บทที่ 18 ขอโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง

2697 Words
หลังจากสุชาวดีวางสายไปแล้ว สิริกัลยาก็กดบันทึกคลิปเสียงและส่งเข้า E-mail ของแพรวพรรณ เสร็จแล้วก็เข้าไปกอดปลอบแพรวพรรณด้วยความเป็นห่วง "แพรว แกเป็นยังไงบ้างโอเคใช่มั้ย" สิริกัลยาถามแล้วเข้าไปกอดปลอบเพื่อน "ไม่ ฉันไม่โอเคว่ะแก กัลยาฉันไม่โอเค" แพรวพรรณบอกเพื่อนแล้วกอดเพื่อนไว้แน่นหลังจากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก "แก ฉันจะทำยังไงต่อไปดี พวกเขาสองคนต้องมีอะไรกันแล้วแน่ ๆ อือๆ กัลยาแกคิดเหมือนฉันมั้ย" "มันบอกว่ามีเพื่อนมันไปด้วยนะเว้ยแก อาจจะยังไม่มีอะไรกันก็ได้" สิริกัลยาออกความเห็น "แล้วที่อื่นๆ ที่มันไปกันสองคนละกัลยา" แพรวพรรณพูดแย้งขึ้น "เออ ฉันก็ไม่รู้แล้วแก ถ้าแกแคร์เรื่องนี้ แคร์เรื่องที่ผัวแกต้องบริสุทธิ์เพื่อแกคนเดียวฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ถ้าแกไม่คิดมากก็คิดเสียว่าผัวแกไปกินกะหรี่คนหนึ่งมาก็แล้วกัน ยังไงเสียพี่บาสมันก็คงไม่เลิกกับแกหรอก แกคิดดูนะแพรว จากที่แกฟังอีป้าคนนั้นมันพูดนอกจากว่าเออมีเงิน มันมีอะไรดีบ้าง แก่ก็แก่ นิสัยการพูดจายังต่ำตม ตลาดล่างมาก แล้วแกเป็นใครแพรว แกทั้งสาวกว่ามัน สวยกว่ามัน การศึกษาหรือก็ดี ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งนะแพรว" "ถ้าฉันดีกว่าอีแก่นั่นแล้วพี่บาสมันทำแบบนี้กับฉันทำไมวะ นอกใจฉันทำไมวะ แล้วนี่ถ้าไปนอนกับอีนั่นมามันจะเอาโรคมาติดฉันมั้ยแก" แพรวพรรณพูดขึ้นด้วยความเป็นกังวล "เออ แกก็ต้องถามพี่บาสแล้วแหละว่ามันได้ป้องกันหรือเปล่า" "ฉันถามมัน มันบอกมันทำเป็นนะกัลยา ดูมันพูดนะ แล้วมันก็ยังลนลานพูดกับฉันว่า มันไม่ได้รักอีแก่นั่น มันยังรักฉันรักเหมือนเดิม แต่มันจำเป็นต้องมีอีนั่นด้วย อะไรคือความจำเป็นของพี่บาสมันวะกัลยา" แพรวพรรณเล่าให้เพื่อนฟังพร้อมกับคิดไตร่ตรองคำพูดของอชิระวัตรด้วย "ฉันก็ไม่รู้นะเรื่องความจำเป็น แต่ผัวแกเขามีปัญหาเรื่องเงินบ้างมั้ย หมายถึงจำเป็นต้องใช้เงินกับที่บ้านให้พ่อให้แม่เขา แต่พักหลังพ่อแม่เขาก็ดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอเท่าที่แกเล่าฉัน" กัลยาถามเพื่อน "พ่อแม่เขาก็ดีขึ้นนะ พยายามซ่อมแซมตัวเอง แต่ตัวพี่บาสเองเขาก็มีหนี้สินของเขาอยู่พอสมควร บ้านหลังนี้ทุกวันนี้ฉันต้องผ่อนเองนะกัลยา ฉันยังเคยเอาเงินสดที่เป็นเงินเก็บตั้งใจจะเอาไว้โปะบ้านให้พี่บาสยืมไปปิดหนี้จำนวนหนึ่งเมื่อตอนต้นปีที่แล้วนะกัลยา" "เป็นไปได้มั้ยแกที่ความจำเป็นที่พี่บาสพูดถึงว่าจำเป็นต้องมีอีนั่นด้วยเพราะเรื่องเงิน" กัลยาถามความคิดเห็นของเพื่อน "มันก็เป็นไปได้หมดนะ แต่พี่บาสมันเป็นหนี้เยอะถึงกับขนาดลดคุณค่าของตัวเองลงไปเป็นแมงดาเลยเหรอ มันต้องไปขายตัวขายวิญญาณความเป็นคนให้อีแก่นั่นเลยเหรอวะกัลยา ถ้าเขามีปัญหาอะไรทำไมเขาไม่บอกฉัน" แพรวพรรณพูดขึ้นด้วยความเจ็บช้ำใจ น้ำตาร่วงอาบแก้มทั้งสองข้าง "หนี้มันอาจจะเยอะจนตัวแกเองก็มีไม่พอจะช่วยพี่บาสเขาหรือเปล่าแพรว พี่บาสเขาคงหาทางออกไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ได้นะแพรว" "ฉันก็ไม่รู้นะ เท่าที่รู้เขากู้บุคคลมาเยอะ เล่นหุ้น ลงอสังหากับเพื่อนเขา บ้านฉันก็ผ่อนเอง เงินเดือนเขาฉันไม่เคยได้แตะเลยสักบาทนะกัลยา" แพรวพรรณเล่าเพื่อนอย่างไม่คิดจะปิดบังอะไร เพราะวางใจว่ากัลยาจะไม่นำเรื่องของตัวเองไปพูดต่อ พอๆ กับที่แพรวพรรณก็ไม่เคยเอาเรื่องความทุกข์ความเศร้าของสิริกัลยาไปเล่าต่อให้ใครฟังเหมือนกัน "ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเรื่องเงินที่มีความเป็นไปได้สูงมาก" สิริกัลยาพูดแสดงความเห็น "ก็น่าจะจริงเหมือนที่แกบอกนะกัลยา แกฉันกลัวว่ะ" แพรวพรรณพูดแล้วแสดงสีหน้าเป็นกังวล "กลัวอะไรของแก กลัวว่าไอ้พี่บาสมันจะทิ้งแกไปอยู่กินกับอีแก่นั่นน่ะเหรอ ฉันว่ายาก มันไม่โง่ไปเอากะหรี่แก่มาทำเมียหรอกแพรว แกเชื่อฉันสิ ไม่กี่วันก็วัยทองแล้วมั้ยมันน่ะ" สิริกัลยาพูดขึ้น น้ำเสียงแสดงความเกลียดชังในตัวสุชาวดีแทนเพื่อนของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน "ฉันไม่ได้กลัวว่าจะไปอยู่เป็นตัวเป็นตนหรอก แต่ของฟรีมีเงินแถมให้ ฉันกลัวของแถมที่เป็นเชื้อโรคจะแถมมาหาฉันด้วยน่ะสิ แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีอะไรกับพี่บาสมานานมากแล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาแอบได้กันมานานแค่ไหนแล้ว ที่สำคัญนะอีนั่นมันเป็น HPV ผัวมันสำส่อนแล้วตัวมันเองก็อีก มันง่ายกับพี่บาสได้ กัลยาแกคิดสิมันก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยอยู่แล้ว แกดูการพูดการจาท่าทางไม่แคร์โลกของมันสิ" แพรวพรรณพูดไปตามสิ่งที่คิดกังวลเรื่องของความมักง่ายและสิ่งที่จะติดตามมาหาตัวเอง "งั้นก็เอาอย่างนี้นะฉันว่า เย็นนี้พี่บาสกลับมาแกก็คุยกันเสียว่าจะเอายังไงต่อ เปิดอกคุยกันอะไรคือปัญหา แล้วถามมันว่ามันจะเอายังไง จะเลิกกับแกหรือจะเลิกกับมัน ถ้าจะอยู่กับแกต่อแกต้องชวนมันไปตรวจเลือดด้วยเพื่อความมั่นใจ" สิริกัลยาบอกเพื่อน "อือ ขอบใจมากนะกัลยาที่แกอุตส่าห์ลางานมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน อย่าเพิ่งทิ้งฉันไปไหนนะแก" แพรวพรรณพูดขึ้นน้ำเสียงฟังดูแย่มาก คงอยากมีเพื่อนหรือใครสักคนอยู่ข้างๆ ค่อยรับฟังแบ่งเบาความทุกข์นี้ออกไปบ้าง "เออน่า ไม่ทิ้งแกไปไหนหรอก มา มากอดทีหนึ่ง นี่ก็จะเที่ยงแล้วเดี๋ยวฉันไปหาอะไรให้แกกินเสียหน่อยจะได้มีแรงไปสู้กับกะหรี่นะ" สิริกัลยาปลอบเพื่อน จัดการเข้าครัวไปทำอาหารให้เพื่อนกิน ปล่อยให้แพรวพรรณไปอาบน้ำแล้วนอนพัก สิริกัลยานั่งเฝ้าอยู่เป็นเพื่อนแพรวพรรณตลอดทั้งวันจนอชิระวัตรประชุมเสร็จช่วงบ่ายจึงโทรมาหาแพรวพรรณ "แพรว แพรวจ๋าคนดีของพี่ แพรวเป็นยังไงบ้าง พี่ขอโทษนะที่พี่ทำเรื่องนี้ขึ้นมา แพรวกินข้าวแล้วยัง พี่รักแพรวนะเป็นห่วงแพรวมากด้วย" อชิระวัตรถามเมียมาตามสายน้ำเสียงดูห่วงใยและเสียงนั้นดูสั่นเครือร้อนรนเป็นอย่างมาก "จะให้เป็นยังไงล่ะ คนที่โดนผัวนอกใจคงไม่มีใครลุกขึ้นมาแต่งหน้าออกไปกินมื้อเที่ยงข้างนอกได้หรอกค่ะ" แพรวพรรณตอบออกไปด้วยหัวใจที่ปวดร้าว "แพรว อย่าว่าประชดพี่เลย แพรวกินข้าวก่อนนะ พี่ยังอยู่ตรงนี้ไม่มีวันทอดทิ้งแพรว พี่กำลังจะรีบกลับบ้านนะพี่ประชุมงานเสร็จแล้ว รอพี่นะแพรว แล้วเขา เออคุณวดีน่ะ เขาโทรหาแพรวว่ายังไงบ้างครับ" "แพรวก็รอเคลียร์กับพี่บาสอยู่แล้วแหละ ส่วนอีคุณวดีของพี่มันก็โทรมาแล้วนะ มันก็บอกว่าเป็นเพื่อนเหมือนที่พี่บอกนั่นแหละ แต่ไปกินข้าวไปดูหนังกันบ้างเวลาพี่แตะบอลเสร็จ ดีเนอะกลับบ้านดึกดื่นเที่ยงคืนปล่อยแพรวไว้ที่บ้านคนเดียวเหงาๆ แล้วพี่ออกไปสำเริงสำราญกับชู้ พี่ทำได้ไง ทำกับแพรวได้ยังไง" แพรวพรรณพูดต่อว่าอชิระวัตรด้วยความเจ็บช้ำ "แพรว พี่ยอมรับกับแพรวนะ พี่ไม่ดีพี่ไปกับเขามาจริงๆ แต่พี่ยังยืนยันนะ พี่ไม่เคยนอนกับเขาไม่เคยมีสักครั้งที่พี่ไม่รักแพรว ไม่คิดถึงแพรว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นพี่จำเป็นต้องทำจริงๆ แพรว" "มาคุยกันที่บ้านเถอะ แพรวให้เวลาพี่คิดทบทวนระหว่างที่พี่ขับรถกลับ ว่าสิ่งที่พี่ทำลงไปพี่จะเอายังไงกับมัน จะหาทางออกยังไงกับเรื่องที่พี่ทำ จะหย่ากับแพรวไปอยู่กับมันก็ได้นะแพรวไม่ว่า" "ไม่แพรว ไม่นะแพรว พี่ไม่มีวันยอมหย่ากับแพรว แพรวได้เล่าเรื่องนี้กับพ่อแม่ของแพรวแล้วยัง อย่าเล่าพวกท่านได้มั้ยแพรว พี่ยังอยากขอโอกาสไปต่อ ยังอยากอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ถ้าแพรวเล่าพ่อแม่แพรวพี่คงอับอายพวกท่านมาก ไม่รู้จะเอาหน้าไหนไปสู้หน้าพ่อแม่แพรวได้นะครับ" อชิระวัตรพูดปฏิเสธเรื่องที่มีอะไรกับสุชาวดีและขอร้องไม่ให้แพรวพรรณบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ที่บ้าน "พี่บาสก็รู้นะว่าสิ่งที่พี่ทำลงไปมันแย่ ก็ยังรู้ว่ามันผิด ยังรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ รู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดแล้วทำทำไม" แพรวพรรณถามออกไปน้ำเสียงหนักใจ "พี่รู้แพรว พี่รู้ตัวดีว่าพี่ผิด แต่พี่จำเป็นต้องทำจริงๆ แพรว แพรวรอพี่อยู่ที่บ้านนะพี่จะรีบกลับไปหาแพรว" อชิระวัตรบอกกับแพรวพรรณแล้ววางสายไป เมื่ออชิระวัตรวางสายไปแล้ว แพรวพรรณก็บอกเพื่อนว่าอชิระวัตรกำลังกลับบ้านและขอโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง "แล้วแกคิดว่ายังไง แต่ยังไงก็ต้องคุยกันดีๆ นะแพรว" สิริกัลยาบอกเพื่อนน้ำเสียงฟังดูรู้สึกได้ว่าเห็นใจแพรวพรรณเป็นอย่างมาก "ฉันยังบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ไม่ได้หรอก พ่อแม่ฉันเขาไม่ชอบครอบครัวพี่บาสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่เขานิ่งเฉยเพราะเขารู้ว่าฉันรักพี่บาสและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพี่บาสไม่เคยทำตัวเหลวไหล เขาตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตของเราสองคนนะกัลยา คือฉันก็บอกตรงๆ นะ ฉันยังมึนงงสับสนกับชีวิตของฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันเกิดขึ้นกับฉันได้ เรื่องบ้าๆแบบนี้ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับฉัน" แพรวพรรณพูดกับเพื่อนแล้วก็ทนเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวน้ำตาร่วงอาบแก้มอีกแล้ว จนสิริกัลยาอดสงสารไม่ได้ต้องเข้ามากอดแล้วพูดปลอบว่า "ร้องเถอะ เสียใจเสียให้พอ แต่เมื่อร้องพอแล้วแกต้องตั้งสติ แล้วลองคิดดูว่าหัวใจของแกยังรักพี่บาสอยู่มั้ย ยังอยากเริ่มใหม่กับเขามั้ย ถ้าหัวใจแกยังรักแกควรลองสู้ให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง แล้วก็พูดจาตกลงให้เขาเลิกยุ่งกับอีแก่นั่น ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ให้อภัยแล้วเริ่มต้นใหม่ แกอย่าลืมสิ แกกับพี่บาสคบกันมาตั้งกี่ปีกว่าจะได้แต่งงาน กว่าจะสร้างครอบครัวกันมาแกจะยอมแพ้อีแก่ที่แม้แต่ผัวของมัน มันยังทิ้งได้ แกไม่คิดเหรอว่าอีนั่นมันก็แค่รักสนุก ไม่นานมันก็เบื่อพี่บาส แต่แก แกจะยอมให้ครอบครัวแกพังลงเหรอ เชื่อฉันนะใจเย็นๆ ตั้งสติแล้วคุยกับพี่บาสดีๆ อย่าโวยวายฟูมฟาย ฉันขอให้แกเช็ดน้ำตาแล้วคุยกันอย่างมีสตินะแพรว" สิริกัลยาพูดเตือนสติเพื่อน "ได้ ฉันจะทำอย่างที่แกบอก" แพรวพรรณเช็ดน้ำตาแล้วรับคำเพื่อน หลังจากกอดปลอบเพื่อนอยู่พักใหญ่สิริกัลยาก็ขอตัวกลับก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้แพรวพรรณกับอชิระวัตรได้พูดจาตกลงกัน เมื่ออชิระวัตรกลับมาถึงก็โผเข้ามากอดแพรวพรรณไว้ทั้งตัว ราวกับว่ากลัวแพรวพรรณจะหลุดลอยไป "แพรว แพรวจ๋าพี่ขอโทษ พี่ดีใจมากนะที่แพรวยังอยู่รอพี่" อชิระวัตรพูดออกมาน้ำตาซึม "แพรวรอพี่บาสมากี่ปีแล้ว แพรวคบกับพี่มาตั้งแต่แพรวอายุได้ 17 ปี จนตอนนี้แพรว 30 แล้วนะ เวลา10กว่าปีที่ผ่านมาแพรวมีความหวังและรอคอยพี่มาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะทำ แล้วเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับแพรวได้" แพรวพรรณพูดเสียงนิ่ง ไม่มีหยาดน้ำตาไหลออกมาอีก "พี่รู้แพรว พี่รู้ดีว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแพรวรักพี่ อดทนกับพี่และครอบครัวของพี่มามากแค่ไหนเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน พี่อยากให้แพรวรู้ว่าพี่ก็รักแพรวมาก รักมากที่สุดในชีวิต พี่พลาดไปแล้วแพรว แต่พี่ก็ไม่อยากจะเสียแพรวไป พี่ขอโอกาสได้มั้ย เราเริ่มกันใหม่นะแพรวนะ พี่จะเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาด เขาเองก็มีสามีแล้วพี่ไม่ได้คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ พี่แค่อยากได้ลู่ทางช่องทางทำมาหากินลงทุนให้ได้กำไรมาก็แค่นั้น พี่อยากหมดหนี้แล้วเริ่มใหม่แบบดีๆ สามารถเลี้ยงดูแพรวกับลูกได้ก็เท่านั้น" "พี่บาส แพรวไม่เคยอยากได้อะไรจากพี่นอกเหนือไปกว่าการที่พี่เป็นคนดีของแพรว เพื่อเงินแล้วพี่จะยอมขายชีวิตขายวิญญาณความเป็นตัวพี่เลยเชียวหรือคะ ผู้หญิงคนนั้นเขามีผัวอยู่แล้วไม่ว่าผัวเขาจะเป็นยังไง เลวแค่ไหนแต่เขายังไม่เลิกกัน มันผิดศีลธรรมพี่ควรรู้ในข้อนี้ใช่มั้ย แล้วถ้าผัวเขารู้เรื่องนี้เข้า พี่คิดบ้างหรือเปล่าพี่จะเจอกับอะไร" แพรวพรรณพูดให้สติ ชี้ถูกชี้ผิดให้อชิระวัตรฟัง "แพรวพี่ผิดไปแล้ว พี่สัญญาพี่จะไม่ทำอีก พี่จะเลิกยุ่งกับเขาอย่างเด็ดขาด แพรวให้โอกาสพี่นะแพรวนะ" อชิระวัตรฟังแล้วคิดตาม สีหน้าสลดชัดเจนแล้วพูดอ้อนวอนสวมกอดแพรวพรรณไว้ "ได้พี่บาส แพรวจะเริ่มใหม่กับพี่แต่เริ่มใหม่แบบต้องไม่มีมันนะคะ พรุ่งนี้เราจะไปเจาะเลือดตรวจโรคกัน หลังจากนั้นพี่ต้องไปจัดการยังไงก็ได้ให้มันหายไปจากชีวิตของเราสองคน แล้วพี่ห้ามไปยุ่งกับมันอีก ได้หรือเปล่า หลังจากตรวจโรคแล้วถ้าไม่มีอะไร พี่บาสจะต้องกางบัญชีหนี้สินออกมาให้แพรวดู แพรวจะดูว่าสามารถช่วยพี่ในส่วนไหนได้บ้าง ถ้าหนี้มันคือปัญหาของการนอกใจแพรวก็จะเริ่มต้นแก้ที่หนี้ก่อน" แพรวพรรณพูดให้อชิระวัตรฟังเป็นขั้นเป็นตอนด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูมั่นคงเด็ดเดี่ยว เป็นแพรวพรรณคนเดิมที่เข้มแข็งพร้อมที่จะนำพาครอบครัวไปให้พ้นวิกฤต "ได้แพรว พี่จะทำตามที่แพรวบอกพี่ทุกอย่างเลยครับ เรื่องไปตรวจโรคไปตรวจก็ได้เพื่อความสบายใจของแพรว แต่พี่ยืนยันได้พี่ยังสะอาดดีปลอดโรคแน่นอนแพรวไม่ต้องกังวลไปนะ" อชิระวัตรรับคำแต่สายตาดูมีความวิตกกังวล ซึ่งตัวของเขาเองได้พยายามแอบซ่อนไว้แต่ยังไงก็ปิดแพรวพรรณไม่มิด แพรวพรรณรับรู้ได้แต่ก็ไม่ได้พูดรุกเร้าอะไรออกมาอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD