ประตูห้องถูกเปิดออกกว้างทำให้ชานนท์ต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครชานนท์ก็รู้สึกเซ็งมากแต่ปากเขาไวกว่าจึงตวาดออกไปเสียงดังลั่น
“ใครโทรตามเธอมาที่นี่ กลับไปเลยนะยิหวา ฉันกำลังอารมณ์เสียไม่ต้องเสนอหน้ามาให้ฉันเห็น!”
เจ็บแปลบ...
ยิหวากะพริบตาถี่ไล่หยาดน้ำตาก่อนจะสูดลมหายใจลึกตอบกลับเสียงเข้มแข็ง “คงจะไม่ได้หรอกค่ะ ยิหวาบอกแม่ของพี่นนท์แล้วว่าจะมาตามพี่นนท์กลับบ้าน”
“ฉันไม่ใช่เด็กไม่จำเป็นต้องมาตามกลับบ้าน! หรือถ้าเธออยากเอาใจเอาหน้ากับแม่ฉันก็ไปทำอะไรอย่างอื่น ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉัน!” นัยน์ตาของชานนท์แข็งกร้าวฉายแววเกลียดชังยิหวาอย่างไม่ปิดบัง
เขาเกลียดชังหล่อนที่ชอบประจบประแจงมารดา ทำให้มารดาหลงรักหลงเอ็นดูหัวปักหัวปำทั้งที่ใจจริงหล่อนแค่อยากจะจับเขาก็เท่านั้น ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจนเขาแทบไม่อยากมองหน้าด้วยซ้ำ
“คงจะไม่ได้อีกนั่นแหละค่ะ” หล่อนตอบกลับแล้วยิ้มบาง นั่นทำให้ชานนท์รู้สึกเกลียดมากขึ้นกว่าเดิมถึงกับต้องเติมน้ำเมาให้ตัวเองแล้วจัดการดื่มมันให้เรียบมองเมินยิหวาไปทางอื่น
“...ก็พี่นนท์เป็นว่าที่คู่หมั้นของยิหวานี่นา”
“ว่าที่คู่หมั้นที่ฉันไม่ได้ต้องการน่ะเหรอ เธอนี่มุ่งมั่นจับฉันจนบางครั้งฉันยังรู้สึกกลัวเลยนะยิหวา”
“พี่นนท์จะพูดหรือจะด่าอะไรก็เชิญเถอะค่ะ แต่ตอนนี้เลิกดื่มสักที กลับบ้านได้แล้ว!” ยิหวาตะคอกใส่ เดินเข้าไปแย้งแก้วเหล้าออกจากปากเขาเกิดการยื้อแย่งจนสามารถแย่งได้ จากนั้นหล่อนก็โยนแก้วลงพื้นด้วยแรงทั้งหมดจนมันแตกกระจาย
แก้วแตก... ในวินาทีเดียวกันน้ำตาหล่อนก็ไหลพราก
“เลิกดื่มสักทีได้ไหมคะ! พี่นนท์ดื่มเหล้าให้ตายแล้วผู้หญิงคนนั้นจะหันมามองพี่หรือไง!”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ!!”
“เกี่ยวสิคะ! ทำไมมันจะไม่เกี่ยว! ก็เพราะยิหวาระ…” หล่อนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รีบเม้มริมฝีปากแน่นไม่ให้เอื้อนเอ่ยคำว่า ‘รัก’ ออกไปให้คนที่เกลียดชังหล่อนให้ได้ยิน
“หึ! ทำไมไม่พูดออกมาให้จบล่ะ คำว่ารักจอมปลอมของเธอ โธ่เว้ย! น่าเบื่อซะจริง” ชานนท์ปัดแก้วปัดขวดเหล้าให้ล้มระเนระนาดก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมีอาการโอนเอนเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถยืนเองได้ เขาทอดสายตาคมกริบมองไปทางยิหวาที่กำลังยืนน้ำตาไหลไร้เสียงสะอึกสะอื้นอย่างเช่นทุกที
“น่าเบื่อ!”
ตะคอกใส่แล้วชานนท์ก็เดินผ่านว่าที่คู่หมั้นของตนเองออกไปนอกประตู เพ่งสายตามองลูกน้องทั้งสองแล้วหงุดหงิดเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปจากบริเวณนี้
ฝ่ายลายเสือกับพงษ์รัตน์นั้นเป็นห่วงคุณหนูยิหวามากพร้อมใจกันกลับหลังจะเข้าไปดู แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคุณหนูเดินตามออกมาแล้วส่งยิ้มบางมาให้ ดวงหน้าสวยแม้จะมีคราบน้ำตาแต่ยังยิ้มได้ แล้วก็เดินผ่านหน้าพวกเขาไปอีกคน
“เฮ้อ! ฉันสงสารคุณหนูจังเลยว่ะ”
“เหมือนกันเลย คุณหนูของเราออกจะสวยขนาดนั้น มีผู้ชายมารุมจีบก็มาก ไม่ง้อเจ้านายยังได้เลย เจ้านายนี่ก็แปลกทำไมถึงมองข้ามคุณหนูอยู่ได้”
ทันทีที่มาถึงรถยนต์ชานนท์ก็สั่งคนขับให้ออกรถทันทีจนคนขับถึงกับกระอักกระอวนใจ
“เอ่อ... คือว่าต้องรอคุณหนูยิหวาก่อนครับ”
“รอทำไมห๊ะลุงมิ่ง! แถวนี้แท็กซี่เยอะแยะเดี๋ยวยิหวาก็กลับบ้านเองได้!” ชายหนุ่มยิ่งหัวเสียไปมากกว่าเดิมทว่าสุดท้ายแล้วต้องยอมรอกระทั่งยิหวามาถึงรถจึงเคลื่อนออกจากผับ
ชานนท์แทบจะไม่ปรายสายตามองยิหวาเลยสักนิด ตลอดสองปีที่ได้อยู่บ้านร่วมกันเขาเบื่อหล่อนจะแย่ ยิหวาเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทมารดาชื่อคุณทิพย์ทิวา
คุณทิพย์ทิวาถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นภรรยาน้อยเศรษฐีนักการเมือง แถมในช่วงเวลาเลวร้ายนั้นยังตั้งท้องยิหวา นานนับยี่สิบปีที่ต้องเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูยิหวาให้เติบใหญ่โดยไม่ให้ผู้เป็นสามีเข้ามายุ่งเกี่ยว เหตุเพราะคุณทิพย์ทิวาไม่รู้มาก่อนว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว
สองปีก่อนหน้านี้คุณทิพย์ทิวาตัดสินใจแต่งงานกับชายวัยกลางคนชาวต่างชาติ ย้ายไปอยู่กับสามีที่สหรัฐอเมริกาโดยที่ยิหวาไม่ยอมไปด้วยอ้างว่าอยากเรียนให้จบก่อนจึงจะตามไป
เพราะเหตุนี้เอง มารดาเขาจึงออกโรงขอรับดูแลยิหวา ให้ยิหวามาอยู่ร่วมบ้านจนกระทั่งถึงทุกวันนี้และเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนหล่อนก็จะเรียนจบ ใกล้จะได้ออกไปจากบ้านเขาสักที
หึ! เขาแทบรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว วันที่ยิหวาจะออกไปให้พ้นจากชีวิตเงียบสงบของเขา!