เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เป็นของยิหวา ชานนท์ตั้งใจจะไม่ปรายสายตาไปมอง แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้มองหล่อนหยิบโทรศัพท์ออกมารับสายผ่านทางหางตา
“สวัสดีค่ะ พี่ปุ้ม... พรุ่งนี้ยิหวาว่างหลังบ่ายสามค่ะ... อ๋อ งานที่พี่ปุ้มเคยติดต่อมาใช่ไหมคะ... ได้ค่ะ ยิหวาเรียนเสร็จจะรีบเข้าไปหาที่สตูดิโอนะคะ... ขอบคุณพี่ปุ้มมากๆ ค่ะ”
ยิหวาวางสายไปด้วยรอยยิ้ม ดีใจที่มีงานถ่ายแบบเข้ามาเรื่อยๆ พอให้มีเงินใช้สอยส่วนตัว นานนับหนึ่งปีที่ยิหวาได้รู้จักพี่ปุ้มและได้รับการติดต่องานจากพี่ปุ้มเสมอทำให้หล่อนรักพี่ปุ้มมาก
“มีอะไร ผู้ชายโทรหาหรือยังไงทำไมถึงยิ้มแบบนั้น” เสียงทักของชานนท์ทำให้มือบอบบางที่กำลังเก็บโทรศัพท์ชะงักงัน
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ถ้าไม่ใช่แล้วเมื่อกี้ใครโทรมา นัดกันไปไหน ไปทำอะไร”
“แล้วพี่นนท์จะอยากรู้ทำไมคะ”
ชานนท์พูดไม่ออกกลอกตาลอกแลกมองรอบรถขณะคิดหาข้ออ้างไม่ให้ตนเองหน้าแตก สุดท้ายก็เลือกทำเสียงดังเพื่อข่มขวัญ “แล้วมันหน้าที่อะไรของเธอต้องถามกลับไม่ทราบ ตอบมาเร็วเข้าอย่าชักช้ายืดยาด”
ยิหวามองคนนิสัยไม่ดีตาแข็งก่อนเชิดใส่
“พี่ปุ้มค่ะ เป็นพี่ที่รู้จักกัน”
“แล้วนัดกันไปทำอะไร” ถามต่อด้วยความอยากรู้
“พี่ปุ้ม เอ่อ... ติดต่อยิหวาให้ไปถ่ายแบบพรุ่งนี้ค่ะ”
ยิหวากล้าๆ กลัวๆ เอ่ยตอบ ก้มหน้างุดตลอดเวลากลัวจะโดนชานนท์ดูถูกอีก ในบ้านมีแค่เขาเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าหล่อนรับงานทำนองนี้เป็นงานพาร์ทไทม์
ชานนท์เลิกคิ้วขึ้นสูง ไม่อยากจะเชื่อ “หน้าอย่างเธอเนี่ยนะเป็นนางแบบ คนชื่อปุ้มเขาหาคนมาถ่ายแบบไม่ได้แล้วใช่ไหมเขาถึงติดต่อเธอมา”
“ไม่ใช่นะคะ! ยิหวาถ่ายแบบมานานแล้ว ทุกคนในบ้านรู้หมดมีแค่พี่นนท์เท่านั้นที่ไม่เคยสนใจไยดีเรื่องของยิหวาก็เลยไม่รู้ แล้วต่อไปอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะคะ ยิหวามีค่า มีดีมากกว่าจะอยู่เป็นตัวเลือกสุดท้ายของใคร!”
นัยน์ตาใสไหวระริกทอดยาวมองงดวงหน้าคมคาย คล้ายจะบอกเขาไปในตัวว่าหล่อน-ไม่-ใช่-ของ-ตาย!
“อ๋อเหรอ” มุมปากชานนท์กระตุกเหยียดหยัน ส่ายศีรษะให้หญิงสาวที่หันหลังให้ตนเอง