8

1197 Words
คุณตวนก้าวเข้ามาในห้องอาหารเมื่อเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขเจ็ด ท่านสวมสูทผูกไทแต่งกายสุภาพเรียบหรูสมตำแหน่งประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการค้าปลีกและธุรกิจร้านอาหาร ต้นแบบใบหน้าตนุภัทรและติณณภพง่วงหงาวหาวนอน ต้องตื่นเช้าเพราะมีประชุม “แม่อ้วน ขอกาแฟดำให้ฉัน แล้วนี่ตาตุลย์ยังไม่ลงมาเหรอ” “ยังไม่เห็นเลยค่ะ น่าจะกำลังแต่งตัว” “ถ้าสักเจ็ดโมงครึ่งเจ้าตัวยังไม่ลงมา ฝากแม่อ้วนขึ้นไปดูหน่อยนะ แล้วคุณผู้หญิงไปไหน ไม่มากินข้าวด้วยกัน” ไม่ลากเก้าอี้ออกนั่ง มองหาภรรยาก่อน ให้กินข้าวคนเดียวกินไม่อร่อย ต้องมีเมียกินด้วยกัน ป้าอ้วนกับเด็กแจ๋วติดสปริงที่ต้นคอช่วยกันหมุนรอบทิศทางมองหาคุณผู้หญิง แต่ช้ากว่าสายตาเฉียบคมของคุณตวน ท่านเดินลิ่วออกจากห้องอาหารไปยังชุดรับแขก “ตีสามพี่ให้หมอเข้ามาดูอาการ แต่ยังไม่ได้รับยา เกล้าไม่ต้องเป็นห่วงลูกสาวนะจ๊ะ พี่ประชุมครึ่งวัน แค่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายพี่จะให้ตาตุลย์รีบกลับบ้านมาพาหนูแก้วไปโรงพยาบาล พี่โทรมาบอกเกล้า เผื่อวันเสาร์อาทิตย์นี้หนูแก้วไม่ได้กลับบ้าน เกล้าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” วันที่ครอบครัวประกายแก้วมีเงินทอง สองครอบครัวเคยร่วมหุ้นทำธุรกิจ เพิ่งจะห่างกันช่วงที่คุณภาสกรผู้พ่อขายบ้านหลังใหญ่จ่ายหนี้ ก่อนจะพาครอบครัวย้ายไปอยู่บ้านเก่าภรรยา คุณพริ้มรักประกายแก้วมาก ชวนมาทำงานด้วยกัน หาคอนโดฯ ปลอดภัยใกล้บริษัทให้พัก ก่อนจะให้หญิงสาวย้ายจากคอนโดฯ มาอาศัยด้วยกันในฐานะลูกสะใภ้ พ่อแม่ประกายแก้วปฏิเสธไม่ลง น้ำท่วมปาก ตอนที่มีปัญหาการเงิน ก็มีแค่คุณพริ้มกับคุณตวนที่คอยให้หยิบยืมเงิน คิดตื้นๆ ว่าให้ประกายแก้วแต่งกับตนุภัทรไปก่อน อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ตนุภัทรอาจจะตัดใจจากแม่พินต้าได้ แต่ผ่านมากว่าสองปี นอกจากตนุภัทรจะไม่รักแล้วยังทำร้ายจิตใจ ทอดทิ้งหญิงสาวไว้ตามลำพังในวันที่หล่อนต้องการคนดูแล ถ้าจะใจร้ายขนาดนั้นก็ไม่มีอะไรพูดกับมัน “ช่วงนี้พี่ยุ่งๆ ไม่มีเวลาโทรถามข่าวเกล้ากับคุณกร ได้แต่ถามผ่านหนูแก้ว อาการคุณกรเป็นยังไงบ้าง... ถ้าหมอให้นอนโรงพยาบาลหรือเสนอการรักษาทางเลือก เกล้าตอบตกลงเลยนะ อย่าฝืนพาคุณกรกลับมานอนพักผ่อนที่บ้าน ไม่ต้องห่วงค่าใช้จ่าย พี่จะดูแลให้เอง ถึงยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน” คุณตวนพยักหน้าตาม คุณพริ้มตบขาสามีหนักมากขึ้น น้ำตาคลอจะร้องไห้ตาม สงสารบิดาประกายแก้ว “ฝากความห่วงใยถึงคุณกรด้วยนะจ๊ะ ไว้หนูแก้วหายป่วย พี่กับคุณตวนจะหาเวลาไปเยี่ยม เกล้าจ๊ะ แค่นี้ก่อนนะ พี่ต้องรีบเข้าบริษัทไปจัดการเอกสารการประชุมแทนหนูแก้ว” “วางแล้วเหรอ” “ค่ะ เกล้าเตรียมของจะออกไปขายที่ตลาด” “นึกว่าเลิกขายไปแล้ว กรไปด้วยไหม” “ไปด้วยกันทุกวัน เกล้าขายคนเดียว คุณกรนอนเฝ้า” “น่าจะเลิกขาย” ส่งผ้าเช็ดหน้าให้ซับน้ำตาออกจากใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอาง ต่อมน้ำตาภรรยาเล็กเท่าช้อนชา แค่มีเรื่องให้คิดก็พาลอ่อนไหวง่าย “ฉันเคยท้วง แต่เกล้าบอกว่าถ้าไม่หารายได้ทางอื่น ก็ต้องรอรับเงินจากลูกอย่างเดียว เกล้าสงสารลูก” “น่าสงสาร” ไม่กล้าคิดว่าถ้าตัวเองตกระกำลำบากตอนแก่ ซ้ำร้ายยังป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองจะมีสภาพความเป็นอยู่ยังไง “อาการคุณกรไม่ดีขึ้นเลย ทรุดลงทุกวัน ปวดหัว เดินไม่ตรง พูดไม่เป็นคำ เกล้าบอกละสายตาไม่ได้บางครั้งก็ชักเกร็ง” “ขึ้นชื่อว่าโรคมะเร็ง อันตรายถึงชีวิตทั้งหมด ผมชักจะสงสัยแล้วสิ การที่หนูแก้วห้ามไม่ให้พ่อเดินทางไปสวิสเซอร์แลนด์เป็นเรื่องที่ถูกหรือผิด ในเมื่อประเทศเราไม่อนุญาตให้ทำการุณยฆาต” “หนูแก้วคงจะอยากอยู่กับพ่อจนวาระสุดท้าย คุณกรคิดจะไปคนเดียว จบชีวิตไปแล้ว จะศพหรือกระดูกก็จะไม่ได้กลับบ้าน ต้องทนหนาวในเมืองหิมะไปตลอดกาล ฉันเข้าใจหนูแก้ว ฮึก... เด็กคนนั้นมีแค่พ่อกับแม่ ถ้าต้องเสียใครคนหนึ่งไป คงใจสลาย ฉันสังหรณ์ใจ อยากให้หนูแก้วได้กลับไปดูแลพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” “เอาอย่างนี้สิ ให้หนูแก้วพักงานสักสองสามเดือน กลับไปอยู่บ้านดูแลพ่อ หรือนานกว่านั้นก็ได้ พร้อมค่อยกลับมาทำงาน” “ฉันคิดว่าจะให้หนูแก้วออกจากงานค่ะ” คุณพริ้มไม่ได้แคลบแคลงใจในความสามารถ ไม่ได้ทำงานในตำแหน่งเลขาฯ ประธานบริษัทด้วยเส้นสาย ประกายแก้วทำงานเก่ง รักการเรียน หัวไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเยี่ยม ถือเป็นผู้หญิงเก่ง สมัยใหม่ ไม่รอผู้ชายเลี้ยงดูในแบบที่คุณพริ้มถูกใจ “ให้ลาออกทำไม ในเมื่อบริษัทนี้ ก็เป็นบริษัทของพวกเรา จะให้หนูแก้วพักงานกี่เดือน ก็ขึ้นอยู่กับผมกับคุณจะอนุมัติ” “ไม่ใช่แค่ให้ออกจากงานนะคะ แต่ฉันจะให้หนูแก้วออกจากบ้านหลังนี้ กลับไปอยู่กับพ่อแม่ ใช้ชีวิตตามแบบที่อยากใช้” “คุณจะให้หนูแก้วกับตาตุลย์หย่าขาดจากกันงั้นเหรอ” ตั้งคำถาม ขณะเดียวกันท่านมวลท้อง ใจหาย ถ้าหากบ้านจะเงียบเหงาเพราะไม่มีลูกสะใภ้ที่แสนน่ารัก “รั้งไว้ สุดท้ายคนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือหนูแก้ว สองปีมานี้ ฉันปิดหู ปิดตา ไม่ยอมรับความจริงว่าตาตุลย์ไม่ได้รักใคร่ไยดีหนูแก้ว คอยให้กำลังใจตัวเอง ว่าอาจมีวันใดวันหนึ่งตาตุลย์คิดได้ ยอมหันกลับมามองเด็กผู้หญิงที่ฉันรัก แต่คุณดูสิ่งที่ตาตุลย์ทำกับหนูแก้วสิ มันออกไปหาผู้หญิงคนอื่นทั้งที่เมียมันไม่สบาย ถ้าลูกชายเรามันจะแย่ได้ถึงขนาดนี้ มันจะไปฟาดหมาที่ไหนทำเมียก็ปล่อยมันไป ฉันสงสารหนูแก้ว ไม่อยากให้อดทนอยู่ในสถาะนี้ เพียงเพราะเกรงใจเราสองคนที่เคยมีบุญคุณ” กดผ้าเช็ดหน้าระหว่างหัวตา ร้องไห้เสียใจที่ต้องเลือกทางนี้ แต่ถึงประกายแก้วจะลาออกจากงาน ย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ หรือแต่งงานใหม่ คุณพริ้มจะยังคงรักและช่วยเหลือการเงินหญิงสาว เงินท่าน เหนื่อยกว่าจะหาได้ จะเอาไปใช้ทำอะไรก็เรื่องของท่าน จะไม่ปล่อยทิ้งไว้ในบัญชีธนาคาร ตายไป ตาตุลย์เอาไปให้ยัยพินต้าเน่าใช้ รู้ทีหลัง มีหวังหลุมศพคงจะร้อนรุ่ม อยู่ไม่ไหวต้องปีนออกจากขอบหลุมมาบีบคอยัยคนนั้นให้หักตาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD