EP.5
ในเรื่องความฉลาดยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะหากทิชารัตน์ไม่ฉลาดมากพอ ก็คงจะควบคุมงานบัญชีของบริษัทชั้นนำไม่ได้
ดังนั้นการมีหล่อนเป็นคู่ชีวิต สกายกรุปก็คงจะโบยบินขึ้นฟ้าได้กว้างไกลกว่านี้ ไม่ต้องเกรงเรื่องทุจริตหรือเงินทองรั่วไหล ในฐานะของสามีภรรยา เขาเป็นผู้บริหาร หล่อนควบคุมเงิน ส่วนในฐานะของหุ้นส่วนใหญ่และหุ้นส่วนรอง เมื่อดองกันสกายกรุปก็ยิ่งแข็งแกร่ง
แต่หากจะมองในด้านหัวใจ เขาไม่เคยคิดอะไรกับทิชารัตน์มากไปกว่าพี่น้องเลย เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เกิด และไม่ว่าจะอยู่เมืองไทยหรือไปเรียนต่อเมืองนอก ทิชารัตน์ก็แวะเวียนอยู่ในชีวิตของเขาเสมอ
แต่... คนไม่รัก จะทำยังไง แค่ความเหมาะสม มันเพียงพอเหรอ
“เย็นนี้ฟ้ากว้างว่างหรือเปล่าล่ะ”
เสียงทุ้มของคุณอาทวิชทำให้เขาตื่นจากความคิด หันไปยิ้มให้ผู้จัดการบัญชีอย่างสุภาพตามบุคลิกที่วางไว้สำหรับผู้บริหาร
“ว่างครับคุณอา”
“งั้นไปกินข้าวบ้านอานะ เย็นนี้อานัดกับพ่อเราเอาไว้ เดี๋ยวอาจะโทร.บอกยายลูกนกให้กลับบ้านเร็วหน่อยด้วย จะได้เจอฟ้ากว้าง”
“ครับคุณอา ผมจะไปถึงราวหนึ่งทุ่มนะครับ”
“โอเค เดี๋ยวอาโทร.บอกพ่อเราก่อน ว่าเราจะไปกินข้าวเย็นด้วย”
“ครับ”
ฟ้ากว้างค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกจากปากเบาๆ เมื่ออาทวิชเดินแยกไปทางฝ่ายบัญชี เพราะคุยกับใครก็ไม่รู้สึกอึดอัดเท่าคุยกับพ่อและอาทวิชจริงๆ
เพราะว่าพ่อกับอาทวิชเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กและเมื่อโตขึ้นก็มาจัดตั้งบริษัทร่วมกัน โดยพ่อดูเรื่องการบริหารทั้งหมด ส่วนอาทวิชก็ดูเรื่องการบัญชี เรียกได้ว่าตลอดระยะ 30 ปีที่สกายกรุปก่อตั้งขึ้นมา ท่านทั้งสองก็ไม่เคยมีเรื่องใดผิดใจกันเลย เพราะต่างฝ่ายต่างรู้หน้าที่ของกันและกันดี รวมทั้งการทำงานบนพื้นฐานความซื่อสัตย์ก็ทำให้สกายกรุปเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง
รวมทั้งแม่ของเขากับแม่ของทิชารัตน์ก็สนิทสนมกลมเกลียว จนแม่ของเขาจากไปด้วยโรคร้าย แม่ของทิชารัตน์ก็คล้ายจะเผื่อแผ่การดูแลไปถึงเขา ยามที่ท่านไปเยี่ยมทิชารัตน์ที่ต่างประเทศ ท่านก็ไม่เคยละเลยที่จะไปเยี่ยมเยือนเขาเช่นกัน
ทว่าตั้งแต่เป็นเด็กจนโตเป็นหนุ่มสาว เขาไม่เคยมองทิชารัตน์เป็นอื่น และเขาก็มั่นใจว่าหล่อนเองก็คิดไม่ต่างจากเขา แม้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายจะบอกว่าเป็นคู่หมั้นกันก็ตาม เพราะตอนอยู่เมืองนอก ต่างฝ่ายก็ต่างมีคู่ควง ไม่เคยคุยกันในเรื่องรักใคร่เลยด้วยซ้ำ
แต่สถานะต่อจากนี้เล่า เมื่อทิชารัตน์ขึ้นแท่นผู้จัดการฝ่ายบัญชีคนต่อไป ลางสังหรณ์มันบอกว่าทุกอย่างจะเริ่มชัดเจนมากขึ้น สถานะหมั้นหมายจะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ควรจะเป็น และมันกำลังทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
โดยเฉพาะ... คนที่แยกตัวไปเมื่อครู่
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ออฟฟิศส่วนตัว ฟ้ากว้างไม่ลืมที่จะกดล็อกประตูเพื่อป้องกันใครคนอื่นเข้ามา และนั่นก็ทำให้เลขาสาวสวยของเขาเงยหน้ามองเพียงนิดก่อนจะก้มลงใส่ใจเอกสารตรงหน้าตามเดิม
“พี่อธิบายได้”
“ท่านประธานคะ”
เขาต้องการอธิบายแต่อันดามันกลับใช้เสียงปรามว่าเขาไม่ควรใช้คำว่า ‘พี่’ ที่ออฟฟิศ เพราะนั่นคือหนึ่งในข้อตกลงที่หล่อนรักษาได้เป็นอย่างดี มีแต่เขาที่ไม่ค่อยอยากรักษา และตอนนี้ก็ไม่อยากมากๆ ด้วย เพราะใบหน้าสวยที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ นอกจากตั้งใจดูงานที่หน้าจอแลบท็อป มันทำให้เขาทนไม่ได้ ก้าวยาวๆ ไม่กี่ครั้งก็ถึงตัว และอันดามันก็ขยับเก้าอี้ออกห่างทันทีเหมือนกัน
“ที่นี่ออฟฟิศนะคะ” คนเสียงสั่นยังปฏิเสธ ไม่มองหน้าเขา ไม่สบสายตา
ดวงตาคมเข้มมองเจ้าของร่างเล็กที่อยู่ห่างเพียงคืบ บอกตัวเองว่าทนเห็นหล่อนเฉยเมยแบบนี้ไม่ไหว
“ตอนนี้ไม่มีท่านประธาน แต่เป็นพี่”
เสียงทุ้มนุ่มลึกตอบกลับ หันเก้าอี้หล่อนเข้าหา เท้าฝ่ามือข้างหนึ่งที่พนักเก้าอี้ อีกข้างเท้าโต๊ะทำงาน กักเก็บอันดามันไม่ให้ลุกหนีไปไหนได้
“แต่อันไม่พอใจนี่คะ” คำ ‘คะ-ขา’ ออดอ้อนเหมาะนำมาใช้ในเวลานี้ เวลาที่อันดามันอารมณ์ขุ่น และเขาก็เห็นแววไหวระริกในดวงตาที่หลุบมองไปทางอื่น แต่แป๊บเดียวก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉยแต่เคร่งเครียดดังเดิม