โซ่ล่ามรัก : ตอนที่ 5
“แกหายไปไหนมา ต้องให้ฉันโทรตามนะยะ”
“ฉันว่าเรากลับกันเถอะ ฉันอยากกลับแล้ว” เธอพยายามควบคุมเสียงพูดตัวเองไม่ให้สั่น
“อะไรกัน เราพึ่งจะมาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยนะ”
“พอดีฉันนึกขึ้นได้หนะ ว่าลืมล็อคห้อง” เธอพูดไปพร้อมกับเลี่ยงสายตาที่จ้องมองมา
“ห๊ะ!!! ลืมล็อคห้อง แกเป็นขี้ลืมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ไปเหอะๆ” เธอพูดพร้อมกับลากเพื่อนเธอออกไปทันที
“แกกลับเลยนะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเอง จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา” เธอพูดพลางโบกมือเรียกแท็กซี่อย่างร้อนรน โดยเพื่อนของเธอก็ยังยืนงงกับการกระทำของเพื่อนตัวเอง
“อะไรของมันวะ”
-บนรถแท็กซี่-
“สวัสดีครับ ต้องการไปที่ไหนครับ” คนขับแท็กซี่พูดขึ้นอย่างเป็นมิตร เขาสวนหน้ากากอนามัยปิดจมูกเผยแค่ครึ่งใบหน้า แต่งกายดูภูมิฐานดี
“อพาร์ตเมนต์ XXX ค่ะ” เธอตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไร อยู่ๆก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อขึ้นมาบนรถ กลิ่นน้ำหอมหน้ารถมันให้สมองเธอโล่ง รู้สึกสบายตัวมากราวกับได้นวดอโรม่า จนทำให้เธอเกือบจะเคลิ้ม แต่รู้สึกถึงความผิดสังเกตบางอย่าง พอนั่งมาได้สักพักแท็กซี่คันนี้เลี้ยวรถไปอีกทาง ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับห้องของเธอ
“พี่คะ พี่พามาผิดทางหรือเปล่า ไม่ใช่ทางนี้นะคะ พี่ต้องเลี้ยวไปอีกทางค่ะ”
“ไม่ผิดนะครับ เจ้านาย…ของผมกำลังรอคุณอยู่”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงด้วยความตกใจและอาการตื่นกลัวก็แทรกเข้ามาทันที ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวาและพยายามหาทางหนีออกจากรถคันนี้
“นี่มันอะไรกัน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
“ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อยฉันลง ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น แกมาจับฉันทำไม ฉันจะแจ้งตำรวจให้เอาพวกแกเข้าคุก”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง!! ปล่อ....”
ภาพทุกอย่างเริ่มเลือนรางลงเต็มที จนเธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะอ้าปากพูด ไม่มีแม้แต่แรงที่จะเอาตัวเองออกจากรถคันนี้
โชเฟอร์หนุ่มมาดเข้มที่ขับรถแท็กซี่มองกระจกมองหลังเพื่อเช็คให้มั่นใจว่าเธอสลบไปแล้ว ด้วยฤทธิ์ของน้ำมันหอมระเหยที่ผสมกับยาสลบเป็นกลิ่นชนิดพิเศษ
________________
-เช้าวันต่อมา-
เปลือกตาที่หนักอึ้งพยายามเปิดออกเพราะความรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมัดตัวเธออยู่ เพียงแค่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกมัดอยู่บนเก้าอี้กลางห้องที่มืดสลัว ในห้องมีแค่ไฟสีเหลืองอ่อนดวงเดียวแขวนอยู่กลางห้อง กลิ่นอับ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนเธอรู้สึกสะอิดสะเอียน ไม่รู้ที่นี่คือที่ไหน ตอนนี้เวลาเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเธอสลบไปนานแค่ไหน แต่แล้วดวงตากลมโตก็สังเกตเห็นเงาดำที่อยู่ตรงมุมห้อง
“แกเป็นใคร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” มิเกลพูดพร้อมกับน้ำตาไหลลงอาบสองข้างแก้ม อาการหวาดผวาเข้าครอบงำจนตัวสั่นเทา
“ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะนะ”
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาหาเธอเรื่อยๆ เงาดำนั้นเริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนเธอสามารถมองเห็นชายร่างสูงที่คุ้นเคย ใบหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกกำลังจดจ้องไม่วางตา
“คริสเตียน”
“ยังจำกันได้”
ในเพียงพริบตา ร่างสูงก็เข้าประชิดตัวหญิงสาวและเอื้อมมือไปบีบคอด้วยความเดือดดาล เขาสามารถฆ่าเธอได้ในมือเปล่า แต่อยากทรมานพวกสัตว์สกปรกให้มันทุรนทุรายก่อนที่จะตาย
“ได้ยินอะไรบ้าง”
แคก แค่ก~
“ปะ ปล่อย ฉะ ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย” มือนั้นบีบแรงขึ้นจนมิเกลหน้าแดง เธอพยายามดิ้นแต่ด้วยแรงอันน้อยนิดก็ทำอะไรไม่ได้ น้ำตาสีใสไหลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย!”
อึก แค่กๆ
“ฉันสัญญา….ฉะ ฉันจะไม่บอกใคร ปล่อยฉันไปเถอะนะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันยอมทำหมดทุกอย่าง” เธอร้องอ้อนวอนต่อคนตรงหน้าอย่างเวทนา ได้แต่หวังให้เขาเห็นใจ
คริสเตียนปล่อยมือออกจากลำคอระหง เผยให้เห็นรอยแดงทั้งห้านิ้วที่ลำคออย่างชัดเจน แต่แล้วริมฝีปากหนากลับกระตุกยิ้มมุมปาก
“แก้มัด” คริสเตียนออกคำสั่งเสียงดังลั่น
พอได้รับความอิสระ มิเกลรีบลุกหนีและถอยหลังไปติดกำแพงทันที เธอไม่รู้ว่าจะต้องออกไปทางไหน เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ดวงตากลมโตมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างหวาดระแวงเมื่อเขาวางปืนลงบนเก้าอี้ที่เธอเคยนั่ง
“ฉันมีทางเลือกให้เธอ จะใช้ปืนกระบอกนี้ยิงฉัน หรือจะเป็นฉันเองที่ยิงเธอให้ตายในห้องนี้”
"มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่ฉันจะฆ่านาย"
"เธอมีโอกาสเลือกนะมิเกล"
คำพูดของเขาทำให้เธอนิ่งไป ดวงตากลมโตมองปืนกระบอกนั้นด้วยอาการหวาดผวา
ความใจกล้าของตัวเองทำให้รีบวิ่งไปหยิบปืนมาถือไว้ และเล็งปืนไปที่เขาทันทีเธอรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมามันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะถ้าเธอยิงเพียงแค่นัดเดียวลูกน้องของคริสเตียนที่อยู่ด้วยก็ฆ่าเธอ หวังแค่ว่านัดเดียวที่เธอจะยิงเขาจะแม่นพอที่จะทำให้โดนจุดสำคัญ ต่อให้เธอยิงปืนไม่เป็นก็อยากให้การพลาดยิงมั่วครั้งนี้ทำอะไรร่างกายคนเลือดเย็นอย่างเขาได้บ้าง
“ปล่อยฉันออกไป”
“ถ้าเธอแน่จริงก็ยิงเลยสิ่”
“ห้า ... สี่...สาม"
คริสเตียนนับอย่างใจเย็นและมองปฏิกิริยาของเธอ
“ปล่อยฉันออกไป กรี๊ดดด บอกให้ปล่อยฉันไป ไม่งั้นฉันยิงนายแน่ๆ” เธอสติหลุด ตัวสั่นไปหมด ความกลัวทำให้เธอร้องไห้ออกมาจนควบคุมสติไม่ไ่ด้
"สอง....หนะ"
ปัง
ยังไม่ทันที่คริสเตียนจะพูดจบ เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง เพียงแค่นัดเดียวทำให้มิเกลทิ้งปืนลงพื้นและทรุดตัวลงด้วยความตื่นกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะมองว่ากระสุนนั้นไปถูกใครหรือเปล่า
"ผิดเป้าไปนิด แต่ก็ถือว่าใช้ได้" คริสเตียนชอบใจในความกล้าของเธอ ถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางรอดน้ำมือเขาไปได้แน่นอน
“แกอย่าเข้ามานะ กรี๊ดดด~ กรี๊ด ปล่อยย”
พรึบ
“ใจกล้ากว่าที่คิดนะ เธอทำให้ฉันสนใจซะแล้วสิ” เขาลากตัวเธอออกไปจากห้องมืดนั้น ต่อให้เธอพยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้ เขาลากเธอผ่านลูกน้องนับสิบที่ยืนอยู่ทั่วบริเวณ มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเศษสวะจะถูกทารุณแบบนี้
ไม่นานคริสเตียนลากเธอออกมาจากห้องใต้ดินของคฤหาสน์หลังใหญ่ พาเธอขึ้นไปข้างบนชั้นสองด้วยสภาพที่ลากถูไปกับพื้นพร้อมกับเสียงร้องไห้โอดครวญ
เธอขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อย แต่เขากลับไม่สนใจเธอเลยสักนิดและยังลากเธอมาห้องหนึ่งที่ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำสลับขาวซะส่วนใหญ่ บ่งบอกถึงสไตล์ของเจ้าของห้องอย่างชัดเจน
พรึบ ตุ๊บ
“โอ๊ย…” มิเกลร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกเหวี่ยงอย่างแรงทำให้ตัวเธอล้มลงไปบนเตียงขนาดใหญ่ อาการจุกแทรกผ่านไปทั่วร่างกายจนไม่สามารถลุกออกจากเตียงนี้ได้ มือบางกุมหน้าท้องตัวเองไว้แน่นและงอตัวกับอาการจุกที่หน้าท้อง ใบหน้าหวานแสดงอาการอย่างเปิดเผย
“ถ้าเธอรอดคืนนี้ไปได้ ชีวิตเธอก็จะเป็นอิสระ”
แคว่ก~
มือหนาจัดการกระชากเสื้อผ้าเธอออกจนขาดวิ่นเผยในเห็นบราเซียและแพนตี้สีดำลายลูกไม้อย่างชัดเจน
“ไอ้สารเลว นายมันไม่ใช่คน อึก...อย่า…” น้ำตาไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่าไม่มีท่าทีว่าคนตรงหน้าจะหยุดลง เธอพยายามปัดมือของเขาออก เอามือปิดจุดสงวนตามร่างกาย แต่การกระทำของเขาไร้ความปรานี
กรี๊ด...
“นี่แค่เริ่มต้นก็ด่าฉันสารเลวแล้วเหรอ แล้วหลังจากนี้ละ ไอ้เวร ไอ้ระยำ หรือไอ้อะไรดี” สิ้นสุดคำพูด คริสเตียนก็กระชากบราเซียและแพนตี้ออกอย่างแรง เผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าตรงหน้า เธอกรีดร้องจนเสียงแหบแห้ง
กรี๊ดดดดดด ยะ…..อย่า~ กรี๊ดดดด เขาถาโถมจูบเธออย่างบ้าคลั่ง พยายามสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากที่แสนอวบอิ่ม
“อ่อยอะไออั่ว” (ปล่อยนะไอ้ชั่ว)
มือหนานั้นพยายามบีบปากเธอให้อ้าออก รับรสจูบอันแสนร้อนแรง ริมฝีปากหนาบดขยี้ปากเธออย่างรุนแรงรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือด
"อื้อ...อี๊ดดด(กรี๊ดดด)"เขาจูบเธอแสนป่าเถื่อนจนแทบหายใจไม่ทัน เธอพยายามผลักตัวเขาออกแต่ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้เลย เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่มันอ่อนแอเกินไปที่จะต่อสู้กับเขา
มือบางพยายามข่วนเล็บตามลำตัวของเขาหวังให้เขาหยุดการกระทำที่ทุเรศ แต่กลับไม่เป็นผล เขายังฉกชิงริมฝีปากของเธอ ขบริมฝีปากของเธออย่างหนัก จนปวดร้าวไปทั่วทั้งโพรงปาก
~อื้อออ