"แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้น ชื่อ เขียนฟ้า หละ"
เขียนฟ้าหัวเราะออกมา เมื่อได้ยินคำตอบของวายุ
"อย่ามาอำเขียน เขียนรู้ทันวาหรอกนะ อย่างเขียนห่างไกลคำว่า สเป็ค ของเสือวาเลย ทำยังกะเขียนไม่รู้ว่าสเป็คของวาเป็นแบบไหน" เขียนฟ้าหันมองหน้าวายุด้วยครั้งด้วยสีหน้ายียวนเหมือนกวนประสาท
"เฮ้อ ช่างเถอะ คนบื้ออย่างเธอ ไม่เคยรู้อะไรหรอก" วายุพูดออกมาด้วยสีหน้าเหมือนปลง จากนั้นทั้งสองก็ดูหนังกันต่อจนจบ
เวลา 13.30 น. @ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้าง
"เป็นไงบ้าง อร่อยนะร้านนี้" วายุถามเขียนฟ้าเมื่อเห็นสีหน้าเธอเหมือนปลาสำลักน้ำ ตอนที่ตักอาหารเข้าปาก
"ก็อร่อยดีนะ" เขียนฟ้าพยายามกลืนปลาดิบลงคอ ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น
"วา เขียนว่า พวกวาไม่ต้องผลัดเวรกันมาดูแลเขียนก็ได้นะ เขียนโตแล้ว อีกอย่างเขียนไม่อยากเป็นภาระ วาเข้าใจเขียนใช่มั้ย" วายุนั่งฟังเขียนฟ้าพูดมา ด้วยสีหน้าเริ่มไม่พอใจ
"ทำหน้าแบบนี้ใส่เขียน หมายความว่าไง" เขียนฟ้าถามออกมาเมื่อวายุยังเงียบใส่เธอ และทำหน้าเหมือนไม่พอใจอยู่ขณะนี้
"เขียนอยากลองทำไรเองบ้าง แล้วจะได้ไม่รบกวนเวลาที่คิม ภูและวา กับแฟนด้วยไง ไม่ดีเหรอ คิม ภูและวา ควรเอาเวลาที่มาอยู่กับเขียน ควรไปอยู่กับแฟนถึงจะถูก ถ้าโดนทิ้งมาจะมาโทษเขียนไม่ได้นะ เขียนอยากให้วาไปอธิบายให้คิมกับภูฟัง เพราะเมื่อวานเขียนบอกคิมไป แล้วคิมเหมือนโกรธเขียนเลย นะวา พูดให้เขียนหน่อย" เขียนฟ้าอธิบายให้วายุฟัง พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนเขา
"ที่เป็นแบบนี้่ไม่ดียังไง" วายุถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"เฮ้อ ไม่ดีตรงเวลาเจอสายตา ของแฟนคิม ผู้หญิงของวา และผู้หญิงของภู มองเขียนเวลาเจอหน้ากันไง เอางี้ สั้นๆ แบบเข้าใจง่าย เขียนอยากมีแฟน แบบนี้เก็ทกันมั้ย" เขียนฟ้าให้เหตุผลอย่างไม่ยอมแพ้ พร้อมมองหน้าโดยไม่หลบสายตา
"......" วายุสบตากับเขียนฟ้า ที่จากใช้สายตาอ้อนวอนดขาอยู่ดีๆ เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันทีเมื่อจบประโยคสุดท้าย
เพล้ง (เสียงจานหล่นลงพื้น)
"วา" เขียนฟ้าตกใจกับการกระทำของวายุ ที่ปัดจานอาหารลงพื้น
"ว้าย / ว้าย" เสียงพนักงาน และลูกค้าผู้หญิงและพนักงานผู้หญิงในร้านต่างพากันร้องออกมาด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องทอน" วายุวางเงินแบ้งค์สีเทาประมาณ 4 ใบ ลงบนโต๊ะ แล้วเดินออกไปจากร้่านทันที เขียนฟ้าเมื่อเจอคนในร้านต่างมองมายังเธอเป็นสายตาเดียว ทำให้เธอต้องลุกตามวายุไปทันที
"วา รอเขียนด้วย วายุ หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เขียนฟ้าตะโกนเสียงดัง ทำให้วายุต้องหันมามองเมื่อเธอเรียกชื่อเขาเต็มยศ
"เรียกไอ้ภูมารับแล้วกัน ฉันกลับก่อน" วายุพูดจบก็เดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่กับเขียนฟ้าทันที
"เฮ้อ เป็นแบบนี้ทุกที" เขียนฟ้าบ่นพึมพำเพียงลำพัง เธอยังคงยืนอยู่อย่างนั้นจนวายุเดินลับตาไปเธอไป
Line
Phupha : อยู่ที่ไหน
Phupha : ทำอะไรอยู่
เขียนฟ้าหยิบมือถือจากกระเป๋าขึ้นมาดู จนรู้ว่าเป็นภูผาที่ไลน์มาหาเธอ คงเป็นวายุที่บอกภูผาแน่นอน เพราะทุกครั้งที่วายุโกรธเธอจนทิ้งเธอไว้ในแต่ละครั้ง เขาก็จะมักโทรให้ภูผามารับเธอทุกที ซึ่งครั้งี้ก็เช่นกัน ครั้งนี้เธอจึงเลือกที่จะไม่กดอ่านข้อความเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบเขากลับไป เธออยากจะลองจัดการชีวิตตัวเองดูสักครั้ง โดยที่ไม่มีพวกเขา
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด (เสียงมือถือเขียนฟ้า)
Phupha Calling.....
เสียงเรียกเข้ามือถือของเขียนฟ้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อภูผาเห็นว่าเขียนฟ้าไม่อ่านข้อความไลน์จากเขา เขียนฟ้ามองดูหน้าจอมือถือที่ปรากฏชื่อคนโทรเข้ามาอย่างไม่หยุด จนสุดท้ายเธอตัดสินใจปิดเครื่องเพื่อไม่ให้คนที่โทรเข้ามาติดต่อเธอได้ เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะพยายามทำอะไรด้วยตัวเอง โดยจะไม่พึ่งเพื่อนรักทั้งสามคน เขียนฟ้าจึงเรียกรถแท๊กซี่เพื่อจะไปสถานที่ที่เธออยากจะไป
เวลา 15.00 น. @ห้างดังย่านสยาม
"ไปไหนดีน้า อ้อ นึกออกแล้ว ไปซื้ออุปกรณ์วาดรูปดีกว่า แล้วต่อด้วยไปดูหนังสือ ลุยกันเลยเขียนฟ้า" เขียนฟ้าพูดกับตัวเองเมื่อเดินทางมาถึงสถานที่ที่เธออยากมา อันที่จริงเธอก็มาที่นี่บ่อยอยู่เหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่มาจะต้องมีเพื่อนรักทั้งสามมาด้วย โดยการมากับเพื่อนทั้งสามไม่เหมือนกันเลย ถ้ามากับภูผา ทุกครั้งที่มาด้วยกันกับเขานั้น เขามักให้เธอเลือกที่อยากจะทำเสมอไม่ว่าเธอเลือกจะกินอะไร หรือทำอะไรภูผาจะตามใจเธอตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะไม่ชอบในสิ่งที่เธอเลือก ทำให้บางครั้งเธอรู้สึกเกรงใจในการมากับภูผา ที่รู้สึกว่าไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆแล้วเขาชอบอะไร ส่วนคิมหันต์ แม้จะไม่ได้ขัดใจอะไรเธอ แต่ไม่เคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เธอเลือกเลย ไม่ต่างกับมาคนเดียวแต่มีสายตาที่คอยจ้องมอง ทำให้บางครั้งเธอก็รู้สึกอึดอัดกับการที่ไม่ค่อยพูดของเขา และการต้องเดาเอาเองในพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมา ด้านวายุ รายนี้ไม่ต้องพูดถึงตรงข้ามกับภูผาสิ้นเชิง ทำให้เหมือนเธอจะเป็นคนที่รู้ใจวายุที่สุด เพราะนอกจากจะไม่ตามใจเธอแล้ว เขามักจะให้เธอทำตามในสิ่งที่เขาเลือกทุกครั้ง ไม่ว่าอะไรที่เขาเลือกเธอต้องทำตัวเหมือนชอบด้วยเสมอ แม้ในสิ่งนั้นเธอจะเกลียดก็ตาม
แต่วันนี้เธอได้อิสระในความคิดและการตัดสินใจ ทำให้เธอรู้สึกว่าวันนี้เธอรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ไม่ต้องคอยเกรงใจความรู้สึกใคร ไม่ต้องคอยเดาพฤติกรรมใคร และไม่ต้องถูกใครคอยบังคับในสิ่งที่เธอไม่อยากทำ
"เอาอะไรดีนะ" เขียนยืนเลือกสีและพู่กันสำหรับวาดภาพที่ชั้น
"ขอโทษค่ะ" เขียนฟ้าร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเธอรู้สึกว่าถอยหลังไปชนใครสักคน จนต้องหันหน้ามามองและกล่าวคำขอโทษออกมา
"เป็นอะไรรึเปล่าคะ ขอโทษจริงที่ไม่ระวังจนทำให้ของที่คุณเลือกเสียหาย" เขียนฟ้าเข้าไปช่วยหยิบของที่หล่นอยู่ที่พื้น ขณะที่อีกฝ่ายที่ถูกเขียนฟ้าชนกำลังก้มลงเก็บของที่หล่นลงพื้นใส่ในตะกร้า
"ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ทันระวังที่ไปยืนข้างหลังคนโดยไม่ยอมหลบตอนที่คุณก้าวถอยหลังมา" ฝ่ายที่ถูกชนกล่าวขึ้นมาเมื่อทั้งสองช่วยกันเก็บของลงใส่กระตร้าเรียบร้อยแล้ว และเขาก็เดินจากเธอไปยังเค้าท์เตอร์ชำระสินค้า โดยไม่มีการพูดคุยอะไรกันต่อ ทำให้เขียนฟ้ามองตามหลังเขาอย่างเผลอตัว จากนั้นเธอก็เดินไปเลือกซื้อของต่อเมื่อเห็นว่ายังซื้อของที่ต้องการยังไม่ครบ
"ไปหาไอติมกินต่อดีกว่า" เขียนดูของในมือที่เธอซื้อครบหมดแล้ว ก็เดินไปยังร้านไอศครีมเจ้าประจำที่เธอไปทานต่อทันที
ในระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปร้านไอศครีมเจ้าประจำนั้น สายตาของเธอก็ไปเห็นคู่รักคู่หนึ่งที่ยืนเลือกซื้อของกันอยู่อย่างที่ใครผ่านไปมาเห็นต่างต้องอิจฉา ฝ่ายชายที่ยืนข้างฝ่ายหญิงที่เกาะแขนเขาไม่ยอมห่างในขณะที่เลือกชุดในร้านเสื้อผ้า และเป็นร้านเสื้อผ้าประจำของชายหนุ่มด้วย
"คิม" เขียนฟ้าพูดชื่อคนที่เธอเห็นตรงหน้าอย่างลืมตัว และรีบเธอหลบทันทีที่เห็นชายหนุ่มหันหน้ามาทางหน้าร้าน
"ทำไมซวยแบบนี้นะ" เขียนฟ้าหลบอยู่หลังเสาที่ห่างจากร้านเสื้อผ้าไม่ไกลนัก และแอบหันกลับหลังไปมองคู่รักคู่นั้นว่าทำอะไรกันต่อ จนเธอเห็นว่าฝ่ายหญิงเลือกเสื้ออยู่ โดยที่ฝ่ายชายเดินออกมาคุยโทรศัพท์ ถ้าให้เธอเดาจากสีหน้าของเขา สายที่โทรเข้ามาหาเขาต้องเป็นภูผาแน่นอน และเรื่องที่คุยกันก็คงไม่พ้นเรื่องเธอ เพราะสีหน้าที่เรียบนิ่งของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ไม่พอใจทันที สักพักหนึ่งก็เห็นหญิงสาวเดินมาคล้องแขนแล้วลากเขาให้ไปดูของกับเธอต่อ เขียนฟ้าดูการกระทำของทั้งคู่อย่างไม่วางตา และรู้สึกโหวงๆในใจอย่างบอกไม่ถูก จะว่าเสียใจก็ไม่ใช่สักทีเดียว เธออธิบายไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เมื่อเห็นคนทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแล้ว เธอก็รีบเดินออกจากห้างนี้ทันที เพราะกลัวจะเดินเจอกับทั้งคู่โดยบังเอิญอีก
"เริ่มเย็นแล้ว หิวแล้วด้วย เอาไงต่อดี เมื่อตอนเที่ยงก็กินไปนิดเดียวเอง"
เวลา 17.00 น. @ร้านอาหารครัวเรือนไม้
"อ้าว คุณเขียนฟ้า นี่มาคนเดียวเหรอครับ คุณคิมหันต์ คุณภูผา คุณวายุ ไปไหนซะหละ ทำไมถึงไม่มาด้วยกัน" เจ้าของร้านเดินออกมาทักทายเขียนฟ้าด้วยตัวเอง
เพราะเขียนฟ้าคือเพื่อนของผู้มีพระคุณของเขา ถ้าไม่มีเพื่อนรักทั้งสามของเขียนฟ้า ร้านของเขาคงโดนยึดไปแล้ว ความช่วยเหลือจากเพื่อนรักทั้งสามคนของเขียนฟ้า ทำให้เขาไม่เคยลืม แล้วพยายามตอบแทนทุกครั้งที่มีโอกาส
"เอ่อ พอดีว่า สามคนนั้นเขาอยู่กับแฟนกันหนะคะ เลยมาด้วยไม่ได้ อีกอย่างเขียนไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว เลยอยากมาดูว่าที่ร้านคุณกล้าลูกค้าล้นมากแค่ไหน" เขียนฟ้าแซวเจ้าของร้าน เพื่อกลบเกลื่อนคำถามของเจ้าของร้าน
"ครับ แล้วจะรับอะไรดีครับ"
"เอาข้าวผัดทะเล แล้วก็ ถ้าเขียนขอเหล้า คุณกล้าจัดให้เขียนได้มั้ยคะ" เขียนฟ้าพูดออกมาอย่างประหม่ากับประโยคสุดท้าย
"ฮ่า ฮ่า อยากลองใช้ชีวิตโดยไม่มีคนคุมใช่มั้ยครับคุณเขียน" เจ้าของร้านหัวเราะออกมาอย่างรู้ทันความคิดของเธอ
"ค่ะ ได้มั้ยคะคุณกล้า"
"ขอนั่งด้วยนะครับ คุณเขียนนั่งดื่มคนเดียวน่าจะเซ็งแย่" เจ้าของร้านนั่งลงร่วมโต๊ะกับเขียนฟ้า พร้อมกับพนักงานร้านเอาอาหารมาลงให้
"เขียนสั่งอาหารอย่างเดียวเองนะคะ ทำไมมาเยอะแยะขนาดนี้" เขียนฟ้ามองอาหารบนโต๊ะอย่างแปลกใจ
"กับแกล้มไงครับ จะได้ไม่เมาเร็ว"
"คุณกล้าก็รู้ว่าเขียนเมายากนะคะ"
"จำได้ครับ โดนฝึกมาจากคุณคิม คุณภู คุณวาขนาดนี้ คุณเขียนจะไม่คอทองแดงได้ยังไง" เจ้าของร้านเอ่ยแซว และทั้งคู่ก็ยิ้มให้กัน แล้วก็เริ่มยกแก้วเหล้าดื่มด้วยกัน
เวลา 21.00 น. @ร้านอาหารครัวเรือนไม้
"คุณกล้า ไหวมั้ยคะ" เขียนฟ้าสะกิดคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ที่ตอนนี้เอาหน้าฟุบลงโต๊ะไปแล้ว
"เช็คบิลค่ะ" พนักงานร้านเดินมาที่โต๊ะของเขียนฟ้า
"เอ่อ คุณกล้าบอกไม่ให้คิดตังค์คุณเขียนค่ะ วันนี้คุณกล้าขอเลี้ยงค่ะ" พนักงานร้านพูดออกมาอย่างเกร็งๆ
"อ้าว งั้นรบกวนเรียกคนมาช่วยพยุงคุณกล้าไปพักด้วยนะคะ เขียนขอตัวกลับก่อน" เขียนฟ้ามองดูพนักงานที่มาช่วยกันหามเจ้าของร้านไปพัก จากนั้นเธอก็วางเงินแบ้งค์เทาทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วลุกออกไปทันที
"คุณเขียนคะ คุณเขียน" พนักงานร้านร้องตะโกนเรียกเธอเมื่อเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วเห็นเงินวางที่ไว้ แต่เขียนฟ้าได้เดินหายไปแล้ว
"เฮ้อ ไปไหนต่อดีน้า" เขียนฟ้าเดินออกมาที่หน้าริมฟุตบาท พร้อมกับวางแผนการเดินทางต่อไปในคืนนี้
เวลา 22.30 น. @ผับดังย่านทองหล่อ
"รับอะไรดีครับ" พนักงานเดินมาถามเขียนฟ้าที่นั่งอยู่คนเดียวบนโต๊ะ
"ลิเคียวร์ กับ เตกีลา อย่างละแก้วค่ะ" เขียนฟ้าสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานเสร็จ ก็มองไปด้่านหน้าเวทีที่มีการเล่นดนตรี
"เอ๊ะ นั่นเพื่อนผู้หญิงของสามเสือวิศวะหนิ ทำไมมาคนเดียว สามหนุ่มไปไหน" รณดามองมาที่โต๊ะเขียนฟ้าที่นั่งอยู่คนเดียวอย่างสงสัย
ตื๊ด ตื๊ด (เสียงโทรออกของมือถือรณดา)
(มีอะไร) เสียงจากปลายสายที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"แหม คุยกับณดาแบบนี้เหรอ กะว่าจะบอกในสิ่งที่เห็นสักหน่อย แต่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ เปลี่ยนใจไม่บอกดีกว่า"
(ณดามีอะไรจะบอกภูเหรอ) ปลายสายเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนโยนทันทีเมื่อเจอคำขู่ของรณดา
"ณดาเห็นเพื่อนภูที่เคยมากับพวกภูด้วยกันสี่คนครั้งนั้น ตอนนี้เค้าอยู่ผับณดาคนเดียว ไม่รู้ว่าเรื่องที่ณดาบอกภูสนใจรึเปล่า"
(ภูฝากณดาดูให้หน่อย เดี๋ยวภูกำลังออกไป ขอบคุณมากนะครับณดาที่โทรมาบอก) เมื่อปลายสายพูดจบก็วางสายลงทันที ทำให้รณดาเห็นท่าทีของฝ่ายตรงข้ามด้วยความสงสัย
เวลาต่อมา @ผับดังย่านทองหล่อ
"ณดา อยู่ไหน" ภูผามาถึงที่ผับพอเจอรณดาก็ถามหาเขียนฟ้าทันที
"นี่ขับรถ หรือ เหาะมา จากคอนโดมาที่ผับณดามันก็ไม่น่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้นะ"
"ณดา เพื่อนของภูอยู่ไหน" ภูผาไม่ตอบคำถามรณดากลับ แต่ถามคำถามเดิมด้วยเสียงที่แข็งขึ้น
"อยู่โต๊ะวีไอพี 2"
"ขอบคุณมาก คราวหน้าจะมาเลี้ยงเหล้าตอบแทน" จากนั้นภูผาก็เดินไปยังโต๊ะที่เขียนฟ้านั่งทานเหล้าอยู่คนเดียวทันที
"ขอเตกีลาอึกแก้วค่ะ" เขียนฟ้าสั่งเครื่องดื่มต่อทันที หลังจากยกดื่มเหล้าแก้วล่าสุดหมดไป โดยไม่ได้มองหน้าผู้ที่เดินเข้ามาใหม่เลย แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แล้วยังยืนนิ่งตรงหน้าเธอไม่ขยับ จนเธอต้องเงยหน้ามอง
"ภู !!" เขียนฟ้าเปล่งชื่อคนที่เข้ามาใหม่อย่างตกใจ และนึกได้ว่าผับนี้เป็นผับของเพื่อนพวกเขา
"กลับได้รึยัง เดี๋ยวภูไปส่ง" ภูผาถามขึ้นมาเมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวที่น่าจะเมาแล้ว
ทั้งวันเขาพยายามโทรหาเธอ แต่เธอกลับไม่ยอมรับสายของเขาเลย หนำซ้ำยังทำให้เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย โทรหาเพื่อนอีกสองคนก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน และติดต่อเธอกันไม่ได้เช่นกัน จนเขาต้องไปรอที่คอนโด แต่รอจนค่ำเธอก็ยังไม่กลับสักที ถ้าเขาไม่รับสายรณดา ผู้หญิงตรงหน้าที่ทำเอาเขาแทบบ้าทั้งวันของวันนี้ จะเป็นยังไงบ้างนะ เขาอยากจะจับเธอขังไว้ที่ห้องเขาโดยไม่ให้เจอใครเลยจริงๆ
"ขออีกแก้วก่อนจะกลับได้มั้ย" เขียนฟ้าต่อลองก่อนจะยอมไปกับเขาโดยดี
เวลาต่อมา @คอนโดเขียนฟ้า
ภูผาอุ้มเขียนฟ้าจากรถจนมาถึงเตียงนอนของเธอ โดยที่เธอไม่มีสติเลยตลอดที่เขาอุ้มเธอเข้ามา
"อื้อ คิม" เขียนฟ้าละเมอเรียกชื่อคิมหันต์ในขณะที่ภูผากำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ
"ชอบเขียนบ้างมั้ย" เขียนฟ้ายังพูดต่อ พร้อมกับดึงภูผาเข้ามาหาตัวเอง
จนตอนนี้ภูผาอยู่ในท่าที่คร่อมตัวเขียนฟ้าอยู่ แล้วเขียนฟ้าก็ลืมตาขึ้นมาสบตาภูผาอย่างหยาดเยิ้ม ซึ่งเธอคิดว่าคนที่กอดเธออยู่นั้นเป็นคิมหันต์ จากนั้นเขียนฟ้่าจึงยกตัวเองขึ้นมาประกบปากภูผาทันที ทั้งยังสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขา โดยที่ภูผาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ลิ้นทั้งสองหยอกเย้ากันในโพรงปากของภูผา ส่วนมือของทั้งคู่ก็ช่วยกันเอาสิ่งที่กั้นกลางระหว่างร่างกายของทั้งสองออกไป ทำให้ตอนนี้คนทั้งสองอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า และกอดจูบกันอย่างดูดดื่มแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อภูผาผละจากปากของเขียนฟ้าก่อนที่จะเลื่อนลงไปยังจุดอื่นต่อไป เขาก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาเพื่อให้เขียนฟ้าได้ฟัง แต่ดูท่าทางของหญิงสาวตอนนี้คงจะไม่รับรู้อะไรแล้ว
"ภู ขอโทษ ภูรักเขียนคนเดียว เขียนเป็นของภูนะ"