“กุ้งกับสตางค์มาแล้ว”
ยังคงเป็นจูเน่ที่พูด ฉันกับลูกหว้าหันไปมองพร้อมกัน ใบหน้าเลขาของฉันขึ้นสีระเรื่อ เมื่อได้รับรอยยิ้มพึงพอใจของสตางค์ ฉันยกมือทักทายเพื่อนเพียงอย่างเดียว ไม่อยากสนใจใครเลยตอนนี้ เพราะน้ำสีอำพัน น่าสนใจที่สุดในสายตาฉัน
“ว่าไงคนโสด”
“วันนี้ฉันจะเมา ดูแลฉันด้วยนะทุกคน”
“เห้ยวาฬมึงอย่าเพิ่งเมาตอนนี้ กูเห็นอีพลอยอยู่ชั้นหนึ่งว่ะ”
สตางค์มองใบหน้าฉันอย่างเป็นห่วง ชื่อที่ออกจากปากมันทำให้ฉันกระตุกยิ้ม เพื่อนๆทำสีหน้าแปลกๆใส่ เมื่อเห็นสีหน้าของฉัน
“ฉันไปทักทายน้องมันสักหน่อยดีไหมวะ”
“มึงไม่ต้องไปแล้ว น้องมันเดินมานู้น”
“หึ! ก็ยังมีนิสัยชอบเข้าหาฉันก่อนเหมือนเดิม ดีเลยขี้เกียจเดินอยู่พอดี”
ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนพอใจที่พลอยใสเป็นฝ่ายรนหาที่ก่อน มองการแต่งตัวของคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ยังคงคอนเซ็ปท์เดิมเลยแฮะ สาวน้อยหน้าหวาน ตัวเล็กน่ารักน่าทะนุถนอม และอีกหน่อยก็จะรับบทบาทเป็นฝ่ายถูกกระทำ
“สวัสดีค่ะพี่ๆ คือพลอยได้ยินว่าพวกพี่ดื่มอยู่ชั้นนี้ ก็เลยคิดว่าต้องมีพี่วาฬอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะเมื่อวานพี่เขา เอ่อ เห็นพลอยอยู่กับพี่อชิ พี่เขาต้องรู้สึกไม่ดีแน่”
“อ๋อเหรอ” จูเน่ทำหน้าเบื่อหน่าย
“ทำไมพี่ต้องรู้สึกไม่ดีด้วย ในเมื่อพี่กับเขาเลิกกันแล้ว ดีใจซะอีกที่มีผู้หญิงง่ายๆอย่างเธอ ช่วยทำให้เห็นสันดานของเขา ขอบใจนะจ๊ะน้องพลอย ที่ทำให้พี่ไม่ต้องแต่งกับผู้ชายห่วยๆแบบนั้น”
ฉันพูดพร้อมรอยยิ้ม ยัยพลอยได้ยินทุกอย่างชัดเจนและใบหน้ากำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจ ฉันยกขาขึ้นไขว่ห้าง ท่าทางสบายๆ ไม่เศร้าเสียใจทำให้ยัยนั่นถึงกับกำหมัด
ต้องการเห็นอะไรจากฉัน ฉันต้องร้องไห้เสียใจ ที่เสียผู้ชายแบบพี่อชิให้เธอเหรอ หึ! ไม่มีทางอะ ต่อให้ฉันรู้สึกดีกับเขา ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อกันก็จบ
“ที่พี่อชิบอกว่า พี่ไม่ได้รักเขา มันคงจะจริงสินะ”
“เขาบอกถึงขนาดนั้นเลย แล้วเขาบอกอะไรอีกล่ะ”
“เขาบอกว่าพี่จืดชืด ไม่มีความเป็นผู้หญิง ต่างกับพลอยมาก ตอนแรกพลอยรู้สึกผิดนะคะ แต่ตอนนี้มันคงดีแล้ว ที่พี่สองคนเลิกคบกัน”
“ฮ่าๆ เข้าใจเปรียบเทียบพี่กับเธอนะ แต่ แหม๋ พี่ไม่เหมือนน้องพลอย ที่จัดจ้านมาจนครบทั้งเจ็ดย่านน้ำแล้ว เรื่องบนเตียงพี่อาจจะสู้เธอไม่ได้ แต่เรื่องอื่น พี่ว่าพี่เหนือกว่าเธอเยอะ ถ้าไม่มีธุระอื่นจะพูดแล้วก็ไปเถอะจ๊ะ อยู่นานกว่านี้ เดี๋ยวพี่มีเรื่องพูดเยอะกว่านี้น้า ต่อให้หน้าหนาขนาดไหน ก็อาจจะอายได้”
ยัยพลอยใสเดินฟึดฟัดหนีไป ไม่รู้เพราะอับอายหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่ฉันไม่คิดว่าคำพูดพวกนั้น จะทำให้พลอยใสอายได้หรอก เธอเป็นพวกล่าแต้ม ยิ่งผู้ชายที่คบหาด้วยดูดีกว่าใครๆ เธอยิ่งมีความสุข การที่เธอได้พี่อชิจากฉันไป คงทำให้หน้าเธอหนาขึ้นเป็นกิโล
เมื่อพลอยใสจากไป หายนะลูกใหม่ก็มาเยือน ในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึงสองนาที ผู้ชายหน้าตาดีอย่างเจ้าป่า ก็โผล่ใบหน้ามาให้เห็น เขามองตามหลังพลอยใสไปนิดๆ แต่เลือกที่จะเดินตรงมาหาฉัน มากกว่าจะตามผู้หญิงของตัวเองไป
“พลอยมาทำไม?”
“อยากรู้ไม่ตามไปถามล่ะ”
ฉันตอบคำถามด้วยใบหน้ากวนส้นตีนสุดๆ เพราะอารมณ์ยังไม่ดีขึ้นเลย ยกแก้วเหล้าที่จูเน่เทไว้ให้ขึ้นจดริมฝีปาก ดื่มเหล้าในแก้วจนหมด เจ้าป่ามองหน้าฉันเหมือนสำรวจ ไม่นานก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ หยิบแก้วเปล่ามาเทเหล้าบนโต๊ะ กระดกลงคอรวดเดียวหมดไม่ต่างกับฉันเลย
“กินของคนอื่น ขออนุญาตเจ้าของเขายังห่ะ!”
ฉันยกขาขึ้นไขว่ห้าง เท้ามือลงไปบนขาแล้ววางคางลงไป หันใบหน้าไปทางเจ้าป่า หรี่สายตามองสำรวจทุกอย่างบนร่างกายแสนเซ็กซี่ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหล่อเหลา ที่ออกไปทางลูกครึ่ง เพราะแม่ของเขาเป็นสาวเมืองผู้ดี หรือเรือนกายกำยำอย่างพวกนักกีฬา
ถ้าเทียบกันเรื่องหน้าตา เจ้าป่ากินพี่อชิแบบขาดลอย แต่เขาด้อยกว่าพี่อชิเรื่องฐานะ เขาเป็นลูกเมียนอกสมรสอะนะ จะมีสิทธิ์ในทรัพย์สินแค่ไหนเชียว ไม่แปลกใจหรอกที่ยัยพลอยใสหันหัวเรือไปหาพี่อชิ คงจะรู้แล้วว่าเจ้าป่าไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติ เท่ากับอดีตคู่หมั้นของฉัน
“แกชอบพลอยมากเลยเหรอ?”
ฉันถามออกไป เมื่อเห็นว่าดวงตาสีเทาอ่อนของเขามันคลอน้ำใส เจ้าป่าเป็นคนเข้มแข็งก็จริง แต่เขามักจะอ่อนไหวเรื่องความรัก เขาคบกับพลอยใสมากว่าสี่ปีแล้ว ถ้าไม่รักมาก คงไม่คบกันนานขนาดนี้ ทั้งที่เจ้าป่าเองก็ไม่ใช่คนโง่
“อือ พลอยอยู่ในช่วงเวลาที่ฉันแย่สุดๆ”
“งั้นเหรอ ไม่ว่ายัยนั่นทำอะไรให้ แกก็พร้อมจะให้อภัยตลอดสินะ คงรอให้ยัยนั่นกลับมาอยู่เสมอ รู้เหรอว่าพี่อชิแค่เล่นๆ”
รู้สึกปวดหน่วงในอก และอิจฉาพลอยใสนิดๆ ฉันอยากมีผู้ชายที่รักฉันแบบนี้บ้าง เฝ้ารอและให้อภัยฉันเสมอ เมื่อฉันเผลอเดินออกนอกลู่นอกทาง แต่มันคงไม่มี ฉันอาจจะมีบางอย่างที่บกพร่อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน ก็คงมีสักอย่างแหละ ที่ทำให้ฉันยังดีไม่พอ
“มันก็แค่ต้องการแย่งของๆฉัน”
“แก…ช่างเถอะ ไม่รู้แหละดีแล้ว”
ความลับบางอย่าง ซ่อนมันไว้อาจจะดีกว่า ฉันขยับตัวนั่งหลังตรง หยิบเหล้ามาเทใส่แก้ว ตั้งแต่การมาถึงของเจ้าป่า คนอื่นๆที่เคยร่วมโต๊ะ ก็หนีไปหาที่นั่งอื่น คงกลัวฉันกับเจ้าป่าทะเลาะกัน เลยหนีเอาตัวรอด แล้วไปนั่งมองอยู่ห่างๆแทน
การมาดื่มครั้งนี้กร่อยอีกแล้ว โคตรเซง!
อึก อึก!
เมื่อทำอะไรไม่ได้นอกจากดื่ม ฉันก็ดื่มถี่ๆจนเริ่มมึน เมื่อเริ่มมึนก็เริ่มคึก รู้สึกอยากจะเต้นขึ้นมา มองหาเพื่อนและเลขา ก็พบว่ามีเพียงความว่างเปล่า สองคนนั้นแอบออกไปกันตอนไหนก็ไม่รู้ สงสัยต้องอยู่คนเดียว และไม่พ้นลากสังขารกลับคอนโดเอง
ฉันลากร่างกายที่เริ่มไม่เหมือนเดิม ไปยังบริเวณที่มีคนเต้นกันอยู่มากมาย ผู้ชายหลายคนมองฉันตาเป็นมัน ส่วนผู้หญิงมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ฉันไม่สนใจใครทั้งนั้น ไปถึงก็เริ่มโยกตัวตามจังหวะของเสียงเพลง
ก็แค่อยากเต้นอะ แค่รู้สึกว่ากำลังกลับไปใช้ชีวิตปกติ ชีวิตที่ไม่มีพันธะผูกติดไว้กับใคร
ฉันทำตัวดีมาตลอด ตั้งแต่หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ ฉันก็เลิกเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ เตรียมตัวเป็นภรรยาที่ดีให้เขา เจียดเวลาว่างอันน้อยนิดไปเรียนทำอาหาร ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ โดยที่เขาไม่รู้ หวังให้ชีวิตคู่ที่จะใช้ร่วมกันยืนนานที่สุด แต่ดูผลตอบแทนของความทุ่มเทนั้นสิ โคตรว่างเปล่า!
“ฮึก ฉันผิดอะไรนักหนา”
อยู่ดีๆความคิดก็วนไปเรื่องของพี่อชิ ฉันทรุดตัวนั่งร้องไห้อยู่กลางวง ไม่ได้สนใจใครเลย ในหัวฉันมีแต่คำถามเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา ทำไม ทำไม และทำไม