“...” ฉันจึงไม่ตอบโต้เพราะรู้ว่ายิ่งเถียง ปัญหาจะยิ่งลุกลามจนน่ารำคาญ “ไม่เป็นไรครับ” พี่สิบกล่าวอย่างไม่คิดมากขณะลอบสังเกตฉันที่ยืนทำหน้าเซ็งเต็มทนอยู่ข้าง ๆ “ผมมีธุระต้องรีบไปจัดการ คงต้องขอตัวครับ” จากนั้นก็ทำทีเป็นยกนาฬิกาข้อมือดูเวลาเพื่อให้คำพูดนั้นดูสมจริงและน่าเชื่อถือขึ้นมาหน่อย “จ้า ไว้มาอีกนะ” พี่สิบค้อมศีรษะให้แม่เล็กน้อยโดยใบหน้ายังไร้รอยยิ้มประดับ เสี้ยววินาทีก่อนเขาจะเดินออกจากห้องไป เราได้สบตากันอย่างผิวเผินอีกครั้ง และเป็นฉันเองที่เบือนหลบไปอีกทาง จนพบเข้ากับแม่ที่สาวเท้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว หน้าตามีชีวิตชีวาเหมือนเจอขุมทรัพย์ราคาดี “มิ้น! หนุ่มคนนั้นใส่แบรนด์เนมทั้งตัวเลยเห็นไหม ต้องรวยมากแน่ ๆ” “...” น่าเบื่อ “แกน่าจะหาทางรั้งเขาไว้แล้วจับทำผัวซะ” “เลิกหวังเถอะแม่” ฉันตัดฉับความหวังของคนเป็นแม่อย่างเอือมระอา ทั้งที่ความจริงแล้วฉันกับพี่สิบเกินเลยไปถึงไหนต่อไหน ทั