เดอะมัม 2

3421 Words
วิจัยรีบเดินออกมาจากห้องสัมมนา เธอก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง " ทัน" เธอพูดพึมพำคนเดียว พลางก้าวเดินตรงไปยังลิฟต์ เพื่อไปยังชั้นล่างสุด หมับ! วิจัยโดนคว้าต้นแขนเอาไว้พร้อมกับลากเธอไปที่ทางหนีไฟ ตุบ! ร่างเล็กของเธอชนเข้าที่ผนังห้องๆหนึ่งของโรงแรม วิจัยรีบมองหน้าคนที่กล้าทำกับเธอแบบนี้ทันที " สก็อตต์" เธอเรียกชื่อผู้ชายที่ยืนเหยียดยิ้มสะใจอยู่ ลูกน้องของเขาขวางหน้าเอาไว้ไม่ให้วิจัยเข้าไปใกล้ๆ " หึหึ บรรยายแม่งห่วยแตกมาก ดร. วิจัย" สก็อตต์หัวเราะอย่างเยาะเย้ย พลางพูดดูถูก วิจัยแสยะยิ้มร้ายที่มุมปาก " ปากเก่งแต่ผลงานห่วยแตกก็ไม่ได้รับรางวัลหรอกนะสก็อตต์" วิจัยสวนกลับอย่างไม่กลัวเกรงผู้ชายร่างใหญ่สองคนขวางวด้านหน้าอยู่ สก็อตต์ขบกรามแน่นๆ เพราะคำพูดนี้มันจี้ใจดำของเขามากๆ " ปากดีวิจัย เดี๋ยวลูกๆที่ขาดพ่อจะได้ขาดแม่อีกคนหรอกนะวิจัย" สก็อตต์เค้นเสียงรอดไรฟันออกมาขู่วิจัย ผัวะ! ๆๆๆๆๆ ตุบ! ๆๆๆๆๆ วิจัยต่อยเข้าที่ใบหน้าของผู้ชายสองคนที่ยืนขวางทางของเธอสลับกันไปมาและเตะเข้าที่ลำตัว ร่างของผู้ชายสูงใหญ่ล้มลงไปกองกับพื้น นอนตัวงอ พรืดๆๆๆ ผัวะ!ๆๆๆ วิจัยพุ่งเข้าไปหาสก็อตต์พร้อมกับเตะแต่สก็อตต์หลบได้ เขาต่อยเข้าในมุมปากของวิจัยๆต่อยเข้าที่ใบหน้าและมุมปากของสก็อตต์ ทั้งสองคนแลกหมัดกัน ผัวะ! ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สามรุมหนึ่งแต่วิจัยไม่ได้กลัว เธอสู้ขาดใจ แคว่ก! วิจัยหักขาของผู้ชายร่างสูงใหญ่ " อ๊ากกกกกกก" เขาถูกต้องปล่อยเสียงร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด วิจัยต่อยเข้าที่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นทันที ผัวะ! กำปั้นถึงจะเล็กแต่ความแข็งแรงมีมากล้น ร่างของผู้ชายล้มหมดสติทัน วิจัยหันมามองผู้ชายอีกคน วิจัยตุบ! ๆๆๆตับ! ๆๆๆๆๆ ผัวะ! ๆๆๆ เธอและผู้ชายต่อสู้กันสก็อตต์ยืนมองนิ่งๆ พลางหาทางหลบหนีไปทีประตู แคว่ก! วิจัยหักกระดูกแขนของผู้ชายร่างสูงใหญ่อีกคน " อ๊ากกกกกก" ผู้ชายร่างสูงใหญ่อีกคนร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด วิจัยใช้มือจับหัวของผู้ชายแน่นๆเธอโขลกลงที่หน้าผากของตัวเองลงไปหาหน้าผากของผู้ชายร่างสูงใหญ่แรงๆทันที ปึ่ก! เสียงหน้าผากชนหน้าผาก " อ๊าก อึก! เสียงผู้ชายร้องออกมาสั้นๆ พร้อมกับสติดับลง วิจัยดันตัวลุกขึ้นยืน พลางมองไปรอบๆห้องเธอขบกรามแน่นๆ " ไอ้สก็อตต์" วิจัยเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆ พร้อมกับเปิดประตูวิ่งออกจากห้องไป " ดร. วิจัยครับ" เสียงร้องเรียกวิจัยจากทางด้านหลัง วิจัยหยุดชะงัก พร้อมกับหันไปมองทันที " ดร. บรรยายได้ยอดเยี่ยมมากครับ คนในห้องฟังแล้วเข้าใจง่ายมากๆครับ" สาโรชเอ่ยชมวิจัย พลางเดินตรงมาหาเธอ วิจัยขบกราแน่นๆ พลางยิ้มกว้างๆ " ขอบคุณค่ะ" วิจัยกลั้นใจกล่าวคำขอบคุณ พร้อมกับมองไปที่ชาร์ลีลูกชายของสาโรช เขายิ้มให้วิจัยอย่างเป็นมิตร " ว่างไหมครับ ดร. ผมอยากชวนไปดื่มกาแฟสักแก้ว คุยเรื่องบรรยายวันนี้ด้วยนะครับ" สาโรชถามวิจัยด้วยความสงสัย วิจัยยกมือขึ้นเกาท้ายทอย พลางยิ้มเจื่อนๆ " หึหึ ไม่ว่างอีกแล้วเหรอครับ" สาโรชถามอย่างรู้คำตอบ เพราะท่านเข้าใจ ดร. วิจัยดี ไหนจะงานไหนจะลูกๆ " ต้องขอโทษคุณสาโรชด้วยนะคะ" วิจัยเอ่ยขอโทษคุณสาโรช ชาร์ลีมองหน้าวิจัยนิ่งๆ " วันหน้าเอาเด็กๆมาด้วยสิครับ เราจะได้ดื่มกาแฟกันคุยเรื่องงานด้วย" คุณสาโรชบอกวิจัย เพราะท่านมีหลายเรื่องที่สงสัยและอยากรู้เรื่องงานวิจัยอีกมากมายที่ท่านอยากปรึษา วิจัยยิ้มกว้างๆ " ค่ะ" เธอตอบอย่างเกรงใจ พลางยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา ' 15 นาที ' วิจัยพลางคิดคุณสาโรชมองการกระทำของวิจัย ท่านยิ้มเอ็นดู ชาร์ลีขมวดคิ้วเข้าหากัน " ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ " เธอบอกลาคุณสาโรชๆยิ้มและพยักหน้าเข้าใจ " ครับ ดร." คุณสาโรชตอบกลับ พร้อมกับยกมือขึ้นตบไหล่ของวิจัยเบาๆ วิจัยยิ้มและเดินจากไปทันที " เธอสวยนะครับคุณพ่อ" ชาร์ลีเอ่ยปากชมวิจัยหลังจากที่เธอจากไปลับแล้ว คุณสาโรชยิ้มที่มุมปาก " หึหึ ดร. วิจัย เก่ง ฉลาด ลูกสาวของศาสตราจารย์เควิน นะ " คุณสาโรชบอกลูกชาย ชาร์ลียิ้มที่มุมปาก " เธอโสดไหมครับคุณพ่อ" ชาร์ลีถามด้วยความสนใจวิจัยขึ้นมา คุณสาโรชมองหน้าลูกชาย " หึหึ โสดแต่มีลูกสองคน" คุณสาโรชหัวเราะในลำคอ พลางตอบคำถามลูกชายอย่างไม่ชัดเจน ชาร์ลีขมวดคิ้วเข้าหากัน " โสดแต่มีลูกสองเหรอครับ" ชาร์ลีถามย้ำคุณสาโรชๆพยักหน้ารับ " อืม แต่พ่อไม่รังเกียจ ดร. และเด็กๆหรอกนะชาร์ลี พ่อรับได้" คุณสาโรชบอกลูกชาย พร้อมกับเดินนำหน้าไปทันที " แบบนี้คุณพ่อต้องเชิญเธอมาทานข้าวที่บ้านของเราแล้วนะครับ" ชาร์ลีบอกกับคุณสาโรชๆปลายตามองลูกชาย " หึหึ เอาสิ" ท่านตอบอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองพ่อลูกเดินเข้าไปในลิฟต์ พลางพูดคุยกันเรื่องของวิจัยอย่างปลื้มใจ สปา เก็ตส์เนอร์นั่งมองเด็กๆเล่นกันเงียบๆ เขาอมยิ้มชอบใจกับการกระทำของหนูน้อยวาร์เนอร์ที่ดูแลน้องสาว " ดื่มอะไรหรือเปล่าคะคุณเก็ตส์เนอร์" รีโรสถามด้วยความสงสัย " ไม่ครับขอบคุณครับ ผมรอทานกับเมียและลูกดีว่าครับ" เก็ตส์เนอร์กล่าวคำขอบคุณพลางพูดของรีโรสสบายใจ รีโรสยิ้มและส่ายหน้า จู่ๆหนูน้อยวาร์เนอร์เดินตรงมาหารีโรส ใบหน้าจิ้มลิ้มทำหน้าแดงเขินอายๆ เก็ตส์เนอร์มองหน้าของลูกชายด้วยความสงสัย " น้องเนอร์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" รีโรสถามด้วยความเป็นห่วง หนูน้อยวาร์เนอร์ก้มหน้าลง พลางยื่นกุมเป้ากางเกงของตัวเอง " ผมปวดฉี่ครับ " หนูน้อยวาร์เนอร์ตอบเสียงเบาๆ เพราะอายรีโรส หนูน้อยรอมัมวิไม่ไหวตริงๆเลยต้องเดินมาหารีโรส เก็ตส์เนอร์ยิ้มเอ็นดู " มาครับ ดะ...เราไปเข้าห้องน้ำกัน" เก็ตส์เนอร์เอ่ยปากชวน แต่เขากำลังจะหลุดคำว่า' แด๊ด' ออกไป เขารีบเปลี่ยนคำพูดทันที หนูน้อยวาร์เนอร์มองหน้าเก็ตส์เนอร์พลางพยักหน้ารับ เพราะหนูน้อยรอมัมวิไม่ไหวแล้ว เก็ตส์เนอร์ดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลางยื่นมือออกไปให้หนูน้อยวาร์เนอร์จับ เขาก้มลงมองมือของตัวเองอย่างลุ้นๆ หนูน้อยวาร์เนอร์มองมือของเก็ตส์เนอร์นิ่งๆอย่างลังเลสักพักหนึ่ง ก่อนหนูน้อยจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆและเป่าลมออกมาจากปากเล็ก แล้วค่อยๆยื่นมือป้อมๆออกมา เพื่อไปจับมือของเก็ตส์เนอร์ๆมองแล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงมากๆ เพราะนี้คือครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับมือป้อมๆของลูกชาย " เลี้ยวซ้าย ห้องน้ำอยู่ในสุดค่ะคุณเก็ตส์เนอร์" รีโรสบอกเก็ตส์เนอร์ เขาพยักหน้ารับพลางเดินจูงมือป้อมๆของลูกชายไป เก็ตส์เนอร์หรี่ตามองเป็นระยะๆ เขาดีใจและตื่นเต้นมากๆ หนูน้อยวาร์เนอร์เดินไปเงียบๆ จนมาถึงหน้าห้องน้ำ เก็ตส์เนอร์เปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับจูงมือป้อมๆเขาไปในห้องน้ำ หนูน้อยวาร์เนอร์ค่อยๆปล่อยมือของของเก็ตส์เนอร์ออก พลางเดินไปในห้องน้ำ หนูน้อยปิดประตูลงแต่ไม่ได้ล็อค เก็ตส์เนอร์ยืนมองดูตัวเองในกระจกนิ่งๆ " อุ๊ย! " เสียงหนูน้อยดังมาจากห้องน้ำ เก็ตส์เนอร์หันไปมองทันที " เกิดอะไรขึ้นครับน้องเนอร์" เก็ตส์เนอร์เอ่ยถามคนในห้องน้ำ " ........" หนูน้อยไม่ตอบ เก็ตส์เนอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาอยากเดินเข้าไปหาแต่กลัวหนูน้อยโกรธ ทุกอย่างเงียบไปสักพักก่อนจะมีเสียงหลุดออกมา " ลุงเนอร์ครับ" เสียงสดใสร้องออกมาจากห้องน้ำเรียกชื่อของเขา เก็ตส์เนอร์หันไปมองที่ประตูทันที " ครับ" เขาขานรับหนูน้อยทันที " ผมๆๆๆ " หนูน้อยวาร์เนอร์พูดซ้ำๆคำเดิม " ดะ...ลุงเข้าไปหาได้ไหมครับ" เก็ตส์เนอร์เอ่ยถามคนในห้องน้ำ หนูน้อยมวาร์เนอร์ถอนหายใจแรงๆ " ครับ" หนูน้อยกลั้นใจตอบ เพราะนี้คือทางออกสุดท้ายของหนูน้อยแล้ว เก็ตส์เนอร์ยิ้มที่มุมปาก เขาค่อยๆเปิดประตูเข้าไปหาหนูน้อย " ลุงเนอร์ครับผมฉี่ใส่กางเกงครับ" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกกับเก็ตส์เนอร์ พลางทำหน้าเเหมือนจะร้องไห้ เพราะกลัวเก็ตส์เนอร์หัวเราะเยาะอีกอย่างทุกครั้งมัมวิช่วยหนูน้อยในการปลดเข็มขัด และกระดุมที่กางเกง แต่ครั้งนี้หนูน้อยปวดมากๆทุกอย่างเลยช้าไปหมดเลยไม่ทันเวลา เก็ตส์เนอร์ยิ้มเอ็นดู พลางนั่งลงย่องๆตรงๆหน้า เขาก้มลงมองกางเกงที่เปียกแฉะ " ไม่เป็นไรนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคน โอเค" เก็ตส์เนอร์บอกกับลูกชายเสียงอ่อนโยน หนูน้อยวาร์เนอร์ยิ้มกว้าง พลางยกมือป้อมๆขึ้นมา นิ้วก้อยสั้นๆป้อมๆชี้ออกมา " โอเคครับ มันคือความลับของเราสองคนนะครับลุงเนอร์ คริๆๆๆ" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกเก็ตส์เนอร์น้ำเสียงเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน เก็ตส์เนอร์ยิ้มที่มุมปากพลางยกมือของเขาขึ้นมา นิ้วก้อยยาวๆเกี่ยวกับนิ้วก้อยป้อนๆ ทั้งสองคนพ่อลูกมองหน้ากันและยิ้ม " หึหึ ความลับครับ" เก็ตส์เนอร์หัวเราะในลำคออย่างชอบใจ ก่อนจะพูดเน้นย้ำให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวของเขา " คริๆๆๆควาลับครับ" หนูน้อยมวาร์เนอร์หัวเราะคิกคักก่อนจะพูดเน้นย้ำเหมือนกับเก็ตส์เนอร์ๆยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาพลางลูบผมสีทองของลูกชายเบาๆด้วยความเอ็นดู ทั้งสองหนุ่มสบตากันก่อนที่เก็ตส์เนอร์จะล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์มาและโทรหาแจร์เร็ต เพื่อให้ซื้อกางเกงของเด็กชายมาให้เขา วิจัยเดินออกจากห้องนวดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไบรอันเดินออกมาส่งเธอที่ด้านหน้า " เจอกันวันเสาร์นะคะคุณไบรอัน" วิจัยบอกไบรอัน เก็ตส์เนอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขามองหน้าของผู้ชายคนนั้นนิ่งๆ " ใครเหรอครับคุณรีโรส?" เก็ตส์เนอร์ถามรีโรสด้วยความสงสัย " ไบรอันค่ะเอ่อ...คือ.." รีโรสแนะนำชื่อและต่อมาจะบอกถึงหน้าที่ ของไบรอันแต่เธอพูดไม่ออก เพราะเธอกลัวสายตาของเก็ตส์เนอร์ในตอนนี้ " คืออะไรครับ" เก็ตส์เนอร์ถามด้วยความสงสัย แต่ในใจคิดว่า ' หมอนวดเหรอว่ะ ไม่ใช่มั้ง" เขาพลางคิดเดาๆ รีโรสหลืนน้ำลายเหนียวลงคอพลางกลั้นใจตอบเก็ตส์เนอร์เสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยินเสียงเลย " คนที่นวดให้คุณวิจัยในห้องไงค่ะ" รีโรสพูดออกมาอู้อี้ไม่เต็มเสียง เก็ตส์เนอร์ขบกรามแน่นๆ มองหน้าของวิจัยนิ่งๆ เธอมองหน้าของเขานิ่งๆด้วยแววตาว่างเปล่า " คุณมัมครับ/ขาา" หนูน้อยทั้งสองคนเรียกมัมวิพร้อมกับวิ่งเข้ามากอด วิจัยนั่งลงย่องๆเพื่อรับร่างป้อมๆ ฟอด! แก้มทั้งสองข้างถูกหอมด้วยปากเล็กแดงๆพร้อมๆกันด้วยความคิดถึงและเหมือนไม่ได้เจอหน้ามัมมานาน เก็ตส์เนอร์มองหน้าไบรอันนิ่งๆ รีโรสอ้าปากค้าง ไบรอันเดินเข้าไปในห้องทันที โดยที่เขาไม่ได้สนใจสายตาของเก็ตส์เนอร์ " คิดถึ๊งงงงงงงงงงงคิดถึงคุณมัมค่ะ" หนูน้อยวาร์เลย์บอกกับมัมวิด้วยรอยยิ้ม มัมวิยิ้มกว้างๆ " มัมก็คิดถึงลูกๆของมัมเหมือนกันจ้า" มัมวิบอกลูกๆของเธอกลับมไป " ผมหิวครับคุณมัม" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกกับมัมวิ วิจัยอมยิ้ม เก็ตส์เนอร์มองการกระทำของทั้งสามคนนิ่งๆ ตอนนี้เขากำลังเรียนรู้และสังเกตุการณ์ว่าเด็กๆและแม่เป็นยังไง ใช้ชีวิตกันแบบไหน " งั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ" วิจัยบอกกับลูกๆพร้อมกับอุ้มหนูน้อยทั้งสองคนขึ้นพร้อมๆกัน " คุณมัมครับผมเดินดีกว่าครับ" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกกับมัมวิ วิจัย เก็ตส์เนอร์ รีโรสได้ยินทุกคนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ยิ่งเก็ตส์เนอร์เขายิ่งดีใจจนอยากกระโดดสูงๆเพราะลูกชายที่แสนน่ารักของเขาเริ่มโตและเข้าใจคำพูดของเขามากขึ้น วิจัยวางลูกชายลงบนพื้น มือป้อมๆจับมือของมัมวิเอาไว้แน่นๆ " คุณวิจัยค่ะ " เสียงของรีโรสเรียกวิจัยก่อนเธอและลูกๆจะเดินจากไป วิจัยหันหน้ามามองทันที เก็ตส์เนอร์ก็ฟังนิ่งๆ " คือทางสปามีร้านค้าด้วยนะคะ" รีโรสพูดต่อ วิจัยขมวดคิ้วเข้าหากัน " ร้านเหรอคะ" วิจัยถามรีโรสด้วยความสงสัย รีโรสยิ้มหวานให้ พลางมองหน้าของวิจัย " ร้านขายน้ำหอม ครีมอาบน้ำ โลชั่น ที่สามารถดับกลิ่น ควัน นะคะ" รีโรสอธิบายให้วิจัยเข้าใจมากขึ้น วิจัยยิ้มกว้างๆ " ค่ะ วิจะแวะเข้าไปดูนะคะ" วิจัยตอบพร้อมกับเดินจากไป เธอเดินไปที่ร้านตามที่รีโรสแนะนำ ซึ่งชื่อร้าน ' B&F' ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำหอมชื่อดังนั้นเอง วิจัยเลือกซื้อเงียบๆ โดยมีพนักงานแนะนำเธอ เก็ตส์เนอร์เดินตามและจ่ายตังค์ให้เธอทุกอย่าง เสร็จแล้วทั้งสี่คนก็กลับคอนโดของวิจัย ในช่วงเย็นเหมือนทุกวัน เถื่อนและมาคัสมาอาบน้ำให้หลานชาย เก็ตส์เนอร์มองหน้าของเถื่อนและมาคัสนิ่งๆ หนูน้อยวาร์เนอร์วิ่งเข้าไปทักทายทั้งสองคนเหมือนทุกครั้ง ' แด๊ดเถื่อน แด๊ดมาร์ ' หนูน้อยเรียกเถื่อนและมาคัส เก็ตส์เนอร์รู้สึกจุกและอิจฉาทั้งสองคนมากๆ เถื่อนและมาคัสมองหน้าเก็ตส์เนอร์ด้วยสายตาที่กวนๆ เก็ตส์เนอร์ขบกรามแน่นๆ วิจัยมองหน้าทั้งสามหนุ่มนิ่งๆ ไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะมีเรื่องกัน ' ไอ้เ..ี้ยเนอร์มึงทำไมไม่กลับไปนอนบ้านมึง' เถื่อนถามเก็ตส์เนอร์ด้วยความสงสัย ใจจริงเถื่อนอยากถามตรงๆด้วยซ้ำ เก็ตส์เนอร์ปลายตามองเถื่อน ' เรื่องของกู' เขาตอบกวนๆกลับไป เถื่อนมองหน้าเก็ตส์เนอร์ด้วยความหมั่นไส้อยากกระทืบให้จ่มกองเลือดคาตีนของเขาในตอนนี้ แต่เขายังทำไม่ได้เพราะในห้องมีเด็ก ' ปากดีไปเถอะไอ้เ..ี้ยเนอร์ ไอ้เวร'เถื่อนเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆแววตาดุดันน่ากลัว ทั้งสองหนุ่มสบตากันอย่างไม่มีใครกลัวใคร จู่ๆเก็ตส์เนอร์ต้องสะดุ้งจากความคิด เพราะกลิ่นบุหรี่จากระเบียงลอยเข้ามาในจมูกโด่งของเขา เก็ตส์เนอร์ขบกรามแน่นๆและเดินลงไปจากชั้นสองทันที เขามองไปที่ระเบียง ร่างเล็กของวิจัยกำลังยืนหันหลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า เก็ตส์เนอร์กำมือเข้าหากัน พร้อมเดินตรงๆไปที่ระเบียง วิจัยหันมาพอดี เธอแสยะยิ้มที่มุมปากพลางพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก " วิจัย!" เก็ตส์เนอร์เค้นเสียงรอดไรฟันเรียกชื่อของเธอเหี้ยมๆ วิจัยที่ดูดควันบุหรี่เข้าไปใหม่ในปากมองหน้าของเก็ตส์เนอร์นิ่งๆโดยไม่กลัวเกรง เก็ตส์เนอร์แสยะยิ้มร้ายพร้อมเดินตรงเข้ามาหาวิจัย มือทั้งสองประคองใบหน้าสวยของเธอเอาไว้ ปากอุ่นๆรีบประกบทับลงไปหาปากของเธอ " อื้มมมมมมมมมม" วิจัยร้องในลำคอ มือที่คีบบุหรี่ไฟฟ้าได้ปล่อยบุหรี่ให้ร่วงหล่นลงไปบนพื้นด้วยความตกใจ ปากอุ่นๆของเขาบดขยี้ปากของเธอแรงๆ ลิ้นอุ่นๆพยายามจะสอดเข้าไปในปากของเธอ เพื่อดูดควันบุหรี่ออกมา " อืมมมมมมมมม" วิจัยร้องอู้อี้ในลำคอ จนต้องยอมเปิดปากให้ลิ้นอุ่นๆสอดเข้าไปในปาก ควันบุหรี่ถูกปากอุ่นๆของเขาดูดเข้ามาในปากอุ่นๆของเขา เก็ตส์เนอร์กลืนควันบุหรี่ลงไปในปอด พร้อมกับลิ้นอุ่นๆควานหาความหวานในปากของเธอ มือของวิจัยพยายามทุบแผ่นหลังของเขาแรงๆ " อื้มมมมมม" วิจัยร้องอู้อี้ในลำคอ ปากอุ่นๆของเขาบดขยี้แรงๆไม่ยอมถอนออกมาง่ายๆ จนวิจัยจะขาดอากาศหายใจเพราะโดนจูบ เก็ตส์เนอร์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าๆ อ้อยอิ่ง ลิ้นอุ่นๆเกี่ยวลิ้นของเธอออกมาด้วย น้ำลายไหลยืดออกมาตามลิ้นทั้งสอง ทั้งสองคนสบตากัน วิจัยหายใจเข้าไปในปอดถี่ๆ " เนอร์จะข้ามคำว่า ' เพื่อนรัก' เอง " เขาบอกกับวิจัยเสียงเข้ม วิจัยขบกรามแน่นๆ เธอเหยียดยิ้มที่มุมปาก " เพื่อนคือเพื่อน" เธอเน้นย้ำคำนี้อีกครั้ง เก็ตส์เนอร์ขบกรามแน่นๆพลางแสยะยิ้มร้าย พร้อมกับประกบปากของวิจัยอีกครั้ง " อื้มมมมมมมม" วิจัยร้องประท้วงในลำคอ มือของเธอพยายามทุบแผ่นหลังของเขา เก็ตส์เนอร์บดขยี้ริมฝีปากของเธอแรงๆจนมันแตกเลือดซึมออกมา เขาดูดเลือดเข้าไปในปากและกลืนลงไปในลำคอ เก็ตส์เนอร์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ " ผัว! ไม่ใช่ ' เพื่อน' จำไว้วิจัย" เก็ตส์เนอร์พยายามเน้นย้ำคำใหม่ให้วิจัยเข้าใจชัดๆ วิจัยแสยะยิ้มส่งให้ เก็ตส์เนอร์ก้มลงไปประกบปากของเธออีกครั้งทันที " อื้มมมมมมม" วิจัยร้องประท้วงด้วยความหงุดหงิด มือทั้งทุบแผ่นหลังทั้นพยายามดันอกแกร่งของเขาให้ออกห่าง เขาค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากปากของเธออีกครั้ง ทั้งสองคนสบตากันอย่างไม่ยอมกัน " หึหึ ต่อไปจะไม่มีคำว่าเพื่อน แต่ต่อไปเราจะใช่คำ ' ผัว!' เท่านั้น" เก็ตส์เนอร์เค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆบอกให้วิจัยได้เข้าใจ " เพื่อนคือเพื่อน" เธอเค้นเสียงรอดไรฟันตอกกลับเก็ตส์เนอร์ๆเหยียดยิ้มร้าย พร้อมกับประกบของเขากับปากของวิจัยอีกครั้งเพื่อลงโทษคนปากดีอย่างวิจัย " อื้มมมมมมมมมม" วิจัยร้องประท้วงอู้อี้ในลำคอ มือพยายามทุบแผ่นหลัง พร้อมกับเธอจะคิดอะไรได้ ตุบ! เข่าเล็กของวิจัยกระแทกเข้าที่เป้าของเก็ตส์เนอร์ๆถึงกับตัวงอ หน้าแดงหน้าดำ เพราะจุกร้องไม่ออก มือปล่อยจับใบหน้าของวิจัยพร้อมกับไปกุมเป้าของตัวเอง วิจัยแสยะยิ้มพลางมองหน้าของเก็ตส์เนอร์ " อย่าคิดข้ามเส้นเพื่อน" วิจัยเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆ พร้อมเดินจากไปเก็ตส์เนอร์มองตามหลังของวิจัย เขาขบกรามแน่นๆ " มันจะไม่มีเพื่อนอีกต่อไปวิจัย!" เก็ตส์เนอร์กลั้นใจพูดตอบกลับวิจัยให้เธอเข้าใจ วิจัยเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีโดยไม่หันหลังกลับมาดูเขา ??? เพื่อน เป็น ผัว สู้ๆพี่เนอร์ ????
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD