6

788 Words
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังเล็กด้านริมกำแพงรั้วที่ซุกซ่อนสายตาคนภายนอกด้วยกำแพงไม้ดัดชาทองสูงเกือบเมตร แต่ดูสวยงามร่มรื่นเมื่อได้เดินผ่านเข้าไป เธียรวิทย์เห็นแสงไฟในบ้านเปิดอยู่ก็ใจชื้นขึ้นมาคิดว่าต้องมาปลุกแม่ครัวคนเก่งของคุณย่าตัวเองแล้ว ลูกน้องรายงานว่าหมอนุชกลับมาถึงบ้านก็เข้าไปดูแลคุณท่านเหมือนทุกวัน ก่อนจะกลับลงมาเร็วกว่าทุกวันเพราะอาการไม่ค่อยจะดีนัก เสียงเดินเงียบกริบเดินตามทางไปก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งเสียง "ป้า ป้านาง" คนถูกเรียกโผล่หน้าออกมาก็พบว่า นายใหญ่ที่สุดของบ้านมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว "คุณเธียร มีอะไรคะ " เสียงแม่ครัวถามออกไปด้วยความตกใจกลัวจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เธียรวิทย์ส่ายหน้า แล้วส่งสายตาเข้าไปด้านใน "นุชหลับแล้วหรอ" เสียงถามหาลูกสาวคนเดียวทำให้กริ่งเกรงใจนัก "นุชป่วยค่ะ ตัวร้อนจี๋เชียว วัดไข้ด้วยตัวเอง รักษาตัวเองแล้วค่ะ" ผู้เป็นแม่รายงานก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดรองเท้าตัวเองออกเหมือนจะบอกว่า ขอไปดูหน่อย ป้านางเหมือนจะน้ำท่วมปากไม่กล้าเอ่ยออกมาจึงเดินเลี่ยงขยับตัวออกไป ให้เจ้านายใหญ่เดินเข้าไปในบ้านด้วยความรวดเร็ว ชายหนุ่มลูกน้องของคุณเธียรเดินตามมารับรถออกไปเก็บให้เจ้านายอย่างรู้หน้าที่ แล้วยืนรออยู่หน้าบ้านเพื่อรอให้เจ้านายของตนกลับขึ้นตึกไปอย่างไร้ข้อครหาว่าอยู่ตามลำพังกับหมอนุช เธียรวิทย์เปิดประตูเข้าไปด้านในอย่างสัญชาตญานก่อนจะเห็นโคมไฟอันน้อยสีชมพูเปิดเอาไว้ให้ความสว่าง บนเตียงนอนมีร่างบางนอนห่มผ้าหลับสนิทอยู่บนนั้น ชายหนุ่มย่องเข้าไปก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อ่านหนังสือข้างเตียงอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยๆลูบใบหน้าบางใสที่กำลังหลับสบาย ความร้อนอุ่นๆจากร่างกายทำให้เค้ารู้สึกหนักใจ "นุช ปวดหัวไหม " เสียงนุ่มเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะลูบแก้มบางใสอีกครั้งคนป่วยขยับหน้าตามมือที่อ่อนนุ่มคล้ายจะออดอ้อนคนที่มาลูบแก้มอย่างไม่รู้ตัว อ้อนพี่จริง เธียรวิทย์ยิ้มกับคนป่วยแล้วค่อยๆหอมหน้าผากนูนอย่างแผ่วเบา "นอนเยอะๆนะคะ พรุ่งนี้พี่จะมาแต่เช้า" ชายหนุ่มตัดใจลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วเพราะกลัวใจตัวเองจะต้องกลับไปเฝ้าไข้คนป่วยอีกรอบ วันนี้เค้าตั้งใจจะแค่จิบน้ำชาเป็นเพื่อนแม่เท่านั้นแต่กลายเป็นว่าต้องรักษามารยาทพาแพรดาวมาส่งถึงบ้าน แล้วยังบังเอิญมาเจอคุณลุงผู้ชายที่อยู่ในบ้านเสียอีก จากแค่มาส่งกลายมาเป็นทานอาหารเย็นกับนักธุรกิจอีกท่านหนึ่ง แม้จะไม่ร่ำรวยเท่าเทียม แต่ด้วยวัยและความสามารถทำให้เค้าไม่อาจเพิกเฉยคำชวนนี้ไปได้ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เธียรวิทย์ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย พรุ่งนี้เช้าแม่ต้องมีคำตอบที่ดีพอให้กับเค้า ธีรนุชลืมตาในช่วงเช้ามืดเหมือนเช่นเคยอาการป่วยไข้หายดีเกือบจะร้อยเปอร์เซนต์แล้ว หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะมองดูเก้าอี้ที่ถูกเลื่อนออกมาแล้วไม่เก็บเข้าที่เดิม จึงได้แต่คิดว่าผู้เป็นแม่คงมาดูแลเธอแน่นอน หญิงสาวเตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะได้ไปดูแลคุณท่านอย่างที่เคยทำ เสียงเรียกหน้าบ้านทำให้คนป่วยคว้าเสื้อคลุมออกมาสวมแล้วค่อยๆเดินออกมาข้างนอกบ้านอย่างแปลกใจ ชายหนุ่มโผล่หน้าเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะส่งรอยยิ้มบาดใจให้คนป่วย แล้วถามออกมาด้วยความห่วงใย "พี่เป็นห่วง เลยรีบมาดู " คนป่วยรีบเอามือปิดหน้าตัวเองด้วยความอายเพราะเพิ่งจะตื่นนอน เธียรวิทย์ดึงมือออกอย่างรวดเร็วก่อนจะทาบหน้าผากตัวเองลงไปที่คนป่วยอย่างรวดเร็ว "ตัวไม่ร้อนแล้วดีจังพี่จะได้สบายใจ" คนป่วยเงยหน้าขึ้นมองเค้าอย่างอายๆแต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะยังไม่ได้แปรงฟัน "ไม่ต้องอายเลย เมื่อคืนนอนน้ำลายไหลใส่มือพี่ พี่ยังไม่ว่าสักคำ " พูดจบก็ค่อยๆโอบเอวบางเอาไว้แล้วค่อยๆกอดร่างกายบางอย่างอ่อนโยน "ไปอาบน้ำแต่งตัว พี่จะรออยู่แถวนี้ แล้วขึ้นไปตึกใหญ่ด้วยกันค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD