เก็ตส์เนอร์ยืนอึ้งอยู่หน้าห้องของวิจัย เพราะทุกอย่างตรงหน้าของเขาคือวิจัยแต่งงานมีลูกแล้ว
' แล้วพ่อเด็กล่ะ' เขาเกิดคำถามในใจ
" เพื่อนมัมเองครับ" วิจัยตอบหนูน้อยทั้งสองคน เธอนั่งลงย่องๆพลางยื่นมือไปลูบแก้มของเด็กๆทั้งสองคน เก็ตส์เนอร์ก้มลงมองทั้งสามแม่ลูกอย่างอึ้งๆ เขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาทุบหัวเขาเลย มันมึนตึบ เขามองหน้าหนูน้อยทั้งสองคนสลับกันไปมา
" เพื่อนเหรอครับมัม" หนูน้อยวาร์เนอร์ถามมัมวิด้วยความสงสัย หนูน้อยเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเก็ตส์เนอร์อย่างพิจารณา
" เพื่อนมัมชื่อไรเหรอครับ" หนูน้อยวาร์เนอร์ถามมัมวิด้วยความสงสัย หนูน้อยจำหน้าของผู้ชายตรงหน้าได้ เพราะหนูน้อยเห็นในโทรศัพท์เมื่อกี้นี้เอง เก็ตส์เนอร์มองนิ่งๆ หนูน้อยวาร์เลย์ปลายตามองเก็ตส์เนอร์พลางกอดคอมัมวิแน่นๆ
" ชื่อลุงเก็ตส์เนอร์ครับ" วิจัยแนะนำให้ลูกชายรู้จัก หนูน้อยวาร์เนอร์มองหน้าเก็ตส์เนอร์นิ่งๆ เก็ตส์เนอร์ฝืนยิ้มเล็กน้อยๆ แต่หนูน้อยทั้งสองกับไม่สนใจซะงั้น เก็ตส์เนอร์ถอนหายใจแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
" วิแต่งงานตอนไหนทำไมเนอร์ถึงไม่รู้เรื่อง" เก็ตส์เนอร์ถามออกมาเหมือนคนละเมอ วิจัยอุ้มลูกทั้งสองคนขึ้นมา พร้อมกับหันหน้ามาสบตากับเก็ตส์เนอร์ เธอยิ้มที่มุมปาก
" บางครั้งเพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของเพื่อนทุกอย่างหรอกนะเนอร์ " วิจัยพูดออกมาเสียงเรียบ พลางเดินหมุนตัวเข้าไปในห้อง เก็ตส์เนอร์มองตามหลังวิจัย หนูน้อยวาร์เนอร์และวาร์เลย์มองหน้าเก็ตส์เนอร์พลางแลบลิ้นปลิ้นตาให้ เก็ตส์เนอร์ถึงกับอ้าปากค้าง เขาเดินตามวิจัยเข้าไปในห้อง เขาทั้งทึ่งๆที่เธอแข็งแรงขนาดนี้ เพราะเด็กๆสองคนใช่ตัวเล็กซะที่ไหน
" วิ เนอร์กับวิเราเป็น.." เก็ตส์เนอร์เรียกชื่อวิจัย พลางพูดออกมาเสียงแผ่วเบาๆ เขาพยายามมองข้ามหนูน้อยสองคนที่พยายามแลบลิ้นใส่เขา ปากคว่ำใส่บ้าง เดี๋ยวเขาอดจับมาลงโทษไม่ไหว เพราะความดื้อของทั้งสองคน
" เพื่อนไงเนอร์ เราแค่เพื่อนกัน" วิจัยเอ่ยคำนี้ออกมาเน้นย้ำให้เก็ตส์เนอร์ได้เข้าใจชัด เก็ตส์เนอร์รู้สึกจุกกับคำนี้แปลกๆ เพราะมันเหมือนเขาถูกวิจัยประชดเลย วิจัยวางเด็กๆลงไปนั่งบนโซฟา
" เพื่อนเนอร์มีอะไรหรือเปล่า " วิจัยหันหน้ามาถามเก็ตส์เนอร์ด้วยความสงสัย หนูน้อยทั้งสองคนยื่นมือป้อมๆไปจับมือของมัมวิแน่นๆ เก็ตส์เนอร์ก้มลงมองหน้าเด็กๆ เขารู้สึกคุ้นๆหน้า ถูกชะตากับหนูน้อยทั้งสองคนมากๆ
" พ่อเด็กไปไหนวิ" เก็ตส์เนอร์ถามด้วยความสงสัย
" ไม่ใช่ตอนนี้เก็ตส์เนอร์ " วิจัยเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาแผ่วเบาๆ เพื่อให้เขาหยุดถามเรื่องไร้สาระต่อหน้าลูกๆของเธอ
" วิ " เก็ตส์เนอร์เรียกชื่อของวิจัยพลางก้มมองหน้าของเด็กๆ
' นี้หน้าทำไมเหมือนเก็ตส์เตอร์จังเลยว่ะ ' เขาเกิดความสงสัย เพราะถ้าเหมือนน้องชายของเขาก็เหมือนกับว่าเด็กทั้งสองเหมือนเขาด้วย
เก็ตส์เนอร์นั่งรอวิจัยอยู่ห้องรับแขก เขากำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง เพราะเมื่อสามปีก่อนนั้นที่เขารู้สึกว่าเขามีอะไรกันกับเวลล์นั้น คืนนั้นเขาเหมือนฝันแต่ทุกอย่างเขาปลดปล่อย สบายตัวมากๆ แต่พอเขาตื่นขึ้นมาตอนบ่ายโมง เขาได้เจอแค่โน๊ตที่เขียนแปะเอาไว้ที่หน้าตู้เย็น
' วิมีงานด่วนที่อิตาลี '
" จิ........ " เก็ตส์เนอร์ทำเสียงอย่างหงุดหงิดในใจ เพราะเขากำลังพลาดอะไรไปหรือ ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนผิดกับวิจัยและเด็กๆก็ไม่รู้
" คริๆๆๆๆๆๆๆๆ มัมขาพี่เนอร์แกล้งน้องเลย์ คริๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะคิกคักเล็ดลอดห้องนอนออกมา ยิ่งทำให้เก็ตส์เนอร์อยากเข้าไปดู เขารู้สึกอยากไปเล่นด้วย อยากช่วยใครในสามคนนั้นาลงโทษให้เข็ดหลาบ ข้อหาน่ารักเกินไป
" แกล้งน้องเลย์เหรอพี่เนอร์ มัมจัดการเองค่ะน้องเลย์" เสียงวิจัยกำลังแกล้งขู่กลับ เพื่อปกป้องลูกสาว เก็ตส์เนอร์ฟังแล้วแอบอิจฉา
" คริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยอมครับผมยอมครับ มัม คริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงหนูน้อยวาร์เนอร์หัวเราะคิกคักเสียงดัง เหมือนเขากำลังโดนมัมวิลงโทษอย่างหนัก เขาอยากรู้ว่าสามคนเล่นอะไรกัน
" คริๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องเลย์อยากโดนลงโทษค่ะ มัมขาาาาา" เสียงหนูน้อยวาร์เลย์บอกกับมัมวิ
" มัมครับเรามาลงโทษน้องเลย์ด้วยกันนะครับมัม " เสียงสดใสของเด็กผู้ชายดังขึ้น
" จ๊ะ อยากโดนลงโทษเหรอน้องเลย์" เสียงของวิจัยดัง
" คริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องเลย์ คริๆๆๆๆๆๆๆๆ ยอมแล้ว คริๆๆๆๆๆๆ" เสียงของเด็กผู้หญิงเล็ดลอดออกมาอย่างมีความสุข เก็ตส์เนอร์นั่งฟังแล้วอมยิ้มอย่างลืมตัว เขานั่งฟังเงียบๆนานเป็น10 นาที เสียงหัวเราะก็หายไป เก็ตส์เนอร์นั่งรอไม่นานประตูห้องนอนก็เปิดออกมา
" วิ" เก็ตส์เนอร์เรียกชื่อของวิจัยเสียงแผ่วเบา วิจัยเดินออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เธอเดินตรงไปยังโต๊ะมุมสุดใกล้ระเบียง มือของเธอยื่นไปหยิบอะไรบางอย่างออกมา เก็ตส์เนอร์อ้าปากค้าง เพราะผู้หญิงที่แต่ก่อนสุภาพอ่อนโยน สิ่งเสพติดไม่แตะเลยแต่ตอนนี้สิ เธอกำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า เก็ตส์เนอร์ดันตัวลุกขึ้นยืนพลางเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเธอ
" ทำไมวิสูบบุหรี่" เก็ตส์เนอร์ถามด้วยความสงสัย วิจัยปลายตามองเก็ตส์เนอร์พลางแสยะยิ้ม
" เซ็งก็สูบ เบื่อก็สูบ" วิจัยตอบสั้นๆเสียงเรียบๆ เก็ตส์เนอร์ก้มลงมองบนโต๊ะเล็กข้างๆ เขาถึงกับอึ้ง เพราะมันไม่ใช่แค่บุหรี่แต่มันมี ' สนูส' อีกด้วย
" วิเปลี่ยนไปมาก" เก็ตส์เนอร์พูดออกมาลอยๆ พลางมองหน้าของเธออย่างพิจารณา วิจัยดูดเอาสารเสพติดเข้าไปในปอดลึกๆ เก็ตส์เนอร์ขบกรามแน่นๆ
" วิไม่ได้เปลี่ยน เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม " วิจัยพูดออกมาแบบชิวๆสบายๆไม่ได้สนใจอารมณ์ของเก็ตส์เนอร์ว่าเขาจะเป็นห่วงหรือกังวลเรื่องสุภาพของเธอเลย เธอค่อยๆปล่อยควันออกมาจากจมูกและปาก
" เพื่อน! แต่เพื่อนปกปิดเรื่องอะไรหรือเปล่า" เก็ตส์เนอร์ถามเน้นย้ำพลางมองหน้าวิจัยนิ่งๆ วิจัยแสยะยิ้มที่มุมปาก
" เนอร์ เพื่อนคือเพื่อน ไม่ใช่ผัว!" วิจัยเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆ พลาวดูควันบุหรี่เข้าไปในปอดอีกครั้ง เก็ตส์เนอร์มองแล้วยิ่งหงุดหงิด วิจัยปลายตามองเก็ตส์เนอร์พลางวางบุหรี่ไฟฟ้าลงและหยิบกล่องกลมๆขึ้นมา
หมับ! เก็ตส์เนอร์รีบคว้ามือของวิจัยเอาไว้เพื่อห้ามเธอ วิจัยมองหน้าของเก็ตส์เนอร์ทันที
" พ่อเด็กเป็นใครวิ" เก็ตส์เนอร์ถามวิจัยเสียงเรียบ ในใจรู้สึกลุ้นกับคำตอบที่จะออกมาจากปากของเธอมากๆ วิจัยแสยะยิ้มร้ายที่มุมปาก พลางบิดข้อมือของตัวเองออกจากพันธนาการ เธอเปิดกล่องกลมๆและหยิบถุงเล็กๆออกมายัดเข้าปากใช้ลิ้นดันขึ้นไปเหน็บเอาไว้ที่เหงือก เก็ตส์เนอร์มองการกระทำของเธอด้วยความเป็นห่วง
" ตายแล้ว" วิจัยตอบเสียงเรียบ พลางเดินหมุนตัวจะเดินไปนั่งที่โซฟา
หมับ! เก็ตส์เนอร์คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ก่อน วิจัยยืนนิ่งๆไม่ได้หันไปมองหรือสนใจคนที่พยายามดึงเธอเอาไว้
" ตายๆได้ยังไง หรือไอ้เถื่อน ไอ้มาร์ พวกมันจัดการ" เก็ตส์เนอร์ถามวิจัยด้วยความไม่อยากเชื่อ เพราะถ้าผู้ชายคนนั้นทำวิจัยท้องเถื่อนกับมาคัสน่าจะแค่สั่งสอนไม่น่าให้ถึงตาย
" อุบัติเหตุน่ะ " วิจัยตอบส่งๆ พลางพยายามบิดข้อมือให้พ้นมือของเก็ตส์เนอร์ เขายิ่งกำแรงๆกว่าเดิม เพราะเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอแม้แต่น้อยเลย
" วิๆมีอะไรปิดบังเนอร์หรือเปล่า" เก็ตส์เนอร์ถามเพื่อหยั่งเชิงและดูปฏิกิริยาของวิจัย
" ไม่มี" วิจัยตอบสั้นๆ พลางบิดข้อมือให้หลุดและเดินไปนั่งที่โซฟา
" เนอร์มีธุระอะไรเหรอถึงได้มาที่นี่" วิจัยถามด้วยความสงสัย แต่คำถามของวิจัยคือห่างเหินเกินไปมากๆ เขาไม่คุ้นเคยกับคำถามนี้เลย
" เนอร์มาหาวิ แต่เนอร์ไม่คิดว่าวิจะ" เก็ตส์เนอร์ตอบคำถามของวิจัย พลางจะพูดเรื่องของเธอ
" มีลูก หึหึ" วิจัยพูดขึ้นมาขัดก่อน
" อืม " เก็ตส์เนอร์ตอบสั้นในลำคอ เขาเดินมานั่งลงตรงข้ามวิจัยพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเธอ วิจัยมองเก็ตส์เนอร์ด้วยแววตาว่างเปล่า
" เด็กๆชื่ออะไรเหรอวิ" เก็ตส์เนอร์ถามด้วยความอยากรู้ วิจัยถอนหายใจแรงๆ
" วาร์เนอร์ วาร์เลย์" เธอตอบทันควันโดยไม่ได้สนใจว่าเก็ตส์เนอร์จะคิดอะไร
" วาร์เนอร์ วาร์เลย์" เก็ตส์เนอร์เอ่ยชื่อของทั้งสองคนช้าๆทีละชื่อ พลางคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของหนูน้อยทั้งสอง
" เนอร์ช่วยเลี้ยงไหม" เก็ตส์เนอร์ถามวิจัยที่นั่งมองหน้าของเขาตลอดเวลา
" ไม่ต้อง " วิจัยตอบปฏิเสธพลางหันหน้าไปมองทีวี
" วิจัย" เก็ตส์เนอร์เรียกชื่อของวิจัยแผ่วเบาวิจัยหันหน้ามาสบตากับเก็ตส์เนอร์อีกครั้ง เก็ตส์เนอร์จ้องมองดวงตาคู่สีฟ้าที่มันสั่นเทาและว่างเปล่า
" เด็กสองคนนั้นเป็นลูกของเราใช่ไหมวิ" เก็ตส์เนอร์กลั้นใจถามแบบส่งๆออกไป เพราะใบหน้าจิ้มลิ้มช่างเหมือนเขา เก็ตส์เตอร์ ซีเก็ตส์มากๆ วิจัยขบกรามแน่นๆ พลางใช้ลิ้นดันสนูสออกมาจากเหงือกพลางคายลงบนฝากล่องใบเล็กและเปลี่ยนอันใหม่ใส่ปากลิ้นดันสนูสชิ้นใหม่ขึ้นไปเหน็บที่เดิม วิจัยแสยะยิ้มร้าย
" เราเป็นเพื่อนรักกัน เพื่อนจะมีอะไรกับเพื่อนได้เหรอเนอร์ " วิจัยพูดออกมาเสียงเรียบ เธอจ้องมองดวงตาสีฟ้าของเก็ตส์เนอร์ที่มันดูสับสน เก็ตส์เนอร์กำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง
" คืนนั้นงั้นวิ" เก็ตส์เนอร์พูดออกมา เพื่อย้ำเตือนว่าเขาไม่ได้ฝันไปแน่นอน
" คริๆๆๆ เนอร์มีอะไรกับเวลล์ไม่ใช่เหรอ เนอร์นี้เพี้ยนไปแล้วนะ" วิจัยพูดแก้ตัวสวนทันควัน เก็ตส์เนอร์จุกที่ลำคอ เพราะเขาเคยพูดเอาไว้แบบนั้น
" วินะเป็นแค่เพื่อนรัก เวลล์คือเนอร์รักมาก คริๆๆๆๆๆ เพื่อนรัก คริๆๆๆๆๆ" วิจัยพูดออกมาเหมือนประชดประชัน เพราะทุกครั้งที่เธอพยายามจะก้าวข้ามคำว่าเพื่อน เก็ตส์เนอร์ชอบตอกย้ำกับเธอด้วยคำนี้เสมอมา เก็ตส์เนอร์อึ้งตัวแข็งทื่อ เขาจ้องมองการกระทำของวิจัยนิ่งๆ
" วิๆกำลังประชดอะไรเนอร์หรือเปล่า " เก็ตส์เนอร์ถามเสียงเข้มขึ้นมา แววตาดุดันน่ากลัว เพราะเขาไม่ชอบกิริยาของวิจัยในตอนนี้เลย วิจัยปากคว่ำ
" หึ!" เธอพ่นลมหายใจออกมาแรงๆทางจมูก เก็ตส์เนอร์เห็นรอยยิ้มของวิจัยทีไรเขาหงุดหงิดทุกที เพราะมันเหมือนเขาเป็นคนโง่
" เนอร์กลับไปเถอะ วิง่วงแล้ว" วิจัยบอกเก็ตส์เนอร์เพื่อให้เขาหยุดคิดเรื่องนี้
" เนอร์จะนอนที่นี่" เก็ตส์เนอร์ปฏิเสธทันควัน วิจัยดันตัวลุกขึ้น และเดินเข้าห้องนอนไปทันที เก็ตส์เนอร์มองตามหลังของวิจัย เขาพลางก้มลงมองกล่องกลมๆและบุหรี่ไฟฟ้านานพอควร
" มันไม่ใช่ฝัน" เก็ตส์เนอร์พูดพึมพำคนเดียว พลางดันตัวลุงขึ้นยืนและเดินตรงๆที่ห้องนอนของวิจัย เขาค่อยๆแย้มประตูเพื่อเปิดเข้าไป เขามองดูภาพของสามคนแม่ลูกนอนกอดกันแน่นๆ เก็ตส์เนอร์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้หลายรูป ก่อนเขาจะเดินออกจากห้องไป
เก็ตส์เนอร์เดินขึ้นไปชั้นสอง เขาเดินไปเปิดห้องนอนที่เขาเคยนอน เขาเดินไปที่เตียงกว้างพร้อมกับนั่งลง เก็ตส์เนอร์พลางใช้ความคิดบางอย่าง เขากลับมานอนคอนโดของเขากับวิจัย
" คืนนั้นใช่ไหม" เก็ตส์เนอร์พูดพึมพำออกมาอย่างสับสนลังเล เขากำลังคิดย้อนกลับไปถึงคืนนั้น เขาคิดว่าเขามีอะไรกับเวลล์ แต่พอตื่นขึ้นมาทุกอย่างปกติไม่มีอะไรผิดแปลกเลย แต่เขารู้สึกได้และสัมผัสได้ว่าเขามีอะไรแน่นๆ เพราะเมื่อคืนอารมณ์ปรารถนาจู่ๆเขาก็มีขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ มันร้อนวูบวาบ อารมณ์อยากห้ามไม่ไหว เหมือนเขาโดนยาปลุกเซ็กส์เลย
" มันไม่ใช่ฝันแน่ๆ" เก็ตส์เนอร์พูดคนเดียว แต่คืนนั้นเขาเรียกชื่อของผู้หญิงอีกคน เขารู้สึกจุกและแน่นหน้าอกพาลหายใจไม่ออก เพราะถ้าเป็นอย่างที่เขาคิด วิจัยกับเขามีอะไรกันเธอต้องเสียใจแน่ๆ
" บ้าซิบ " เก็ตส์เนอร์สบทออกมาด้วยความสับสน เขาพยายามคิดถึงคืนนั้น มันเริ่มในรถและต่อในลิฟต์ เขามองเห็นวิจัยเป็นเวลล์ในลิฟต์ แล้วทำไมเธอไม่ห้ามปรามเขาล่ะ เธอกอดจูบเขาตอบโต้กลับด้วยนี้ แล้วตอนเช้าทุกอย่างไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย
' เก็บรายละเอียดยิบมาก วิจัย!' เก็ตส์เนอร์พลางคิดในใจ
" บ้าซิบ" เก็ตส์เนอร์กำลังคิดถึงเรื่องคืนนั้นด้วยความหงุดหงิด เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดดูรูปของวิจัยและลูกๆ
" ใช่คืนนั้นแน่ๆ " เก็ตส์เนอร์พูดเบาๆ เขามองหน้าของเด็กๆอย่างพิจารณา
' ยิ่งมองยิ่งเหมือน ' เขาพลางคิดด้วยความสับสนวุ่นวายใจ
' แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกเขาล่ะ' เก็ตส์เนอร์เกิดคำถามขึ้นมา เขาล้มตัวลงนอนแต่ตาของเขากับไม่ปิดลงได้ เพราะใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กๆทั้งสองคนยังติดตาของเขาอยู่
บ้านแด๊ดอัส
เถื่อนนั่งใช้ความคิดกับมาคัสที่ห้องใต้ดินที่เป็นโรงหนัง
" มึงว่าต้องเป็นมันไหมไอ้มาร์" เถื่อนถามมาคัสที่จ้องมองภาพบนจอใหญ่เคลื่อนไหวไปมา มาคัสหันมามองหน้าเถื่อนพลางถอนหายใจแรงๆ
" กูก็สงสัยเหมือนกันแหละ แม่งเหมือนยังกะพิมพ์เดี๋ยวกันเลยว่ะ" มาคัสพูดออกมา เขาพลางนึกถึงใบหน้าของเก็ตส์เนอร์ เก็ตส์เตอร์และซีเก็ตส์ ถนัดมาคือลูกของวิจัย เถื่อนขบกรามแน่นๆ
" ถ้าใช่มันจริงๆ กูจะกระทืบมันให้กระอักเลือดตายคาตีนกูเลย" เถื่อนเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆ เพราะเขาจำคำของเก็ตส์เนอร์ได้ดี
' กูกับวิจัยเป็นเพื่อนรักกัน เพื่อนรักจะมีอะไรกันได้ยังไงว่ะ' คำพูดของเก็ตส์เนอร์ที่พูดเน้นย้ำมาตลอดเวลา
" อย่าถึงตายเลยไม่เถื่อนถ้าใช่ สงสารหลานๆบ้างเถอะว่ะ" มาคัสพูดห้ามปรามเถื่อนที่อารมณ์เดือดดาลตลอดเวลาตั้งแต่เจอหน้าเก็ตส์เนอร์
" แต่มันสมควรโดน ถ้ามันทำน้องกูท้อง" เถื่อนเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาด้วยความโกรธแค้นมากๆ มาคัสพยักหน้ารับเห็นด้วย
" ก็ใช่อย่างมึงพูดไอ้เถื่อน ไอ้เ..ี้ยเนอร์มันสมควรโดนหนักๆ" มาคัสพูดออกมาอย่างเห็นด้วย
" ใช่ไง กูจะเอาให้มันจำจนวันตายเลย" เถื่อนพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด
" อืมใช่ ที่พวกเรามันเรียกสา ที่มันจะเรียกอะไรดีว่ะ " มาคัสตอบเห็นด้วย พลางถามเถื่อนด้วยความสงสัย เถื่อนแสยะยิ้ม
" เ..ี้ย เหมาะกับมัน" เถื่อนพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไร มาคัสกลั้นหัวเราะสะใจ
???? เด็กๆแสบน่ะแด๊ด ???