ายสามีของแพรวด้วย ไหนบอกว่ารักเขานักรักเขาหนาไง ถ้าแพรวประจานพี่มันก็ไม่ใช่พี่คนเดียวหรอกนะ พี่ก็บอกอยู่นี่ไงว่าเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน" สุชาวดีพูดขึ้นน้ำเสียงดูตกใจและพยายามควบคุมน้ำเสียงแล้วพูดหยิบยกเรื่องที่อชิระวัตรจะเสียหายด้วยขึ้นมาพูดขู่แพรวพรรณกลับ "ใช่ ฉันรักครอบครัวของฉันไม่อยากให้มันพัง ซึ่งผู้หญิงแบบคุณคงไม่เข้าใจหรอกเพราะถ้าเข้าใจคุณคงไม่ทำเรื่องแบบนี้ทั้งที่มีสามีอยู่แล้ว" "พี่บอกแพรวไปแล้วนะว่าพี่กับสามีแยกกันอยู่ เรามีปัญหากันแค่ยังไม่ได้หย่ากัน แพรวไปจัดการเรื่องของแพรวเคลียร์กับบาสเถอะ ส่วนพี่พี่ก็กำลังเคลียร์ฝั่งพี่อยู่ ตอนนี้พี่กับบาสเราเป็นแค่เพื่อนกันพี่ยืนยัน วันนี้พี่ไม่สะดวกคุยแล้วพี่วางสายก่อนนะ" สุชาวดีพูดสรุปและวางสายไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD