3.ดีกว่าที่คิดเอาใว้

1358 Words
เป็นครั้งแรกที่แกรนด์ดยุคฮาซานเดินทางมาขอเข้าพบกับองค์จักรพรรดิบาร์ตัน และแน่นอนท่าทีของบาร์ตันนั้น เขายินดีต้อนรับฮาซานด้วยความเต็มใจอย่างถึงที่สุด "..สวัสดีครับท่านอา ขออภัยที่วันงานพิธีบรรลุนิติภาวะของเอลิ ข้ามิได้ไปร่วม.." ฮาซานยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขาปรายตามองหน้าของบาร์ตัน ก่อนจะแสยะยิ้มขึ้นมา "ในใจของข้านั้นค่อนข้าง..คาดหวังมากทีเดียวบาร์ตัน สิ่งที่ข้าคาดหวังนั่นก็คือเจ้าจะสามารถทำอย่างไรให้เอลิซ่าเป็นจักรพรรดินีของเจ้าได้ ข้าก็เลยตั้งความหวังกับความสามารถของเจ้าเอาไว้สูงเชียวล่ะ" ราวกับว่ามีน้ำเย็นๆมาสาดที่ใบหน้าของบาร์ตัน รอยยิ้มพลันจางหายไปจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา พร้อมกับแววตาที่จ้องมองไปยังฮาซานที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนไป "ท่านอา..ท่านน่ะเสียนางไปแล้ว" "หึ..ยังหรอก ยังเร็วไปที่จะคิดเช่นนั้น แต่เจ้า..จะเสียนางไปอย่างแน่นอนบาร์ตัน" "ข้าพยายามแล้วท่านอา ข้าพยายามเข้าหาท่านเพื่อที่บางทีเราอาจจะใช้คำพูดที่สวยหรูพวกนั้นในการพูดคุยกันมากกว่าที่ข้าและท่านจะพุ่งเข้าหากันอย่างป่าเถื่อน เอลิซ่าไม่ชอบเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว ข้าก็เลย..ไม่คิดว่าจะกระทำมัน.. ข้าดีเลิศถึงเพียงนี้ มีตรงไหนกันที่ไม่คู่ควรกับนาง?" ฮาซานมองหน้าของบาร์ตัน... เจ้าเด็กคนนี้กับเอลิซ่า..มีบางอย่างที่กำลังทำผูกพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ด้วยกัน มัน..อาจจะเป็นคำสาปแช่งหรือว่าโชคชะตาที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ทว่าไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะเป็นอะไร เขาล้วนไม่ยินยอม... เอลิซ่าดีเกินกว่าที่นางจะสามารถรับมือคนในพระราชวังไหวและขุนนางที่เขี้ยวลากพื้นพวกนั้นอีก ส่วนไอ้เด็กเวรบาร์ตัน หมอนี่ไม่สามารถปกป้องเอลิซ่าได้หรอก เขาถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะลุกขึ้น "ขอบคุณสำหรับน้ำชา.." "ท่านอา..ข้าอยากได้เอลิซ่ามาเป็นจักรพรรดินีจริงๆ ข้าน่ะต้องการนาง.." ฮาซานหรี่ตามองหน้าบาร์ตันก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา "บาร์ตันเจ้าต้องการเอลิ..เจ้าต้องการนางมาอยู่ด้วย เรื่องนั้นข้าเข้าใจ แต่เจ้าไม่เคยบอกสักครั้งเลยว่าเจ้านั้น..รักนาง ในใจของเจ้ามันร่ำร้องว่าเจ้าต้องการนาง แต่ทว่ามันไม่เคยมีสักครั้งที่ในใจของเจ้ามันจะบอกว่าเจ้ารักนาง..ข้าศรัทธาในความรักมากและตราบใดที่ข้ายังอยู่ อย่าได้หวังว่าข้าจะยินยอมมอบเอลิให้เจ้า" รัก? เราจะต้องการความรักไปทำไมกัน เมื่อมันมีอะไรที่สำคัญมากกว่านั้น อย่างเช่นการอยู่ด้วยกัน เขาอยากได้เอลิซ่า อยากให้นางมาอยู่เคียงข้างและอยากให้นาง..สัมผัสเขา ไม่ต้อง..รักกันก็ได้... ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น เราจะต้องรักกัน เขาต้องรักเธอและเธอต้องรักเขาสิ มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง เราควรจะรักกัน.. ต้องรักกัน!! เธอต้องรักเขาสิ!! ...... หลังจากผ่านไปสองเดือนเอลิซ่าก็ยินยอมเปิดประตูห้องออกมา ที่ด้านหน้าห้องมีคาเมลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับวิ่งตรงเข้ามาโอบกอดเธอเอาไว้ ท่านเอลิซ่านั้นผอมลงมากทีเดียว ราวกับว่าท่านมิได้กินอะไรเลย ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเอง เราจะแบ่งเวลากันในการเฝ้าหน้าห้องของท่านเอลิซ่าไว้ เผื่อที่เวลาประตูบานใหญ่นี้เปิดออกมา จะได้มีคนอยู่กับเธอ เขาอุ้มเธอขึ้นมาโดยที่ไม่เอ่ยถามสิ่งใดแม้แต่ครึ่งคำ คาเมลพาเอลิซ่าเดินไปยังห้องอาหาร เขาจัดการตักโจ๊กและขนมปังมาวางเอาไว้เบื้องหน้าของเธอ "..ขอบคุณ" "ต้องให้ข้าป้อนด้วยรึเปล่าครับ" เพราะเธอดูไร้เรี่ยวแรงขนาดที่แม้แต่ช้อนคันเล็กๆก็ไม่น่าจะยกขึ้นไหว "ก็ดี..เหมือนกัน" เขาอุ้มเธอขึ้นมานั่งลงบนตัก ก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อให้เอลิซ่าเอนหลังไปซบลงบนไหล่ของเขา คาเมลตักโจ๊กใส่ช้อนก่อนที่เขาจะป้อนเธอช้าๆ "หลังจากทานเสร็จแล้ว ข้าจะพาท่านไปอาบน้ำนะครับ" ไม่ใช่คุณหนูแต่ว่าเป็นท่านอย่างนั้นหรือ แม้แต่คาเมลเองก็ยังคงเปลี่ยนคำเรียกขานเธอแล้วสินะ พอคิดถึงน้ำตาก็พานจะไหลลงมาเอาดื้อๆ "ได้สิ" "เราทุกคนเป็นห่วงท่านมานะครับ ทั้งคาดินันอาเชน่า ท่านเอิร์ลลามอนซ์ ท่านเอลิซ่าสำคัญมากสำหรับเรา.." เธอรู้ และเพราะรู้ถึงได้พยายามลุกขึ้นมาจากเตียงที่นอนร้องไห้อยู่นานหลายเดือน "คามิล..เป็นอย่างไรบ้าง" นั่นคือคำถามที่เอลิซ่ารู้ดีว่าเธอจะต้องเจ็บปวดกับคำตอบอย่างแน่นอน แต่ทว่าในใจก็ยัง...อยากรู้ เธออยากเห็นท่านพ่อมีความสุขกับสตรีที่ท่านพ่อรัก และลูกสาว..ตัวจริง "มัน..ค่อนข้างยากที่จะอธิบายครับ คามิลเปลี่ยนไปเยอะเลย ในช่วงที่ผ่านมา ท่านแกรนด์ดยุคและแกรนด์ดัชเชสมีปากเสียงกันตลอด เพราะท่านแกรนด์ดยุดแทบจะไม่เคยอยู่ที่คฤหาสน์เลย ท่านเอาแต่ตามหาท่านเอลิซ่า..เรา..กลับไปที่นั่นกันเถอะครับ" คำตอบของคาเมลนั้นน่าแปลกใจไม่น้อย เพราะปกติแล้วท่านพ่อควรจะต้องมีความสุขกับครอบครัวที่พลัดพรากสิ ท่านพ่อจะมาสนใจเธอไปทำไมกัน.. ทว่าความอบอุ่นสายหนึ่งกลับพัดผ่านเข้ามาในหัวใจ หรือเป็นเธอที่หวาดกลัวไปเอง เป็นเธอที่..หนีออกมาโดยไม่คิดรับฟังความจริง มันอาจจะไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นก็ได้ แต่ทว่า..นี่คือความตั้งใจตั้งแต่แรก เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่แย่งชิงพื้นที่ของท่านหญิงคามิลตัวจริง แล้วจะให้ทำใจโลภในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองได้อย่างไรกัน เธอจะกลับไปหาท่านพ่อ แต่จะไม่กลับไปเป็นท่านหญิงคามิลอีกแล้ว.. ระหว่างเรา ถ้าหากว่าความรู้สึกของเธอและท่านพ่อยังคงอยู่ บางทีเธออาจจะยังสามารถเป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านพ่อต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปอยู่ที่คามิล เพื่อให้ท่านพ่อและสตรีที่ท่านพ่อรักต้องผิดใจหรือว่าเกิดความอึดอัดต่อกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเอลิซ่า หลังจากความเจ็บปวดที่กัดกินอยู่ในหัวใจได้อันตรธานหายไป หัวใจก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง "ว่าแต่ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างนั้นหรือคาเมล ในเมื่อเจ้าเป็น.อัศวินของคามิล.." "ข้าลาออกแล้วครับ ไม่มีเซอร์คาเมรอนอีกแล้ว ตอนนี้ข้าคือคาเมลองครักษ์ประจำตัวของท่านเอลิซ่า..ที่ข้าเคยกล่าวปฏิญาณเอาไว้ข้ามิได้พูดเล่นนะครับ" "ได้ที่ไหนกัน! ใครใช้ให้เจ้าลาออกมา.." เสียงหัวใจ มันใช้ให้เขาต้องมาที่นี่ มาอยู่เคียงข้างและมาปกป้องเธอเอาไว้จากทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเดินทางถาโถมเข้ามา "ความรักและความภักดีของข้า..สั่งให้ข้ามาครับ อันที่จริงเกวนเองก็ต้องการที่จะลาออกด้วย แต่ข้าห้ามนางเอาไว้..จำเป็นที่จะต้องมีคนที่นั่นเพื่อเป็นสายข่าวให้เราครับ เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น..." เอลิซ่าหัวเราะเบาๆ "สายข่าวอะไรกัน เจ้าทำราวกับว่าข้าจะไปยึดคามิลอย่างนั้นแหละ" "หากว่านั่นมันคือความต้องการของท่านเอลิซ่า ข้าก็ยินดีครับ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD